Spider เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ ในเสิร์ชเอนจิน ประเภทใด

You are looking for information, articles, knowledge about the topic nail salons open on sunday near me ประโยชน์ของ search engine on Google, you do not find the information you need! Here are the best content compiled and compiled by the toplist.xosotanphat.com team, along with other related topics such as: ประโยชน์ของ search engine ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของ search engines, ยกตัวอย่างเว็บไซต์ที่ให้บริการ search engine, เว็บไซต์ที่ให้บริการ search engine, ประเภทของ search engine, จงบอกชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการ search engine มา 5 ชื่อ, search engine site ที่นิยมในปัจจุบันมีอะไรบ้าง, Search engine, search engine ของไทย มีเว็บอะไรบ้าง

Show

ค้นหาเว็บไซต์ที่ต้องการได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว ค้นหาข้อมูลได้อย่างละเอียด และหลากหลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่น ข่าว เพลง รูปภาพ และอื่นๆ เป็นต้น ค้นหาข้อมูลได้จากเว็บไซต์เฉพาะทางต่างๆ ได้ เช่น เว็บไซต์เกี่ยวกับ ขาย Software หรือ เว็บไซต์รับทำการตลาดออนไลน์ เป็นต้น ค้นหาข้อมูลได้อย่างหลากหลาย1. ค้นหาเว็บที่ต้องการได้สะดวก รวดเร็ว 2. สามารถค้นหาแบบเจาะลึกได้ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ, ข่าว, MP3 และอื่นๆ อีกมากมาย 3. สามารถค้นหาจากเว็บไซต์เฉพาะทาง ที่มีการจัดทำไว้ เช่น download.com เว็บไซต์ ์เกี่ยวกับข้อมูล และซอร์ฟแวร์ เป็นต้นSearch Engine (เสิร์ชเอนจิน) คือ โปรแกรมค้นหา ที่ออกแบบมาให้เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับ ค้นหาข้อมูล ผ่าน Internet ซึงโปรแกรมที่ใช้สำหรับค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ เราจะเรียกว่า Web Search Engine ( เว็บเสิร์ชเอนจิน ) .

1. ค้นหาเว็บที่ต้องการได้สะดวก รวดเร็ว 2. สามารถค้นหาแบบเจาะลึกได้ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ, ข่าว, MP3 และอื่นๆ อีกมากมาย 3. สามารถค้นหาจากเว็บไซต์เฉพาะทาง ที่มีการจัดทำไว้ เช่น download.com เว็บไซต์ ์เกี่ยวกับข้อมูล และซอร์ฟแวร์ เป็นต้น

Search Engine (เสิร์ชเอนจิน) คือ โปรแกรมค้นหา ที่ออกแบบมาให้เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับ ค้นหาข้อมูล ผ่าน Internet ซึงโปรแกรมที่ใช้สำหรับค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ เราจะเรียกว่า Web Search Engine ( เว็บเสิร์ชเอนจิน ) .

Search Engines มีประโยชน์ในการใช้สืบค้นข้อมูลที่ต้องการทราบได้อย่างสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา รวมทั้งให้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความตรงการแก่ผู้สืบค้นข้อมูล ดังนั้นการสร้างและออกแบบเว็บไซต์ใหม่ๆ ในในปัจจุบันจึงควรคำนึงถึงรูปแบบของเว็บไซต์ให้มีความเหมาะสมแก่ Search Engine ด้วยเช่นกัน (เรียกว่าการทำ …

โดยหลักการทำงานของ Search Engine จะมี 3 ขั้นตอนหลักๆ คือ การเก็บข้อมูลเว็บ (Crawling) ทำดัชนี (Indexing) ค้นหาและจัดอันดับ (Retrieval & Ranking)

เสิร์ชเอ็นจิ้น (Search Engine) คือ เครื่องมือสำหรับค้นหาข้อมูลที่อยู่บนอินเตอร์เน็ต ด้วยคำค้นต่างๆ ซึ่งข้อมูลนั้น อาจอยู่ในรูปแบบของเว็บไซต์ ไฟล์เอกสาร ไฟล์รูปภาพ สื่อมัลติมีเดีย ไฟล์บีบอัด และรูปแบบอื่นๆ ที่สามารถบันทึกเป็นเอกสารออนไลน์ได้ ตัวอย่างเว็บไซต์ที่มีลักษณะเป็น Search Engine มีดังนี้ http://www.google.com.

Search Engine คือ เครื่องมือค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ที่ทุกคนสามารถค้นหาได้ โดยใส่คำสำคัญ หรือ Keyword เข้าไปที่ช่องค้นหา และข้อมูลที่เราค้นหาจะแสดงรายการออกมาเพื่อให้เราเลือกข้อมูลที่ตรงตามความต้องการของเรามากที่สุด ลักษณะการแสดงผลของ Search Engine ก็จะแสดงผลแบบ เรียงอันดับ Search Results ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์

กะเทาะเปลือก Google เข้าใจกลไกการทำงานพื้นฐานของ Search Engine ระดับโลก

กะเทาะเปลือก Google เข้าใจกลไกการทำงานพื้นฐานของ Search Engine ระดับโลก


เสิร์ชเอนจิน (Search Engines) คืออะไร หลักการทำงานของระบบค้นหาข้อมูล – 1Belief

ประโยชน์ของ Search Engines

ประเภทของ Search Engines

Keyword คืออะไร

หลักการทำงานของ Search Engines

เทคนิคค้นหาด้วย Google

ประวัติของเว็บเสิร์ชเอนจิ้น Google

ประวัติเสิร์ชเอนจิ้น Yahoo!

ประวัติเสิร์ชเอนจิ้น MSN Search

ประวัติเสิร์ชเอนจิ้น Baidu

YouTube เป็น Search Engine อันดับ 2 ของโลก

รับติดตั้งเครื่องสแกนลายนิ้วมือ บันทึกเวลา เปิด-ปิด ประตูอัตโนมัติ

รับเดินสาย LAN สายโทรศัพท์ วางระบบ Network WiFi ภายในองค์กร

รับติดตั้งกล้องวงจรปิด จำหน่ายชุดกล้องวงจรปิด 4 8 16 ตัว

รับติดตั้งระบบ Call Center ให้เช่า ระบบคอลเซ็นเตอร์ ขนาดใหญ่ จัดการง่าย รองรับหลายคู่สาย

รับดูแลระบบคอมพิวเตอร์ IT Outsource ทีมงานมืออาชีพ

Spider เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ ในเสิร์ชเอนจิน ประเภทใด
เสิร์ชเอนจิน (Search Engines) คืออะไร หลักการทำงานของระบบค้นหาข้อมูล – 1Belief

Read More

ประโยชน์ของ Search Engine – PIMWIPATOM11

Spider เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ ในเสิร์ชเอนจิน ประเภทใด
ประโยชน์ของ Search Engine – PIMWIPATOM11

Read More

ประโยชน์ของ Search Engine – อินเตอร์เน็ตเพื่องานธุรกิจ

Spider เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ ในเสิร์ชเอนจิน ประเภทใด
ประโยชน์ของ Search Engine – อินเตอร์เน็ตเพื่องานธุรกิจ

Read More

Search Engine คืออะไร? – BlOG | Hostinglotus

Spider เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ ในเสิร์ชเอนจิน ประเภทใด
Search Engine คืออะไร? – BlOG | Hostinglotus

Read More

เสิร์ชเอนจิน – Search Engines คืออะไร, ทำงานยังไง, มีประโยชน์อย่างไร สอนครบจบทุกมิติ

เสิร์ชเอนจิน คืออะไร มีกี่ประเภท

เสิร์ชเอนจินทำงานยังไง

ประโยชน์ของ search engine มีอะไรบ้าง

10 ตัวอย่าง รายชื่อ Search Engine ยอดนิยม

ส่วนแบ่งการตลาดเว็บไซต์ที่ให้บริการเสิร์ชเอนจิ้นในประเทศไทย

Post navigation

Spider เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ ในเสิร์ชเอนจิน ประเภทใด
เสิร์ชเอนจิน – Search Engines คืออะไร, ทำงานยังไง, มีประโยชน์อย่างไร สอนครบจบทุกมิติ

Read More

ประโยชน์ของ Search Engines | บทเรียนออนไลน์ วิชา อินเทอร์เน็ตและเน็ตเวิร์ก

Spider เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ ในเสิร์ชเอนจิน ประเภทใด
ประโยชน์ของ Search Engines | บทเรียนออนไลน์ วิชา อินเทอร์เน็ตและเน็ตเวิร์ก

Read More

3.5 ประโยชน์ของ Search Engine | เครือข่ายอินเทอร์เน็ต

บทเรียนออนไลน์เครือข่ายอินเทอร์เน็ต

Spider เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ ในเสิร์ชเอนจิน ประเภทใด
3.5 ประโยชน์ของ Search Engine | เครือข่ายอินเทอร์เน็ต

Read More

ประโยชน์ของการสืบค้น

Check these out next

Recommended

Recommended

More Related Content

Share Clipboard

Public clipboards featuring this slide

Create a clipboard

Special Offer to SlideShare Readers

Just for you FREE 60-day trial to the world’s largest digital library

0 likes

Views

You have now unlocked unlimited access to 20M+ documents!

