ปุ๋ยเคมีเป็นที่นิยมในวงการเกษตรมาอย่างต่อเนื่องยาวนานด้วยเพราะสะดวกต่อการใช้งาน หาง่าย และให้ผลเร็วในระยะสั้น แต่จะส่งผลเสียต่อดินปลูกหากใช้ต่อเนื่องยาวนานถึงแม้จะมีราคาต่อหน่วยการลงทุนสูงปุ๋ ยเคมีก็ยังเป็นทางเลือกที่เกษตรกรส่วนใหญ่เลือกใช้ก่อนการจัดการด้านอื่น ๆ จึงทำให้ปัจจุบันต้นทุนในการผลิตภาคการเกษตร สูงขึ้น สวนราคาผลิตผลทางการเกษตรที่ปรับขึ้นลงตามสภาพเศรษฐกิจ จนเกิดสภาวะหนี้สินภาคกาตามมา ดังนั้น การผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากวัสดุที่มีในท้องถิ่น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เกษตรกรรุ่นใหม่ให้ความสำคัญและหันมาทำปุ๋ยใช้เองกันมากขึ้นเพื่อลดต้นทุนและเกาะกระแสตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ ซึ่งนายจรูญ มาแก้ว ประธานกรรมการศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านในไร่ ตำบลลานสกา อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ก็เป็นอีกหนึ่งแกนนำกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากสับปะรดใช้บำรุงพืช ซึ่งมีประโยชน์ในการปรับปรุงดิน และ ทำให้คุณภาพดินปลูกดีขึ้นจนผลผลิตพืชงอกงามโดยไม่ต้องพึ่งพาปุ๋ยเคมี และ ยินดีเผยแพร่ข้อมูลไว้เป็นวิทยาทานให้แก่คนรุ่นหลังได้นำไปใช้ไว้ดังนี้ ++ สูตรปุ๋ย ++ 1. *เปลือกสับปะรดค่อนข้างฉ่ำจำนวน 3 ส่วน 2. กากน้ำตาล 3 ส่วน 3. น้ำมะพร้าว 1 ส่วน 4. ถังขนาด 10-15 ลิตร 1 ใบ *ตาสับปะรดมีจุลินทรีย์ชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์มากจึงนำมาหมักเพื่อผลิตเชื้อจุลินทรีย์ ++ วิธีการทำ ++ นำเปลือกสับปะรดมาสับให้ละเอียด เนื้อที่เกือบเน่าหรือเนื้อดีใส่รวมเข้ากันก็ได้ จำนวน 3 ส่วน เช่น 30 กิโลกรัม นำกากน้ำตาล 1 ส่วน(10 กก.) ใส่ลงในน้ำมะพร้าว 1 ส่วน(10 กก.)คนให้เข้ากันแล้วเทลงในสับปะรด คนให้เข้ากันหมักทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน คนทุกวัน ถ้าเห็นว่า เปลือกสับปะรดจมหมดแล้วถือว่าใช้ได้ จากนั้นนำมากรองด้วยผ้าขาว จะได้ น้ำหมักหัวเชื้อจุลินทรีย์ธรรมชาติ ( ถังหมักควรใช้ถังพลาสติก ) ++ การนำไปใช้ ++ 1.นำน้ำหมักเชื้อจุลินทรีย์ 1 ลิตร ส่วนต่อ 20 ลิตร(ใช้กับไม้ผล) 2.นำน้ำหมักเชื้อจุลินทรีย์ 1 ลิตร ส่วนต่อ 30 ลิตร(ใช้กับไม้ดอก) **ผสมให้เข้ากันแล้วนำไปราดบริเวณโคนต้นไม้ทั่วทรงพุ่มหรือฉีดพ่นใบ ใช้ สัปดาห์ละครั้ง ++ ประโยชน์ที่ได้รับ ++ 1.เวลาหมักแล้วจะเกิดจุลินทรีย์เมื่อนำไปราดที่วัชพืชจุลินทรีย์จะกินวัชพืชและจุลินทรีย์จะขับถ่ายของเสียออกมาที่เราเรียกว่าปุ๋ยหรือการย่อยสลาย จะทำให้ดินมีสภาพดีขึ้นด้วย 2.ลดต้นทุนการผลิต(ปุ๋ย) 3.เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สภาพดินอุดมสมบูรณ์ ไร้สารพิษ ไม่มีสารเคมีตกค้างในผลไม้ และ ดิน แหล่งอ้างอิงข้อมูล : จรูญ มาแก้ว. ประธานกรรมการศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านในไร่. สัมภาษณ์, 30 มีนาคม 2555.
