เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา

🙏🙏ตามตำหรับตำราแห่งความเชื่อโบราณกาลทั้ง “ศาสตร์ไทย” และ “ศาสตร์จีน” #ท้าวเวสสุวรรณโณ ถือว่าเป็นวัตถุมงคลแก้เคล็ดของปีชง โดย #ท้าวเวสสุวรรณโณ จะคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากภยันตรายต่างๆ ตลอดปีตลอดไป 🙏🙏ส่วนปีนักษัตรของคนที่ไม่ตรงกับปีชง ก็มักจะเช่าหาบูชาเพื่อ…เสริมดวง หนุนดวงที่ดีแล้ว ให้ดีกว่าเดิมและเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป

เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา



ตำนานเหรียญเสกบินเดี่ยวนานถึง ๔ ปี
เหรียญรุ่นแรก พ่อท่านพลอย ปิยธมฺโม (ใจเพชร)
วัดบ้านหน้าลา ต.แหลมสอม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง

**#อีกหนึ่งศิษย์สืบทอดพุทธาคม**
=พ่อท่านปาน วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง
=พ่อท่านเดี้ยม วัดทุ่งนา จ.ตรัง
=พ่อท่านนิ่ม วัดไทรทอง จ.ตรัง
เหรียญรุ่นนี้ปลุกเสกนานถึง ๔ ปี ( ตั้งแต่ปี 59 -63 )
พ่อท่านพลอยบอกว่า " เสกจนประคำทุหมดแล้ว "
#อีกหนึ่งพระเกจิย์ที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจครับ
#ปัจจุบันท่านสิ้นบุญแล้วเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2564 วันสลายสรีละสังขาร หัวใจของท่านกลับเผาไม่ไหม้ หรือที่เรียกว่า #หัวใจเพ็ชร โบราณเรียกว่าท่านสำเร็จวิชามหาอุต


เหรียญสุดขลัง_อนาคตประสบการณ์ดังแน่นอน

(#สำหรับประวัติ..โดยย่อ...
พ่อท่านพลอย ปิยธมฺโม ) วัดบ้านหน้าลา ต.แหลมสอม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง

**********************************

#พ่อท่านพลอย เดิมชื่อนายพลอย นาคขาว
บิดาชื่อนายแดง นาคขาว เดิมเป็นชาวบ้านหัวเขา (หัวนอนบ้านหัวเขา)
มารดาชื่อนางทรัพย์ ชัยเดช เดิมเป็นชาวบ้านไสหยี
นางทรัพย์ ชัยเดช เป็นบุตรสาวแท้ๆของพระครูสิทธิรามกรณีย์ (เภอ) เจ้าอาวาสวัดโพธาราม อ.เมือง จ.ตรัง
พระครูสิทธิรามกรณีย์เดิมแล้วเป็นผู้ใหญ่บ้าน
ภายหลังได้ลาออกจากผู้ใหญ่บ้านแล้วมาบวชพระ
และได้สร้างวัดขุนสิทธิ์ (ต้นเหรียง) อ.เมือง จ.ตรัง

ภายหลังบิดามารดาของพ่อท่านพลอยได้ย้ายครอบครัว
ไปอยู่ที่บ้านสะพานที่ ๕ ในเขต ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรัง
พ่อท่านพลอยมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน จำนวน ๖ คน
๑.นายพลอย นาคขาว ภรรยาชื่อนางคล้าย โมราสิทธิ์ (ชาวบ้านปากประ จ.พัทลุง)
๒.นางซ้อน นาคขาว
๓.นายพร้อม นาคขาว (ตอนนี้บวชเป็นพระภิกษุ)
๔.นางจัด นาคขาว
๕.นางจาย นาคขาว
๖.นางเจือ นาคขาว

พ่อท่านพลอยเข้าเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ ๑ - ๔ ที่โรงเรียนวัดโพธาราม
ในยุคสมัยนั้นโรงเรียนได้ตั้งอยู่ในวัดโพธาราม

พ่อท่านพลอยได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๐
ณ.พระอุโบสถวัดนิคมประทีป (โคกหล่อ) อ.เมือง จ.ตรัง
โดยมีพระครูอดุลคุณาธาร (หวน ขนฺติโก) เป็นพระอุปัชฌาย์

**********************************

พ่อท่านพลอยท่านได้สร้างวัตถุมงคลหลายอย่างด้วยกัน
เช่น สายคาดเอวกระสุนคด , ตะกรุตโทน ตะกรุตพระเจ้าห้าพระองค์ ,
ตะกรุตยันต์พระพรหมสี่หน้า , เสื้อยันต์ , ผ้ายันต์ค้าขาย ,
ผ้าประเจียด , สายข้อมือนารายณ์ตวาดหิมพานต์ ,
โดยวัตถุมงคลทั้งหมดท่านทำขึ้นด้วยตัวของท่านเอง
ภายหลังเมื่อท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดโคกมะขาม (หาดเลา) อ.ปะเหลียน จ.ตรัง
ทางสำนักสักยันต์อาจารย์เหลี้ยม นาโยง ซึ่งเป็น ๑ ในศิษย์ของท่าน
ได้ขออนุญาตจัดสร้างเหรียญรุ่นแรกขึ้น ใน พ.ศ.๒๕๕๙
โดยพ่อท่านพลอยท่านได้ปลุกเสกเดี่ยวเฉพาะอุดมมงคลฤกษ์ ๔ ปี
และเมื่อ พ.ศ.๒๕๖๐ได้จัดสร้างพระขุนแผนรุ่นแรก ปลุกเสกพร้อมเหรียญรุ่นแรกของท่าน ,
อีกทั้งพระปิดตาเนื้อเงินยวง - เนื้อตะกั่วชนวนยันต์
และมีการสร้างผ้าประทับฝ่ามือ - ฝ่าเท้าขึ้นมาจำนวนหนึ่ง
พร้อมด้วยภาพถ่ายของพ่อท่านพลอยขนาด ๑ นิ้ว , ลูกสวาทมหามงคล
และประเจียดแขนพระโมคคัลลาน รุ่นแรก
และพ่อท่านพลอยท่านได้ทำวัตถุมงคลอื่นๆให้เฉพาะบุคคลเรื่อยๆตลอดมา
เช่น ผ้าประทับฝ่ามือ - ฝ่าเท้า , ตะกรุตโทน , สายคาดเอว อื่นๆ...

ปิดรายการ
โทร.084-2995545
ID LINE: Wee3250
ธ.ไทยพาณิชย์ วีรวัฒน์ ดุลยทรัพย์ เลขที่ 994-203-1056 ออมทรัพย์

 

เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา



(((สุดยอดเหรียญพุทธศิลป์สวยงามที่มีพุทธคุณป้องกันโรคระบาด กันรังสินิวเคลียร์ กันภัยต่างๆในยุคกาลีได้ถึง 10 ประการ ปลุกเสกโดยสุดยอดพระเกจิอาจารย์พลังจิตเหนือโลกแห่งเมืองกรุงเก่า)))

#เหรียญพระไตรรัตนจักรชัยสิทธิ์
(หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน จ.พระนครศรีอยุธยา)

เนื้อทองแดงรมดำ รุ่นสร้างตึกเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ปี พ.ศ.2546 คัดสวยทุกเหรียญ

#วิชาพระไตรรัตนจักรชัยสิทธิ์ ท่านได้อาราธนาพลังบารมีคุณพระรัตนตรัยมาเป็นที่พึ่งสูงสุด สามารถกำจัดทุกข์ภัยได้จริง และสามารถกำจัดภัยพิบัติ 10 ประการบนโลก ยุคกาลี อันจะเกิดขึ้นได้แก่