Spider เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ ในเสิร์ชเอนจิน ประเภทใด
ประโยชน์ของการสืบค้น

Read More

คลังบทความของบล็อก

เกี่ยวกับฉัน

ผู้ติดตาม

Spider เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ ในเสิร์ชเอนจิน ประเภทใด
Google Search: ประโยชน์ของ Google search

Read More

อินเตอร์เน็ตเพื่องานธุรกิจ: หน่อยที่ 3 การค้นหาข้อมูลด้วย Search Engine

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พศ 2558

ความหมายเเละประโยชน์ของ Search Engine

ลักษณะการทำงานของ Search Engine

วิธีการค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ

เกี่ยวกับฉัน

คลังบทความของบล็อก

Spider เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ ในเสิร์ชเอนจิน ประเภทใด
อินเตอร์เน็ตเพื่องานธุรกิจ: หน่อยที่ 3 การค้นหาข้อมูลด้วย Search Engine

Read More

Search Engine คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง | Contentshifu

เสิร์จเอนจิน (Search Engine) คืออะไร

Search Engine มีกี่ประเภท

Search Engine Marketing มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร

Search Engine มีขั้นตอนการทำงานอย่างไร

5 Search Engine ที่คนนิยมใช้มากที่สุด

สรุป

ตาคุณแล้ว

Spider เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อใช้ ในเสิร์ชเอนจิน ประเภทใด
Search Engine คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง | Contentshifu

Read More


See more articles in the same category here: toplist.xosotanphat.com/blog.

เสิร์ชเอนจิน (Search Engines) คืออะไร หลักการทำงานของระบบค้นหาข้อมูล

เสิร์ชเอนจิน (Search Engines) หมายถึง โปรแกรมค้นหา ที่ถูกออกแบบมาเป็นเครื่องมือใช้งานในการสืบค้นข้อมูลต่างๆ โดยโปรแกรมส่วนมากที่ใช้สำหรับการค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ Search engines จะมีวิธีการค้นหาโดยการกรอกข้อมูลหรือคำที่ต้องการสืบค้นลงไป แล้วเว็บไซต์จะทำการประมวลผลลัพธ์ต่างๆ ออกมาให้ผู้สืบค้นข้อมูลทราบ ซึ่งคำค้นหาที่ใช้จะเรียกว่าเป็น Keyword (คีย์เวิร์ด) ของการสืบค้นข้อมูล ในปัจจุบันเทคโนโลยีของ Search Engine ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพให้สูงมากยิ่งขึ้น โดยหลังจากที่ทำการค้นหาเรียบร้อยแล้ว ระบบจะสามารถทำการเลือกผลลัพธ์ของผู้ใช้ และบันทึกประวัติการค้นหาไว้สำหรับการกรองผลลัพธ์การค้นหาครั้งต่อไป เพื่อช่วยให้ผู้สืบค้นข้อมูล สามารถทำการค้นหาข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้องแม่นยำ

การค้นหาข้อมูล หมายถึง การสืบค้นข้อมูลที่ต้องการทราบบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็นเครือข่ายที่สามารถเข้าถึงได้สะดวกและรวดเร็ว โดยวิธีการค้นหาที่สามารถทำได้ง่ายและให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ จะต้องทำการค้นหาจากเว็บไซต์สำหรับค้นหาข้อมูลหรือเรียกว่า Search Engine Site ที่มีหน้าที่ในการรวบรวมรายชื่อของเว็บไซต์ต่างๆ ไว้เป็นหมวดหมู่ ทำให้ประหยัดเวลาในการใช้งานมากกว่าการค้นหาข้อมูลด้วยตนเอง

รายชื่อ Search Engine Site ที่นิยม

Google (www.google.com) – อันดับหนึ่งของโลก ในเกือบทุกๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทย

Bing (www.bing.com) – เป็นเว็บค้นหา ของบริษัท Microsoft คู่แข่งกับ Google โดยตรง

Yahoo (www.yahoo.com) – ตั้งแต่ ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา Yahoo ถูกซื้อกิจการโดย Bing (จาก Microsoft)

Ask.com (www.ask.com) – เว็บแสดงผลการค้นหา โดยเจาะจงที่คำถาม-คำตอบ มากกว่า How-to

AOL.com (www.aol.com) – เอโอแอล network ค้นหาข้อมูล ภายใต้เว็บไซต์ที่มีส่วนร่วม

Baidu (www.baidu.com) – ไป่ตู้ เป็นเว็บ Search Engine ประจำประเทศจีน มีบริการต่างๆ คล้ายกับ Google

Wolframalpha (www.wolframalpha.com) – เว็บไซต์สำหรับค้นหา ข้อเท็จจริง เอกสารวิชาการต่างๆ

DuckDuckGo (duckduckgo.com) – ผลการค้นหาคล้าย Google ข้อดีคือ หน้าตาสะอาด ไม่ค่อยมีโฆษณา

Internet Archive (archive.org) – เป็นเว็บรวมผลการค้นหา เว็บไซต์เก่า – เว็บไซต์ที่ผิดตัวไปแล้ว

ประโยชน์ของ Search Engines

Search Engines มีประโยชน์ในการใช้สืบค้นข้อมูลที่ต้องการทราบได้อย่างสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา รวมทั้งให้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความตรงการแก่ผู้สืบค้นข้อมูล ดังนั้นการสร้างและออกแบบเว็บไซต์ใหม่ๆ ในในปัจจุบันจึงควรคำนึงถึงรูปแบบของเว็บไซต์ให้มีความเหมาะสมแก่ Search Engine ด้วยเช่นกัน (เรียกว่าการทำ SEO) เพื่อให้ผู้สืบค้นสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ค้นหาเว็บไซต์ที่ต้องการได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว ค้นหาข้อมูลได้อย่างละเอียด และหลากหลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่น ข่าว เพลง รูปภาพ และอื่นๆ เป็นต้น ค้นหาข้อมูลได้จากเว็บไซต์เฉพาะทางต่างๆ ได้ เช่น เว็บไซต์เกี่ยวกับ ขาย Software หรือ เว็บไซต์รับทำการตลาดออนไลน์ เป็นต้น ค้นหาข้อมูลได้อย่างหลากหลาย รองรับการค้นหาได้หลายภาษา รวมทั้งภาษาไทย

ประเภทของ Search Engines

Search Engine สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท โดยมีความแตกต่างกันที่หลักการทำงาน และการจัดอันดับข้อมูลในการค้นหา

