แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊ค lenovo ชาร์จไม่เข้า

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Notebook Lenovo ชาร์จไม่เข้า สาเหตุเกิดจากอะไร วันนี้พบแล้ว

แบตเตอรี่โน๊ตบุ๊ค lenovo ชาร์จไม่เข้า

ซ่อมก้นชาร์จโน๊ตบุ๊ค ชาร์จไม่เข้า ก้นชาร์จหลวม พัง

ปล่อยเน็ต,ซ่อมมือถือ,เน็ต,เปลี่ยนจอ,มือถือ,สมาร์ทโฟน,acer,oppo,iphone,samsung,xiaomi,ปรับแต่ง,ย้ายข้อมูล,ความจำเต็ม,คอม,computer,notbook,โน้ตบุ๊ก,มือถือร้อน,เสียงไม่ดัง,จอแตก,เปลี่ยนแบต,เปลี่ยนสายแพร,แพร,ปุ่ม,เปิด,ปิด,ค้าง,โลโก้,rom,รอม,friware,frimeware,สำรองข้อมูล,ล้างเครื่อง,ลืมรหัส,ปลดรหัส,ติดรหัส,ปลดไอคราว,icouit,สายชาร์จ,ซิม,เปิดเน็ตไม่ขึ้น

วิธีเช็ค Adapter

เพื่อนๆพี่ๆคงเคยเจอปัญหาไฟไม่เข้าโน๊ตบุคหรือชารท์ไฟไม่เข้าเนื่องจาก Adapter มีปัญหา นี่เป็นวิธีการเช็ค Adapter เบื้องต้น อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชิ้นไหนของเพื่อนๆมีปัญหา ปรึกษาได้ที่ร้าน KM IT.com ตึกคอมศรีราชา 0868485886 ได้นะครับ

โน๊ตบุ๊คชาร์จไฟไม่เข้า วิธีเช็คเบื้องต้นก่อนเสียตังค์ซื้อใหม่

แนะนำการเช็ค Adapter Notebook เบื้องต้นนะครับว่าเสียจากอะไร เป็นแนวทาง หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ถูกผิดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะครับ

วิธีแก้คอมไฟเข้าแต่จอดับ

แนะนำวิธีแก้ปัญหาเรื่องไฟเข้าโน๊ตบุ๊คแต่สักพักจอจะดับเป็นการแนะนำในกรณีที่มีปัญหาไม่มากนะครับ

นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆPc

Xin chào các bạn, mình là Nguyễn Nam. Mình là người yêu thích công nghệ nên mình đã thành lập ra website này để chia sẻ những thông tin, thủ thuật về công nghệ hoàn toàn miễn phí đến cho bạn. Rất mong những thông tin này mang lại nhiều giá trị cho bạn. Xem tất cả bài viết của Nguyễn Nam

Điều hướng bài viết

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติดแก้เองได้อยู่ไม่ต้องตกใจ! มีวิธีแก้ด้วยตัวเองมาฝาก!

ปัญหาโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติดขึ้นมาเสียเฉย ๆ เรียกว่าเป็นฝันร้ายของใครหลาย ๆ คนที่ไม่อยากเจออย่างแน่นอน เพราะโอกาสเปิดไม่ติดนั้นเกิดขึ้นได้หลายแบบมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องง่าย ๆ อย่างเล่นคอมจนแบตหมดแล้วลืมเสียบปลั๊กเอาไว้และอื่น ๆ อีกมากมาย และยิ่งถ้าเกิดตอนที่งานกำลังเร่งให้เสร็จทันเวลาด้วยยิ่งแย่เข้าไปอีก เพราะเมื่องานไม่เสร็จจากเราแล้วก็ส่งผลกระทบต่อคนอื่นไปอีกหลายต่อ ทั้งคนที่ต้องรับงานต่อจากเราและลูกค้าที่จ้างงานเราก็คงจะไม่ปลื้มและไม่รอฟังเหตุผลจากเราแน่ ๆ ครั้นจะโทรเรียกช่างให้มาซ่อมเครื่องแบบ On site service ก็ต้องรอโทรติดต่อนัดเวลาและรอให้ช่างเข้ามาให้บริการจนพร้อมเดินงานต่ออีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติดนั้นเรียกว่ายังจัดการแก้ไขได้ไม่ยากอย่างที่หลายคนกลัวกัน นั่นเพราะจุดเจ้าปัญหาในโน๊ตบุ๊คจะมีอยู่แค่ไม่กี่จุด เรียกว่าทำเช็คลิสท์รายการปัญหาตามที่ผู้เขียนแนะนำเอาไว้ในบทความนี้ เมื่อลองแก้แล้วไม่หาย ก็ขีดคร่าไปเรื่อย ๆ ได้เลย ไม่แน่ว่าทำไปไม่ทันหมดทุกข้อที่ผู้เขียนแนะนำเอาไว้ จากโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติดก็อาจจะเปิดติดพร้อมทำงานต่อแล้วก็ได้ใครจะไปรู้?

