ธุรกิจ e-commerce ในปัจจุบัน

ขณะนี้คุณอยู่ที่: หน้าหลัก

ธุรกิจ e-commerce ในปัจจุบัน
บทความเด่น
ธุรกิจ e-commerce ในปัจจุบัน
เทิศทาง e – Commerce ไทย
:: ผู้ให้บริการข้อมูล 0 214-17500 - 03

ในยุคปัจจุบันเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าอินเทอร์เน็ตได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของใครหลายๆคนไปแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีและอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร รวมถึงระบบเครือข่ายสัญญาณต่างๆ ทำให้การติดต่อสื่อสารทำได้ง่ายและสะดวกขึ้นอย่างมาก

ธุรกิจ e-commerce ในปัจจุบัน

วัตถุประสงค์ของการใช้อินเทอร์เน็ตมีความหลากหลายแตกต่างกันไป เช่น ค้นหาข้อมูล ติดตามข่าวสาร รับส่งข้อมูล เล่นเกมส์ เป็นต้น แต่ที่น่าสนใจ คือ มีการนำอินเทอร์เน็ตมาประยุกต์ใช้ในการเพิ่มช่องทาง ในการทำธุรกิจซื้อขายสินค้าและบริการผ่านออนไลน์ หรือที่เรียกว่า ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) ซึ่งมีการดำเนินการอยู่ 3 ประเภท ได้แก่ B2B (Business to Business) คือ การทำธุรกิจระหว่างภาคธุรกิจด้วยกัน B2C (Business to Customer) คือ ระหว่างภาคธุรกิจกับผู้บริโภค B2G (Business to Government) คือระหว่างภาคธุรกิจกับภาครัฐ การทำธุรกิจ e-Commerce เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่มีเงินทุนน้อยและต้องการลดต้นทุน เพราะเพียงแค่มีเว็บไซต์หนึ่งเว็บไซต์ ก็เปรียบเสมือนว่าคุณมีร้านค้าอยู่ทั่วโลกและสามารถเปิดการค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน ไม่มีวันหยุด สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้โดยตรง รวมทั้งให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในอดีตการทำธุรกิจการค้านิยมกันเพียงการขายผ่านทางหน้าร้านเท่านั้น ซึ่งจะต้องใช้เงินลงทุนสูง ไม่ว่าจะเป็นการจัดการร้าน การจ้างคนดูแล หน้าร้าน ค่าเช่าพื้นที่ ข้อจำกัดทางด้านเวลาในการเปิดร้าน ทำเลที่ตั้งร้านค้า ซึ่งในการตั้งร้านค้าในรูปแบบเดิมนั้นส่วนใหญ่จะเป็นที่รู้จักและเข้าถึงได้เฉพาะลูกค้าในพื้นที่นั้นเท่านั้น

ธุรกิจ e-commerce ในปัจจุบัน

หลายคนคงสงสัยว่า สินค้าและบริการประเภทไหนที่ควรทำในรูปแบบของ e-Commerce คำตอบคือ สินค้าทุกชนิดสามารถนำมาทำได้ แต่ขึ้นอยู่ว่าสินค้าชนิดนั้นจะได้รับความนิยมมากน้อยแค่ไหน การทำธุรกิจนั้นไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใดก็ตามสิ่งสำคัญคือ ต้องรู้ก่อนว่าใครคือกลุ่มลูกค้าของเรา และสินค้าที่จะขายเหมาะกับกลุ่มลูกค้ากลุ่มไหน และลูกค้ากลุ่มนั้นมีโอกาสมากน้อยในการเข้าถึงเทคโนโลยี

ธุรกิจ e-commerce ในปัจจุบัน

จากการสำรวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือน พ.ศ. 2554 ยังพบอีกว่า มีคนที่อายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปที่เคยจองหรือซื้อสินค้าและบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต ร้อยละ 3.8 โดยมีสินค้าและบริการที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด คือ เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ ร้อยละ 30.8รองลงมาคือ e-Ticket ร้อยละ 14.8 หนังสือ และ อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าสุขภาพ ร้อยละ 13.4 และ 13.3 ตามลำดับ

ถ้าพิจารณาอายุของผู้ที่ซื้อหรือจองสินค้าและบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต พบว่า ส่วนใหญ่เป็นคนวัยทำงานคือ อายุ 25 – 49 ปี ร้อยละ 68.8 และ ร้อยละ 57.0 มีค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าที่มีราคาไม่เกิน 3,000 บาท

