สาระสำคัญ/ความคิดรวมยอดบทละครเรื่องรามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก ได้รับเค้าเดิมมาจากวรรณคดีเรื่อง มหากาพย์รามายณะ ของอินเดีย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเป็นผู้พระราชนิพนธ์ แต่งด้วยบทประพันธ์ 3 ปะเภท ได้แก่ ร่ายดั้น (เปิดเรื่อง) กลอนบทละคร (ดำเนินเรื่อง) และโคลงกระทู้กับโคลงสี่สุภาพ (ปิดเรื่อง) มีจุดประสงค์ในการแต่งเพื่อให้ความบันเทิง ปลุกใจประชาชนให้กล้าหาญ หากผู้เรียนได้เรียนรู้จะสามารถนำข้อคิดที่สะท้อนสังคมไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตได้ ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้ตัวชี้วัด ท 5.1 ม.2/1 สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน จุดประสงค์ การวัดผลและประเมินผล- แบบประเมินการสรุปความรู้จากเรื่อง บทละครเรื่องรามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก ในรูปแบบแผนผังความคิด เนื้อเรื่องย่อ นนทกนั่งประจำอยู่ที่บันไดของเขาไกลลาศ โดยมีหน้าที่ล้างเท้าให้แก่เหล่าเทวดาที่มาเข้าเฝ้าพระอิศวร ได้ยื่นเท้าให้ล้างแล้วมักแหย่เย้าหยอกล้อ นนทกอยู่เป็นประจำ ด้วยการลูบหัวบ้าง ถอนผมบ้างจนกระทั่งหังโล้นทั้งศรีษะ นนทกแ้นใจมากแต่ว่าตนเองไม่มีกำลังจะสู้ได้ จึงไปเข้าเฝ้าพระอิศวร แล้วกราบทูลว่า ตนได้ทำงานรับใช้พระองค์มานานถึง 10 ล้านปี ยังไม่เคยได้รับสิ่งตอบแทนใดๆเลย จึงทูลขอให้นิ้วเพชร มีฤทธฺ์ชี้ผู้ใดก็ให้ผู้นั้นตาย พระอิศวรเห็นว่านนทกปฏิบัติหน้าที่รับใช้พระองค์มานานจึงประทานพรให้ตามที่ขอ ไม่นานนักนนทกก็มีใจกำเริบ เพียงแต่ถูกเทวดามาลูบหัวเล่นเช่นเคย นนทกก็ชี้ให้ตายเป็นจำนวนมาก พระอิศวรทรงทราบก็ทรงกริ้ว โปรดให้พระนาายณ์ไปปราบ พระนารายณ์ แปลวเป็นนางฟ้ามายั่วยวน นนทกนึกรักจึงเกี่ยวนาง นางแปลงจึงชักชวนให้นนทกรำตามนางก่อนจึงจะรับรัก นนทกรำตามไปจนถึงท่ารำที่ใช้นิ้วเพชรชี้ขาตนเองนนทกก็ลมลง จากนั้นนนทกเห็นนางแปลงร่างเป็นพระนารายณ์ จึงตอบว่า พระนารายณ์ ว่าเอาเปรียบตนเพราะว่าพระนารายณ์มีอำนาจ มีถึง 4 กร แต่ตนมีแค้ 2 มือ และเหตุใดจึงมาทำอุบายหลอกลวงตนอีก พระนารายณ์จึงท้าให้นนทก ไปเกิดใหม่ให้มี 20 มือ แล้วพระองค์จะตามไปเกิดเป็นมนุษย์มีเพียง 2 มือ ลงไปสู้กัน หลังจากที่พระนารายพูดจบก็ใช้พระแสงตรีตัดศรีษะนนทกแล้วนนทกก็สิ้นใจตาย ชาติต่อมานนทกจึงได้ไปเกิดเป็นทศกรรฐ์ ส่วนพระนารายณ์ก็อวตารลงมาเกิดเป็นพระราม