งานเข้าแหล่ว… อ้ายบุญลือลูกพ่อดับโชว์ซะงั้น ลูกค้าก็ทวงงานอยู่ด้วย

6 วิธีแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด จัดการง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

ถ้าอยู่ ๆ โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติดขึ้นมา ต้นตอปัญหานั้นอาจมาจากฮาร์ดแวร์ของตัวเครื่องมีประเด็น หรือซอฟท์แวร์ทรยศด้วยฝีมือไวรัสที่บุกเข้ามาเล่นงานก็ได้เช่นกัน ซึ่งปัญหาทั้งหมดนั้นมีวิธีการแก้ไขด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ ไม่ต้องไปถึงมือช่างก็ได้ โดยปัญหาหลัก ๆ ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติดนั้นจะมีดังนี้

  1. ไล่ดูปลั๊กคอมก่อนว่ามีปัญหาไหม ไฟเข้าหรือเปล่า?
  2. ถอด Docking station ออกก่อนแล้วลองเปิดใหม่อีกที
  3. บูตเข้า Safe Mode ดู บางทีอาจมีไวรัสแฝงเข้ามา
  4. จัดการแบตเตอรี่ในเครื่องสักหน่อย
  5. ถ่าน CMOS อาจจะมีปัญหา ลองเปลี่ยนดูหน่อย
  6. ชิ้นส่วนในคอมบางชิ้นอาจจะเสียหาย
1. ไล่ดูปลั๊กคอมก่อนว่ามีปัญหาไหม ไฟเข้าหรือเปล่า?

เริ่มต้นที่อุปกรณ์ใกล้ตัวซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะมาตกม้าตายกันง่าย ๆ อย่างปลั๊กโน๊ตบุ๊คไม่แน่นเป็นอย่างแรก โดยสาเหตุอาจมาจากตัวปลั๊กรางเป็นรุ่นราคาถูกไม่ได้คุณภาพ ไม่มีม่านปลั๊กที่ช่วยล็อคเขี้ยวปลั๊ก หรือเขี้ยวปลั๊กตัวผู้ของโน๊ตบุ๊คจะเริ่มเบนห่างออกจากกันจากการใช้งานของเราก็ได้ ซึ่งถึงจะเสียบปลั๊กแล้ว แต่หน้าโลหะไม่สัมผัสแล้วไม่มีไฟฟ้าจ่ายเข้าอะแดปเตอร์ ก็ทำให้โน๊ตบุ๊คตัดไปใช้งานแบตเตอรี่ในเครื่องจนหมด เลยทำให้โน๊ตบุ๊คของเราเปิดไม่ติดนั่นเอง

ดังนั้นวิธีแก้ไขขั้นตอนแรก ก็ให้เราลองขยับปลั๊กให้เข้าที่แล้วกระแสไฟเข้าปลั๊กหรือเปล่า โดยสังเกตจากไฟ LED ที่ตัวอะแดปเตอร์หรือที่ไฟแสดงสถานะข้างโน๊ตบุ๊คก็ได้ โดยถ้าไฟติดขึ้นมาก็แสดงว่าตอนนี้มีไฟเข้าและกำลังชาร์จเครื่องอยู่ ซึ่งถ้าปัญหาโน๊ตบุ๊คของเราเปิดไม่ติดมาจากปลั๊ก หน้าจอเครื่องจะโชว์ว่าตอนนี้แบตเตอรี่ในเครื่องเหลือกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว

และอีกวิธีที่ผู้เขียนขอเสริมให้ผู้ใช้ที่มีโน๊ตบุ๊คที่ชาร์จแบตเตอรี่ผ่าน USB-C ได้ ให้ลองเอาปลั๊กมือถือที่กำลังชาร์จ 45-65 วัตต์ เสียบชาร์จผ่าน USB-C ดูว่าไฟเข้าหรือเปล่าแล้วลองถอดสลับกับอะแดปเตอร์เฉพาะของตัวเครื่องดู ซึ่งถ้าไฟจากพอร์ต USB-C เข้า แต่อะแดปเตอร์เสียบแน่นแล้วแต่ไฟไม่เข้าก็อาจจะสรุปได้เลยว่าเราต้องเอาอะแดปเตอร์ของเราไปเคลมหรือส่งซ่อมเสียแล้ว

2. ถอด Docking station ออกก่อนแล้วลองเปิดใหม่อีกที

ปัญหาที่สองที่ทำให้โน๊ตบุ๊คบู๊ตไม่ขึ้นอาจจะมาจาก Docking station หรือ USB-C Multiport Adapter ที่รวมอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ ของเราเอาไว้ แล้วมีแฟลชไดรฟ์หรือ Memory Card สักตัวเสียบค้างเอาไว้ แล้ว BIOS ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังของ Windows อาจจะพยายามเรียกบูตเครื่องจาก Memory Card หรือแฟลชไดรฟ์ตัวนั้นอยู่ โดยปัญหานี้จะเกิดขึ้นกับคนที่เพิ่งล้างเครื่องลง Windows มาใหม่แล้วลืมเปลี่ยนการตั้งค่าในหน้า BIOS ให้ไปบูตเครื่องขึ้นมาจากฮาร์ดดิสก์หรือ SSD ตัวที่ติดตั้ง Windows เสร็จแล้วนั่นเอง