1. ราชภัย ภัยทางราชการลงโทษ จองจำ
2. โจรภัย ภัยเกิดแต่โจรผู้ร้ายจี้ปล้น
3. อัคคีภัย ภัยเกิดแต่ไฟไหม้
4. วาตภัย ภัยเกิดแต่ลมพายุ
5. อุทกภัย ภัยเกิดแต่น้ำท่วม
6. วิวาทภัย ภัยเกิดแต่การทะเลาะวิวาท
7. โรคภัย ภัยเกิดแต่โรคระบาด
8. อุปัตติภัย ภัยที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า
9. ทุพภิกขภัย ภัยที่เกิดจากเศรษฐกิจฝืดเคืองข้าวยากหมากแพง
10.วินาศภัย ภัยธรรมชาติ ที่ให้ความพินาศอย่างใหญ่หลวง

♦️ #หลวงปู่ชื้นเมตตาอธิฐานจิตปลุกเสกเหรียญนี้ 3 วาระ
1.หลวงปู่ชื้นอธิฐานจิตที่โรงพญาบาล
2.หลวงปู่ชื้นอธิฐานจิตที่วัดญาณเสน

3.พิธีอธิฐานจิตปลุกเสกใหญ่ ที่ปราสาทนครหลวง จ.อยุธยา โดยมีพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมและพลังจิต เจริญภาวนาปลุกเสก
♦️.พระธรรมญาณมนี (ลพ.ไวทย์)
♦️.พระราชสิทธิมงคล (ลพ.สวัสดิ์ วัดศาลาปูน)
♦️.พระครูสุนทรยติกิจ (ลพ.ละเอียด)
♦️.พระสังวรสมณกิจ (ลป.ทิม วัดพระขาว)
♦️.พระครูประโชติธรรมวิจิตร (ลพ.เพิ่ม วัดป้อมแก้ว)
♦️.พระครูสุวรรณสีลาธิคุณ (ลพ.พูน วัดบ้านแพน)
♦️.พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ (ลพ.รวย วัดตะโก)
♦️.พระครูภัทรกิจโกศล (ลพ.หวล วัดพุทธไธสวรรค์)

หลวงปู่ชื้นท่านคือสุดยอดพระอริยสงฆ์องค์สำคัญแห่งเมืองกรุงเก่า ในสมัยก่อน ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านพระเวทย์วิทยาคมเป็นอย่างมาก ท่านสำเร็จวิชาเล่นแร่แปรธาตุ สามารถสร้างสัตตโลหะที่มีคุณวิเศษยิ่งได้

ต่อมาท่านได้พบกับพระธุดงค์ลึกลับ ชื่อหลวงปู่เสน ท่านได้ธุดงค์มาจากโคราช มาปักกลดภาวนาอยู่ข้างวัด เมื่อหลวงปู่ชื้นท่านได้พบเข้า ได้สนทนากันจึงเกิดความเลื่อมใส และฝากตัวขอเป็นศิษย์ เนื่องจากท่านเห็นว่าวิชาที่ท่านมีอยู่ ไม่ใช่ทางเพื่อหลุดพ้น

โดยหลวงปู่เสน ได้กล่าวว่า “นับเป็นกุศลของอาตมาที่จะได้ช่วยให้ผู้มีบุญวาสนาอยู่แล้วได้สำเร็จมรรคผล” นับแต่วันนั้นมาพระภิกษุทั้ง 2 รูป ก็ได้ทบทวนศีล 227 ข้อ พระธรรมวินัยต่าง ๆ ภายในพระอุโบสถ ครั้นยามค่ำคืนก็พากันนั่งสมาธิอยู่โคนต้นโพธิ์ ภายในวัดญาณเสน โดยที่หลวงพ่อชื้นจะภาวนาพระคาถาต่าง ๆ ไปด้วย และลงท้ายด้วยภาวนา นัตถิเม โดยมีพระธุดงค์รูปนั้น นามหลวงปู่เสน ได้นั่งสมาธิคุมไปด้วย

จนกระทั่งเวลาได้ผ่านไป 2 เดือนเศษ หลวงพ่อชื้น จึงขอเข้ามานั่งสมาธิอยู่ในโบสถ์ จะได้ไม่ไปรบกวนเจ้าที่เจ้าทาง หลังจากนั่งในพระอุโบสถคืนที่ 3 ใกล้รุ่ง หลวงพ่อชื้น ก็นิมิตเห็น องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่งสมาธิลอยมา ถึง 3 พระองค์ และพระธรรมจักร เปล่งรัศมีโชติช่วง หมุนอยู่ระหว่างกลาง องค์พระทั้ง 3 พระองค์ เมื่อหลวงพ่อชื้นถอนสมาธิก็บังเกิดความสว่างขึ้นภายในดวงใจ เต็มไปด้วยความปิติ จะนึกสิ่งใดต้องการรู้สิ่งใดก็มีคำตอบขึ้นมาเสร็จ ท่านจึงได้เล่านิมิตให้พระธุดงค์ฟัง พระธุดงค์รูปนั้นท่านก็บอก ว่า “อาตมาหมดหน้าที่แล้ว อาตมาจะกลับไปที่บ้านเกิดของอาตมา ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดโบสถ์ อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา”

หลังจากวันนั้นแล้ว หลวงปู่เสน ก็ธุดงค์กลับ แม้หลวงพ่อชื้นจะอ้อนวอนให้อยู่ต่อ เพื่อจะได้สนองคุณดูแลเมื่อยามแก่เฒ่าท่านก็ไม่รับนิมนต์

หลังจากนั้นหลวงพ่อชื้น เล่าว่า ท่านยังได้ส่งกระแสจิตถึงกันอยู่เสมอ เพียงแต่นึกถึงกัน ก็สนทนากันได้แล้ว และหลังจากนั้นอีก 5 ปี หลวงปู่เสน เตชะธัมโม ก็มรณภาพ ในท่านั่งสมาธิอยู่บนภูเขาแห่งหนึ่ง ในอำเภอสูงเนิน เมื่อหลวงพ่อชื้นทราบข่าว ก็ขึ้นไปทันที กว่าจะหาศพพบ ก็เป็นเวลา 7 วัน ปรากฏว่านั่งมรณภาพในขณะสมาธิบำเพ็ญเพียรอยู่ในซอกหิน ศพไม่เน่าเปื่อยเหมือนคนหลับธรรมดา สัตว์ป่า หรือ มด แมลง ก็มิได้มาไต่ตอมหลวงพ่อชื้น ท่านก็ได้ช่วยทำการฌาปนกิจอย่างสมเกียรติ แล้วจึงเดินทางกลับ

♦️ #หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา ยังบอกว่า "ถ้าข้าไม่อยู่แล้ว ให้ไปกราบพี่ชื้น วัดญาณเสน"

♦️ #หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ยังได้บอกศิษย์ว่า ให้ไปทำบุญกับหลวงปู่ชื้น จ.อยุธยา

หลวงปู่พรหมา เขมจาโร ยังให้ลูกศิษย์ที่เป็นฤาษี มาเก็บพระหลวงปู่ชื้น
♦️ #หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ยังเคยเอ็ดเอากับชาวอยุธยาว่า "ใกล้เกลือกินด่าง" หมายความว่า ชาวอยุธยาผู้นั้นเดินผ่านวัดหลวงปู่ชื้นกลับไม่รู้ว่ามีเพชรแท้อยู่หน้าบ้านตัวเอง แต่กลับไปกราบหลวงปู่แหวน ซึ่งห่างไปตั้งหลายร้อยกิโล

