Tcas65 รอบ 3 เลือกได้ กี่ อันดับ

Tcas65 รอบ 3 เลือกได้ กี่ อันดับ

โค้งสุดท้ายท้ายสุดก่อนจะหมดเขตการเลือกจัดอันดับสำหรับ TCAS65 รอบ Admission

อันดับที่ 1  สาขา/มหาวิทยาลัย ที่อยากเรียนมากที่สุด เกณฑ์คะแนนเราผ่านแน่นอน ให้คะแนนบวกขึ้นมากว่า 10 % 
อันดับที่ 2 คณะสาขา และมหาวิทยาลัยที่อยากเรียน และมีโอกาสติดแต่ยังเสี่ยงได้ ให้คะแนนบวกลบไม่เกิน 15%
อันดับที่ 3 และ 4 ให้เลือกสาขาที่อยากเรียน แต่มีโอกาสติดมากกว่าอันดับที่ 1 และ 2 ที่เลือกไป อาจจะเป็นสาขาเดียวกันแต่ต่างมหาวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยแต่ต่างสาขากัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของน้อง ๆ เลย
อันดับที่ 5 - 6 สาขาที่อยากเรียน มีโอกาสติดที่ค่อนข้างแน่นอน เลือกจากสาขาที่ต้องการเรียน และมองความเป็นไปได้ที่จะติดด้วย ควรเป็นสาขาที่อยู่ตรงกลางระหว่างความต้องการ และความเป็นไปได้
อันดับที่ 7 - 10 เป็นสาขาที่น้อง ๆ ต้องการ และเป็นสาขาที่มีเกณฑ์การรับสมัครที่แน่นอน มีคะแนนย้อนหลังได้ดู และสามารถประเมินโอกาสสอบติดได้


 

สวัสดีค่ะ เดินทางมาสู่บทความที่ 2 ของการเตรียมความพร้อมรอบ 3 Admission TCAS65 บทความนี้ พี่มิ้นท์จะมาแนะนำ 9 กติกาที่ #dek65 ต้องรู้และเข้าใจก่อนทำการจัด 10 อันดับในรอบ Admission ที่จะเปิดรับสมัครในวันที่ 2-10 พ.ค.นี้แล้ว ว่าจะต้องรู้อะไรเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ถูกตัดสิทธิ์ในการเลือกคณะค่ะ

ก่อนอื่น ต้องปูพื้นฐานทำความเข้าใจเกี่ยวกับรอบ Admission ใน TCAS65 สักนิด รอบนี้ทุกมหาวิทยาลัยจะไม่มีแบ่งรอบ Admission 1 และ Admission 2 เหมือนปีที่แล้ว เพราะปีนี้ได้ยุบเหลือเพียงรอบเดียว แต่บางคณะอาจเปิดให้เลือกได้มากกว่า 1 รูปแบบ โดยใช้ "เกณฑ์การคัดเลือก" เป็นตัวแบ่งรูปแบบนั่นเองค่ะ หากน้องๆ พร้อมแล้ว ไปดูกันดีกว่า ว่า 9 กติกา ในการจัดอันดับ TCAS65 จะมีอะไรบ้าง

9 กติกาต้องรู้! ก่อนจัด 10 อันดับ TCAS65 รอบ 3 Admission

1. สมัครที่เว็บ myTCAS เท่านั้น

รอบ Admission ทุกคน ไม่ว่าจะ ม.6 หรือ เด็กซิ่ว จะต้องสมัครผ่านระบบ myTCAS ซึ่งการใช้งานระบบนี้ได้ จะต้องลงทะเบียนก่อนค่ะ แต่น้องๆ ที่เคยสมัครรอบ Portfolio, Quota และสมัคร GAT/PAT มาแล้ว ผ่านการลงทะเบียนมาแล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่นะคะ

แต่สิ่งที่จะต้องทำเพิ่มเติมคือ ก่อนระบบเปิดรับสมัคร จะต้องเข้าไปเช็กคะแนน GAT/PAT วิชาสามัญ จำนวนหน่วยกิต และ GPAX ว่าถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้อง ทปอ.จะเปิดโอกาสให้น้องๆ แจ้งขอแก้ไขข้อมูล โดยจะต้องมีหลักฐานอ้างอิงด้วย เช่น ถ้าจะแก้ GPAX จะต้องแนบหลัก ใบ ปพ.1 เป็นต้น ตรงนี้สำคัญมาก เพราะหลายคณะมีการกำหนดคะแนนขั้นต่ำ หากข้อมูลในระบบไม่ถูกต้องก็จะส่งผลต่อการคัดเลือกได้ค่ะ