ผู้แต่ง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชมีพระนามเดิมว่า ด้วง พระชนกคือหลวงพินิจอักษร กับพระชนนีคือ ดาวเรือง ทรงขึ้นครองราชย์หลังจากสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จสวรรคต เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ตลอดรัชกาลพระองค์ทรงทำสงครามทั้งกับพม่าและปราบหัวเมืองต่าง ๆ ทรงสร้างระเบียบการปกครอง ฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ศิลปะศาสตร์ และอักษรศาสตร์ รวบรวมชำระกฎหมายตราสามดวงจนสมบูรณ์ และพระองค์ยังเป็นกวีโดยทรงพระราชนิพนธ์วรรณคดีไว้หลายเรื่อง ได้แก่ รามเกียรติ์ ดาหลัง อุณรุท และกลอนนิราศ เรื่องรบพม่าที่ท่าดินแดง ที่มาของเรื่อง นำเค้าเรื่องมาจากมหากาพย์รามายณะของอินเดีย จุดมุ่งหมายในการแต่ง เพื่อรวบรวมรามเกียรติ์ให้สมบูรณ์ และเพื่อแสดงพระเกียรติของพระรามหรือพระมหากษัตริย์ไทย ลักษณะคำประพันธ์ แต่งด้วยกลอนบทละคร กลอนบทละคร เป็นคำประพันธ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งแต่งขึ้นเพื่อใช้ในการเล่นละคร ต้องอาศัยทำนองขับร้องและเครื่องดนตรีประกอบ แต่งเสร็จต้องนำไปซักซ้อมปรับปรุง ดังนั้น จำนวนคำของแต่ละวรรคจึงไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับจังหวะขับร้องเป็นสำคัญ ว่าโดยหลักมีแต่ ๖ คำ ถึง ๙ คำ แต่ที่ปรากฏว่าใช้มากสุด คือ ๖ คำ เช่นเรื่องรามเกียรติ์ เฉพาะวรรคแรกขึ้นต้น ใช้ ๒ คำ ถึง ๔-๕ คำ บางคราวก็ส่งสัมผัสไปยังวรรคที่ ๒ บางคราวก็ไม่ส่ง คำที่ใช้เช่น เมื่อนั้น, บัดนี้, น้องเอ๋ยน้องรัก แม้กลอนสดับ จะใช้คำพูดเพียงสองคำ ก็ถือถือว่าเต็มวรรค โดยลักษณะสัมผัสในวรรคและนอกวรรค นิยมใช้แบบกลอนสุภาพ แต่งเป็นตอน ๆ พอจบตอนหนึ่ง ขึ้นตอนต่อไปใหม่ ไม่ต้องรับสัมผัสไปถึงตอนที่จบ เพราะอาจเปลี่ยนทำนองตามบทบาทตัวละคร ที่ขึ้นต้นว่า เมื่อนั้น ใช้สำหรับพระเอกหรือผู้นำในเรื่อง บัดนั้น ใช้สำหรับเสนา กลอนนี้เป็นกลอนผสม คือ กลอน ๖ กลอน ๗ กลอน ๘ หรือ กลอน ๙ ผสมกันตามจังหวะ มีแผนผังและตัวอย่างดังนี้ เรื่องย่อ นนทกมีหน้าที่ล้างท้าเทวดาอยู่ที่เชิงเขาไกรลาส เมื่อเทวดาพากันไปเฝ้าพระอิศวร พวกเทวดาชอบข่มเหงนนทกอยู่เป็นประจำด้วยการลูบหัวบ้าง ตบหัวบ้าง จนกระทั่งผมร่วงหมดนนทกแค้นใจเป็นอันมาก จึงไปเฝ้าพระอิศวร กราบทูลว่าตนได้รับใช้มานาน ยังไม่เคยได้รับสิ่งตอบแทนเลย จึงทูลขอให้นิ้วเป็นเพชร