การสื่อสารข้อมูล หมายถึง การแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร โดยผ่านทางสื่อกลางในการสื่อสาร ซึ่งอาจเป็นสื่อกลางประเภทที่มีสายหรือไร้สายก็ได้ องค์ประกอบพื้นฐานของระบบการสื่อสารข้อมูล ประกอบด้วย 1.ข้อมูล/ข่าวสาร (data/message) คือ ข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ ที่ต้องการส่งไปยังผู้รับโดยข้อมูลข่าวสาร อาจประกอบด้วย 2.ผู้ส่ง (sender) คือ คนหรืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับส่งข้อมูล/ข่าวสาร ซึ่งอาจเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ กล้องวีดิทัศน์ เป็นต้น องค์ประกอบพื้นฐานของระบบการสื่อสารข้อมูล รูปที่ 4.4 องค์ประกอบพื้นฐานของระบบการสื่อสารข้อมูล การสื่อสารข้อมูล การสื่อสาข้อมูล หมายถึง การแลกเปลี่ยนข้อมูล/ข่าวสารโดยผ่านทางสื่อกลางในการสื่อสาร ซึ่งอาจเป็นสื่อกลางประเภทที่มีสายหรือไร้สายก็ได้ องค์ประกอบพื้นฐานของระบบการสื่อสารข้อมูล ดังรูปที่ 4.4 ประกอบด้วย ข้อมูล/ข่าว สาร (data/message) คือข้อมูลหรือสารสนเทศต่างๆ ที่ต้องการส่งไปยังผู้รับโดยข้อมูล/ข่าวสารอาจประกอบด้วยข้อความ ตัวเลข รูปภาพ เสียง วีดีทัศน์ หรือสื่อประสม ผู้ส่ง (sender) คือ คนหรืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับส่งข้อมูล/ข่าวสาร ซึ่งอาจเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ กล้องวีดีทัศน์ เป็นต้น ผู้ รับ (receiver) คือ คนหรืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับรับข้อมูล/ข่าวสารที่ทางผู้ส่งข้อมูลส่งให้ซึ่ง อาจเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ เป็นต้น สื่อกลางในการส่ง ข้อมูล (transmission media) คือสิ่งที่ทำหน้าที่ในการรับส่งข้อมูลข่าวสารไปยังจุดหมายปลายทาง โดยการสื่อกลางในการส่งข้อมูลจะมีทั้งแบบมีสาย เช่น สายเคเบิล สายยูทีพี สายไฟเบอร์ออพติก และสื่อกลางในการส่งข้อมูลแบบไร้สาย เช่น คลื่นวิทยุ ไมโครเวฟ และดาวเทียม โพรโทคอล (protocol) คือ กฏเกณฑ์ ระเบียบ หรือข้อปฏิบัติต่างๆ ที่กำหนดขึ้นมาเพื่อเป็นข้อตกลงในการสื่อสารข้อมูลระหว่างผู้รับและผู้ส่ง รูปที่ 4.5 สัญญาณแอนะล็อกและสัญญาณดิจิทัล 4.2.1 สัญญาณที่ใช้ในระบบการสื่อสาร แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ สัญญาณแอนะล็อก (analog signal) และสัญญาณดิจิทัล (digital signal) ดังรูปที่ 4.5 สัญญาณแอนะล็อกเป็นสัญญาณที่มีขนาดแอมพลิจูด (amplitude) ที่เปลี่ยนแปลงตามเวลาและเป็นค่าต่อเนื่อง เช่น เสียงพูด และเสียงดนตรี ส่วนสัญญาณดิจิทัลถูกแทนด้วยระดับแรงดันไฟฟ้าสองระดับเท่านั้นโดยแสดงสถานะ เป็น “0” และ “1” ซึ่งตรงกับรหัสตัวเลขฐานสอง ในบางครั้งการสื่อสารข้อมูลต้องมีการแปลงสัญญาณแอนะล็อกและสัญญาณดิจิทัล กลับไปมา เพื่อให้อยู่ในรูปแบบที่เหใสม และนำไปใช้งานได้ ตัวอย่างเช่น การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์สองเครื่องเข้าด้วยกันโดยผ่านระบบโทรศัพท์ซึ่ง ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับเสียงพูด ที่มีลักษณะของสัญญาณเป็นแบบแอนะล็อก ไม่เหมาะสมสำหรับการส่งข้อมูลแบบดิจิทัลระหว่างคอมพิวเตอร์ จึงต้องมีอุปกรณ์ช่วยในการแปลงสัญญาณ ดิจิทัลจากคอมพิวเตอร์ เพื่อส่งออกไปเป็นสัญญาณแอนะล็อก จากนั้นจะแปลงกลับเป็นสัญญาณดิจิทัลเมื่อสัญญาณถูกส่งถึงผู้รับ โดยผ่านอุปกรณ์ในการแปลงสัญญาณที่เรียกว่าโมเด็ม (modem) ซึ่งใช้เทคนิคการบีบอัดข้อมูลร่วมกับการแก้ไขข้อผิดพลาดของข้อมูลที่อาจเกิด ขึ้นจากการส่งสัญญาณด้วย ดังรูปที่ 4.6 รูปที่ 4.6 การแปลงระหว่างสัญญาณดิจิทัล และแอนะล็อก รูปที่ 4.7 การถ่ายโอนข้อมูลแบบขนาน สาย ส่งข้อมูลแบบขนานที่มีความยาวไม่มาก เนื่องจากถ้าสายยาวมากเกินไปจะก่อให้เกิดปัญหาสัญญาณสูญหายไปกับความต้าทาน ของสาย และเกิดการรบกวนกันของสัญญาณ การส่งโดยวิธีนี้จึงนิยมใช้กับการส่งข้อมูลในระยะทางใกล้ ข้อดีของการรับ-ส่งข้อมูลชนิดนี้คือการรับ-ส่งข้อมูลทำได้เร็ว แต่มีข้อเสียที่ต้องใช้สายส่งหลายเส้นทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง ตัวอย่างที่พบเห็นได้บ่อย คือ การเชื่อมต่อระหว่างเมนบอร์ดกับฮาร์ดดิสก์ภายในคอมพิวเตอร์แบบ EIDE ดังรูปที่ 4.8 ก. และการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับเครื่องพิมพ์ด้วยพอร์ตขนาน ดังรูปที่ 4.8 ข. รูปที่ 4.8ก การเชื่อมต่อระหว่างเมนบอร์ดกับฮาร์ดดิสก์ รูปที่ 4.8ข การเชื่อมต่อระหว่างเครื่องพิมพ์กับเครื่องคอมพิวเตอร์ การถ่ายโอนข้อมูลแบบอนุกรมจะเริ่มโดยข้อมูลแต่ละชุดจะถูกเปลี่ยนให้เป็น อนุกรมแล้วทยอยส่งออกทีละบิตไปยังจุดรับแต่เนื่องจากการทำงานและการส่ง ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่างๆภายในเครื่องคอมพิวเตอร์จะใช้ช่องทางการสื่อสาร แบบขนานที่ประกอบด้วยชุดของข้อมูลหลายบิตดังนั้นที่จุดรับจะต้องมีกลไกในการ เปลี่ยนแปลงข้อมูลที่รับมาทีละบิตให้เป็นชุดของข้อมูลที่ลงตัวพอดีกับขนาด ของช่องทางการสื่อสารที่ใช้ในคอมพิวเตอร์เช่น บิตที่ 1 ลงที่บัส ข้อมูลเส้นที่ 1 เป็นต้น ดังรูปที่ 4.9 การเชื่อมต่อสามารถทำได้โดยใช้สายถ่ายโอนข้อมูลแลลอนุกรม หรือที่เรียกว่า สายซีเรียล (serial