2. ต้องไม่ยืนยันสิทธิ์รอบอื่นมาก่อน  

ใครที่จะมารอบ Admission ต้องเคลียร์ประวัติตัวเองให้เรียบร้อยก่อนค่ะ น้องๆ ที่ตั้งใจสมัครรอบนี้รอบเดียว หรือ สอบติดรอบ 1 Portfolio - รอบ 2 Quota มาแต่เลือกไม่ใช้สิทธิ์ ก็สามารถสมัครรอบ 3 ได้เลยไม่มีปัญหา แต่ใครที่ยืนยันสิทธิ์ไว้แล้ว แต่อยากมาลองสมัครรอบ Admission ดูบ้าง ทางเดียวที่จะทำได้คือต้องสละสิทธิ์ในวันที่ 6 พ.ค.65 ก่อน

น้องๆ อาจมีคำถามว่า แล้วถ้าสละสิทธิ์ไปแต่สอบไม่ติดรอบ Admission จะกลับไปเรียนคณะเดิมที่สอบติดได้มั้ย ขอตอบเลยว่าไม่ได้ค่ะ เมื่อสละสิทธิ์แล้ว เท่ากับน้องๆ ยกเลิกสถานะการสอบติดทั้งหมด

3. เลือกได้สูงสุด 10 อันดับ (รวม กสพท) แต่จะเลือกไม่ถึง 10 อันดับก็ได้

การสมัครรอบนี้กำหนดให้เลือกจัดอันดับได้สูงสุด 10 อันดับ หมายความว่า จะสมัครกี่อันดับก็ได้ แต่สูงสุด ได้ 10 อันดับ บางคนมีคณะในใจอยากสมัครแค่ 5 อันดับ 8 อันดับ ก็เลือกได้ตามที่ต้องการเลย แต่ 10 อันดับนี้จะรวมคณะ กสพท ด้วยนะคะ

และเรื่องสำคัญที่สุดคือ ไม่ว่าจะเลือกคณะหรือสาขาใดก็ตาม ต้องเช็กคุณสมบัติของตนเองทุกครั้ง  หากมีคณะที่ไม่ผ่านคุณสมบัติ ห้ามเลือกเด็ดขาดเพราะจะถูกตัดสิทธิ์ทันที

4. จัดอันดับแบบเรียงลำดับ

การจัดอันดับแบบเรียงลำดับ คืออะไร? คือการวางอันดับ 1-10 โดยเรียงตามความต้องการของเราค่ะ บางคนมีเทคนิคการจัดอันดับตามคะแนน หรือ บางคนเรียงตามความชอบของตนเอง จะเรียงแบบไหนก็ได้ แต่ที่ต้องเรียงลำดับเพราะระบบจะประมวลผลไล่ทีละอันดับ โดยเริ่มจากอันดับ 1 ลงไป เมื่อประกาศผลมาแล้ว ติดอันดับไหนจะต้องเรียนอันดับนั้นค่ะ  

เช่น หากสอบติดอันดับที่ 3 ก็จะต้องเรียนคณะอันดับที่ 3 เท่านั้น แม้ว่าคะแนนของเราก็จะสอบติดอันดับ 4-10 ด้วย ก็จะไม่สามารถไปเลือกเรียนอันดับ 4-10 ได้ค่ะ เคสนี้มีปัญหาทุกปี บางคนเรียงลำดับมั่วๆ ปรากฏว่าไปสอบติดในคณะที่ไม่ได้อยากเรียน แบบนี้จะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้นะคะ

5. แพทย์ - ทันตะฯ - เภสัชฯ 3 คณะที่สละสิทธิ์แล้วเลือกรอบถัดไปไม่ได้

พี่มิ้นท์เพิ่งบอกน้องๆ ไปว่า หากใครที่ยืนยันสิทธิ์มาในรอบ 1 และ 2 แล้ว แต่อยากมารอบ 3 ต้องสละสิทธิ์ก่อน แต่..ยกเว้นกับคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และเภสัชศาสตร์ 3 คณะนี้ หากสอบติดและสละสิทธิ์เพื่อจะมารอบถัดไป จะไม่สามารถเลือกหลักสูตรเดิมได้ค่ะ

