การเดินจงกรมมีประโยชน์อย่างไร

เดิน

การเดินจงกรม

ความหมาย การเดินจงกรมไม่ใช่การเดินชมธรรมชาติหรือเดินเพื่อการผ่อนคลายร่างกายหรือจิตใจ แต่การเดินจงกรมหมายถึง การเดินไปและเดินกลับอย่างมีสติ เพื่อปรับแต่งอิริยาบถฯ และอินทรีย์ให้มีความเสมอกัน 

ก. หลักการปฏิบัติ 

คัจฉันโต วา คัจฉามีติ ปะชานาติ. 

เดินอยู่ก็กำหนดรู้ว่า ข้าพเจ้าเดินอยู่ 

ข. วิธีปฏิบัติ 

๑. สายตาเตรียมไว้มองไกลประมาณ ๒ - ๓ เมตร 

๒. จิตจดจ่ออยู่ที่อาการเคลื่อนไหวของเท้าสติกำหนดรู้ 

๓. คำบริกรรมในใจกับอาการเคลื่อนไหวต้องไปพร้อมกัน 

๔. ขณะที่เดินอยู่ ถ้ามีสภาวธรรมอย่างอื่นที่ชัดเจนมากกว่าแทรกเข้ามา ควรหยุดกำหนดอาการเดินชั่วคราว จากนั้นตั้งใจกำหนดอารมณ์ที่แทรกเข้ามานั้น จนกระทั่งดับไป เสื่อมไป หรือไม่ชัดเจนแล้วจึงค่อยกลับมากำหนดอาการเดิน ต่อไป 

๕. เดินช้า ๆ แต่อย่าบังคับมาก จิตใจจดจ่อ มีสติกำหนดรู้อย่างต่อเนื่อง 

ค.สิ่งที่ควรจะงดเว้นขณะเดินจงกรม 

๑. ไม่นิยมหลับตา หรือสอดส่ายสายตาเพื่อหาอารมณ์ 

๒. ไม่ควรก้มมากเกินไป หรือจดจ้องจนปวดต้นคอ 

๓. ไม่เชิดหน้า หรือเดินแกว่งแขน 

๔. ไม่เกร็งเท้าหรือขาจนเกินไปในขณะเดิน 

๕. ไม่บริกรรมสิ่งอื่นๆ ที่ไม่ตรงกับสภาวะของการเดิน 

๖. ไม่เพ่งสัณฐานบัญญัติของเท้า หรือกำหนดพอง-ยุบ 

ง. ข้อยกเว้นบางกรณี 

๑. เดินเร็ว ๆ เพื่อแก้ความง่วง 

๒. เดินช้ามาก ๆ เพื่อให้จิตเป็นสมาธิและเห็นการเกิดดับชัดเจน 

๓. ออกเสียงหรือบริกรรมด้วยวาจา เป็นการฝึกให้รู้วิธีปฏิบัติเท่านั้น 

๔. เดินมองธรรมชาติเพื่อแก้สภาวะบางอย่าง 

๕. ทำกายบริหารเพื่อการผ่อนคลายเป็นบางครั้ง

การเดินจงกรมมีประโยชน์อย่างไร
ประโยชน์การเดินจงกรม ประโยชน์การฝึกสมาธิ ความสามารถของสมาธิ
การเดินจงกรมมีผลดีอย่างไร
จงกรม แปลว่า อิริยาบถในการเจริญกรรมฐาน จะเดินมากน้อยตามแต่ต้องการเมื่อจิตสงบบ้างไม่สงบบ้าง ไม่ควรเดินให้เกิน ๑ ชั่วโมง การเดินจงกรมเมื่อเดินได้ดี ถูกต้องย่อมได้อานิสงส์คือ ผลดีถึง ๕ ประการ (จาก พระไตรปิฎก เล่ม ๓๓) คือ

๑. เดินได้ทน ข้อนี้เป็นจริง ผู้ปฏิบัติกรรมฐาน จะเห็นด้วยตนเองว่า เขาจะไม่กลัวต่อการเดินทางไกล คงจะเป็นเพราะฝึกเดินอยู่เสมอ คือว่าเป็นการฝึกเดินโดยไม่รู้ตัว

๒. ทำงานได้มาก มีพระอาจารย์เจ้าสำนัก วิปัสสนากรรมฐานองค์หนึ่งทำงานได้มากและอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ในวันหนึ่งๆ มีการสอบอารมณ์กรรมฐานศิษย์ในตอนเย็น สอนนักธรรมในเวลากลางวัน และควบคุมงานบูรณะซ่อมแซมวัดไปด้วย เมื่อมีคนเป็นห่วงในสุขภาพของท่าน ท่านกลับตอบอย่างถ่อมตนว่า เมื่อกำลังพอมีอยู่ก็ทำไป เข้าหลักที่ว่านักกรรมฐานนั้น กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ทำงานมาก

๓. บำบัดโรคบางอย่างได้ บาลีใช้คำว่า อปฺปาพาโธ แปลว่า ไม่ค่อยเจ็บไข้ คือร่างกายแข็งแรง โรคบางอย่างหายไปได้ด้วย