มีฤทธิ์ชี้ผู้ใดก็ให้ผู้นั้นตายได้ พระอิศวรก็ประทานให้ตามขอ เมื่อเทวดามาลูบศีรษะเล่นเช่นเคย นนทกก็ชี้ให้ตายลงเป็นจำนวนมาก พระอิศวรทรงทราบก็กริ้ว โปรดให้พระนารายณ์ไปปราบ พระนารายณ์แปลงเป็นนางฟ้ามายั่วยวน นนทกนักรักจึงเกี้ยวนาง นางแปลงจึงชวนให้นนทกรำตามนางก่อนจึงจะรับรัก นนทกตกลงรำตามไปจนถึงท่ารำที่ใช้นิ้งเพชรชี้เข่าตนเอง นนทกล้มลง ก่อนตายนนทกเห็นนางแปลงปรากฏร่างเป็นพระนารายณ์ จึงต่อว่าพระนารายณ์มีอำนาจ มีถึง ๔ กร เหตุใดจึงต้องทำอุบายมาหลอกลวงตน พระนารายณ์จึงให้นนทกไปเกิดใหม่ให้มีถึง ๒๐ มือ แล้วพระองค์จะตามไปเกิดเป็นมนุษย์มีเพียง ๒ มือลงไปสู้ด้วย นนทกจึงไปเกิดเป็นทศกัณฐ์ ส่วนพระนารายณ์ก็อวตารลงมาเป็นพระราม แนวคิด อำนาจเมื่ออยู่กับผู้ที่ไม่รู้จักใช้ย่อมเป็นโทษ คุณค่างานประพันธ์ ๑.คุณค่าด้านวรรณศิลป์ การดำเนินเรื่องรวดเร็ว กระชับ ใช้คำชมความงามของนางแปลงได้อย่างเห็นภาพพจน์ เหมาะสำหรับการนำไปแสดงโดยมีการขับร้องและใช้ดนตรีประกอบ ๒.คุณค่าด้านสังคม สังคมจะสงบสุขอยู่ได้ถ้าคนเรามีน้ำใจต่อกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ไม่ข่มเหงน้ำใจกัน แบบฝึกหัดที่ ๑ ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย / หน้าข้อความที่ถูกต้อง และ X หน้าข้อความที่ไม่ถูกต้อง ตามข้อเท็จจริง ....... ๑. รามเกียรติ์มีมาแต่ครั้งสุโขทัย ดังปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ ๑ เรื่องถ้ำพระราม ....... ๒. รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าให้นักปราชญ์ราชบัณฑิตช่วยกันแต่งบทละครเรื่องรามเกียรติ์ขึ้นมาใหม่ให้เป็นฉบับ ที่สมบูรณ์ ....... ๓. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีพระนามเดิมว่า บุญมา ทองด้วง ....... ๔. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีพระชนกคือ หลวงพินิจอักษร กับ พระชนนีคือ ดาวเรือง ....... ๕. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเคยเป็นหลวงยกบัตรเมืองราชบุรี ....... ๖. สมเด็จพระอัครมเหสีมีพระนามเดิมว่า นาค ....... ๗. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๓๒๕ ....... ๘. ตลอดรัชกาลที่ ๑ พระองค์ทรงทำสงครามกับพม่าถึง ๙ ครั้ง ....... ๙. รัชกาลที่ ๑ สวรรคตเทื่อ พ.ศ. ๒๓๕๒ รวมพระชนมายุได้ ๗๓ พรรษา ....... ๑๐. นิราศรบพม่าที่ท่าดินแดง บทละครเรื่องอุณรุท และไตรภูมิโลกวินิจฉัย เป็นพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๑ แบบฝึกหัดที่ ๒ ให้นักเรียนจับคู่คำศัพท์และความหมายโดยนำตัวอักษรทางขวามือมาใส่ในช่องว่างทางซ้ายมือให้ถูกต้องเหมาะสม