  • สละสิทธิ์หลักสูตรแพทยศาสตร์ จะสมัครหลักสูตรแพทยศาสตร์รอบถัดไปไม่ได้ (สมัครทันตะฯ/เภสัชฯ ได้)
  • สละสิทธิ์หลักสูตรทันตแพทยศาสตร์ จะสมัครหลักสูตรทันตแพทย์รอบถัดไปไม่ได้ (สมัครแพทยฯ/เภสัชฯได้)
  • สละสิทธิ์หลักสูตรเภสัชศาสตร์ จะสมัครหลักสูตรเภสัชศาสตร์อบถัดไปไม่ได้ (สมัครแพทยฯ/ทันตะฯ ได้)

เงื่อนไขนี้จะกำหนดใช้เฉพาะ สละสิทธิ์ ม.รัฐ ไปสมัคร ม.รัฐ เท่านั้น ถ้าสละสิทธิ์ ม.รัฐ ไป ม.เอกชน สามารถทำได้ หรือ สละสิทธิ์ ม.เอกชน มาก็ยังสามารถสมัครหลักสูตรเดิมใน ม.รัฐ ได้ค่ะ กติกานี้ น้องๆ จำเป็นต้องรู้ เพื่อวางแผนการเลือกคณะของตัวเองค่ะ เพราะมีหลายคนที่สอบติดในคณะที่พอใจแล้วแต่อยากได้มหาวิทยาลัยอื่น ทำให้สละสิทธิ์มาสอบรอบถัดไป ซึ่งตรงนี้จะไม่สามารถทำได้ค่ะ

6. ค่าสมัครขึ้นอยู่กับจำนวนอันดับ ปีนี้มีลด 15% ระวัง! ดูเวลาปิดรับการจ่ายเงินให้ดี

การสมัครรอบ Admission  ค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับจำนวนอันดับที่สมัคร สมัครน้อยจ่ายน้อย สมัครเยอะจ่ายเยอะ โดยค่าสมัครจะเริ่มต้นที่ 150 บาท และสูงสุด 10 อันดับที่ 900 บาท แต่ในปีนี้ ทปอ. มีมาตรการช่วยเหลือค่าสมัคร โดยลดค่าสมัคร 15%  โดยมีค่าใช้จ่ายดังนี้

  • สมัคร 1 อันดับ จาก 150 บาท  เหลือ 127.5 บาท
  • สมัคร 2 อันดับ จาก 200 บาท  เหลือ 170 บาท
  • สมัคร 3 อันดับ จาก 250 บาท  เหลือ 212.5 บาท
  • สมัคร 4 อันดับ จาก 300 บาท  เหลือ 255 บาท
  • สมัคร 5 อันดับ จาก  400 บาท  เหลือ 340 บาท
  • สมัคร 6 อันดับ จาก 500 บาท  เหลือ 425 บาท
  • สมัคร 7 อันดับ  จาก 600 บาท เหลือ 510 บาท
  • สมัคร 8 อันดับ จาก 700 บาท เหลือ  595 บาท
  • สมัคร 9 อันดับ จาก 800 บาท เหลือ  680 บาท
  • สมัคร 10 อันดับ จาก 900 บาท  เหลือ  765 บาท

สำหรับการจ่ายค่าสมัคร สามารถจ่ายด้วย Mobile Banking ได้ หรือสามารถไปที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสได้เช่นกัน แต่ให้น้องๆ ระวังเรื่องกำหนดการชำระเงินเพราะแต่ละช่องทางปิดรับไม่เท่ากัน  หากจ่ายด้วย mobile banking จะจ่ายได้ถึง 23.29 น.ของวันที่ 10 พ.ค.65 แต่ถ้าเคาน์เตอร์เซอร์วิส จะชำระได้ถึง 23.59 น. ของวันที่ 10 พ.ค.65 หากเกินระยะเวลานี้ จะถือว่าสมัครไม่สำเร็จ

7. สามารถเปลี่ยนอันดับได้ 3 ครั้งภายในระยะเวลาที่กำหนด

ขั้นตอนสำคัญของการสมัครคือ หลังจากที่จัดเรียงลำดับเรียบร้อยแล้ว น้องๆ จะต้องกดยืนยันการเลือกสาขาวิชาด้วย  ซึ่งขั้นตอนนี้จะมีการส่งรหัส OTP มาเพื่อยืนยันตัวตนค่ะ เมื่อยืนยันเรียบร้อยแล้ว จึงจะสามารถพิมพ์ใบไปชำระเงินค่าสมัครได้