ความเป็น"หนึ่งไม่มีสอง"ของหลวงปู่ชื้นนั้น ถึงขนาดที่หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยาถึงกับเรียกหาด้วยความเคารพยกย่องอย่างยิ่งว่า "#พี่ชื้น" ทั้งๆที่หลวงปู่ชื้นมีพรรษายุกาลน้อยกว่าหลวงปู่ดู่อยู่หลายปี อันเป็นการแสดงความให้เกียรติในคุณธรรมอันสูงเด่นเทียมฟ้าของหลวงปู่ชื้นให้ปรากฏไปในทศทิศอย่างไม่มีใดจะปฏิเสธได้

ความเป็น"หนึ่งไม่มีสอง"ของหลวงปู่ชื้นนั้น ถึงขนาดที่มีพระครูบาสายเหนือจากจังหวัดเชียงใหม่,ลำพูน รูปหนึ่ง(ไม่อาจเปิดเผยนาม)ได้เดินทางมากิจธุระที่กรุงเทพมหานคร ขณะที่ครูบาท่านนั้นกำลังนั่งรถผ่านเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านก็ได้ใช้ญาณวิเศษ Scan หาพระดีในเขตจังหวัดกรุงเก่าแบบครอบคลุมทุกพื้นที่ไปหมด เมื่อญาณท่านครูบาส่องมากระทบกับจิตพระอจินไตยอรหันต์อันทรงอานุภาพเกินจินตนาการของหลวงปู่ชื้น วัดญาณเสนเข้า ก็แทบจะถึงแก่การตกตะลึง พลางปรารภกับผู้ใกล้ชิดทีเดียวว่า
"อยุธยาในยุคนี้สมัยนี้ ยังมีพระเก่งพระดีถึงขนาดนี้อยู่อีกหรือนี่..!!!"

ความเป็น"หนึ่งไม่มีสอง"ของหลวงปู่ชื้นนั้น ถึงขนาดที่หลวงปู่พรหมา เขมจาโร สวนหินผานางคอย อุบลราชธานีได้จับพลังเหรียญของหลวงปู่ชื้นรุ่น"ธรรมสภา"แล้วถึงกับออกปากว่า"#ในยุคนี้ยังมีใครเสกของได้แรงถึงขนาดนี้อยู่อีกหรือนี่.."

ทั้งๆที่หลวงปู่พรหมาไม่เคยพบหลวงปู่ชื้นมาก่อนเลย แล้วยังสั่งให้ฤาษีสมชาย ศิษย์ของท่านตามมาเช่าเหรียญนี้ถึงวัดญาณเสนไปอีกไม่น้อยอีกด้วย
ความเป็น"หนึ่งไม่มีสอง"ของหลวงปู่ชื้นนั้น ถึงขนาดที่ หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ พระอัครคณาจารย์ชื่อก้องแห่งวัดบ้านไร่ นครราชสีมายังไม่ยอมที่จะปลุกเสกทับเหรียญของหลวงปู่ชื้นของญาติโยมรายหนึ่ง ก่อนที่จะใช้ญาณเพ่งพิศเจาะลึกก่อนสั่งให้ทั้งพระและโยมกลับไปกราบหลวงปู่ชื้นเสียอีกเป็นหลายครั้งหลายวาระด้วยกันทีเดียวว่า
"ท่านเป็นพระดีน๊ะ.!!!!!!!!!!"

#มีลูกศิษย์เคยถามท่านหลวงปู่ชื้นว่า พระของหลวงปู่กันนิวเคลียร์ได้ใช่ไหมครับ (เคยได้ยินมาก่อนหน้านี้) ท่านตอบว่า "ได้" และบอกอีกว่า นิวเคลียร์เป็นพลังทางโลกจะสู้พลังทางธรรมไม่ได้!
"พลังนิวเคลียร์ปรมาณูแรงแค่ไหน จิตของผู้ปลุกเสกพระที่กันนิวเคลียร์ได้จะต้องแรงยิ่งกว่านั้น จึงจะเอาอยู่ จิตหลวงปู่ชื้นแรงถึงขนาดนั้น.
_______________________________________

เหรียญออกแบบให้เป็นเหมือนจักรแก้ว พุทธศิลป์สวยงามเป็นหนึ่งเดียว สภาพสวยสมบูรณ์

เนื้อตะกั่วทองแดงรมดำ เป็นเนื้อที่ตอกโค้ด เพียงเนื้อเดียวของรุ่นนี้ เนื่องจากเนื้ออื่นๆ โดยเฉพาะเนื้อตะกั่วตอกโค้ดแล้วเหรียญบิดงอ จึงเป็นเนื้อทองแดงรมดำเพียงเนื้อเดียวของรุ่นนี้ ที่มีการตอกโค้ดชัดเจน

เหรียญสวยงาม ของแท้ 100% เดิมจากวัด ไม่ผ่านการอาราธาบูชา เหมาะนำไปอาราธนาบูชา เป็นขวัญกำลังใจ ป้องกันโรคระบาด และสภาวะเศรษฐกิจ สู้ภัยให้รอดพ้นจากวิกฤตินี้ไปได้ ด้วยบารมีคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง

บูชา 800.- (จัดส่ง50)
โทร.084-2995545
ID LINE: Wee3250
ธ.ไทยพาณิชย์ วีรวัฒน์ ดุลยทรัพย์ เลขที่ 994-203-1056 ออมทรัพย์

 

เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


ล็อกเก็ตแร่เหล็กไหลรุ่น1 หลวงปู่ดิเรก อาวุธปัญโญ
วัดซับตะเคียน (ภูพระธาตุ) อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์
พร้อมรอยจารย์หลวงปู่!
สุดยอดของล็อตเก็ตตั้งแต่พลังจิต คนปลุกเสก!
ดั่งวาจาหลวงปู่ดิเรก ท่านกล่าวว่า...
" เอาเถอะน่ามีกูไม่อดหรอก มีกูไม่อดไม่จน
จิตไม่กล้า ข้าไม่เสก ต้องเอกอุ จึงประจุ มนตรา คาถาขลังใส่ไว้ครบ จบถ้วน ล้วนพลัง ประสิทธัง ดังว่า "บูชาครู"
"ถ้าพลังจิตไม่กล้าข้าไม่เสก ไอ้จะมานั่งหลับตาถ่ายภาพ ข้าไม่เอาว่ะ มันไม่ขลัง ถ้าจะเสกจิตต้องพร้อม"

ปล. #ดูจากภาพถ่ายพิธีปลุกเสกแล้วรองไปถามครูบาอาจารย์ต่างๆดูท่านจะหายข้อสงสัย!!

สุดยอดล็อคเก็ตเหล็กไหลวัชระธาตุกว่า200ชนิด
และมวลสารหลากหลายของหลวงปู่ดิเรก
ของดีหายากจัดสร้างน้อยมาก
#พิมพ์ใหญ่+พิมพ์เล็ก #รวมกันแค่1000องค์เท่านั้น!