๔. อาหารย่อยง่าย บาลีว่า ปริณตโภชี การเดินจงกรมเป็นยาช่วยย่อยอาหารด้วย จึงควรเดินจงกรมหลังรับประทานอาหารด้วยถ้ามีโอกาส

๕. สมาธิที่ได้จากการเดินจงกรมตั้งอยู่ได้นาน การเดินจงกรมเป็นการปลูกสติและสมาธิ เมื่อเดินจงกรมได้ดี สติสมาธิก็เป็นไปด้วยดี ดังนั้นจึงควรเดินจงกรมก่อนนั่งสมาธิ

ที่มา:ชม  สุคันธรัต

 เดินจงกรมเพื่ออะไรและเดินถูกต้องปฏิบัติอย่างไร

ถาม : กราบเรียนถาม เดินจงกรมเพื่ออะไร?

ตอบ : เดินจงกรมมันมีอานิสงส์อยู่ห้าอย่าง หนึ่งทำให้การเดินทางไกลอดทนมาก สองทำให้มีความพากเพียรดี สามทำให้มีโรคน้อย สี่ทำให้ย่อยอาหารได้ดี ห้าทำให้สมาธิตั้งมั่นอยู่ได้นาน
           พอเดินจงกรมจนเหนื่อยแล้วมานั่งสมาธิ มันจะเกิดขึ้นได้เร็วตั้งอยู่ได้นาน เพราะสมาธิมันมาจากการเดิน แล้วเดินทางไกลอดทนมาก คือ เดินทางอดทน ไม่เหนื่อย มีความพากเพียร ถ้าความพากเพียรไม่พอ มันก็จะไม่เดินแล้ว มันก็จะนั่งรถ หรือจะไปนอน ความพากเพียรตัวนี้ มันเป็นความตื่น สองทำให้มีความพากเพียรดี สามทำให้มีโรคน้อย
           ทุกวันนี้คนไม่ค่อยเดินกันจึงมีโรคมากอาตมาเดินจงกรมหรือเดินบิณฑบาต เดินรักษาโรค เดินรักษาตัวเอง พระพุทธเจ้าก็บอกไว้แล้วว่า ทำให้มีโรคน้อย หัดเดินเอาไว้ ญาติโยม ทำให้ย่อยอาหารได้ดี อาหารที่เราบริโภคเข้าไป ถ้ามันไม่ย่อย มันจะเป็นอย่างไร? มันก็อืด ถ้าท้องมันอืดแล้ว มันก็ต้องไปหายาระบาย ทีนี้ถ้าเราเดินจงกรมได้ อาหารมันย่อยได้ดีขึ้น ก็เลี้ยงร่างกายเรา ทำให้ร่างกายเราสมบูรณ์ สุดท้ายก็คือสมาธิมันตั้งมั่นอยู่ได้นาน

ถาม : การเดินจงกรมที่ถูกต้อง ปฏิบัติอย่างไร?


ตอบ : การเดินที่ถูกต้อง เดินอย่างไรก็ได้ ขอให้มีสติจดจ่ออยู่กับการเดิน ถ้าเป็นลักษณะของครูบาอาจารย์สายยุบหนอพองหนอ ท่านก็ให้กำหนดลงไปที่เท้า ตอนเท้ายก ส้นยก ก้าวไป วางลงอย่างนี้ ท่านก็จะบอกให้มีสติอยู่ตลอด แต่สายเรา พุทโธ พุทโธก็ถูก ยุบหนอพองหนอก็ถูก แบบไหนก็ถูก ถ้ามีสติอยู่กับการเดิน แต่ถ้าเดินจงกรม ขามันเดินไปอยู่ ขามันเดิน มันยก มันเหยียบไปอยู่ แต่จิตมันไปอยู่โน่น ไปอยู่ที่บ้านโน่น ถ้าเป็นอาตมามาอยู่ที่กรุงเทพฯ จิตไปอยู่โน่น ที่วัดโน่น ไปดูก่อสร้างอยู่โน่นเป็นการเดินจงกรมที่ไม่ถูก
มันมีหนึ่งเดินจงกรมเพื่อทำความสงบ สองเดินจงกรมเพื่อพิจารณาธรรม "พิจารณาธรรม" นี่ก็คือ พิจารณาเรื่องราวที่มันเกิดขึ้นว่า อันนี้ๆๆมันเป็นอย่างนี้ ๆ ๆ เดินไปแล้วก็เดินกลับ เดินไปก็เดินกลับอย่างนี้แหละ คือการเดินจงกรมที่ถูกต้อง ก็คือให้มีสติอยู่กับการเดิน อันนี้ถือว่าเป็นใช้ได้ ถือว่าถูกต้อง

พระอธิการสัมพันธ์ สุภทฺโท
วัดป่าหนองไฮ จ.อุบลราชธานี
สาขาสำรวจวัดหนองป่าพงที่ 20
ตอบตามธรรม เล่ม 3