ปุ่มยืนยันการเลือกสาขา ทุกครั้งที่ต้องการยืนยันการสมัคร จะต้องกดปุ่มนี้เสมอ

แน่นอนว่าหลังชำระเงินไปแล้ว น้องๆ บางคนยังไม่พอใจกับคณะที่เลือก ก็ไม่ต้องกังวล เพราะสามารถเปลี่ยนแปลงสาขาที่เลือกได้ฟรีทั้งหมด 3 ครั้ง โดยนับตามจำนวนครั้งที่ยืนยันตัวตนผ่าน OTP และจะต้องทำภายใน 23.59 น. ของวันที่ 10 พ.ค.65 เท่านั้น หากเกินนี้ก็จะไม่สามารถแก้ไขอันดับได้แล้วค่ะ  หากยืนยันครบ 3 ครั้งแล้ว แต่ยังต้องการเปลี่ยนอีก สามารถยกเลิกใบสมัครเดิมได้ (เรียกว่า Set Zero) และสมัครเข้าไปใหม่ ซึ่งตรงนี้จะต้องจ่ายเงินใหม่อีกครั้งนะคะ

อย่างไรก็ตาม ถ้าน้องๆ ยังไม่ยืนยันการเลือกสาขา สามารถเปลี่ยนแปลงอันดับกี่ครั้งก็ได้ค่ะ 

8. คะแนนต่ำสุดปี 64 ดูเป็นแนวทางได้แต่ไม่สามารถเทียบได้ 100%

ปีนี้มีการยุบรวมเหลือเป็นรอบ Admission เพียงรอบเดียว โดยเกณฑ์ Admission 2 ที่เคยมีคะแนนเต็ม 30,000 คะแนนทุกมหาวิทยาลัยก็ถูกยกเลิกไปด้วย 

ดังนั้นรอบ Admission ปีนี้ น้องๆ จะเทียบคะแนนต่ำสุด-สูงสุด จากปี 64 ได้เพียงบางมหาวิทยาลัยเท่านั้น โดยอาจเทียบกับคะแนนของเกณฑ์ Admission 1 หรือ Admission 2 อย่างใดอย่างหนึ่ง  ซึ่งหลายมหาวิทยาลัยมีวิธีการคิดคะแนนเป็นของตัวเอง จึงไม่สามารถนำวิธีคิดคะแนนจาก ม. หนึ่ง ไปคิดกับอีก ม. หนึ่งได้ค่ะ และในบางคณะก็อาจมีการเปลี่ยนเกณฑ์จากปี 64 ก็จะเทียบคะแนนเดิมไม่ได้เช่นกัน ตรงนี้เป็นอีกเรื่องที่ต้องระวังค่ะ

9. รอบ Admission มีประมวลผล 2 ครั้ง จัดอันดับให้ดี ยังไงก็มีที่เรียน

น้องๆ รู้หรือเปล่าว่ารอบ Admission นั้น จะมีการประกาศผล 2 ครั้ง  โดยใช้ชุดอันดับเดิมในการประมวลผลครั้งที่ 2 ซึ่งการขอประมวลผลครั้งที่ 2 นั้นจะทำได้ก็ต่อเมื่อ

  1. ไม่ผ่านการคัดเลือกในอันดับใดๆ เลย
  2. ผ่านการคัดเลือกในอันดับที่ 2-10 แต่อยากลุ้นในอันดับที่สูงขึ้น หากมีคนสละสิทธิ์

ดังนั้น น้องๆ ทุกคนมีโอกาส 2 ครั้งอยู่ในมือ ขอให้ตั้งใจจัด 10 อันดับให้ดี เพราะหากแอดมิชชั่นไม่ติดในครั้งแรก ชุดอันดับเดิมก็ยังใช้ประมวลผลอีกครั้งได้ค่ะ 

ทั้ง 9 ข้อนี้ อาจจะดูเหมือนรายละเอียดเยอะ แต่ก็เป็นกติกาเบื้องต้นของการสมัครรอบนี้ค่ะ ถ้าน้องๆ เข้าใจทุกข้อก่อนสมัครก็จะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะจะสามารถอุดรอยรั่วทุกอย่างของรอบ 3 ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัวก่อนการสมัคร ระหว่างการสมัคร ไปจนถึงการจ่ายเงิน หรือ การจัดอันดับเพื่อให้ไม่พลาดในการประมวลผลครั้งที่ 2 และถ้าใครอ่านจนจบ พี่มิ้นท์ก็ขอให้น้องๆ โชคดีกับการสมัคร Admission ในปีนี้นะคะ^^