Show
การคิด BTU แอร์อย่างง่ายๆ คิดจะติดแอร์ แล้วจะใช้แอร์ขนาดกี่บีทียูดีลองมาดูการหาค่า BTU แอร์อย่างง่ายๆกันครับ การ คำนวณโดยปกติช่างติดตั้งจะใช้ขนาดของพื้นที่คูณด้วย 650 ~ 800 BTU/ตร.ม. ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆด้วยเช่น เป็นอาคารกี่ชั้น ผนังเป็นกระจกหรือเปล่า ฯลฯ ขนาดพื้นที่ 10-14 ตารางเมตร ควรใช้เครื่องปรับอากาศขนาด 9,000BTU ขนาด พื้นที่ 14-19 ตารางเมตร ควรใช้เครื่องปรับอากาศขนาด 12,000 BTU ขนาด พื้นที่ 21-28 ตารางเมตร ควรใช้เครื่องปรับอากาศขนาด 18,000 BTU ขนาด พื้นที่ 26-34 ตารางเมตร ควรใช้เครื่องปรับอากาศขนาด 22,000 BTU ขนาด พื้นที่ 29-38 ตารางเมตร ควรใช้เครื่องปรับอากาศขนาด 25,000 BTU ขนาด พื้นที่ 36-46 ตารางเมตร ควรใช้เครื่องปรับอากาศขนาด 30,000 BTU ปกติ จะมีการคำนวณบวก - ลบไม่เกิน 5% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับที่ตั้ง ,ตำแหน่งของห้อง และ ลักษณะการใช้งาน ตัวอย่างเช่น ห้อง นอน มีขนาด 20 ตารางเมตร มีการใช้งานในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งห้องจะไม่มีความร้อนจากแสงแดด ทำให้ห้องไม่ร้อนเหมือนตอนกลางวัน มีผู้อยู่ อาศัยในห้องนอนเพียง 1 ถึง 2 คนเท่านั้นในห้อง และไม่มีการเปิดปิดห้องบ่อยเพราะห้องจะปิดสนิทเป็นเวลานานกว่า 6ชั่วโมง ทำให้ภาระทำความเย็นของ เครื่องปรับอากาศไม่มากนักใช้ค่า 600 BTU/ตร.ม. แสดงวีธีการคำนวณดังนี้ 20ตร.ม.X 600 BTU/ตร.ม.=12,000 BTU ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ห้อง ทำงาน มีขนาด 20 ตารางเมตร มีการใช้งานในช่วงเวลากลางวันมีแสงแดดส่องถึงห้องจึงมีความร้อนจากแสงแดดมาก มีคนทำงานในห้องหลายคน และมีการเดินเข้าออกห้องตลอดทั้งวัน ทำให้เครื่องปรับอากาศมีภาระทำความเย็นสูงมาก จึงใช้ค่า 800BTU/ตร.ม แสดงวีธีการคำนวณดังนี้ 20ตร.ม.X 800 BTU/ตร.ม.=16,000 BTU ***แต่อย่างไรก็ดี ควรปรึกษาช่างติดตั้งผู้เชี่ยวชาญก่อนเลือกขนาดแอร์ เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อการใช้งาน การเลือกขนาดบีทียูแอร์ – จะใช้แอร์ขนาดไหนดี ถึงจะเหมาะกับขนาดห้อง?BTU คืออะไรBTU ย่อมาจาก British Thermal Unit คือขนาดความสามารถการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ โดย 1 ตันความเย็น = 12000 BTU เราควรเลือกขนาดของเครื่องปรับอากาศให้พอเหมาะกับห้อง หาก BTU สูงไป คอมเพรสเซอร์จะตัดบ่อย ความชื้นในห้องสูง ทำให้ไม่สบายตัว ราคาแพง และสิ้นเปลืองพลังงาน หาก BTU ต่ำไป คอมเพรสเซอร์จะทำงานหนัก ต้องทำงานตลอดเวลา เพราะความเย็นไม่ได้ตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ สิ้นเปลืองพลังงาน และอายุการใช้งานแอร์ลดลง ตารางการเปรียบเทียบการเลือกขนาด BTU กับพื้นที่ห้อง