Crawler Based Search Engines คือ เครื่องมือที่ใช้สำหรับการสืบค้นข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่ง Search Engines ชนิดนี้เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมในการใช้งานสูงสุด มีหลักการทำงานโดยการบันทึกและจัดเก็บข้อมูลต่างๆ สามารถให้ผลลัพธ์การค้นหาที่มีความแม่นยำสูง และมีการประมวลผลที่รวดเร็ว จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ในปัจจุบัน Crawler Based Search Engines มีบทบาทในการสืบค้นข้อมูลมากที่สุด Web Directory คือ สารบัญเว็บไซต์สำหรับการสืบค้นข้อมูลข่าวสาร ที่มีการจัดระเบียบและแบ่งข้อมูลต่างๆ ไว้เป็นหมวดหมู่ ผู้สืบค้นจึงสามารถใช้งานได้ง่ายและมีความสะดวกในการค้นหา โดยในการค้นหาจะมีการสร้างดรรชนี และระบุหมวดหมู่ไว้อย่างชัดเจน ทำให้ในขณะที่กำลังทำการค้นหาข้อมูลต่างๆ ในหมวดหมู่หนึ่ง ที่อาจมีเนื้อหาคล้ายกันมากมายหลายเว็บไซต์ ผู้สืบค้นสามารถนำข้อมูลที่ได้จากการประมวลผลมาเปรียบเทียบ และอ้างอิงเพื่อค้นหาข้อเท็จจริงที่มีคุณภาพ และตรงประเด็นมากที่สุดได้ Meta Search Engine คือ เครื่องมือที่ใช้สำหรับการสืบค้นข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต มีหลักการทำงานโดยการอาศัย Meta Tag สำหรับประกาศชุดคำสั่งที่ได้รับมาในรูปแบบของ Tex Editor โดยใช้ภาษา HTML ในการประมวลผลลัพธ์ ตัวอย่างเช่น คำค้นหา “บริษัท วันบีลีฟ” หรือคำอธิบายเว็บไซต์ เป็นต้น ซึ่ง Search Engine ชนิดดังกล่าวนี้ เป็นชนิดที่มีความแม่นยำในการค้นหาค่อนข้างต่ำ เนื่องจากสามารถถูกแก้ไขและออกแบบได้โดยผู้ให้บริการ เพื่อให้บล็อกหรือเว็บไซต์ของตนเองสามารถค้นพบได้ง่ายขึ้น

Keyword คืออะไร

Keyword (คีย์เวิร์ด) คือคำค้นหา หรือคำอธิบายสิ่งใดสิ่งหนึ่งสั้นๆ ที่กล่าวถึงสิ่งที่เรากำลังตามหาเพื่อสืบค้นรายละเอียดข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตบนเว็บ Search Engine

ตัวอย่างคำ Keyword ที่ใช้ค้นหากันในชีวิตประจำวัน

ต้องการค้นหารถยนต์มือสอง คีย์เวิร์ดที่ใช้ในการค้นหาคือ รถมือสอง, ราคารถมือสอง, รถยนต์มือสอง, ฯลฯ

มาเที่ยวต้องหาต้องการหาโรงแรมที่พัก คีย์เวิร์ดที่ใช้ในการค้นหาคือ Agoda, โรงแรม, ห้อพัก, หอพัก, ฯลฯ

ต้องการหาร้านอาหาร คีย์เวิร์ดที่ใช้ในการค้นหาคือ ร้านปิ้งย่าง, หมูกระทะ, ร้านก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ

ประเภทของ Keyword ในการค้นหา

Niche Keyword: เป็นคำค้นหาเฉพาะเจาะจง เฉพาะกลุ่มซึ่งโดยปกติแล้วเรามักพบบ่อยในชื่อเรียกรุ่นแบรด์สินค้าต่างๆ เช่น Samsung Note 8, iPhone 8 เป็นต้น

เป็นคำค้นหาเฉพาะเจาะจง เฉพาะกลุ่มซึ่งโดยปกติแล้วเรามักพบบ่อยในชื่อเรียกรุ่นแบรด์สินค้าต่างๆ เช่น Samsung Note 8, iPhone 8 เป็นต้น Widely Keyword: เป็นคำค้นหาสั้นๆ ที่มีเนื้อหาความหมายที่ค่อนข้างกว้าง และมีอัตราการค้นหาสืบค้นสูง เช่น บ้านใหม่, รถมือสอง, หนังสือ, หวย เป็นต้น

เป็นคำค้นหาสั้นๆ ที่มีเนื้อหาความหมายที่ค่อนข้างกว้าง และมีอัตราการค้นหาสืบค้นสูง เช่น บ้านใหม่, รถมือสอง, หนังสือ, หวย เป็นต้น Mass Keywords: เป็นคำค้นหาสิ่งต่างๆที่มีความเกี่ยวข้องและสอดคล้องในกลุ่มคำเดียวกัน เช่น iPhone X, iPad Pro, Macbook Air เป็นต้น

เป็นคำค้นหาสิ่งต่างๆที่มีความเกี่ยวข้องและสอดคล้องในกลุ่มคำเดียวกัน เช่น iPhone X, iPad Pro, Macbook Air เป็นต้น Misspelling Keyword: เป็นคำค้นหาต่างๆ ที่มีการสะกดคล้างคลีงหรือที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม ทั้งแบบตั้งใจ และไม่ได้ตั้งใจ เช่น ทาญาติ, ธาญาต, ทายาท เป็นต้น

ในปัจจุบันคีย์เวิร์คคำค้นหานั้นถือว่ามีบทบาทสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Search Engine เป็นอย่างมาก ยิ่งคีย์เวิร์ดคำค้นหายิ่งสั้นและกระชับมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งมียอดค่าการค้นหาที่สูงมากขึ้นตามไปด้วยหลายเท่าตัว เว็บที่มีเนื้อหาคุณภาพที่ดี และมีการทำ SEO ที่ถูกหลักร่วมด้วยเท่านั้นจึงจะมาอยู่ในน้า 1 ของการค้นหานี้ได้

หลักการทำงานของ Search Engines

กระบวนการทำงานของ Search engines บนเว็บไซต์ทั่วไป สามารถแบ่งขั้นตอนการทำงานออกเป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้

1. ใช้โปรแกรมรวบรวมเอกสารเว็บ (spider หรือ crawler)

ขั้นแรกที่ Search engines ทำการสำรวจและตรวจสอบหน้าเว็บไซต์ต่างๆ จากโดเมน แล้วติดตาม Links ที่พบภายในเว็บไซต์ทั้งหมด โดยการทำงานของโปรแกรมมีรูปแบบลักษณะโยงใย จึงเรียกโปรแกรมดังกล่าวว่า Spider หรือ Crawler ซึ่งหลังจากที่ Spider ทำการติดตาม Links และนำข้อมูลของเว็บไซต์เหล่านั้นไปเก็บไว้ในฐานข้อมูลของ Search Engine เรียบร้อยแล้ว Spider จะกลับไปทำการสำรวจและตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลในเว็บไซต์เหล่านั้น ทุกๆ เดือนหรือสองเดือน

2. จัดทำรายการดรรชนี

เมื่อโปรแกรม Spider ทำการค้นพบข้อมูลต่างๆ แล้ว จะมีการนำข้อมูลเหล่านั้นไปทำสำเนา และส่งไปจัดเก็บยังรายการดรรชนี ที่เรียกว่า index หรือ catalog ซึ่งเมื่อข้อมูลในเว็บไซต์หลักมีการเปลี่ยนแปลง จะส่งผลให้ข้อมูลภายในสมุดดรรชนีเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยตามบัญชีดัชนีที่ถูกกำหนดไว้

3. โปรแกรมสืบค้น

โปรแกรมที่ใช้สำหรับทำการค้นหาข้อมูลต่างๆ จากฐานข้อมูลของ Search Engine โดยมีการทำงานเริ่มต้นจากการรับคำค้นหาที่ถูกป้อนเข้ามาในโปรแกรม โดยผู้ใช้งานบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แล้วนำคำค้นหาไปจับคู่กับดรรชนีในฐานข้อมูล หลังจากนั้นจึงจะทำการดึงเอกสารจากเว็บไซต์นั้นๆ หรือดึงข้อมูลจากฐานออกมาประมวลผลลัพธ์ให้แก่ผู้สืบค้น ซึ่งจะมีการจัดลำดับผลการค้นหาตามระดับความเกี่ยวข้องของข้อมูล

เทคนิคค้นหาด้วย Google

การค้นหาข้อมูลโดยใช้ search engine จากเว็บไซต์ Google สามารถใช้งานได้ไม่ยากและสะดวกรวดเร็ว มีเทคนิคในการสืบค้นข้อมูล ดังนี้