cable) ในปัจจุบันมีการพัฒนาการถ่ายโอนข้อมูลแบบนุกรมความเร็วสูงโดยใช้การเชื่อม ต่อแบบยูเอสบี ตัวอย่างการเชื่อมต่อแบบอนุกรมกับอุปกรณ์ต่างๆ ดังรูปที่ 4.10 รูปที่ 4.9 การถ่ายโอนข้อมูลแบบอนุกรม 4.2.3 รูปแบบการรับ-ส่งข้อมูล ดังรูปที่ 4.11 ไม่ว่าจะเป็นการรับ-ส่งข้อมูลแบบขนาน หรืออนุกรมสามารถแบ่งได้เป็น 3 แบบดังนี้ 1) การสื่อสารทางเดียว (simplextransmission) ข้อมูลสามารถส่งได้ทางเดียวโดยแต่ละฝ่ายจะทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เป็นผู้รับหรือผู้ส่ง บางครั้งเรียกการสื่อสารแบบนี้ว่าการส่งทิศทางเดียว (unidirectional transmission) เช่น การกระจายเสียงของสถานีโทรทัศน์หรือสถานีวิทยุ 2) การสื่อสารสองทางครึ่งอัตรา (halfduplex transmission) สามารถส่งข้อมูลทั้งสองฝ่าย แต่จะต้องผลัดกันส่งและผลัดกันรับจะส่งและรับพร้อมกันไม่ได้ เช่น วิทยุการสื่อสาร (walkie-talkie radio) 3) การสื่อสารสองทางต็มอัตรา (full duplex transmission) สามารถส่งข้อมูลได้สองทางโดยที่ผู้รับและผู้ส่งสามารถรับส่งข้อมูลได้ในเวลา เดียวกัน เช่น การสนทนาทางโทรศัพท์คู่สนทนาคุยโต้ตอบได้ในเวลาเดียวกัน รูปที่ 4.10 ตัวอย่างการเชื่อมต่อแบบอนุกรมกับอุปกรณ์ต่างๆ Ref : http://krusunanta.net/ องค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูลประกอบด้วยอะไรบ้าง พร้อมอธิบายความหมายแต่ละส่วนองค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล. 1. ผู้ส่ง (Sender) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการส่งข่าวสาร (Message) เป็นต้นทางของการสื่อสารข้อมูลมีหน้าที่เตรียมสร้างข้อมูล เช่น ผู้พูด โทรทัศน์ กล้องวิดีโอ เป็นต้น. 2. ผู้รับ (Receiver) ... . 3. สื่อกลาง (Medium) ... . 4. ข้อมูลข่าวสาร (Message) ... . 5. โปรโตคอล (Protocol). ข้อใดเป็นสื่อกลาง(Media)ขององค์ประกอบพื้นฐานระบบการสื่อสาร3. สื่อกลาง (Medium) หรือตัวกลาง เป็นเส้นทางการสื่อสารเพื่อนำข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทาง สื่อส่งข้อมูลอาจเป็นสายคู่บิดเกลียว สายโคแอกเชียล สายใยแก้วนำแสง หรือคลื่นที่ส่งผ่านทางอากาศ เช่น เลเซอร์ คลื่นไมโครเวฟ คลื่นวิทยุภาคพื้นดิน หรือคลื่นวิทยุผ่านดาวเทียม
การสื่อสาร (Communication) มีกี่องค์ประกอบองค์ประกอบของการสื่อสาร
1.ผู้ส่งสาร หรือผู้เข้ารหัส (sender / encoder) 2.ผู้รับสาร หรือ ผู้ถอดรหัส (receiver / decoder) 3.สาร (message) 4.ช่องทางการสื่อสาร (channel)
ข้อใดไม่เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของการสื่อสารข้อมูลแบบทดสอบก่อนเรียน บทที่ 1. |