ทั้งมวลสารแล้ว + พลังจิตคนเสก
จึงเกิดอานุภาพตั้งแต่มวลสารกายสิทธิ์เหล็กไหลวัชระรวมมวลสารที่หลวงพ่อดิเรก อาวุธปัญโญ ท่านมอบให้มาผสมลงในล็อกเก็ต
โดยการบรรจุที่ วัดซับตะเคียน (ภูพระธาตุ) ทั้งหมด

#ความเป็นมาแห่งเหล็กไหลวัชระธาตุ :
#วัชรธาตุ หรือเหล็กนิพพาน หยดน้ำฟ้าชนิดแข็ง เป็นธาตุที่ชักชวนผู้ที่เป็นเจ้าของให้ฝักใฝ่ในธรรมะ ชอบที่จะสร้างบุญกุศล สวดมนต์ ไหว้พระและฝึกฝนปฏิบัติทางจิต เช่น น้อมจิตให้ชอบสวดมนต์ นั่งสมาธิ ประพฤติปฏิบัติธรรม จนเข้าสู่กระแสธรรมแห่งวิปัสสนาญาณไปในที่สุด จนทำให้ผู้ที่ครอบครอง รู้แจ้งเห็นจริงต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ตามบุญบารมีของผู้ที่เป็นเจ้าของไปโดยปริยาย

#วัชรธาตุหยดน้ำฟ้า หรือ เหล็กนิพพานนั้น ชอบที่จะเข้าไปบั่นทอนอาสวะกิเลสที่กำลังเกิดขึ้นของผู้คนที่อยู่รอบข้าง ผู้ที่อยู่ใกล้ตัวให้สภาวะแห่งกิเลสนั้น ค่อย ๆ ดับลงไป ทำให้ปัญญาต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นทั้งในหน้าที่การงานและครอบครัว หรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิดหมดปัญหาลงไป พูดจากันเข้าใจ และทำให้จิตไม่คิดเกินใจ ไร้อารมณ์แห่งการย้ำคิดย้ำทำ เพราะธาตุกายสิทธิ์ชนิดนี้ มีเมตตา คุ้มครอง แคล้วคลาด คงกระพัน โชคลาภ มีบารมีในทุก ๆ ด้าน 1000% สุดแล้วแต่ผู้ที่ครอบครองจะอธิษฐาน

#เพราะธาตุชนิดนี้เป็นเพียงธาตุชนิดเดียว
ที่เป็นยอดแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เทวคุณ พรหมคุณ และอริยคุณ แห่งสัมมาทิฐิบารมีดูแลรักษา อริยธาตุอยู่ตลอดเวลา เป็นสุดยอดแห่งธาตุที่มีอยู่ในจักรวาล ที่สามารถหลอมละลายธาตุได้ ถ้าอยู่ในเมืองมนุษย์ เรียกว่า เหล็กไหลขาว เหล็กเปียก เหล็กน้ำนมแห่งพระแม่ธรณีเป็นองค์บารมีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ฝากพระแม่ธรณีเอาไว้ ผู้รู้มักจักนำธาตุชนิดนี้สร้างเป็นยอดปลีของพระธาตุหรือเป็นวัตถุมงคล มีทั้งสำเร็จรูปเป็นธาตุที่มีปลายแหลมทั้งสองด้าน

#ถ้าล่องลอยอยู่ในจักรวาล เรียกว่า #จันทราธาตุ ซึ่งหมายถึง แสงแห่งความร่มเย็น ที่จะนำเข้าสู่ อริยธรรม ส่วนใหญ่จะถูกเทพเทวาอัญเชิญไปรวมไว้ ณ จุดเดียวกัน เพื่อรักษาคุ้มครอง ป้องกันพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ เพื่อเป็นฐานรองรับพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณี ณ ห้องพระนิพพาน แห่งแดนสุขาวดี จึงกลายเป็นธาตุที่ซึมซับเอาอริยบารมีแห่งการปฏิบัติทั้งมวลแห่งเจตสิกที่มีความบริสุทธิคุณเอาไว้ในธาตุชนิดนี้ เราเรียกธาตุชนิดนี้ว่าเป็น วัชรธาตุ

#เมื่อโลกมนุษย์เกิดวิกฤตแห่งไฟกิเลส
วัชรธาตุก็เกิดความเร่าร้อนตามไปด้วย จึงเกิดการละลายตัวหยดลง ณ โลกมนุษย์ เราจึงเรียกว่า วัชรหยดน้ำฟ้า หรือเหล็กไหลพระนิพพาน เพื่อลงมาช่วยเหลือผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เพื่อที่จะเป็นกำลังใจที่จะต่อสู้กับกิเลสตัณหาและความทะยานอยากทั้งหลาย จนสามารถฝ่าฟันเอาชนะกิเลสแห่งตนให้หมดไป และตั้งมั่นแห่งการสะสมบุญบารมีกันต่อไปจนกว่าจะเห็นทางแห่งการพ้นทุกข์ ดีนักแล

หลวงพ่อดิเรก อาวุธปัญโญ. ได้กล่าวว่า
"เอาเถอะน่ามีกูไม่อดหรอก"
รุ่นนี้จึงได้ชื่อว่า..."#มีกูไม่อดไม่จน!!"
@ทุกคน
**รับประกันพระแท้ตลอดชีพ**

บูชา PMสอบถาม
โทร.084-2995545
ID LINE: Wee3250
ธ.ไทยพาณิชย์ วีรวัฒน์ ดุลยทรัพย์ เลขที่ 994-203-1056 ออมทรัพย์

 

เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา



((สืบพุทธาคมหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก เจ้าตำรับ 5 ม.น้ำมัน,น้ำมนต์,ไม้ครู,มีดหมอ,ชานหมาก))

พระปิดตาพิมพ์"ตุ๊กตาเล็ก" หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา ปี37 แท้ทันหลวงพ่อ พร้อมรูปถ่าย หลังยันต์ นะฉัพพรรณรังสี

.......ก่อนที่หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจาท่านจะมรณภาพไม่นาน ท่านได้แสดง"สิ่งอัศจรรย์"ให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดทั้งบรรชิต และฆารวาสที่ดูแลท่านได้เห็น ว่าสิ่งเหล่านี้ มีอยู่จริง!!! นั่นคือการ"ลบผงลอดใต้กระดาน"โดยท่านได้เขียนยันต์"นะฉัพพรรณรังสี"ลงบนกระดานชนวน พร้อมทั้งว่าพระคาถาเรียกสูตรกำกับตามที่ท่านได้ร่ำเรียนมา เสร็จแล้วท่านได้ใช้นิ้ว"เคาะที่กระดานชนวน"เบาๆ ปรากฏว่า ผงยันต์"นะฉัพพรรณรังสี"ที่ท่านได้เขียนไว้บนกระดานชนวน "หล่นรอดกระดาน"ลงไปที่ผ้าขาวที่ท่านได้ปูรองเอาไว้ และนี่ก็เป็นเพียง"เสียดเสี้ยว"เพียงเล็กน้อย ของปฏิปทา ปาฏิหาริย์ของท่าน ที่คนเมืองกรุงเก่าต่างรับรู้กันดี ที่เห็น เป็นพระปิดตาพิมพ์"ตุ๊กตาเล็ก"ซึ่งถือว่า เป็นพระปิดตาลอยองค์เนื้อผง"รุ่นแรก"ของท่าน สร้างในปี ๒๕๓๗ ซึ่งนอกจาก จะมีส่วนผสมของผง"นะฉัพพรรณรังสี"(ผงลอดกระดาน) ยังผสมกับมวลสารสำคัญต่างมากมาย(เช่นชานหมาก ว่านยา น้ำมนต์ ผงตะไบพระกริ่ง เส้นเกศา ฯลฯ) พระปิดตาพิมพ์"ตุ๊กตาเล็ก"นี้ จะมีทั้งเนื้อขาว และ เนื้อดำ เป็นพระอีกรุ่น ที่ประสบการณ์ดี น่าบูชามากๆ

หลวงพ่อเมี้ยน พุทฺธสิริ หรือ พระครูพุทธสิริวัฒน์ อดีตเจ้าอาวาส วัดโพธิ์กบเจา บางบาล จ.อยุธยา ท่านมีนามเดิมว่า เมี้ยน นามสกุล เกิดโภคทรัพย์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ปีมะเส็ง (ตรงกับปี พ.ศ. 2460) ที่บ้านหาดทราย หมู่ 9 ต.กบเจา อ.บางบาล จ.อยุธยา เป็นบุตรของ นายแก้ว และ นางทองม้วน เกิดโภคทรัพย์ มีพี่น้องร่วมอุทร 8 คน