การยกเว้นผลลัพธ์การค้นหา

หากต้องการยกเว้นผลลัพธ์การค้นหาผ่านเว็บไซต์ Google สามารถทำได้โดยการใส่เครื่องหมายลบ (-) วางไว้ข้างหน้าคำที่ไม่ต้องการค้นหาข้อมูล การสืบค้นข้อมูลโดยการนำเครื่องหมาย – มาใช้วางไว้ข้างหน้าคำใดๆ ที่ใช้ค้นหาจะทำให้ Google ประมวลผลลัพธ์ออกมาโดย exclude คำๆ นั้นออกไป ซึ่งวิธีการค้นหาดังกล่าวเป็น Operator ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาข้อมูลให้มีความแม่นยำได้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น

คำค้นหาที่ Google จะทำการประมวลโดย Match การค้นหาเข้ากับแหล่งข้อมูลที่มีเฉพาะคำว่า “การตลาด” รวมอยู่เท่านั้น แต่ในหน้านั้นๆ จะต้องไม่มีคำว่า “โฆษณา”

การค้นหาไฟล์เอกสารนามสกุลต่างๆ

หากต้องการทำการค้นหาเอกสารนามสกุลต่างๆ ได้แก่ เอกสารในรูปแบบ .DOC .PDF หรือเอกสารนามสกุลอื่นๆ ผู้สืบค้นสามารถค้นหาได้เพียง พิมพ์ชื่อเอกสารที่ต้องการ แล้วต่อท้ายด้วย filetype:นามสกุล ของเอกสารนั้นๆ ทางเว็บไซต์จะประมวลผลลัพธ์เป็นไฟล์เอกสารที่ถูกเก็บไว้บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ตัวอย่างเช่น

การค้นหารอบหนังและรีวิวหนัง

หากต้องการค้นหารอบหนังหรือรีวิวภาพยนตร์ต่างๆ ผู้สืบค้นสามารถทำการค้นหาได้โดยการพิมพ์ชื่อภาพยนตร์ที่ต้องการ จากนั้นทางเว็บจะประมวลผลลัพธ์ให้ทราบถึงรายละเอียดช่วงเวลาของรอบหนัง รวมทั้งรีวิวของหนังเรื่องนั้นๆ และสามารถทำการจองที่นั่งผ่านทางเว็บไซต์ได้เลย ตัวอย่างเช่น

การตรวจสอบคะแนนและผลการแข่งขันกีฬา

หากต้องการตรวจสอบคะแนนหรือผลการแข่งขันกีฬาต่างๆ ผู้สืบค้นสามารถทำการค้นหาได้โดยการพิมพ์ชื่อนักกีฬาหรือชื่อทีมที่ต้องการ ทางเว็บไซต์จะประมวลผลลัพธ์ให้ทราบถึงรายละเอียดของการแข่งขันครั้งล่าสุด ตารางการแข่งขัน และรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

การตรวจสอบสภาพอากาศ

หากต้องการตรวจสอบสภาพอากาศในแต่ละวัน สามารถทำการค้นหาได้โดยการพิมพ์คำว่า Weather แล้วตามด้วยชื่อสถานที่ที่ต้องการทราบ เว็บไซต์จะประมวลผลลัพธ์ให้ทราบถึงพยากรณ์อากาศในวันนั้นๆ ตัวอย่างเช่น “Weather ลำปาง” หรือ “พยากรณ์อากาศ ลำปาง” เป็นต้น แต่สำหรับประเทศไทยการค้นหาพยากรณ์อากาศยังคงมีข้อจำกัด เนื่องจากข้อมูลที่มีไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศ

[SEARCH] Weather ลำปาง [URL] https://www.google.co.th/search?q=Weather+ลำปาง

การแปลงหน่วย

หากต้องการแปลงหน่วย ผู้สืบค้นจะต้องทำการพิมพ์หน่วยที่ต้องการแปลงลงไปเพื่อให้เว็บไซต์ประมวลผลลัพธ์ โดยสามารถแปลงได้ครอบคลุมทุกรูปแบบ ตัวอย่างเช่น GB=MB หรือ 10CM=M

การดูกระแสหุ้นและตลาดหลักทรัพย์

หากต้องการตรวจสอบหรือดูกระแสหุ้นและตลาดหลักทรัพย์สำหรับผู้เล่นหุ้น สามารถค้นหาผ่านทางเว็บไซต์ Google เพื่อติดตามข่าวสารต่างๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น TCAP, ITD

การใช้เครื่องคิดเลขออนไลน์

หากต้องการคิดคำนวณ ผู้สิบค้นสามารถนำเลขจำนวนที่ต้องการทราบค่ามาคำนวณผ่าน Google ได้ โดยพิมพ์ตัวเลขเหล่านั้นลงไปเพื่อให้เว็บไซต์ทำการประมวลค่าเป็นคำตอบ ตัวอย่างเช่น

การค้นหาเจาะจงเฉพาะเว็บไซต์

หากต้องการค้นหาบางอย่างให้มีความเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ผู้สืบค้นสามารถพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ตามหลังสิ่งที่ต้องการทราบได้ตัวอย่างเช่น “รับทำการตลาดออนไลน์ site:1belief.com” หรือ “การตลาด site:sanook.com” เป็นต้น

เทคนิคเพิ่มเติมที่ควรรู้ในการค้นหาข้อมูลบน Search Engine

ในการค้นหาข้อมูลด้วย Search Engine ส่วนใหญ่แล้วปัญหาที่ผู้ใช้งานทั่วไปมักจะพบเห็น หรือประสบอยู่เสมอๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นข้อมูลที่ค้นหาได้มีขนาดมากจนเกินไป ดังนั้นเพื่อความสะดวกในการใช้งานจึงน่าที่จะเรียนรู้เทคนิคต่างๆเพื่อช่วยลดหรือจำกัดคำที่ค้นหาให้แคบลงและตรงประเด็นกับเรามากที่สุด ดังวิธีการต่อไปนี้

ใช้คำมากกว่า 1 คำที่มีลักษณะเกี่ยวข้องกันช่วยค้นหา เพราะจะได้ผลลัพท์ที่มีขนาดแคบลงและชี้เฉพาะมากขึ้น (ย่อมจะดีกว่าหาคำเดียวโดดๆ) ใช้บริการของผู้ให้บริการเฉพาะด้าน เช่น การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวของภาพยนตร์ก็น่าที่จะเลือกใช้ Search Engine ที่ให้บริการใกล้เคียงกับเรื่องพวกนี้ เพราะผลลัพท์ที่ได้จะเป็นที่น่าพอใจมากกว่า ใส่เครื่องหมายคำพูด “ … ” ครอบคลุมกลุ่มคำที่ต้องการ เพื่อบอกกับ Search Engine ว่าเราต้องการผลการค้นหาที่มีคำในกลุ่มนั้นครบและตรงตามลำดับที่เราพิมพ์ทุกคำ เช่น “free shareware” เป็นต้น ใช้ * เป็นตัวร่วม เช่น ราคาพืช* เป็นการบอกให้หาคำที่มีคำว่า com ขึ้นหน้าส่วนด้านท้ายเป็น อะไรไม่สนใจ *พืช เป็นการให้หาคำที่ลงท้ายด้วย พืช ด้านหน้าจะเป็นอะไรไม่สนใจ หลีกเลี่ยงการใช้ตัวเลข พยายามเลี่ยงการใช้คำค้นหาที่เป็นคำเดี่ยวๆ หรือเป็นคำที่มีตัวเลขปน แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็อย่าลืมใส่เครื่องหมายคำพูด (” “) ลงไปด้วย เช่น “windows 98” หลีกเลี่ยงภาษาพูด หลีกเลี่ยงคำประเภท Natural Language หรือเรียกง่ายๆ ว่าคำหรือข้อความที่เป็นภาษาพูด หรือเป็นประโยค ควรสรุปเป็นเพียงกลุ่มคำหรือวลี ที่มีความหมายรวมทั้งหมดไว้ อย่าละเลย Help ซึ่งในแต่ละเว็บ จะมี ปุ่ม help หรือ Sitemap ไว้คอยช่วยเหลือ แต่คนส่วนใหญ่มักจะมองข้าม ซึ่ง help/sitemap จะมีประโยชน์มากในการอธิบาย option หรือการใช้งาน/แผนผังปลีกย่อยของแต่ละเว็บไซต์

