ประสบความสําเร็จ เขียนอย่างไร


เปิดตัว

สาเหตุหลัก ที่ทำให้คนอยากเป็นนักเขียน ก็คือ "อ่านมาก" คนเราพอได้อ่านหนังสือไปมากๆ ก็มักอยากระบายออกมา บ้าง บางคนกลายเป็นนักพูด (นักพูดที่ดีมักเป็นนักอ่านตัวยงด้วยแทบทั้งสิ้น) บางคนก็เอาไปเล่าให้พ่อ ๆ แม่ ๆ ฟังจนหูชา จนทำให้เป็นคนพูดมากขึ้น  บางคนจะรู้สึกคันไม้ คันมืออยากจะเขียนมากกว่า มันก็มีส่วนคล้ายกับสัญชาติญาณการสืบพันธุ์ของคนเรากลายๆ แต่มันคือสัญชาตญาณ ของการสืบทอดทางภูมิปัญญา จิตวิญญาณ อารมณ์ วัฒนธรรม และวิทยาการของมนุษย์นั่นเอง อาการนี้ก็เป็นกันมาตั้งแต่ โบราณ ถือเป็นสิ่งปกติของปัญญาชน แรงขับดันอันนี้จึงก่อให้เกิดหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และการถ่ายทอดทางภูมิปัญญา สืบสานต่อเนื่องเรื่อยมาจวบจนปัจจุบันนี้

ถ้าต้องการเขียนให้ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

1. ต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเอง

บางคนก็มีพรสวรรค์ด้านการเขียนมาแต่เกิด  แต่ไม่ได้ลงมือเขียนซะที  สาเหตุส่วนใหญ่มาจาก "ความอาย" ไม่กล้าเอางานที่ตัวเองเขียนไปเสนอตามสำนักพิมพ์ต่างๆ สุดท้ายเลยต้องแจกให้เพื่อนอ่านเล่นเท่านั้น  วิธีคือลองถามตัวเองเอาว่า "กลัวอะไร" กลัวเขาจะปฏิเสธเหรอ  หรือกลัวเสียฟอร์ม  ถ้ายังไม่เคยลองดูเลยสักครั้ง  ก็ไม่น่าปล่อยให้ความวิตกกังวลมาเป็นอุปสรรคจนต้องล้มเลิกความตั้งใจเลยนะคะ ลองดูเถอะ  เผื่อจะมีโชคกับเขาบ้าง  แต่ว่าถ้ายังไม่เชื่อมั่นในผลงานของตัวเองหรือยังว่ามันดีพอ  ก็เอาไปให้คนที่มีประสบการณ์อ่านดูก่อนก็ได้  แล้วก็รีบปรับปรุงต้นฉบับเสียใหม่ให้ดียิ่งขึ้น  พอจะบอกตัวเอง ได้ไหมว่า "คุณคือนักเขียนที่มีความสามารถสูง" ถ้าตัวคุณเองยังไม่เชื่อเลยว่าจะเป็นนักเขียนที่ดีได้  แล้วจะให้แมวที่ไหนมาเชื่อเล่าคะ  ตราบใดที่คุณยังไม่กล้าที่จะก้าวเท้าออกมาเป็นก้าวแรก  การเดินทางก็ยังเป็นเพียงความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริงได้หรอกคะ  ลองดูนะ

2. ความตั้งใจจริง

หลายคนที่เคยเสนองานให้สำนักพิมพ์แล้ว  แต่เมื่อเขาไม่สนใจผลงานของตน  ก็เป็นอันพับความฝันเสียแล้ว  แสดงว่าเขาไม่เชื่อคำพูดที่ว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จจะอยู่ที่นั่น" งานเขียนเป็นงานที่แสดงถึงความตั้งใจจริงของผู้เขียนได้ดีค่ะ  ว่ามีความพิถีพิถันต่อคุณภาพของงานของตนเองเพียงใด  บางคนก็เขียนชื่อพระเองนางเอกผิด  ทำให้คนอ่านต้องนั่งงงว่าคนนี้มาจากไหน  นี่อาการหนักมากเลยทีเดียว  อย่าลืมนะคะ  อย่าให้ความล้มเหลวชั่วขณะมาบั่นทอนสมาธิและความมุ่งมั่นในการทำงานของตัวเองได้  ลองคิดเอาไว้ว่า "ความสำเร็จรออยู่ สำหรับทุกคนที่ทำงานด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น และไม่ย่อท้อ" หากคิดได้อย่างนั้นแล้ว  ถ้าจะทำงานเพียงเพื่อเงินและชื่อเสียง  ทุกคนจะเหมือนดอกไม้ไฟ ที่เปล่งประกายได้เพียงชั่วขณะ ก่อนที่จะดับวูบไปตลอดกาล คิดให้ดีนะ

3. การพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

แม้แต่นักเขียนที่มีชื่อเสียงแล้ว  เท่าที่เคยได้ยินมา  ก็ยังยังต้องเจออุปสรรคข้อนี้อยู่ตลอดเวลา เรียกว่ายิ่งดังก็ยิ่งกดดันว่ายังงั้นเถอะ  ลองนึกถึงหัวอกของนักเขียนดัง ๆ บ้างเถอะค่ะ  ว่าเขาต้องแบกรับความคาดหวังจากแฟนทั่วโลก  ที่เฝ้ารอคอยตอนใหม่ของหรือภาคใหม่อยู่อย่างใจจดใจจ่อ  ถ้าผลงานของเขาลดลงไปจากที่เคยสร้างไว้  เขาก็จะถูกแฟน ๆ สับเละเป็นโจ๊ก  โดนระเบิดแน่  ถึงจะเป็นนักเขียนหน้าใหม่  ที่อาจจะไม่มีใครมาคาดหวังอะไรกับผลงานมากนักก็ตาม  แต่ก็ยังจำเป็นต้องสร้างเสริมนิสัยในการพัฒนาตนเองอยู่เสมอเอาไว้ด้วย  เพราะนี่คือลักษณะของผู้เป็นมืออาชีพของ ทุกวงการ ในการที่จะรักษาความสำเร็จที่ได้รับให้คงไว้ และพัฒนาสู่ความสำเร็จในระดับที่สูงยิ่งขึ้นต่อไปอีก จำเอาไว้นะคะ

ทำอย่างไรถึงจะได้งานเขียนที่มีคุณภาพ

1. ศึกษาและสังเกต ( เริ่มจากการอ่าน )

นักเขียนที่ดีต้องอ่านให้มากเข้าไว้  โดยเฉพาะในแนวที่คุณสนใจอยากจะเขียน  อย่าให้มีเวลาว่างที่จะทำอะไรไม่มีประโยชน์  หากคุณตั้งเป้าอยากเป็นนักเขียน เรื่องสยองขวัญ  เพราะชอบอ่านหนังสือพวกนี้  แต่ถ้ามีหนังสือสยองขวัญเล่มไหนที่ยังไม่ได้อ่าน  เรื่องที่คุณเขียนออกมา  ก็อาจจะจะมีกลิ่นอายของหนังสือที่คุณเคยอ่านเพียงอย่างเดียวแน่นอนไม่มากก็น้อย  เพราะคุณได้รับอิทธิพลจากงานเขียนของคนคนนั้นมาเต็ม ๆ แต่แค่อ่านเยอะยังไม่พอ  ต้องหมั่นสังเกตด้วยว่า  จุดเด่นของนักเขียนผู้นี้เป็นอย่างไร  หรืออะไรทำให้หนังสือของเขาดังทะลุฟ้า  เมื่อตั้งข้อสังเกตบ่อย ๆ แล้วคุณจะพบว่าฝีมือในการเขียนของคุณจะพัฒนาไปได้เรื่อย ๆ เพราะคุณก็จะเริ่มตั้งข้อสังเกตกับผลงานของคุณเองด้วยเช่นกัน

2. ฝึกฝนและทดลอง

ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่ท้องพ่อท้องแม่หรอกค่ะ  การฝึกฝนจะทำให้เราเกิดความชำนาญมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนการทดลอง  จะเป็นความแปลกใหม่ในผลงานของเรา  บางคนที่เคยเขียนแล้วก็ไม่กล้าขยับตัวออกไปจากกรอบความคิดของผลงานเดิม ๆ ที่เคยทำไว้  เพราะกลัวพลาด  นั่นเป็นความคิดที่ผิด  ถ้าเราไม่ก้าวออกจากกรอบ  ก็เหมือนกับว่าเรายิ่งเดินถอยหลัง  ในขณะที่คนอื่นเดินนำไปไกลแล้ว