หลวงพ่อท่าน เป็นคนใฝ่รู้ใฝ่เรียนมาตั้งแต่เด็ก (ปล. เรียกว่า เป็นคนแก่เรียนเอามากๆเลยครับ) หลวงพ่อท่านจะชอบศึกษา ค้นคว้า อยู่ตลอดเวลา อีกทั้ง เนื่องจากบิดาของท่านเป็นหมอยากลางบ้าน ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ยาแผนโบราณต่างๆ ทำให้หลวงพ่อท่าน ได้รับความรู้ ความเข้าใจ ด้านสมุนไพร และ ตัวยาแผนโบราณต่างๆ เพียงอายุยังน้อย เพราะท่านจะออกตาม บิดาท่าน ไปรักษา ผู้คนอยู่บ่อยๆ ไม่เพียงแต่ ด้านการแพทย์ ที่ท่านใฝ่ศึกษา และเรียนรู้ แต่ท่านยังชอบศึกษาหลักพระธรรม อีกด้วย (ปล. คงเป็นเพราะ ด้วยนิสัยส่วนตัว ของท่านเป็นคนใจดี มีเมตตา ชอบช่วยเหลือผู้คนอยู่แล้ว) ภายหลัง ท่านมีโอกาสได้บรรพชาเป็นสามเณร โดยได้รับการศึกษาภาษาบาลี ที่วัดดาวดึงษาราม ธนบุรี สอบได้ชั้นมูล 2 และสอบได้นักธรรมชั้นตรี ต่อมาท่านได้สึกออกมา เพื่อช่วยงานที่บ้านอยู่พักนึง จนกระทั่งพออายุครบบวช ท่านจึงได้ทำการอุปสมบท ที่วัดโพธิ์กบเจา บางบาล จ.อยุธยา ในปี พ.ศ. 2481 โดยมี พระครูปุ้ย วัดธรรมโชติการาม (วัดขวิด) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการหลิ่ว วัดพิกุลโสคันธ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์, พระครูหลิ่ม วัดโพธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า " พุทฺธสิริ "

เมื่อบวชเป็นพระแล้ว หลวงพ่อท่านก็ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัย และปฏิบัติในทางพระกรรมฐาน จนมีจิตใจมั่นคงต่อ พระพุทธศาสนา หลังการบวชได้ 7 พรรษา หลวงพ่อก็ได้รับการแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ให้เป็น เจ้าอาวาสวัดโพธิ์กบเจา แทนเจ้าอาวาสองค์ก่อน ที่มรณภาพลง หลวงพ่อท่าน ได้ทำหน้าที่ของท่าน เป็นอย่างดี โดย ท่านเป็นศูนย์รวมจิตใจ ที่ยึดมั่น และที่พึ่งของชาวบ้าน เรื่อยมา

จวบจน กาลเวลาที่ชาวบ้านได้สูญเสีย ร่มโพธิ์ ร่มไทร ที่พวกเค้า เชิดชู เคารพ รัก และศรัธทายิ่ง ของพวกเค้าไป ในวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2541 หลวงพ่อได้มรณภาพลงด้วยอาการสงบ สิริอายุได้ 81 ปี 60 พรรษา

#การศึกษาพุทธคม

นี่คือตำนานบทสำคัญ ของ อมตะเถระแห่งเมืองกรุงเก่า ผู้เป็นเจ้าตำรับ 5 ม. (น้ำมัน น้ำมนต์ มีดหมอ ไม้ครู ชานหมาก) อันโด่งดัง เนื่องด้วยท่านเป็น พระคงแก่เรียน อยู่แล้วเป็นทุนเดิม จึงทำให้ หลวงพ่อท่าน มักจะศึกษา หาข้อมูล ความรู้ อยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสรรพวิชา อาคมต่างๆ ที่ได้เล่าได้เรียนมาจาก สุดยอดคณาจารย์ที่โด่งดังตลอดกาลอย่าง "พระทองคำ" หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ, หลวงพ่อห่วง วัดบางยี่โท, หลวงพ่ออินทร์ วัดเกาะหงษ์ ฯลฯ จนเป็นที่ยอมรับ และกล่าวขาน เรื่อยมา

ในส่วนของ ยันต์ " นะฉัพพรรณรังษี " ซึ่งเป็นยันต์ประจำองค์ ยันต์ตัวเก่งของหลวงพ่อนั้น การได้มาก็ไม่ธรรมดา ตามประวัติขณะที่ท่านกำลังเจริญกรรมฐานนั้น ได้ปรากฎ " ภิกษุชรา " รูปหนึ่ง มาบอกวิธีการเขียนยันต์ " นะฉัพพรรณรังษี " ตัวนี้ พร้อมทั้งวิธีการเรียก การเสก ครบถ้วนทุกอย่าง ซึ่งต่อมาท่านจึงได้ทราบว่า พระภิกษุชรารูปนั้น ก็คือ " หลวงพ่อรอด (เสือ) แห่งวัดประดู่ทรงธรรม " นั้นเอง หลังจากนั้น ท่านจึงได้ใช้ยันต์ " นะฉัพพรรณรังษี " ในการปลุกเสกวัตถุมงคลมาโดยตลอด



“ไม่รู้จัก หลวงพ่อเมี้ยน ศิษย์พ่อจง ซะแล้ว"

ครั้งหนึ่งหลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา " พระหมอแห่งทุ่งบางบาล " ได้มีการลองวิชากับ เกจิท่านหนึ่ง ว่ากันว่า คือ หลวงพ่อ วัดหนองจอก ในการปลุกเสกวัตถุมงคลคราวหนึ่งราวปี 36 (สมัยนั้นท่านขึ้นมาปลุกเสก ภาคกลางบ่อยมาก ช่วงนั้นท่านกำลังดัง)

ครั้นพอถึงเวลาปลุกเสก ปลุกเสกไปได้ซักพัก หลวงพ่อ ท่านใช้กสิณไฟในการปลุกเสก เพื่อให้วัตถุมงคลมีความเข้มขลัง แต่ส่งผลให้โบสถ์ร้อนอบอ้าว ด้วยผลจากกสิณไฟ เมื่อเวลาผ่านไปอากาศก็ยิ่งร้อนขึ้น เกจิหลายท่านทยอยกันออกจากโบสถ์ด้วยความร้อบอบอ้าว เหลือเพียงหลวงพ่อเมี้ยน กับ หลวงพ่ออีกท่าน

ครั้นจนกระทั่ง หลวงพ่อเมี้ยนท่านใช้วิชากสิณน้ำแก้ (อาโปกสิณ สายหลวงพ่อจง หลวงพ่อปาน หลวงพ่อสุ่น) กลับเพื่อให้โบสถ์เย็น ด้วยผลของวิชากสิณน้ำ ซึ่งทำให้โบสถ์ที่ร้อนอบอ้าว กลับมาเย็น จนเสร็จพิธี

ศิษย์ของท่านที่ไปด้วยเห็นความผิดปกติ เลยถามหลวงพ่อว่า ทำไมหลวงพ่อถึงไม่มีเหงื่อออกเลย หลวงพ่อเมี้ยนท่านตอบว่า " ไม่รู้จักเมี้ยน ซะแล้ว เมี้ยนลูกศิษย์หลวงพ่อจงนะ " จนเป็นที่กล่าวขาน มาจนทุกวันนี้