Matching ของ Search Terms

สำหรับการสืบค้นข้อมูล สิ่งสำคัญที่จะเป็นตัวกำหนดแหล่งข้อมูล รวมทั้งข้อเท็จจริงของข้อมูลคือการเลือกใช้คำหรือ Keyword ในการค้นหา ดังนั้นเพื่อเป็นการควบคุมการ Matching ให้ได้ข้อมูลตรงกับความต้องการ ผู้สืบค้นจึงควรทำการ Matching และใส่ Operator พิเศษเข้าไปใน Search Term

คำค้นหา = การตลาด ออนไลน์ : โดยปกติของการค้นหาข้อมูล ผู้สืบค้นส่วนมากมักจะทำการใส่ Search Term ด้วยคำหรือคีย์เวิร์ดที่ต้องการค้นหาโดยตรง โดยไม่มีการระบุ Operator พิเศษไว้ ดังนั้นวิธีการ matching ที่ใช้คือ Google จะทำการประมวลผลลัพธ์จากคำค้นหาที่มีคำทั้งสองรวมอยู่ โดยไม่คำนึงถึงลำดับก่อนหลังของคำนั้นๆ ได้แก่ คำว่า การตลาด และ ออนไลน์ มากกว่านั้น Google ยังจะทำการแสดงผลลัพธ์ของคำที่เป็นพหูพจน์ คำที่มีความหมายคล้ายกัน และไม่นับรวมคำสะกดผิด

: โดยปกติของการค้นหาข้อมูล ผู้สืบค้นส่วนมากมักจะทำการใส่ Search Term ด้วยคำหรือคีย์เวิร์ดที่ต้องการค้นหาโดยตรง โดยไม่มีการระบุ Operator พิเศษไว้ ดังนั้นวิธีการ matching ที่ใช้คือ Google จะทำการประมวลผลลัพธ์จากคำค้นหาที่มีคำทั้งสองรวมอยู่ ได้แก่ คำว่า และ มากกว่านั้น Google ยังจะทำการแสดงผลลัพธ์ของคำที่เป็นพหูพจน์ คำที่มีความหมายคล้ายกัน และไม่นับรวมคำสะกดผิด คำค้นหา = “การตลาด ออนไลน์” : การสืบค้นข้อมูลโดยการใส่ Double Quote (“…”) ให้กับคำที่ต้องการค้นหาลงไปใน Search Term จะทำให้ผู้สืบค้นได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น โดย Google จะใช้วิธีการ match คำทั้งสองเข้าด้วยกันแล้วประมวลผลออกมาเป็นข้อมูลของคำผสมที่ใช้ค้นหา รวมทั้งจะทำการนับรวมคำค้นหาที่ถูกวางไว้ข้างหน้าและข้างหลังของคีย์เวิร์ดด้วย ตัวอย่างเช่น บริษัท รับทำ การตลาด ออนไลน์ เป็นต้น

: การสืบค้นข้อมูลโดยการใส่ ให้กับคำที่ต้องการค้นหาลงไปใน Search Term จะทำให้ผู้สืบค้นได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น โดย Google จะใช้วิธีการ match คำทั้งสองเข้าด้วยกันแล้วประมวลผลออกมาเป็นข้อมูลของคำผสมที่ใช้ค้นหา รวมทั้งจะทำการนับรวมคำค้นหาที่ถูกวางไว้ข้างหน้าและข้างหลังของคีย์เวิร์ดด้วย ตัวอย่างเช่น เป็นต้น คำค้นหา = การตลาด +ออนไลน์ : การสืบค้นข้อมูลโดยการนำเครื่องหมาย + มาใช้สำหรับใส่คั่นระหว่างคำสองคำจะทำให้ Google ประมวลผลลัพธ์ออกมาเป็นข้อมูลของคำว่า การตลาด หรือ ออนไลน์ ซึ่งมีหลักการค้นหาคือ หากระบบค้นหาพบเพียงคำใดคำหนึ่ง คำนั้นจะถูก Matching เข้ากับสิ่งที่ระบุไว้ โดยส่วนมากวิธีการค้นหาข้อมูลในรูปแบบดังกล่าว จะถูกนำมาใช้สำหรับค้นหาคำที่มีความหมายเดียวกัน แต่สามารถเขียนได้หลายแบบ หรือคำที่มักเขียนผิด ซึ่งคำเหล่านี้หากใช้วิธีการค้นหาแบบปกติ Matching ของ Google Trends จะไม่นับรวมไปประมวลผล

ประวัติของเว็บเสิร์ชเอนจิ้น Google

เว็บเสิร์ชเอนจิ้น Google เกิดขึ้นจากแนวคิดจากวิทยานิพนธ์ของนาย Larry Page และนาย Sergey Brin โดยมีเนื้อความถึงการตั้งสมมุติฐานที่ว่า โปรแกรมเสิร์ชเอนจิ้นที่แสดงผลการค้นหาที่มีความสัมพันธ์กับเว็บไซต์ จะมีประสิทธิภาพมากกว่าการทำงานของเสิร์ชเอนจิ้นแบบเดิม ดังนั้นจึงได้มีการสร้างโปรแกรมเสิร์ชเอนจิ้นของ Google ขึ้นมา โดยใช้แนวคิดดังกล่าวเป็นรากฐาน และยังมีการกำหนดอีกว่า เว็บไซต์ที่มีคุณภาพดี จะต้องมีการเชื่อมโยงลิ้งค์กับหน้าเว็บเพจอื่นมากที่สุด และในเดือนกันยายน ค.ศ.1998 บริษัท Google,Inc. ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมา

ประวัติเสิร์ชเอนจิ้น Yahoo!

เว็บเสิร์ชเอนจิ้น Yahoo! เกิดขึ้นจากการที่นาย David Filo และนาย Jerry Yang ได้ร่วมกันทำงานอดิเรกชิ้นหนึ่ง และสร้างงานนี้ขึ้นมาในชื่อว่า “Jerry and David’s guide to the World Wide Web” เพื่อใช้สำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลสารบัญของเว็บไซต์ต่างๆ เอาไว้ด้วยกัน โดยในเวลาต่อมาก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อมาเป็น Yahoo! และมีการนำมาใช้งานจนทุกวันนี้ (ปัจจุบัน Yahoo ขายกิจการให้ Verizon แล้ว)

ประวัติเสิร์ชเอนจิ้น MSN Search

เว็บเสิร์ชเอนจิ้น MSN Search ได้มีการเปิดตัวขึ้นมาในครั้งแรกในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ.1995 โดยถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้งานร่วมกับโปรแกรม Windows 95 โดยตรง พร้อมกับให้บริการสำหรับเสิร์ชหาเว็บไซต์ต่างๆ และใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างครบวงจร จึงเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อของ Microsoft Network นอกจากนี้ยังใช้สำหรับเป็นพื้นที่ในการเก็บอีเมลล์ฟรี ในชื่อ Hotmail ที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงแรกๆ ในเวลาต่อมาก็ได้มีการพัฒนาจนเกิดโปรแกรมสนทนาออนไลน์ขึ้นมา ซึ่งก็รู้จักกันดีในชื่อของ MSN Messenger และยังมีโปรแกรมอื่นๆ อีกมากมาย

ประวัติเสิร์ชเอนจิ้น Baidu

เว็บเสิร์ชเอนจิ้น Baidu เกิดขึ้นโดย โรบิน ลี (Mr.Robin Li) ซึ่งเป็นนักศึกษาจีน และได้ไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นจึงได้กลับมาเปิดบริษัทที่ประเทศจีน และสร้าง Baidu ขึ้นมา เรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกด้านอินเทอร์เน็ตและสร้างสรรค์เทคโนโลยีในการเสิร์ชเอนจิ้น มีการเชื่อมโยงข้อมูลแบบไฮเปอร์ลิ้งก์ เพื่อให้เกิดการค้นหาข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งสามารถเชื่อมโยงระหว่างผู้ใช้กับบริการต่างๆ ได้ดี ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ไป่ตู้ก็ได้ประสบความสำเร็จและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้ดี โดยในแต่ละวันก็จะมีการพิมพ์คำสืบค้นลงในแพลตฟอร์มของไป่ตู้มากกว่าหมื่นล้านคำ ปัจจุบันยังมีการพัฒนาระบบให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ พร้อมกับปรับปรุงรูปแบบการนำเสนอข้อมูลจากการค้นหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ชาวจีนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