ธุรกิจ e-commerce ในปัจจุบัน

สำหรับยอดขายของธุรกิจ e–Commerce ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่น่าสนใจมาก โดยพบว่า ผู้ประกอบการ B2B มีมูลค่า ขายผ่าน e–Commerce เพิ่มขึ้น จาก 79,726 ล้านบาท ในปี 2550 เป็น 217,458 ล้านบาท ในปี 2553 ผู้ประกอบการ B2C มีมูลค่าขาย เพิ่มขึ้นจาก 47,501 ล้านบาท ในปี 2550 เป็น 67,783 ล้านบาท ในปี 2553 และผู้ประกอบการ B2G มีมูลค่า ขายเพิ่มขึ้น จาก 177,932 ล้านบาท ในปี 2550 เป็น 344,370 ล้านบาท ในปี 2553 จากข้อมูลข้างต้นคงจะพอสรุปได้ว่า ธุรกิจ e–Commerce ของไทยมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและการเติบโตของธุรกิจส่วนใหญ่ยังคงอยู่ที่ ผู้ประกอบการประเภท B2G รองลงมาคือ B2B และ B2C ตามลำดับ และส่วนใหญ่เป็นการซื้อขายภายในประเทศมากกว่าต่างประเทศ

อย่างไรก็ตามการทำธุรกิจ e–Commerce ก็ยังพบปัญหาอุปสรรคที่ต้องการการแก้ไข คือ การที่ผู้รับบริการบางรายถูกหลอกลวง การได้รับสินค้าไม่ตรงตามโฆษณา ขั้นตอนการสั่งซื้อยุ่งยาก เป็นห่วงความปลอดภัยทางด้านข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลบัตรเครดิต การส่งของที่ล่าช้าและไม่เห็นสินค้าก่อนสั่งซื้อหรือ สั่งจอง ฯลฯ

ถึงกระนั้นก็ตาม ธุรกิจ e–Commerce ยังเป็นธุรกิจที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับผู้ที่สนใจอยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง โดยหัวใจสำคัญของการประกอบธุรกิจประเภทนี้คือ การตระหนักและให้ความสำคัญกับการรักษาความลับของลูกค้า รวมทั้งการจัดทำเว็บไซต์ให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีขั้นตอนในการส่งสินค้าที่ ไม่ยุ่งยาก ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ธุรกิจประเภทนี้ประสบความสำเร็จได้

ตลาด E-Commerce กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นอีก จากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นหนึ่งในกิจกรรมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ส่งผลให้ตลาด E-Commerce มีการแข่งขันที่สูงขึ้นตามไปด้วย 

เพื่อให้ทันกับการแข่งขันในตลาด E-Commerce ร้านค้าออนไลน์จำเป็นต้องติดตามแนวโน้มอีคอมเมิร์ซใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่สำคัญว่าคุณจะอยู่ในธุรกิจ E-Commerce มานานแค่ไหน เพราะหากคุณไม่ติดตามเทรนด์ล่าสุด คุณก็จะล้มหายตายจากไปอย่างง่ายดาย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการมองไปข้างหน้าจึงเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในอนาคตของคุณ

แนวโน้มธุจกิจ E-Commerce 6 อันดับแรกของปี 2021

  1. การช้อปปิ้งบนมือถือ (Mobile Shopping)

การค้าบนมือถือมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของ Statista ยอดขายรวมในปี 2020 อยู่ที่ 2.91 ล้านล้านดอลลาร์และคาดว่าจะถึง 3.56 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2021 นอกจากนี้ 72.9% ของยอดขาย E-Commerce ทั้งหมดจะทำผ่านโทรศัพท์มือถือภายในสิ้นปี 2021

ธุรกิจควรให้ความสำคัญกับการปรับปรุง UX ให้รองรับสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์เคลื่อน เพื่อสร้างโอกาสให้กับธุรกิจของคุณ

  1. ความสำคัญของ UX (The Importance of UX)

ประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นปัจจัยที่สามารถขับเคลื่อนธุรกิจของคุณไปข้างหน้าหรือทำลายมันได้อย่างสิ้นเชิง จากสถิติของ UX ลูกค้าจำนวน 61% จะเลิกท่องเว็บไซต์ที่ออกแบบมาไม่ดี นั่นคือเหตุผลที่เงินทุกบาทที่คุณลงทุนใน UX นั้นคุ้มค่า เพราะมันเชื่อมโยงลูกค้ากับผลิตภัณฑ์ของคุณ

  1. การช้อปปิ้งด้วยเสียง (Voice Commerce)

