โรคหลอดเลือดสมอง Stroke Show
ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อในเกิดโรคหลอดเลือดสมอง 1.อายุ : ปกติแล้วหลอดเลือดก็จะเสื่อมไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น โดยผิวชั้นในของหลอดเลือดจะหนาและแข็งขึ้นจากคราบหินปูนและไขมันที่มาเกาะ ทำให้ช่องทางที่เลือดไหลผ่านแคบลง 2.เบาหวาน : เป็นสาเหตุทำให้เส้นเลือดแข็งทั่วร่างกาย และเมื่อเส้นเลือดในสมองแข็ง ก็จะมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมองอุดตันสูงกว่าคนปกติ 2-3 เท่า 3.ไขมันในเลือดสูง : ทำให้เกิดภาวะไขมันเกาะสะสมอยู่ตามผนังหลอดเลือด เป็นอุปสรรคกีดขวางการลำเลี้ยงเลือดไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย นอกจากเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองแล้ว ยังส่งผลให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ด้วย 4.โรคหัวใจ : โรคลิ้นหัวใจรั่วหรือผิดปกติ หัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุของการเกิดลิ่มเลือด และถ้าลิ่มเลือดไหลมาอุดตันที่หลอดเลือดสมอง ก็จะทำให้สมองขาดเลือดได้ 5.บุหรี่ : ในบุหรี่มีสารนิโคตินและคาร์บอน ทำให้ปริมาณออกซิเจนที่ร่างกายได้รับลดลง และยังเป็นตัวทำลายผนังหลอดเลือด ส่งผลให้หลอดเลือดเกิดการแข็งตัว 1.ชาหรืออ่อนแรงที่บริเวณใบหน้า หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล เพื่อเข้ารับการตรวจ วินิจฉัย และรักษาอย่างเร่งด่วนภายใน 3 ชั่วโมงตั้งแต่เริ่มมีอาการปรากฏ ซึ่งหากยังอยู่ในช่วงเวลานี้ ผู้ป่วยมักยังคงอยู่ในภาวะปลอดภัย เพราะแพทย์สามารถทำการรักษาด้วยวิธีให้ยาละลายลิ่มเลือดเพื่อช่วยชีวิตไว้ได้ หากผู้ป่วยไปถึงโรงพยาบาลหรือได้รับการรักษาช้า อาการจะลุกลามรุนแรงจนผู้ป่วยเกิดภาวะสมองขาดเลือดนาน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอัมพฤกษ์
โรงพยาบาลเปาโล
เกษตร โรคหลอดเลือดในสมองแตก เส้นเลือดในสมองตีบ ตัน รักษาได้ทันถ้ารู้ตัวไวหรือไม่? โรคหลอดเลือดสมองแตก เส้นเลือดในสมองตีบ เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของโลก! ข้อมูลจากกรมควบคุมโรคระบุว่าพบผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้แล้วมากกว่า 80 ล้านคน สำหรับประเทศไทยพบว่า 5 ปีที่ผ่านมาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดในสมองมีแนวโน้มเพิ้มขึ้นเรื่อยๆ จนขึ้นแท่นเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ และยังเป็นโรคที่สามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย มาทำความรู้จักโรคหลอดเลือดสมองแตกให้มากขึ้นว่าโรคนี้เกิดจากอะไร และมีอาการอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้รักษาได้อย่างทันท่วงที โรคหลอดเลือดในสมองแตก เส้นเลือดในสมองตีบ คืออะไร?โรคหลอดเลือดในสมอง เส้นเลือดในสมองตีบ เกิดจากภาวะหลอดเลือดในสมองตีบ อุดตัน หรือหลอดเลือดแตก ทำให้สมองขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง ส่งผลให้เนื้อเยื่อในสมองถูกทำลาย และเกิดอาการสมองหยุดชะงักในที่สุด โรคหลอดเลือดในสมองแบ่งเป็นกี่ประเภทโรคหลอดเลือดในสมองแตกสามารถแบ่งออกตามสาเหตุการเกิดได้ 2 ประเภท ภาวะหลอดเลือดในสมองตีบเราจะพบผู้ป่วยที่มีภาวะสมองขาดเลือด หรือภาวะหลอดเลือดในสมองตีบตันนี้ถึง 80% ของโรค โดยเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอาการลิ่มเลือดอุดตัน หรือเกิดการปริแตกของหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลมาอสะสมบริเวณหลอดเลือดในสมอง ส่งผลให้หลอดเลือดตีบแคบจนเลือดไหลเวียนไปยังสมองไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นอีก เช่น การสะสมของไขมัน หรือหินปูนที่เกาะอยู่บริเวณผนังหลอดเลือดจนแข็ง หนา ทำให้หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพในการลำเลียงเลือดลดลง ภาวะหลอดเลือดในสมองแตกภาวะหลอดเลือดในสมองแตกมักเกิดจากภาวะโป่งพองของเส้นเลือดร่วมกับการที่เส้นเลือดมีความเปราะบาง ทำให้เส้นเลือดบริเวณนั้นแตก ส่งผลให้มีเลือดคั่งบริเวณเนื้อสมอง ทำให้สมองตาย ส่วนมากมักจะพบในผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันสูง ผู้ที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ผู้ที่ได้รับสารพิษ หรือผู้ที่ใช้ยาเสพติด เป็นต้น ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดในสมองแตก เส้นเลือดในสมองตีบอายุแม้โรคหลอดเลือดในสมองนั้นจะสามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่ผู้สูงอายุมักมีความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้สูงกว่า เนื่องจากหลอดเลือดมีความเสื่อมไปตามอายุขัยที่เพิ่มขึ้น เพศจากหลากหลายงานวิจัยพบว่าเพศชายมักจะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดในสมองมากกว่าเพศหญิง จากปัจจัยส่วนบุคคลเช่น การดื่มสุรา สูบบุหรี่ หรือการรับประทานอาหารท่ีไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นต้น คนในครอบครัวสำหรับผู้ที่มีคนในครอบครัวมีประวัติการเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง จะมีความเสี่ยงสูงกว่าผู้ที่ไม่เคยมีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคนี้ ประวัติการเจ็บป่วยหากผู้ป่วยมีประวัติเคยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือ ภาวะหลอดเลือดหัวใจแตก ถึงแม้จะรักษาหายแล้วก็มีโอกาสเป็นซ้ำได้เช่นกัน โรคเบาหวานผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้นจะมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่าปกติซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา โดยเฉพาะภาวะหลอดเลือดแดงตีบแข็งทั่วร่างกาย จึงทำให้ผู้ป่วยเบาหวานมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหลอดเลือดในสมองมากกว่าคนปกติ 3-4 เท่า ความดันโลหิตสูงโรคความดันโลหิตสูงมักส่งผลโดยตรงต่อภาวะเส้นเลือดในสมองแตก เพราะเมื่อความดันโลหิตสูงขึ้นก็จะทำให้หลอดเลือดที่โป่งและเปราะแตกง่ายยิ่งขึ้น โรคหัวใจผู้ป่วยโรคหัวใจก็มีความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดในสมองได้เช่นกัน เพราะเมื่อหัวใจสูบฉีดเลือดได้ไม่ดีเท่าที่ควรก็จะทำให้เลือดไหลเวียนผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุสำทำให้เกิดลิ่มเลือดขึ้น เมื่อลิ่มเลือดไปอุดตันที่สมองก็จะทำให้เกิดภาวะเส้นเลือดในสมองได้ คอเลสเตอรอลในเลือดสูงคอเลสเตอรอลจะทำให้เกิดก้อนไขมันเกาะอยู่บริเวณผนังหลอดเลือด เมื่อมีจำนวนมากขึ้นก็จะทำให้หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น และส่งผลให้ประสิทธิภาพในการลำเลียงเลือดลดลง ไม่ออกกำลังกายการออกกำลังกายให้สมวัยอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียด ลดน้ำหนัก และไขมัน ที่เป็นความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดในสมองได้ น้ำหนักเกินมาตรฐานการที่มีน้ำหนักเกินมารตรฐานนั้นเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง รวมถึงโรคหลอดเลือดในสมองด้วย ดังนั้นเราสามารถลดความเสี่ยงนี้ได้โดยการควบคุมน้ำหนัก เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และลดอาหารประเภทหวาน มัน หรือของทอดลง ลดการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่แอลกอฮอล์ สารนิโคติน และคาร์บอนมอนอกไซด์ จะไปทำให้เซลล์ของเลือดเกาะตัวเป็นก้อนเหนียว การไหลเวียนเลือดช้าลง ปริมาณออกซิเจนต่ำลง และเป็นตัวทำลายผนังหลอดเลือดทำให้หลอดเลือดแข็งตัว ดังนั้นคนที่ดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่จึงมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดในสมองมากกว่าคนปกติ สังเกตสัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมองด้วย Fast Strokeเราสามารถสังเกตอาการของตนเอง หรือคนใกล้ชิดว่ามีสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดในสมอง เส้นเลือดในสมองตีบ จากวิธี FAST ดังนี้ F : Face ใบหน้า A : Arm : แขน S : Speak :
การพูด T : Time : เวลา ป้องกันอย่างไรไม่ให้ โรคหลอดเลือดในสมองแตก เส้นเลือดในสมองตีบวิธีป้องกันโรคหลอดเลือดในสมองที่ดีที่สุดนั้นควรป้องกันก่อนที่จะเกิดโรค แต่หากเป็นแล้วก็ควรจะต้องควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่ส่งเสริมให้หลอดเลือดเกิดการตีบ อุดตัน หรือแตกซ้ำ 1. ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแตกควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงหรือโซเดียมสูง ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง อย่างน้อยครั้งละ 30-40 นาที ควบคุมน้ำหนัก พักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงงดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ด้วย 2. ตรวจสุขภาพประจำปีเป็นประจำการตรวจสุขภาพประจำปีเป็นการหาปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดในสมองซ้ำ เส้นเลือดในสมองตีบ หากพบปัจจัยเสี่ยงได้เร็ว ก็จะสามารถรักษาได้อย่างทันท่วงที 3. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง เส้นเลือดในสมองตีบ จะต้องไปพบแพทย์เพื่อติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ และต้องทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ห้ามซื้อยามาทาน หรือหยุดยาเองโดยเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ข้อมูล : เส้นเลือดในสมองแตกมีโอกาสหายไหมโรคหลอดเลือดสมอง รักษาหายไหม? การรักษาโรคหลอดเลือดสมอง ไม่ว่าจะเป็นจากสาเหตุหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (ischemic stroke) หรือ หลอดเลือดสมองแตกหรือฉีกขาด (hemorrhagic stroke) หากรักษาได้อย่างทันท่วงที จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตและลดความเสี่ยงอัมพฤกษ์ อัมพาต และเพิ่มโอกาสให้สมองกลับมาทำงานเป็นปกติได้
เส้นเลือดในสมองมีอาการอย่างไรอาการของโรคเส้นเลือดในสมองตีบ
ปวดศีรษะ สายตาพร่ามัว อัมพาตครึ่งซีก ใบหน้าบิดเบี้ยว สื่อสารไม่ได้ เสียการรับรู้ความรู้สึก การเคลื่อนไหวร่างกายและการทรงตัว เช่น รู้สึกชาตามตัว แขนขาอ่อนแรงหรือขยับไม่ได้ และเดินเซ เป็นต้น
เส้นเลือด ใน สมอง แตก มี สิทธิ์ รอด กี่ เปอร์ เซ็นหลังจากนั้นก็สลบไปอีก 2 วันเต็มๆ ซึ่งทางแพทย์ระบุว่า เส้นเลือดในสมองแตก และเส้นเลือดในสมองตีบ มีโอกาสเสียชีวิตถึง 80 เปอร์เซ็นต์ และอีก 20 เปอร์เซ็นต์คือรอด แต่ก็จะมีลักษณะพิการ
|