YouTube เป็น Search Engine อันดับ 2 ของโลก

YouTube ถูกยกให้เป็นบริการค้นหาข้อมูลออนไลน์หรือเสิร์ชเอนจินที่มีผู้ใช้งานมากเป็นอันดับ 2 ของโลก เพราะมีคนเข้ามาค้นเนื้อหาที่สนใจในรูปแบบวิดีโอมากกว่า 3 พันล้านครั้งต่อเดือน หากลองให้ใครสักคนนึกถึงเว็บไซต์อัพโหลดและแชร์คลิปวีดีโอชื่อดังระดับโลก เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึง “YouTube” แต่บทบาทของ YouTube นอกแหนือจากจะเป็นเว็บไซต์เบอร์หนึ่งในด้านการอัพโหลดและแชร์คลิปแล้ว ยังมีอีกหนึ่งตำแหน่งที่ใครหลายคนอาจนึกไม่ถึงกัน ก็คือเป็นเสิร์ชเอนจินที่ได้ความนิยมเป็นอันดับที่ 2 ของโลก ซึ่งมีความยิ่งใหญ่กว่าเว็บไซต์อย่าง Bing, Yahoo, Ask และ AOL รวมกันทั้งหมดเสียอีก

YouTube ถูกก่อตั้งในปี 2005 โดยอดีตพนักงานของ PayPal จำนวน 3 คน โดยภายในระยะเวลาแต่เพียงปีเดียวหลังจากการก่อตั้งเท่านั้น Google ได้เข้ามาซื้อ YouTube ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินกว่า 1.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ และจนมาถึงในยุคปัจจุบัน YouTube กลายเป็นเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมและมีการใช้งานอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก

ช่องทางในการชมวีดีโอ นอกจากผ่านทางคอมพิวเตอร์ในรูปแบบปกติแล้ว การชมผ่านโทรศัพท์มือถือกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่เข้ามามีอิทธิพลอย่างมากในปัจจุบัน โดยจำนวนผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลกมีการเข้าชมวีดีโอ YouTube บนโทรศัพท์มือถือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 25% ของการชมคลิปวีดีโอทั้งหมดบน YouTube

การสำรวจพบว่า 4 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการจัดอันดับบน YouTube ที่ต้องให้ความสนใจอย่างมาก คือจำนวนวิว (ผู้ชม), ชื่อของคลิปวีดีโอ, คำบรรยายคลิป รวมถึงจำนวน Like และ Dislike บนคลิป ซึ่งทั้ง 4 ปัจจัยล้วนมีความสำคัญทำให้การแสดงผลของวีดีโอมีอันดับที่สูงขึ้น

ในปัจจุบันเว็บไซต์ที่สามารถทำหน้าที่เป็น Search Engine Site มีให้บริการมากมายแก่ผู้สืบค้นข้อมูลเพื่อทำให้การค้นหาข้อมูลต่างๆ เป็นไปได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายมากขึ้น โดยการค้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ Search Engine บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตนี้ มีความเปิดกว้างและไม่มีการจำกัดขอบเขต ผู้สืบค้นจึงสามารถทำการสืบค้นข้อมูลได้อย่างมีคุณภาพจากหลากหลายแหล่งข้อมูลทั่วโลก

Search Engines คืออะไร, ทำงานยังไง, มีประโยชน์อย่างไร สอนครบจบทุกมิติ

ถ้าผมถามคุณว่า วันนี้คุณใช้ Search Engine ไปกี่ครั้งแระ?

ผมอาจจะไม่ได้คำตอบกลับมา อืมม์.. งั้นลองเปลี่ยนคำจาก search engine ไปเป็น Google แล้วกัน อันนี้ต้องร้อง อ๋อออ กันยาวๆ เลยทีเดียว

ในทางทฤษฎี Google..

ก็คือหนึ่งใน เสิร์ชเอนจิน (หรือ Search Engine) ที่มีอยู่นับสิบในโลกใบนี้ แต่ด้วยความนิยมด้วยมั้ง คนเลยเหมารวมว่า search engine ก็คือ กูเกิ้ล ไปโดยปริยาย

ถามต่อไปว่า ใช้งานลูกพี่กรู (เกิ้ล) หายาลดความอ้วน, หาแฟน, หาโน่น นี่ นั่น อยู่ทุกวันๆ ละหลายครั้ง เคยสงสัยมั่งไหมว่า เอ๊ะ.. เสิร์ชเอนจิน มันทำงานกันยังไง แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ (จากการค้นหาอะไรบางอย่าง) มีตั้งเป็นล้านๆ เว็บ ไอ้เว็บที่อยู่ลำดับที่ 1 หรือ ที่ 2 .. นี่มันหามาได้ยังไง มีหลักการอะไร

วันนี้ผมรับอาสานำพาคุณไปทำความเข้าใจในมิติที่คุณยังไม่เคยรู้ (หรือไม่เคยอยากที่จะต้องการรู้ ก็สุดแท้แต่ เหอๆ..) เกี่ยวกับ search engines ถ้ายังไม่มีอะไรทำในตอนนี้ หรือต้องการหาอะไรทำฆ่าเวลา ก็ขอเรียนเชิญอ่านบทความนี้ไปพร้อมๆ กัน

เสิร์ชเอนจิน คืออะไร มีกี่ประเภท

เรามาดูความหมายของ search engine กันแบบบ้านๆ ก่อน แปลตรงตัวทีละคำ Search แปลว่า ค้นหา เป็นคำกริยา (หรือ Verb) ส่วน Engine ก็คือ เครื่องกล, เครื่องจักรกล, หรือ เครื่องยนต์กลไก อะไรเทือกนี้ เอาสองคำมารวมกัน แปลตามประสาผม

Search Engine หมายถึง เครื่องมือ (ซอร์ฟแวร์) ที่มีฐานข้อมูลของคำค้นหาอยู่ พอคุณต้องการหาอะไร ก็ส่งคำค้นหาให้กับ Softwae ประเภทนี้ มันก็จะส่งผลลัพธ์ของการค้นหานั้นๆ คืนกลับมา

ในปัจจุบัน มี เสิร์ชเอนจินอยู่หลายตัว หลายประเภทด้วยกันใน internet แต่ละตัวก็มีความสามารถแตกต่างกันไป search engine ตัวแรกถูกสร้าง และพัฒนาขึ้นก็คือ Archie (มาจากคำว่า Archive) เขียนขึ้นโดย Alan Emtage, Bill Heelan, และ Mike Parker จากมหาวิทยาลัย Montreal ประเทศแคนาดา เพื่อใช้ในการค้นหาไฟล์ประเภท FTP และ มีการปล่อยให้ใช้งานเมื่อวันที่ 10 กันยายน 1990

search engine ที่เป็น text based หรือ ค้นหาด้วยตัวหนังสือตัวแรกของโลก มีชื่อว่า Veronica (ย่อมาจาก Very Easy Rodent-Oriented Net-wide Index to Computer Archives) ในปัจจุบัน search engines ที่มีความนิยมใช้กันได้แก่ AOL, Ask.com, Baidu, Bing, Yahoo และที่ขาดไม่ได้ นิยมมากที่สุด ก็คือ Google

ณ ปัจจุบัน search engines ได้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามหลักการทำงาน ดังนี้

1. Crawler based หรือแบบที่ใช้ตัวไต่

Search Engine ชนิดแรกเป็นประเภทใช้ software ที่เขียนขึ้นมาเรียกว่ ตัวไต่ (web crawler )

Web Crawler คือ Bots, หรือ แมงมุม (Spider) ที่เว็บ search engine ส่งไปไต่เว็บไซต์ต่างๆ บนอินเตอร์เน็ต แล้วนำข้อมูลเกี่ยวกับเว็บต่างๆ มาเก็บไว้ในฐานข้อมูล

รายละเอียดการทำงานหลักๆ แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ดังนี้

Crawling: การไต่เว็บใน internet โดย bots แล้วนำข้อมูลมาบันทึกไว้ในฐานข้อมูล

Indexing: การจัดดัชนีเว็บเพจ ว่าเพจไหนเกี่ยวกับอะไร มีคีย์เวิร์ดอะไร

Calculating Relevancy: การคำนวณว่าเว็บไหนเหมาะสม และตรงกับคำค้นหาไหน

Retrieving the Result: การดึงข้อมูลในดัชนีเว็บมาแสดงผล ในหน้าผลลัพธ์การค้นหา

ในหัวข้อนี้ขอเกริ่นคร่าวๆ ไว้เพียงเท่านี้ เพราะยังมีอีก 2 ประเภท seach engines ทีต้องพูดถึงกัน การทำงานแบบละเอียดของ crawler เดี๋ยวเรามาอ่านกันให้ตาแฉะ อีกทีในหัวข้อ “เสิร์ชเอนจินทำงานยังไง?”