การปลุกเสกด้วยกสิณไฟนี้ เป็นการปลุกเสกเพื่อให้วัตถุมงคลมีอิทธิฤทธิ์ หลวงพ่อท่านนี้ ขึ้นชื่อเรื่องนี้มาก ปลุกเสกปลัดขิก จนดิ้นได้ บินได้ รวมถึงจริยวัตรแปลกๆ ปีนึงอาบน้ำครั้งเดียว โดยวันอาบน้ำศิษย์จะเอาแปลงทองเหลืองขัดตามตัวหลวงพ่อ ซึ่งถ้าเป็นคนทั่วไปคงมีแผลเต็มตัว เลือดออกซิบๆ แต่ท่านกลับไม่เป็นไร อีกทั้งยังไม่มีกลิ่นกายเหม็นเลย

แต่การปลุกเสกด้วยกสิณไฟนี้ เกจิบางท่านไม่นิยม อย่างหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ครั้งนึ่งท่านให้ หลวงพ่อลําใย วัดสะแก ปลุกเสกวัตถุมงคลให้ หลวงพ่อลำไยก็ปลุกเสกด้วยกสิณไฟ เสกเสร็จก็ไปให้หลวงปู่ดู่ หลวงปู่ดู่จับแล้ว ก็ให้ไปเสกใหม่ ให้ความว่า ไฟลุกเต็มถาด เสกแบบนี้คนได้ไปก็มีแต่เรื่อง ท่านก็เลยเสกตามแนวหลวงปู่ดู่

พระของหลวงปู่ดู่จะเสกด้วยการเชิญพระ พระหลวงปู่ดู่จึงไม่มีอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ แบบดิ้นได้อะไรได้ อะไรมากมาย แต่ได้ไปจะเป็นแนวอยู่เย็นเป็นสุขชีวิตราบรื่น สายกสิณไฟจึงไม่นิยมกับพระบางองค์ แต่จะนิยมในสายบู๊ สายสัก ยกตัวอย่าง หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ ที่ขึ้นชื่อเรื่องเป็นพระอิทธิฤทธิ์โดยตรง ยุคเดียวกับ หลวงพ่อจง หลวงพ่อปาน


พระหลวงพ่อเมี้ยนนิรันตรายรอดอย่างปฏิหารย์#...เมื่อวันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม 2561 เวลาประมาณช่วงบ่าย 1-2 โมง นายสมศักดิ์ (เล็ก) ขาวใบไม้ ได้ขับรถเก๋งไปทำธุระนอกบ้านตามถนนสายสีกุก-บางบาลได้อุบัติเหตุรถชนกันอย่างแรงสภาพรถพังยับเยิบ ช่วงก่อนถึงวัดพระขาว ตำบลพระขาว อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดูสภาพแล้วไม่น่ารอดเลย แค่บาดเจ็บเล็กน้อย เพราะนายเล็กห้อยพระเหลี่ยมทองเหรียญรุ่นแรก 60 ปี หลวงพ่อเมี้ยน พุทฺธสิริ วัดโพธิ์ ตำบลกบเจา อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งพระพี่ชาย (พระครูสถิตวีรวงศ์ (สมพงศ์) เจ้าอาวาสวัดธรรมโชติการาม (วัดขวิด) ตำบลบ้านคลัง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) ได้มอบให้น้องชายห้อยติดตัว นื่แหละหัวอกผู้เป็นพี่ล่ะที่เป็นห่วงน้อง ไม่รู้น้องๆ จะห่วงพี่บ้างไหม ดูสภาพรถสิน่ารอดมั้ยครับ

cr.คุณชัยวัฒน์



#เรื่องเล่าชาววัดโพธิ์
โดยปกติทุกวันหลวงพ่อจะนั่งโปรดญาติโยม อยู่หน้าหอสวดมนต์ จะมีคนมาให้ท่านรักษาโรคภัยไข้เจ็บ รวมทั้งผู้ที่ถูกคุณไสยผีเข้าเจ้าสิง ก็มีไม่เว้นแต่ละวัน วันหนึ่งหลวงพ่อไปกิจนิมนต์กลับมาถึงวัดมืดค่ำ ท่านก็มานั่งโปรดญาติโยมเหมือนเดิม ไม่ทันได้พักผ่อนอะไรให้หายเหนื่อยเลย ญาติโยมก็ทยอยเข้ามาหาท่านเรื่อยๆ จนถึงชายคนหนึ่งที่ญาติได้หามมาไว้ต่อหน้าหลวงพ่อ สอบถามกันจึงรู้ว่าถูกผีเข้า หลวงพ่อก็เพ่งมองไปชายคนนั้น ปรากฏเป็นลำแสงสีเขียว พุ่งออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของหลวงพ่อ คล้ายแสงเลเซอร์ คนที่ถูกผีเข้านั้นก็บอกว่ากลัวแล้วไปแล้ว เสร็จแล้วก็มีนายทหารท่านหนึ่งถามหลวงพ่อว่า หลวงพ่อเดี๋ยวนี้รักษาแบบนี้แล้วเหรอครับ หลวงพ่อก็ยิ้มๆไม่ได้กล่าวอะไร
#โปรดใช้วิจารณญาณ

cr.คุณองอาจ

เคยขาเดาะครับตอนเป็นเด็กหลวงพ่อใส่เฝือกให้
มีดกดร้องลั่นวัดเลยครับ แล้วก็หายเป็นปกติ ท่านเก่งครับ

cr.กฤษณะ

ปัจจุบันสรีระสังขารท่าน ไม่เน่าไม่เปื่อย
ในโลงแก้วให้ศิษย์น้อมกราบ เพื่อความเป็นมงคล

บูชา PMสอบถาม
โทร.084-2995545
ID LINE: Wee3250
ธ.ไทยพาณิชย์ วีรวัฒน์ ดุลยทรัพย์ เลขที่ 994-203-1056 ออมทรัพย์

 

เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา



พระขุนแผน ปลาไหลเผือก #เลี่ยมเงินสวยๆพร้อมขึ้นคอ
หลวงปู่ว่า "เทิงนิยม เทิงเว้าดี เทิงรวย"เลข856

