สมัยนี้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาพร้อมกับการเชื่อมต่อระบบอินเตอร์เน็ตกันทั้งนั้น องค์กรต่างๆ ก็เริ่มหันมาใช้งานระบบ Cloud Computing กันมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มองหาผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงราคาประหยัด แต่ต่อให้อินเตอร์เน็ตที่ทุกท่านสมัครใช้บริการนั้นจะเร็วขนาดไหน ถ้าอุปกรณ์อย่าง Wireless Router ไม่สามารถตอบสนองการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็ไม่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้อย่างเต็มที่อยู่ดี ก่อนที่จะไปดูว่าควรหาซื้อ Wireless Router แบบไหนดี เรามาเริ่มทำความเข้าใจกันก่อนว่าระบบ Wifi ที่ทุกคนใช้งานกันอยู่นั้นถูกคิดค้นขึ้นมาโดย นาย วิก เฮย์ เมื่อปี 1991 (ราว 25 ปีที่แล้ว) เริ่มต้นจาก 802.11 Protocol มาเรื่อย ๆ จนปัจจุบันนี้มี Router ที่รองรับแบบ b/g/n เป็นมาตรฐานออกมาหลายต่อหลายรุ่นในราคาที่ไม่แพง IEEE 802.11a/b/g/n เป็นคำเรียก Wireless LAN Interface ที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพความเร็วสูงสุดที่ Wireless Router ตัวนั้นๆ สามารถส่งสัญญานออกมาได้ โดยแต่ละมาตรฐานจะมีความเร็วที่แตกต่างกันตามปีการพัฒนา ซึ่งถ้าแบ่งตามระยะเวลาพัฒนา คือ
ตามจริงแล้วมันมีหลายมาตรฐานทีเดียวสำหรับ Wifi Router แต่ถ้าแยกตามที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบันนี้ก็จะมีเพียงกลุ่มที่เป็นมาตรฐาน 802.11b/g/n และ 802.11AC เท่านั้น ซึ่งเกณฑ์การตัดสินใจเลือกก็ไม่ยากนัก คือ เลือกใช้ b/g/n ในกรณีที่
เลือกใช้ AC ในกรณีที่
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี IEEE 802.11 คือมาตรฐานการทำงานของระบบเครือข่ายไร้สายกำหนดขึ้นโดย สถาบันวิชาชีพวิศวกรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Institute of Electrical and Electronics Engineers: IEEE) เป็นมาตรฐานกลาง ที่ได้นำมาปฏิบัติใช้ เพื่อที่จะทำการเชื่อมโยงอุปกรณ์เครือข่ายไร้สายเข้าด้วยกันบนระบบ ในทางปกติแล้ว การเชื่อมต่อระบบเครือข่ายไร้สาย จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์สองชิ้น นั่นคือ
หลังจากที่เทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายนี้ได้เกิดขึ้น ก็ได้เกิดมาตรฐานตามมาอีกมายมาย โดยที่การจะเลือกซื้อหรือเลือกใช้อุปกรณ์เครือข่ายไร้สายเหล่านั้น เราจำเป็นจะต้องคำนึงถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในผลิตภัณฑ์นั้นๆ รวมถึงความเข้ากันได้ของเทคโนโลยีที่ต่างๆด้วย ประวัติ[แก้]เทคโนโลยี 802.11 มีต้นกำเนิดในปี ค.ศ. 1985 กำหนดขึ้นโดยคณะกรรมการการสื่อสารแห่งชาติสหรัฐอเมริกา(อังกฤษ: U.S. Federal Communications Commission) หรือ FCC ที่ประกาศช่วงความถี่สำหรับกิจการด้านอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์และการแพทย์ (ISM) สำหรับการใช้งานที่ไม่ต้องมีใบอนุญาต[1] ในปี ค.ศ. 1991 บริษัท เอ็นซีอาร์/เอทีแอนด์ที (ตอนนี้เป็น Alcatel-Lucent และ LSI คอร์ปอเรชั่น) ได้สร้างชุดตั้งต้นของ 802.11 ในเมือง Nieuwegein, เนเธอร์แลนด์ ตอนแรกนักประดิษฐ์ตั้งใจจะใช้เทคโนโลยีนี้สำหรับระบบเก็บเงิน ผลิตภัณฑ์ไร้สายตัวแรกที่ถูกนำออกสู่ตลาดอยู่ภายใต้ชื่อ WaveLAN ที่มีอัตราข้อมูลดิบของ 1 Mbit/s และ 2 Mbit/s วิก เฮย์สผู้เป็นประธานของ IEEE 802.11 เป็นเวลา 10 ปีและถูกเรียกว่า "บิดาแห่ง Wi-Fi" ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบ 802.11b และ 802.11a มาตรฐานเริ่มต้นภายใน IEEE.[2] ในปี ค.ศ. 1999, Wi-Fi Alliance ถูกจัดตั้งขึ้นเป็นสมาคมการค้าเจ้าของเครื่องหมายการค้า Wi-Fi ซึ่งผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ใช้ Wi-Fi จะมีเครื่องหมายนี้[3] มาตรฐานที่อยู่ภายใต้ กรอบของเทคโนโลยี IEEE 802.11[แก้]ปัจจุบันนี้มีมาตรฐานออกมาหลายอย่าง แต่ที่ได้รับความนิยมทั้งในอตีตและปัจจุบันนั้น แบ่งออกเป็น 7 มาตรฐานด้วยกัน ได้แก่
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นนี้มีบางผลิตภัณฑ์ใช้เทคโนโลยีเฉพาะตัวเข้ามาเสริม ทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้นจาก 54 Mbps เป็น 108 Mbps แต่ต้องทำงานร่วมกันเฉพาะอุปกรณ์ที่ผลิตจากบริษัทเดียวกันเท่านั้น ซึ่งความสามารถนี้เกิดจากชิป (Chip) กระจายสัญญาณของตัวอุปกรณ์ที่ผู้ผลิตบางรายสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการรับส่ง สัญญาณเป็น 2 เท่าของการรับส่งสัญญาณได้แต่ปัญหาของการกระจายสัญญาณนี้จะมีผลทำให้อุปกรณ์ ไร้สายในมาตรฐาน 802.11b มีประสิทธิภาพลดลงด้วยเช่นกัน
อ้างอิง[แก้]Cisco CCNA Exploration 4.0 Network Fundamental |