2. เว็บไดเร็กทอรี่

ประเภทต่อไปของ search engine ประเภทที่สอง ก็คือ เว็บไดเร็กทอรี่ที่อาศัยแรงคน เป็นหลัก ในการจัดทำดัชนี หลักการทำงานไม่สลับซับซ้อนเหมือนแบบแรก

เจ้าของเว็บ ฝากรายละเอียดเว็บไซต์กับผู้ให้บริการเว็บไดเร็กทอรี่ ผู้ใช้งานจะได้มาหาเว็บตนเจอ โดยใส่คำจำกัดความสั้นๆ แล้วก็เลือกหมวดหมู่ที่ต้องการ

จากนั้น เจ้าของ directoy ก็จะมาตรวจสอบความเหมาะสม ว่าเข้าเกณฑ์ไหม ถ้าเขาคิดว่าไม่เหมาะ ก็มีสิทธิ์ที่ปฏิเสธคุณได้ ดังนั้นถ้าเว็บคุณเป็นเว็บที่ดี เต็มไปด้วยเนื้อหาคุณภาพ มีประโยชน์ต่อผู้ใช้ โอกาสที่จะได้รับการอนุมัติก็มีสูงเป็นเงาตามตัวไปด้วย

ถ้าใน description หรือคำจำกัดความที่คุณได้ใส่ไว้ มีคีย์เวิร์ดที่ผู้ใช้ๆ ในการค้นหา เว็บของคุณก็จะถูกแสดงเป็นหนึ่งในผลลัพธ์การค้นหา

ไดเท็กทอรี่ที่ดังๆ สมัยก่อน ยกตัวอย่าง เช่น Yahoo, หรือ DMOZ แต่เดี๋ยวนี้ความต้องการใช้งานลดน้อยถอยลงไปมาก ผู้คนส่วนใหญ่หันมาใช้ search engines ที่ใช้ bots กันเสียมากแล้วทุกวันนี้

3. แบบลูกผสม (Hybrid)

search engine ชนิดสุดท้ายที่จะกล่าวกันในบทความนี้เป็น ลูกครึ่งครับ กล่าวคือ จะใช้ตัวไต่ แล้วก็ใช้คนด้วย ในการทำ index

ที่ผ่านมาในอดีตเสิร์ชเอนจินแบบทีใช้ตัวไต่ บางครั้งก็จะใช้คนทำงานด้วย เช่น Google ถึงจะใช้ bots เป็นกลไกหลักในการทำงาน แต่ก็มีบ้างที่ไปดึง คำจำกัดความของเว็บ (description) มาจากไดเร็กทอรี่ แล้วนำมาแสดงในผลลัพท์การค้นหา หรือ SERP

อย่างไรก็ตามเมื่อความนิยมในการใช้ directories น้อยลง search engines ที่ทำงานแบบ Hybrid ก็ค่อยๆ ลดบทบาทของคนลง คือ จะไปเน้นใช้ spider กันมากกว่า

เสิร์ชเอนจินทำงานยังไง?

มาดูคำ Matt Cutts จาก Google อธิบายว่า search engine ทำงานยังไงกันก่อน

ดูเสร็จแล้วถ้ายังไม่เข้าใจ อ่านคำอธิบายภาษาไทยด้านล่าง ว่าการทำงานของ search engine มีกี่ขั้นตอน และแต่ละขั้นตอนมีรายละเอียดยังไงบ้าง

1. Crawling

การทำงานในขั้นตอนแรกนี้ คือ การไต่ (Crawling) อย่างที่ได้แตะไว้แล้วหน่อยนึงว่า Search Engine ก็จะส่งลูกน้องมือดี คือ Spider (แมงมุมน้อยตัวนั้น ..) มาไต่เว็บคุณ และเว็บอื่นๆ ใน internet ด้วย

ความถี่ (Frequency) ในการไต่ ไม่แน่นอน ไม่เหมือนกันแล้วแต่ค่ายของเสริชเอ็นจิ้น บางเจ้าก็ไต่ช้า บางเจ้าไต่เร็ว พอไต่เว็บคุณไปครั้งนึง อาจทิ้งช่วงเว้นสัก 2-3 วัน ก่อนที่จะแวะเวียนกลับมาเยี่ยมคุณอีกครั้ง ถึงตรงนี้คุณอาจเคยสังเกตว่า..

“เอ๊ะ! หน้าที่ลบทิ้งไปแล้ว ทำไหม ยังอยู่ใน search engine อีกล่ะวุ้ย? ..”

ก็เพราะนี้แหละครับ มันทิ้งช่วง คุณต้องรอให้ bots มาไต่เว็บคุณอีกที ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงล่าสุดบนเว็บคุณถึงจะถูกส่งกลับไป update

2. Indexing

ขั้นตอนต่อไปคือ Indexing ก็คือกระบวนการหลังจากการไต่เสร็จ search engines ก็จะพยายามทำความเข้าใจหน้าเว็บต่างๆ ว่าเกี่ยวกับอะไร และก็จะทำการระบุคำหลัก (Keyword) ที่มีในแต่ละหน้า จัดทำดัชนีเพจ (Indexing) แล้วเก็บในฐานข้อมูล

กับคำกล่าวที่ว่า”ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ” คำๆ นี้ใช้ได้เสมอกับทุกสิ่งอย่าง แม้แต่กับเสริชเอ็นจิ้นท์ที่ทันสมัยที่สุด กล่าวคือ บางครั้ง search engine เองก็พยายามตีความ web sites อย่างดีทีสุดแล้ว ว่าหน้าที่มันได้ข้อมูลมานั้นเกี่ยวกับอะไร ก็ยังไม่ค่อยตรงกับสิ่งที่เจ้าของเว็บ หรือ web master ต้องการจะสื่อสักเท่าไร

อันนี้คุณในฐานะเจ้าของเว็บ ก็ควรทำการปรับแต่งหน้าเว็บให้ถูกต้องตามหลักการทำ SEO กันให้ดี เพื่อที่จะไม่ให้ Search engines เขาต้องเดามากไป เพราะอาจผลกระทบต่อ ranking ตามมา

3. Calculating Relevancy

ในขั้นตอนนี้ serch engines จะทำการเปรียบเทียบ “คำที่คนใช้ในการค้นหา” กับ “ดัชนีหน้าเพจ” ที่ได้ทำไว้ก่อนหน้า และโดยมากจะมีมากกว่าหนึ่ง web pageในฐานข้อมูลที่ match หรือ ตรงกับคำค้นหา ดังนั้นเสิร์ชเอนจินก็จะทำการคำนวณ (Calculating Relevancy) ออกมาว่า หน้าไหนน่าจะมีเนื้อหาที่ตรงใจกับ ผู้ค้นหามากที่สุด ในขั้นตอนนี้

4. Retrieving the Result

step สุดท้ายในการทำงานของ เสิร์ชเอนจินก็คือ การดึงข้อมูลมาแสดงผลใน SERP หรือ Search Engine Result Pages โดยจะจัดเรียงผลลัพธ์ตาม Relevancy หรือ ความแม่นตรง กับคำที่คุณใช้ค้นหา

เว็บที่คำนวณออกมาแล้ว และคิดว่าตรงกับคำค้นหามากที่สุด จะถูกวางไว้อันดับหนึ่ง ในหน้าผลลัพธ์การค้นหา

ประโยชน์ของ search engine มีอะไรบ้าง?

จากสถิติในอินเตอร์เน็ทนั้น มีเว็บไซต์ (ที่ยังใช้งานได้) อยู่มากกว่า 625 ล้านเว็บ! ถ้าไม่มี Goolge หรือ Bing เวลาต้องการหาข้อมูลออะไรสักอย่าง เห็นทีจะต้องสิ้นเปลืองเวลาชีวิตกันมากโขอยู่ ในหัวข้อนี้เรามาดูประโยชน์หลักๆ ที่เราได้จาก search engines กัน

1. ประหยัดเวลา

ถาม: สมัยก่อนตอนที่ยังไม่มี internet เวลาที่คุณต้องการหาข้อมูล ทำยังไงครับ?