แม้ว่าการช้อปปิ้งด้วยเสียงจะอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา แต่ก็จะได้รับความนิยมมากขึ้น และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า Voice Commerce จะเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ไม่ได้ใช้แค่รูปภาพ แต่ลูกค้าต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ต้องการโดยอธิบายด้วยเสียงว่าพวกเขากำลังมองหาอะไร

  1. โซเชียลมีเดียในอีคอมเมิร์ซ (Social Media in Ecommerce)

จำนวนคนที่จับจ่ายบนโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อ Facebook และ Instagram Checkout ตัดสินใจเพิ่มปุ่ม“ ซื้อ” ลงในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียก็เริ่มมีบทบาทสำคัญในการค้าบนมือถือทันที

  1. การให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Awareness Topics)

ผู้บริโภคสีเขียวป็นที่นิยมมากขึ้นทุกวัน ผู้บริโภคดิจิทัลเกือบครึ่งหนึ่ง กล่าวว่าความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ ดังนั้นจึงเป็นเวลาที่แบรนด์ต้องเริ่มให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

ปัจจุบันผู้คนตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นธุรกิจ E-Commerce ควรเริ่มใช้แนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน พวกเขาต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าแนวทางปฏิบัติทั้งหมดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

  1. ปัญญาประดิษฐ์ ( Artificial Intelligence)

ผู้ค้าปลีกใช้เงินมหาศาลไปกับ AI และมีแนวโน้มว่าการใช้จ่ายทั่วโลกจะสูงถึง 7.3 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2022 สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าผู้ค้าปลีกเต็มใจที่จะลงทุนจำนวนมากในเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ที่พวกเขาต้องการเพื่อปรับปรุงบริการให้กับลูกค้าซึ่งจะทำให้พวกเขาได้เปรียบในการแข่งขัน 

เครื่องมือ AI เหล่านี้ ได้แก่ :

6.1ซอฟต์แวร์การตลาดอัตโนมัติ (พร้อมเพื่อสร้างข้อเสนอที่ทันเวลา)

6.2 Chatbots (สามารถตอบคำถามของลูกค้าได้ทันที)

AI จะมีบทบาทสำคัญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า บริษัทต่างๆควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะ AI จะสามารถเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าได้ สิ่งนี้จะช่วยปรับปรุงการบริการลูกค้า

สรุป

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคตลอดเวลา นั่นคือเหตุผลที่ธุรกิจ E-Commerce ต้องพัฒนาไปพร้อม ๆ กับเทรนด์ล่าสุดอยู่เสมอ หากพวกเขาต้องการที่จะประสบความสำเร็จและทำให้ลูกค้าพึงพอใจ

ตัวอย่างธุรกิจ E

สินค้าอะไรขายผ่าน E-commerce ได้บ้าง?.
สินค้าที่จับต้องไม่ได้ หรือสินค้าดิจิทัล (Digital Good) เช่น แอปพลิเคชัน ซอฟต์แวร์ เพลง หนัง รูปภาพ รหัส หรือไอเท็มในเกม.
บริการ เช่น ตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก บริการสปา คลินิกเสริมความงาม.

ธุรกิจในข้อใดต่อไปนี้คือ E

e-Commerce คือ การดำเนินธุรกิจโดยการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ ขาย การชำระเงิน และอื่น ๆ ผู้ประกอบการ e-Commerce ที่ขายสินค้าหรือให้บริการ มีหน้าที่ต้องเสียภาษี เช่นเดียวกับผู้ประกอบการอื่น ๆ

ธุรกิจ อี คอมเมิร์ซคืออะไร

e-Commerce platform คือเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นสำเร็จรูปที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการขายสินค้าหรือบริการผ่านทางออนไลน์โดยเฉพาะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ e – marketplace ซึ่งเป็นช่องทางที่นำผู้ซื้อและผู้ขายสินค้าออนไลน์มาเจอกัน ทำให้เกิดการทำข้อตกลงซื้อขายสินค้ากันภายในแพลตฟอร์ม อีกทั้งยังครอบคลุมไปถึงการโอนเงินค่าสินค้าและ ...

แนวโน้มธุรกิจ E

ตลาด Global E-Commerce ในปี 2022 มีแนวโน้มว่าจะมีรายได้สะพัดทั่วโลกมากถึง $5.55 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้การคาดาการณ์มาจากข้อมูลในปี 2020 โดยเผยว่า 17.8% มาจากการซื้อสินค้าออนไลน์ ทำให้นักการตลาดมองว่าในปี 2022 รายได้จากการทำธุรกิจ E-Commerce ในระดับ Global จะเพิ่มขึ้นเป็น 21% และจะมีเปอร์เซ็นต์สูงขึ้นในปี 2025 ที่ ...