แบบฝึกหัดที่ ๓ ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย X ทับตัวอักษรที่เป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุด ๑. ธรรมเนียมปฏิบัติของเหล่าเทวดาก่อนที่จะเข้าเฝ้าพระอิศวรจะต้องทำอย่างไร ก.สรงน้ำแต่งองค์ทรงเครื่อง ข.นนทกล้างเท้าให้ ค.ปรึกษาหารือกันกันก่อน ง.รอเพื่อนเทวดาให้ครบเพื่อจะได้เข้าเฝ้าพร้อมกัน ๒. “ผมโกร๋นโล้นเกลี้ยงถึงเพียงหู ดูเงาในน้ำแล้วร้องไห้” ข้อใดเป็นเหตุให้นนทกมีลักษณะเช่นนั้นมากที่สุด ก.เพราะเหล่าเทวดาตบหัว ข.เพราะเหล่าเทวดาลูบหัว ค.เพราะเหล่าเทวดาถอนผม ง.เพราะเหล่าเทวดาลูบหน้า ๓. นนทกคิดแค้นใจเรื่องใดมากที่สุด จึงมาเฝ้าพระอิศวร ก.เรื่องถูกถอนผม ข.คิดว่าตนถูกดูหมิ่น ค.ตาของตนแดง ง.ภาระหน้าที่อันต่ำต้อย ๔. “ว่าพระองค์เป็นหลักธาตรี ย่อมเมตตาปรานีทั่วพักต์ ผู้ใดทำชอบต่อเบื้องบาท ก็ประสาททั้งพรยศศักดิ์” ใครเป็นผู้พูด และเป็นลักษณะของตัวละครใด ก.นนทก – พระอิศวร ข.นนทก – พระอินทร์ ค.พระอินทร์ – พระอิศวร ง.เทวดา – พระอิศวร ๕. “วันนี้จะได้เห็นกัน ขบฟันแล้วชี้นิ้วไป” เหตุใดนนทกจึงทำเช่นนั้น ก.เพราะถูกข่มเหงรังแก ข.เพราะโกรธที่ถูกสั่นหัว ค.เพราะถือว่าตนมีนิ้วเพชร ง.เพราะต้องการจะแก้แค้น ๖. “พระองค์ผู้ทรงศักดาเดช ไม่โปรดเกศแก่ข้าบทศรี กรรมเวรสิ่งใดดั่งนี้ ทูลพลางโกศีรำพัน” นนทกต้องการสิ่งใดจึงกล่าวเช่นนั้น ก.ต้องการให้พระอิศวรช่วยเหลือตนบ้าง ข.ต้องการให้พระอิศวรประหลาดใจ ค.ต้องการให้พระอิศวรสงสารตนบ้าง ง.ต้องการให้พระอิศวรแสดงฤทธิ์เดช ๗. ผู้ใดถูกนนทกชี้ด้วยนิ้วเพชรจนถึงแก่ชีวิตเป็นลำดับแรก ก.เทวดา ข.พญาครุฑ ค.พญานาค ง.นางฟ้า ๘. ผู้ใดอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ และแก้ไขอย่างไร ก.พระนารายณ์ – รีบเข้าเฝ้าพระอิศวร ข.พระอินทร์ – รีบเข้าเฝ้าพระอิศวร ค.พระสุรัสวดี – รีบเข้าเฝ้าพระนารายณ์ ง.พระอินทร์ – รีบเข้าเฝ้าพระนารายณ์ ๙. พระอิศวรส่งใครไปปราบนนทก ก.พระอินทร์ ข.พญาครุฑ ค.พระนารายณ์ ง.พระพรหม ๑๐. “ถึงโฉมองค์อัครลักษมี พระสุรัสวดีเสน่หา สิ้นทั้งไตรภพจบโลกา จะเอามาเปรียบไม่เทียบทัน” คำประพันธ์ดังกล่าวหมายถึงตัวละครใด ก.สุวรรณอัปสร ข.พระมเหสีของพระอิศวร ค.นางฟ้า ง.นางสีดา |