3. ค้นหาตัวเองให้พบ

ในการเขียนต้องมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง  หากใครที่ยังไม่สามารถสร้างแนวทางเฉพาะตนขึ้นมาได้ก็ยังถือเสมือนเป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่  เพราะยังต้องเที่ยวเลียนแบบรูปแบบงานของคนอื่นอยู่เรื่อยไป  อย่างนั้นก็จะไม่มีทักษะและประสบการณ์เป็นของตนเอง  ยังไม่สามารถตกผลึกออกมาเป็นรูปแบบของตนเองได้  ใครที่ "ศึกษาและสังเกต" รวมไปถึง "ฝึกฝนและทดลอง" มาอย่างเพียงพอแล้ว ก็จะค้นพบรูปแบบที่เป็นตัวของตัวเองได้ในที่สุด  สำหรับนักเขียนที่มีประสบการณ์สูงแล้วผลงานของตัวเอง  สามารถบอกให้ผู้อ่านรู้ได้ว่าคนแต่งเป็นใคร  โดยแทบไม่ต้องดูชื่อผู้เขียนเลยด้วยซ้ำ

4. เปิดใจรับคำวิจารณ์

การเปิดเผยผลงานออกสู่สาธารณะ  ควรต้องเปิดใจให้กว้าง  เพราะจะมีคนวิจารณ์อยู่เสมอ  บางคนก็ว่าดี บางคนก็ว่า ห่วย ลองเปิดใจกว้างๆ แล้วรับฟังเหตุผลของเขาดูว่าเป็นอย่างไร ถ้าเป็นคำตำหนิที่มีเหตุมีผล เราก็ควรถือเอาคำตำหนิ เหล่านี้มาเป็นครูของเรา แต่ถ้าเป็นคำตำหนิที่ไม่เป็นจริงตามที่เขาพูด เราก็ปล่อยมันลอยลมไป  อย่าท้อแท้แล้วคิดตามไปว่าผลงานของเราห่วย  ไม่อย่านั้นจะไม่มีอะไรก้าวหน้าได้อีก  แล้วที่สำคัญ  อย่าถือตัวตนว่าเราเก่งแล้ว  ไม่ต้องการคำแนะนำจากใครอีกแล้ว  เพราะไม่ช้าผู้นั้นก็จะเหลวไปตามผลงานของตน

5. พัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง

ในโลกของการทำงานนั้น ไม่มีคำว่า "ดีที่สุด" หรือ "เก่งที่สุด" สิ่งที่ว่าดีแล้ว  คนที่เก่งแล้วก็ต้องมีคนที่เก่งกว่า  ถ้าเราหยุดเดินหรือเดินช้า  คนอื่น ๆ ก็จะแซงเราไปได้ง่าย  นอกจากพรสวรรค์แล้ว  คนที่รู้จักหาพรแสวงใส่ตัวอยู่ตลอดเวลา  ก็จะเดินก้าวไปข้างหน้าอยู่เรื่อย ๆ จะเร็วหรือช้านั้นก็อยู่ที่ว่าเราฝึกฝนบ่อยแค่ไหน  จะต้องพัฒนารูปแบบของการเขียนอยู่ตลอดเวลา  จะสามารถรักษาชื่อเสียงเราไว้ได้อย่างยาวนาน  มักจะผลิตงานเขียนได้เป็นรูปแบบแปลกใหม่ในการสร้างสรรค์อรรถรสให้แก่ผู้อ่านอยู่เสมอ

6. อดทน ( ไม่รู่จักคำว่า ท้อแท้ )

บางทีความสำเร็จก็ไม่มาถึงเราซะที  ทำให้บางคนท้อแท้ไปก่อน  นั่นจะทำให้เสียโอกาสไปเฉย ๆ เพียงต้องรออีกหน่อยมันถึงจะถึงคราวเราบ้าง  โดยเฉพาะงานรูปแบบใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำกับใคร  มักจะโดนด่าเละก่อนเป็นธรรมดา  คิดเสียว่าเขายังไม่คุ้นก็แล้วกัน  อย่าเพิ่งท้อถอย  อย่าเพิ่งล้มเลิก  ทำมันต่อไป   หากเราเชื่อมั่นในสิ่งที่เรากำลังทำอยู่  แล้ววันหนึ่งคนอื่นเขาก็จะเข้าใจเอง  ลองย้อนมองดูนักเขียน  ชั้นนำของทุกประเทศ   มีใครบ้างที่ประสบความสำเร็จได้โดยทันที  โดยไม่ต้องเรียนรู้คำว่า "อดทน"


            *-* *-* *-* *-* *-* *-* *-* *-*ขอบคุณทุกคนที่เข้ามานะคะ *-* *-* *-* *-* *-* *-* *-* *-*


PS.  
ประสบความสําเร็จ เขียนอย่างไร
มาเยี่ยมไอดีเราบ้างนะ ฝากนิยายด้วยค่ะ
ประสบความสําเร็จ เขียนอย่างไร