** เป็นการเปรียบเทียบโดยประมาณ ทั้งนี้ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นเพิ่มเติม ปัจจัยที่ควรพิจารณาเพิ่มเติมในการเลือกขนาดบีทียูแอร์1. จำนวนและขนาดของหน้าต่าง 2. ทิศที่แดดส่องหรือทิศที่ตั้งของห้อง 3. วัสดุหลังคามีฉนวนกันความร้อนหรือไม่ 4. จำนวนคนทีใช้งานในห้อง 5. จำนวน และประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆภายในห้อง เช่นคอมพิวเตอร์ หรือไดร์เป่าผม ที่ทำให้เกิดความร้อนภายในห้อง
ตัวอย่าง ห้องนอนมีขนาดกว้าง 3.5 เมตร ยาว 4.5 เมตร ต้องใช้แอร์ขนาดเท่าไร (ข้อมูลเพิ่มเติม ห้องอยู่ทางทิศตะวันตก มีเครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี หลอดไฟฟ้า) ใช้ค่าตัวแปร = 800 สูตร พื้นที่ห้อง x ค่าตัวแปร (ห้องนอน) BTU = 3.5*4.5 *800 = 12600 BTU การคำนวณห้องกรณีห้องมีฝ้าสูง
ตัวอย่าง ห้องนอนมีขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 5.5 เมตร สูง 4 เมตรต้องใช้แอร์ขนาดเท่าไร (ข้อมูลเพิ่มเติม ห้องอยู่ทางทิศตะวันออก มีเครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี หลอดไฟฟ้า) ใช้ค่าตัวแปร = 800 BTU = ปริมาตรของห้อง (กว้าง x ยาว x สูง)/3 x ค่าตัวแปร BTU = 5.5 * 5 * 4 *800 / 3 = 29333 BTU ต้องใช้แอร์ขนาด 30000 บีทียู ขึ้นไป
ห้องขนาด 32 ตารางเมตรใช้แอร์กี่ BTU21,000 BTU. ห้องขนาด 28-35 ตร.ม. ห้องขนาด 25-32 ตร.ม. 24,000 BTU.
ห้อง 25 ตารางเมตรใช้แอร์กี่บีทียู20-24 ตรม. แอร์ควรมีขนาด 18,000 BTU. 23-27 ตรม. แอร์ควรมีขนาด 20,000 BTU. 25-29 ตรม. แอร์ควรมีขนาด 22,000 BTU. 28-32 ตรม. แอร์ควรมีขนาด 24,000 BTU.
แอร์ 9000 BTU ได้กี่ตารางเมตรสำหรับเครื่องปรับอากาศขนาด 9,000 BTU นับเป็นเครื่องปรับอากาศที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มักจะถูกติดในห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะสำหรับห้องขนาด 12 – 15 ตร.ม. สำหรับห้องปกติ ที่ไม่ได้โดนแดดบ่อย และขนาด 10 – 13 ตร.ม. สำหรับห้องที่โดนแดดเป็นประจำ เช่น ห้องนอนขนาดเล็ก ห้องทำงานในบ้าน เป็นต้น
แอร์ กี่ BTU เหมาะกับห้องขนาดเท่าไหร่ห้องนั่งเล่น ค่า Cooling load เท่ากับ 750-850 BTU ต่อตารางเมตร ห้องนอน ค่า Cooling load เท่ากับ 700-750 BTU ต่อตารางเมตร ห้องทำงาน ค่า Cooling load เท่ากับ 800-900 BTU ต่อตารางเมตร ห้องครัว ค่า Cooling load เท่ากับ 900-1,000 BTU ต่อตารางเมตร
|