ตอบ: สมุดหน้าเหลือง! ก็ไล่เปิดไปสิ แล้วก็โทรไปถามสิ (ถึกมาก) ถาม: สมัยก่อนตอนที่มี internet แล้ว แต่ยังไม่มี Google หรือ Yahoo เวลาที่คุณต้องการหาอะไรทำยังไงครับ?

ตอบ: ก็ต้องไล่เข้าไปทีละเว็บ เช็คไปกว่าจะเจอเว็บที่มีเนื้อหาตรงใจ

สรุปคือ เสียเวลามากกก ถ้าเราไม่มี search engines

ทุกวันนี้จะหาอะไรที แป๊ปเดียวเสร็จ บางทีหา 10 อย่างใน 5 นาที ก็ยังหาเจอ

2. ความแม่นยำ

ได้พูดกันไปบ้างแล้วเรื่องการคำนวณความแม่น ของ search engines ตอนนี้เรามาดูตัวอย่างให้เห็นภาพกันดีกว่า ว่าเขาแม่นยังไง

สมมุติว่าคุณหิว และอยากกินพิซซ่า คุณก็เปิด Google แล้วพิมพ์คำว่า “พิซซ่า” ลงไป ผลลัพธ์ที่ได้ในหน้า 1 เต็มไปด้วยเว็บขาย Pizza ที่คุณสามารถโทรสั่ง (เช่น 1112) หรือสั่งออนไลน์ให้มาส่งถึงบ้านก็ได้

ต่อไปเป็นผลลัพธ์หน้า 3 ของกูเกิืล เป็นหน้าเพจที่มีรูปพิซซ่าเต็มไปหมด ให้เลือกโหลดมาใช้งาน

ลองจินตนาการดูนะครับ ถ้าหน้าแรกของผลการค้นหาเต็มไปด้วยเว็บ download รูป pizza ในขณะที่คุณอยากบริโภคฮาวายเอี่ยนสักถาดนึง แบบนี้อาจมีถอดใจกันบ้าง ต้องปั่นจักรยานไปซื้อก๋วยจั๊บ ที่ปากซอย มาซดประทังชีวิตไปก่อน ก็เป็นได้

3. ความสามารถในการหาขั้นสูง

หลายท่านใช้งาน Google อยู่ทุกวันแต่ยังไม่ทราบว่า มีวิธีหาอะไรที่ซับซ้อนมากกว่าการที่ใส่ คำค้นหาลงไปเฉยๆ เช่น ถ้าคุณต้องการให้มีคำที่คุณต้องการค้นหาอยู่ใน URL ของเว็บด้วย คุณก็ใช้ search operator “inulr:”, หรือ ต้องการหาเว็บที่มีคำที่คุณต้องการ ให้อยู่ใน title ของหน้า คุณก็ใช้ “intitle:” เป็นต้น

4. ฟรี!

Search engines ยอดนิยมอย่าง Google หรือ Bing เองก็ดี จริงๆ แล้วไม่ฟรี !!

คือเขาเก็บตังค์นะครับ แต่ไม่ได้เก็บกับผู้ใช้ แต่ไปเก็บกับผู้ที่มาลงโฆษณา ดังนั้นเนี่ยในฐานะ user เรามีเครื่องมือค้นหาที่เจ๋งๆ ให้ใช้กันฟรีๆ ต้องยอมรับว่า ชีวิตดี๊ดี มีประโยชน์

10 ตัวอย่าง รายชื่อ Search Engine ยอดนิยม

ในหัวข้อนี้ขอยกตัวอย่างเว็บไซต์ search engine สัก 10 ราย ที่ชาวโลกเขานิยมใช้กันในปัจจุบัน เรียงตามลำดับความนิยมจากมากไปน้อย (ข้อมูลจาก eBiz ปี 2021)

Google กูเกิ้ล search engine ยอดนิยม

อันดับ 1 ของไทย และและของโลก

จำนวนผู้เข้าใช้งานต่อเดือน: 1,800,000,000

Bing search engine ถูกสร้างโดยบริษัท Microsoft (เป็นที่รู้จักกันดีในนามของบริษํทที่ผลิตระบบปฏิบัติการ Windows)

Bing ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก MSN Search

จำนวนผู้เข้าใช้งานต่อเดือน: 500,000,000

ยาฮู (Yahoo) เสริชเอ็นจิ้นเก่าแก่อีกตัวนึง มาก่อน Google เสียอีก สำนักงาน Yahoo ตั้งอยู่ที่ Sunnyvale, California ในวันที่ 29 มิถุนายน 2009 Yahoo ได้ตกลงกับ Bing ในการเอากลไกหลักในการให้บริการในฐานะ Seach engine

จำนวนผู้เข้าใช้งานต่อเดือน: 490,000,000

Baidu เป็น search engine สัญชาติจีน

เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มกราคม ปี 2000 สำนักงานใหญ่อยู่ที่ปักกิ่ง

จำนวนผู้เข้าใช้งานต่อเดือน: 480,000,000

Ask เป็นเสริชเอ็นจิ้นของ Ask.com (เดิมรู้จักในชื่อของ Ask Jeeves) สร้างโดย Garret Gruener และ David Warthen ทั้ง 2 สร้าง Ask ขึ้นมา

เพราะมีความเชื่อว่าผู้คนหาสิ่งต่างๆ ด้วยการตั้งคำถาม จึงเป็นที่มาของ Ask ซึ่งแปลเป็นไทยว่า ถาม นั่นเอง

จำนวนผู้เข้าใช้งานต่อเดือน: 300,000,000

AOL เป็นเว็บท่า (Portal)

สัญชาติอเมริกัน ใน New York

จำนวนผู้เข้าใช้งานต่อเดือน: 200,000,000

DuckDuckGo คือ Search Engine ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเน้นการป้องกันเรื่องข้อมูลและความเป็นส่วนตัว (Privacy) ของผู้ใช้บริการ

สร้างขึ้นโดย Gabriel Weinberg ในปี 2008

จำนวนผู้เข้าใช้งานต่อเดือน: 150,000,000

Wolfram Alpha คือ search engine ที่มีหลักการมาจาก Computational Knowledge

ซึ่งก็คือเป็นเครื่องมือค้นหาที่สั่งสมคำตอบจากการถาม สร้างโดยบริษัท Wolfram Alpha

จำนวนผู้เข้าใช้งานต่อเดือน: 35,000,000

Yandex เว็บให้บริการการค้นหาในอินเตอร์เน็ท อันดับ 1 ของชาวรัสเซีย คือราว 51.2% (ในปี 2015)

สร้างขึ้นโดยบริษัท Yandex

จำนวนผู้เข้าใช้งานต่อเดือน: 30,000,000

web crawler เว็บให้บริการ search ที่เก่าแก่ที่สุด (ที่ยังให้บริการอยู่) ให้บริการวันแรก ในวันที่ 20 เมษายน 1994

สร้างโดย Blucora หรือแต่ก่อนรู้จักกันในชื่อ Infospace

จำนวนผู้เข้าใช้งานต่อเดือน: 25,000,000

ส่วนแบ่งการตลาดเว็บไซต์ที่ให้บริการเสิร์ชเอนจิ้นในประเทศไทย

ในไทยเอง ที่นิยมใช้ก็จะเป็น Google.co.th ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ ประมาณ 99% (ปี 2018)

ตามมาแบบห่างๆ อันดับ 2 และ 3 คือ Yahoo, และ Bing ตามลำดับ โดยมี market share รวมกันแล้วได้ประมาณ 1% เท่านั้น

So you have finished reading the ประโยชน์ของ search engine topic article, if you find this article useful, please share it. Thank you very much. See more: ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของ search engines, ยกตัวอย่างเว็บไซต์ที่ให้บริการ search engine, เว็บไซต์ที่ให้บริการ search engine, ประเภทของ search engine, จงบอกชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการ search engine มา 5 ชื่อ, search engine site ที่นิยมในปัจจุบันมีอะไรบ้าง, Search engine, search engine ของไทย มีเว็บอะไรบ้าง