ด้านหน้า เป็นพิมพ์พระขุนแผน หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ฝังตะกรุด ๒ ดอก เคลือบสีผึ้ง และทาบรอนซ์ทองโบราณ ทำมาจากผงทองเหลือง (ชนิดเดียวกันกับที่ทาลงบนพระขุนแผนผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่)
ด้านหลัง เป็นรูปพระยันต์พญาปลาไหลเผือก และกำกับคาถา "นะมะอะอุ" ด้านล่างกำกับข้อความ "พญาปลาไหลเผือก" ตอกโค้ดคชาวุธ เจิมแป้งผงกรรมฐาน ผสมเกศา โลมา นขา ทันต ตะโจ โลหิตา ของหลวงปู่มหาศิลา
เลเซอร์หมายเลขกำกับใต้องค์พระ
แคล้วคลาดต่ออุปสรรคทั้งปวง การงาน การเงิน ความรัก จะไหลลื่นไม่มีอุปสรรค มีเมตตามหานิยม ทำงานทุกอย่างสำเร็จลื่นไหล ดั่งปลาไหลที่มีความลื่นคล่องตัว
คาถาปลาไหลเผือก
วิเวสุเว อะยะเวยยะ เสพุเสวะ เสตะ อะเส
มวลสาร
๑. ว่านรักซ้อน
๒. ว่านช้างผสมโขลง
๓. ว่านดอกตะไคร้
๔. ไม้แหย่แย้
๕. ไม้ตะเคียน ตายพราย
๖. ไม้มะยม ตายพราย
๗. ผงรังพญาต่อ
๘. ลูกยอดสวาท
๙. รังผึ้งใหญ่ ขวางตะวัน เดือน ๕
๑๐. ว่านดอกทองใหญ่ ว่านดอกทองเล็ก
๑๑. ว่านดอกทองกระเจา
๑๒. ว่าน ๑๐๘
๑๓. ผงใบลาน
๑๔. กาฝาก ไม้มงคล
๑๕. ว่านเสน่ห์จันทร์
๑๖. ว่านดักแด้
๑๗. ว่านน้ำ
๑๘. น้ำมันมะพร้าว
๑๙. น้ำมันงา
๒๐. ผงเทียนชัย คาถาบุญมหาชาติ
๒๑. ผงธูป ผ่านเสกทำพิธี ๓ ปี
๒๒. ขึ้ผึ้งปิดปากผี ทำพิธีวันอังคาร ข้างขึ้น เดือนอ้าย ***(สุดยอดมหาเสน่ห์)
๒๓. เครือสาวหลงตัวผู้ ตัวเมีย
๒๔. น้ำมันจันทร์ ๙ กลิ่น
รายการจัดสร้าง
๑. พระขุนแผน ตะกรุดทองคำคู่ สร้าง ๓๙๙ องค์
๒. พระขุนแผน ตะกรุดเงิน สร้าง ๕๙๙ องค์
๓. พระขุนแผน ตะกรุดทองแดง สร้าง ๑๐,๐๐๐ องค์
๔. พระขุนแผน ตะกรุดเงิน โรยผงไม้ตะเคียน สร้าง ๓๐๐ องค์ ผงไม้ตะเคียนหลักเมืองนครศรีธรรมราช ปี ๓๐ ผงเดียวกันกับที่ใช้สร้างองค์พ่อจตุคามรามเทพ รุ่นรแรก

ปิดรายการ
โทร.084-2995545
ID LINE: Wee3250
ธ.ไทยพาณิชย์ วีรวัฒน์ ดุลยทรัพย์ เลขที่ 994-203-1056 ออมทรัพย์

 

เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


เหรียญท้าว เว ส สุวรรณ วัดจุฬามณี ปี 63 ราคา


ร่วมบุญบูชา ด้วยความเคารพและบูชา และด้วยความเกี่ยวพันธ์กัน
ก่อศรัทธาในการ แกะพระปิดตาหลวงปู่เทพโลกอุดร และแกะรูปเหมือนนั่งตอหลวงปู่เทพโลกอุดร และพระปิดตาพระธรรมจักร
อันเป็นครูใหญ่สายในดงขององค์
หลวงตาสี ปัญฑิโต วัดป่าศิลารัตน์
#และมีความพิเศษ #พระเทพศรีอุตตระ เทวดาได้นิมนต์เชิญ... ท่านนิมนต์เชิญขึ้นบำเพ็ญอยู่ที่"ถ้ำประทุนและถ้ำน้ำ"แต่ส่วนมาก มักชอบอยู่ที่"ถ้ำน้ำ"เทวดาทำการอัญเชิญนิมนต์"คณะของหลวงปู่ใหญ่ ก็ได้ไปบำเพ็ญตามถ้ำต่างๆ ตามที่เทวดาได้นิมนต์เชิญ... ตลอดจนรุกขเทวดา เมืองบังบด ไปจนถึงนางไม้เจ้าป่าเจ้าเขา มาคอยต้อนรับเป็นอย่างดี นี้คือความเกี่ยวพันตอนที่คณะหลวงปู่โลกอุดรมาภาคอิสานมาถึงถ้ำวัวแดง
ด้านหน้า
เป็นพระปิดตา
ด้านหลัง เป็นสัญลักษณ์ธรรมจักร
ธรรมธาตุแกะ หลวงปู่เทพโลกอุดร ( หลวงปู่ใหญ่ ผู้ดูแลพระพุทธศาสนาครบ ๕๐๐๐ ปี )
ปลุกเสกวาระแรกอธิษฐานเดินเท้าธุดงค์เดี่ยวก่อนเข้าพรรษาธุดงค์อัญเชิญพร้อมทำพิธีปลุกเสกที่ถ้ำวัวแดง ( เมื่อตอนครั้งที่ยังอนุญาตให้ขึ้นได้ ) อยากให้เข้าใจก่อนว่าถ้ำวัวแดงที่พวกเราๆ ทั้งหลายเดินขึ้นบันไดปูนเข้าไปกันเป็นว่าเล่นนั้น จริงๆแล้วเขาเรียกว่า “ถ้ำประทุน” ครับถ้ำวัวแดงโบราณนั้นอยู่เข้าไปลึกอีก
วาระสอง เมื่อให้ลุงเนกทำพิธีขอแกะเสร็จแล้วหลวงตานเข้าปลุกเสกตลอดพรรษาในพรรษาในกุฏิท่านห้ามมิให้ผู้ใดรบกวน
ถักเชือกเทียนเสกแช่น้ำมนต์อธิษฐานกระแสจิตปลุกเสกอีกครั้ง
วัตถุประสงค์ทางธรรม
สร้างเพื่อเป็นการบูชาพระรัตนตรัยอันสูงสุด เพื่อเป็นการสืบทอดพุทธศาสนาให้อยู่สืบเนื่องต่อนานับพันปี
แสดงการระลึกศรัทธาอย่างเคารพถึง การเริ่มของพระธรรมอันยิ่งใหญ่ “ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร”
ซึ่งบังเกิด พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครบถึงพร้อมพระรัตนตรัย เป็นพระพุทธศาสนาอย่างสมบูรณ์ สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
วัตถุประสงค์ทางโลก
เป็นที่ระลึก เป็นพุทธานุสติสำหรับผู้ที่ปฏิบัติธรรมให้มีการสร้างบารมี ทั้ง ทาน ศีล และ ภาวนา
เป็นอริยทรัพย์
และเป็นที่ระลึกและกำลังใจของการทำความดีและประกอบธุรกิจการการใดๆ
เหล็กไหลเป็นโลหะธาตุที่มีความลี้ลับพิสดาร แปลกประหลาดมหัศจรรย์แตกต่างไปจากโลหะธาตุทั้งปวง จึงได้ถูกจัดอยู่ในฐานะ “ธาตุกายสิทธิ์” ที่มีชีวิตจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นไปตามวิบากของกฎแห่งกรรม ที่บันดาลให้วิญญาณในสังสารวัฏมาปฏิสนธิ ในสภาวะที่เป็นโลหะธาตุที่ศักดิ์สิทธิ์มี อิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติทั่วไป
คุ้มครองป้องกันผู้ใส่อารมฌ์ดี อยู่เย็นเป็นสุขสู้และป้องกันคุณไสย มนต์ดำ ของเขมรได้ ชนะทุกอย่างลดอิทธิฤทธิ์ของคนไม่ดี พวกมี อวิชาล้วนแพ้พ่ายไปหมด