้บ้านไหนสับปะรดเยอะ มีเปลือกสับปะรด สามารถนำมาทำน้ำหมักสารพัดประโยชน์ได้ ++ วิธีการใช้ ++ - นำน้ำหมัก 30 ซีซี (3 ช้อนโต๊ะ) ต่อ น้ำ 1 ลิตร แช่ผ้า 20-30 นาที ซักขยี้แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด - น้ำหมัก:น้ำ = 1:1000 นำมารดน้ำต้นไม้ - ส่วนกากนำไปใส่บริเวณโคนต้น ++ การเจือจางน้ำหมัก ++ น้ำหมักสับปะรด 1 ส่วน น้ำตาลทราย 1 ส่วน และน้ำ 10 ส่วน หมักไว้อย่างน้อย 3-7 วัน จึงสามารถนำไปใช้ผสมน้ำรดต้นไม้ได้ ข้อดี : 1. ทำความสะอาดส่วนต่าง เช่น ล้างห้องน้ำ ล้างรถ เช็ดกระจก ซักผ้า 2. นำผสมกับน้ำรดต้นไม้ ทำให้ต้นไม้สมบูรณ์ 3. ทำปุ๋ย ใช้ในการเกษตร 4. ใช้ใส่แผลฟกช้ำ ช่วยบรรเทาอาการ 5. ประหยัดค่าใช้จ่าย 6. ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม จากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ Farmer Info ของสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2555 ในพื้นที่ตำบลชุมโค อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ได้พบกับคุณพิชัย เหลือคณาสุพร เกษตรกรผู้เชี่ยวชาญด้านการทำน้ำหมัก ผลไม้ที่หาได้ง่ายและมีมากในหลายๆจังหวัดนั่นคือสับปะรด ระยะนี้ผลผลิตสับปะรดออกจำนวนมากและสับปะรดบางชนิดไม่มีความต้องการจากผู้บริโภค
เนื่องจากมีความเปรี้ยวมากเกินกว่าที่จะรับประทานสดๆได้ จึงมีเทคนิคการทำน้ำหมักจากสับปะรดเพื่อใช้ในการเกษตรและใช้ในครัวเรือนด้วยวิธีการง่ายๆ ดังนี้ ++ วิธีการใช้ ++ ++ การเจือจางน้ำหมัก ++
จากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ Farmer Info ของสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2555 ในพื้นที่ตำบลชุมโค อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ได้พบกับคุณพิชัย เหลือคณาสุพร เกษตรกรผู้เชี่ยวชาญด้านการทำน้ำหมัก ผลไม้ที่หาได้ง่ายและมีมากในหลายๆจังหวัดนั่นคือสับปะรด ระยะนี้ผลผลิตสับปะรดออกจำนวนมากและสับปะรดบางชนิดไม่มีความต้องการจากผู้บริโภค
เนื่องจากมีความเปรี้ยวมากเกินกว่าที่จะรับประทานสดๆได้ จึงมีเทคนิคการทำน้ำหมักจากสับปะรดเพื่อใช้ในการเกษตรและใช้ในครัวเรือนด้วยวิธีการง่ายๆ ดังนี้
++ วิธีการใช้ ++ ++ การเจือจางน้ำหมัก ++
จากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ Farmer Info ของสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2555 ในพื้นที่ตำบลชุมโค อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ได้พบกับคุณพิชัย เหลือคณาสุพร เกษตรกรผู้เชี่ยวชาญด้านการทำน้ำหมัก ผลไม้ที่หาได้ง่ายและมีมากในหลายๆจังหวัดนั่นคือสับปะรด ระยะนี้ผลผลิตสับปะรดออกจำนวนมากและสับปะรดบางชนิดไม่มีความต้องการจากผู้บริโภค
เนื่องจากมีความเปรี้ยวมากเกินกว่าที่จะรับประทานสดๆได้ จึงมีเทคนิคการทำน้ำหมักจากสับปะรดเพื่อใช้ในการเกษตรและใช้ในครัวเรือนด้วยวิธีการง่ายๆ ดังนี้
++ วิธีการใช้ ++ ++ การเจือจางน้ำหมัก ++
|