เหล็กไหลธรรมธาตุสถานที่นี้พระเกจิตัวอย่างเช่นพระอาจารย์สุชีพ หลวงพ่อกุหลาบ และพระอาจารย์พินทุ จึงไม่นิยมนำมาเป็นมวลสารสร้างพระเครื่องเพราะมีของที่แห่งนี้มีคุณวิเศษช่วยพุทธคุณคลอบคลุม 30 กิโลเมตร จึงเป็นเหตุผลที่ปลุกเสกวัตถุมงคลใดๆที่นี้จึงขลังและดีมีพุทธคุณอานุภาพเต็มด้วยบารมีหลวงปู่ใหญ่
หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรนั้น ไม่ว่าทุกรูปแบบทุกพิมพ์ทรงมีอานุภาพครอบจักรวาล อาราธนาทำน้ำมนต์ประสิทธิ์ยิ่งนัก เสมือนมีแก้วสารพัดนึกอยู่กับตัว ไม่จำเป็นต้องขวนขวายในอิทธิวัตถุอื่นอีก
พระธรรมจักร เป็นสัญลักษณ์ แห่งการแสดงปฐมเทศนาธรรมอันยิ่งใหญ่
ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
เป็นกงล้อแห่งธรรมที่หมุนความเจริญของพุทธศาสนา
ธรรมจักรนี้เป็นอริยสัจ 4 คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค หรือเป็นอริยทรัพย์ หมายถึงการหมุนไปสู่ความสุข ความเจริญ
เป็นวัตถุมงคลที่พกติดตัวได้ง่ายห้อยคอก็ดีเหน็บกระเป๋าเสื้อ ไว้ในรถ เดินทางปลอดภัย
เป็นที่น่าเกรงขาม ผู้คนให้การต้อนรับ แขวนไว้ที่สูงในบ้าน ส่งเสริมความรักสามัคคีต่อกัน แขวนไว้ในร้าน กิจการค้าขายดี มีคนหมุนเวียนมาไม่ขาดสาย ไว้ในบริษัท ไม่ติดขัดสิ่งใด มีแต่ความเจริญก้าวหน้า กงล้อธรรมจักร 8 ซี่ สื่อความหมายถึงมรรคมีองค์แปด คือหนทางที่ดำเนินไปสู่ความสำเร็จในทางพระพุทธศาสน ภาพรวมของกงล้อธรรมจักรประกอบด้วย ดุมล้อ ขอบ และซี่ อันหมายถึง ศีล สมาธิ ปัญญา
ในด้านแห่งสัญลักษณ์ที่จะสื่อถึงความหมายหรือพุทธคุณนั้น มีดังนี้
สื่อถึงการหมุนไปข้างหน้า ความเจริญรุ่งเรือง
สื่อถึงแสงสว่าง การขจัดความมึดบอด ขจัดอุปสรรคทั้งมวล
สื่อถึงความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
สื่อถึงความสำเร็จ ดังที่พระพุทธองค์ทรงประการศความสำเร็จด้วยธรรมจักรกัปปวัตนสูตร
สื่อถึงการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
สื่อถึงมหาอำนาจ พระเจ้าจักรพรรดิหมุนล้อรถไปทิศทางใด ยังกษัตริย์น้อยใหญ่และมหาชนให้เกรงขามในทิศนั้น ส่วนธรรมจักรหมุนไปในทางทิศใด ยังแสงสว่าง ความสงบสุขให้เกิดขึ้นในทิศนั้น
ไม่มีอำนาจใดๆ คุ้มครองสัตว์โลกได้นอกจากอำนาจของกฎแห่งกรรมของสัตว์โลกที่สร้างสมเองวัตถุธาตุกายสิทธิ์ เครื่องรางของขลังตลอดจนอำนาจจิตพลังญาณคุณวิเศษ ของครูบาอาจารย์ จะสามารถช่วยประคับประคอง แผ่เมตตา อำนวยผลในสิ่งปรารถนาได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น จำเป็นที่บุคคลนั้นจะต้องพึ่งพาอาศัยตน เดินทางในองค์มรรค รู้จักการเสียสละ ให้ทาน รักษาศีล เจริญเมตตาภาวนา ขยันหมั่นเพียร รู้รักษาทรัพย์ และใช้ทรัพย์ที่หามาได้ในทางที่ถูก ศึกษาหาความรู้ พัฒนาตน ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม อำนาจพลังศักดิ์สิทธิ์ ฤทธิ์เดชอภิญญาจากพลังอำนาจต่างๆ ก็จะเป็นตัวเสริมพลังหนุนส่งดวงจิตได้รับสุข ยิ่งๆ ขึ้นไป
หลวงตาสี ท่านได้กล่าวว่า
ของทุกอย่างจะมีความศักดิ์สิทธิ์ต่างกัน หากผู้ครอบครองมีไว้บูชาไม่เกิดความศรัทธาเชื่อมั่นในพลังอำนาจใดๆ เลย ปฏิเสธแม้กระทั้งอำนาจของคุณศีล คุณทาน คุณเมตตาภาวนาสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ก็ย่อมไม่มีอานุภาพใดๆ เสริมส่งดวงชะตาได้เลย แต่หากบุคคลผู้มีความเชื่อศรัทธาในอำนาจผลบุญ เชื่อมั่นในศีล เชื่อมั่นในกฎแห่งกรรม เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แล้ววัตถุธาตุใดๆ หากจิตใจเรามีความยึดมั่นถือมั่นแล้วก็จะเกิดเป็นพลังอำนาจสมาธิ คุ้มครองรักษาจิตด้วยดี สามารถคุ้มครองปกป้องบุคคลนั้นให้รอดพ้นจากวิบากกรรมบางอย่างได้ แต่ไม่สามารถตัดกรรมเวรได้ เพราะไม่มีอำนาจใดๆ จะมีอำนาจเหนือกฎแห่งกรรมไปได้ สำหรับอำนาจแห่งคุณวิเศษ แห่งญาณสมาบัติ อำนาจแห่งพระเวทมนต์คาถาศาสตร์อาคมสายขาวตลอดจนวัตถุธาตุกายสิทธิ์นานาชนิด วัตถุเครื่องรางของขลังนานาชนิด เหล็กไหลคตธาตุต่างๆนั้นเป็นเพียงพลังอำนาจพิเศษบางอย่างที่คอยหนุนส่งเสริมให้ผู้ประกอบคุณงามความดี มีอำนาจพลังจิตสูงขึ้น จิตมีสติก็ย่อมระงับได้ซึ่งเหตุแห่งความเสื่อม แต่พลังอำนาจศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ นั้น ไม่สามารถหนุนส่งดวงชะตาชีวิตผู้หนึ่งผู้ใดให้ดีสูงเท่าเทียมเท่าอำนาจ แห่งคุณงามความดี กรรมกุศลของตนที่ประพฤติไปได้ หากบุคคลนั้นรู้จักการประกอบคุณงามความดี ใฝ่ศึกษาหาความรู้ ขยันหมั่นเพียร รู้จักประมาณตนรู้จักเหตุแห่งความเสื่อม รู้จักเหตุแห่งความเจริญ แล้วนำมาปฏิบัติ ประกอบกับได้รับพลังอำนาจ ความศรัทธาเชื่อมั่นในกฎแห่งกรรม พลังงานแฝงที่อยู่ในรูปธาตุกายสิทธิ์ เครื่องรางของขลัง พลังบารมีของครูบาอาจารย์ ก็จะเป็นพลังหนุนผลักดันดวงชะตาให้ดีขึ้นตามลำดับของอำนาจกรรมกุศลได้ …
สำหรับผู้ที่มีความคิดและความเชื่อส่วนตัวเกี่ยวกับเครื่องรางของขลัง คนที่ไม่เชื่อก็มีคนที่เชื่อก็มีเรื่องแบบนี้คงจะห้ามหรือบอกกันได้ยาก แต่สำหรับสิ่งเหล่านี้หากเชื่อไว้ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องผิดหรืองมงาย เชื่อในวัตถุมงคล ดีกว่าเชื่อในสิ่งไม่ดี
ร่วมบุญบูชาสร้างห้องน้ำวัดป่าศิลารัตน์

ปิดรายการ
โทร.084-2995545
ID LINE: Wee3250
ธ.ไทยพาณิชย์ วีรวัฒน์ ดุลยทรัพย์ เลขที่ 994-203-1056 ออมทรัพย์