วิธีแก้ไขให้ถอดตัว USB-C Multiport Adapter ออกก่อนแล้วเสียบปลั๊กเข้าเครื่องอย่างเดียว จากนั้นถ้าเครื่องของเราบู๊ตจนเสร็จเข้าหน้า Windows พร้อมใช้งานแล้วถือว่าผ่าน ถ้าให้ดีก็แนะนำว่าควรเข้าไปตั้งค่าใน BIOS ให้บูตจากไดรฟ์ที่ติดตั้ง Windows เอาไว้เป็นอันดับแรก จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้อยู่หมัด

3. บูตเข้า Safe Mode ดู บางทีอาจมีไวรัสแฝงเข้ามา

Windows Safe Mode เป็นส่วนที่ผู้ใชัทั่ว ๆ ไป จะไม่ได้เข้ามาใช้งานบ่อย ๆ เนื่องจากเป็นระบบหลังฉากของ Windows ที่ Microsoft ทำเอาไว้ให้ผู้ใช้ซ่อมแซมหรือปรับแต่งชุดคำสั่งในเครื่องที่มีปัญหาแล้วระบบจะบล็อกไม่ให้ตัว Windows ทำงานแล้วรันซอฟท์แวร์ต่าง ๆ ตามปกติ

สำหรับผู้ใช้ที่มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ระดับหนึ่งจะเข้า Safe Mode มาถอนโปรแกรมหรือมัลแวร์ที่แฝงตัวเข้ามาในเครื่องแล้วระบบสแกนไวรัสของเครื่องหาไม่เจอได้ด้วย ซึ่งบางครั้งมัลแวร์บางตัวก็ทำให้โน๊ตบุ๊คไม่สามารถเปิดได้ตามปกติ

สำหรับวิธีการเข้า Safe Mode เมื่อเปิดเครื่องไม่ติดหรือเปิดติดแล้วเข้า Windows ตามปกติไม่ได้ ให้เรากดปุ่ม Power ค้าง 10 วินาที เมื่อโน๊ตบุ๊คติดขึ้นมาให้กด Power ค้างอีกครั้งเพื่อดับเครื่อง โดยทำซ้ำ ๆ แบบนี้ 3 ครั้ง จากนั้นตัวเครื่องจะบูตเข้าหน้า Safe Mode ในภาพด้านบน เริ่มต้นให้กดที่คำสั่ง Troubleshoot เพื่อให้เครื่องเริ่มเช็คแก้ปัญหา

เลือกคำสั่ง Advanced options เพื่อดูตัวเลือกการเช็คแก้ปัญหาต่าง ๆ เพิ่มเติม

ที่หน้า Advanced options จะมีตัวเลือกให้ใช้หลายแบบ ให้เลือก Startup Settings เพื่อเปลี่ยนวิธีการบูตระบบ Windows

ตัวเครื่องจะแจ้งว่าคำสั่ง Startup Settings ตัวเครื่องจะบูตเข้าสู่หน้า Safe Mode ด้วย ให้เรากด Restart ได้เลย จากนั้นเมื่อเครื่องบูตเข้าสู่ Safe Mode ที่เป็นเหมือนหน้าจอ Windows ตามปกติ แต่ความละเอียดหน้าจอและฟังก์ชั่นอื่น ๆ แตกต่างจากปกติ ให้สแกนไวรัสด้วย Windows Defender เพื่อเช็คและกำจัดไวรัสที่อยู่ในเครื่อง ซึ่งถ้าไวรัสเป็นต้นตอปัญหา เมื่อสแกนแล้วล้างไวรัสเสร็จ ก็น่าจะทำให้คอมของเรากลับมาใช้งานได้ตามปกติอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม วิธีการกด Shift+F8 เพื่อเปิดตัวเลือกเข้าสู่ Safe Mode นั้น ถ้าเราตั้งค่า BIOS ของเราเป็น UEFI และติดตั้ง Windows เอาไว้ใน SSD แล้ว เครื่องจะบูตเร็วมากจนกดเปิดคำสั่งนี้ไม่ทัน ซึ่งผู้เขียนแนะนำให้ใช้วิธีกด Power 3 ครั้งอย่างที่แนะนำไปด้านบนจะดีกว่า

4. จัดการแบตเตอรี่ในเครื่องสักหน่อย

สายไฟของแบตเตอรี่เป็นสายที่ต่อจากเครื่องหมายขั้วบวก, ลบเข้าที่หัวรับบนเมนบอร์ด

บางครั้ง อาการโน๊ตบุ๊คของเราเปิดไม่ติดอาจจะมาจากปัญหาแบตเตอรี่ล้นจนก่อปัญหาไฟฟ้าเกินแล้วรวนก็ได้ ซึ่งถ้าเป็นปัญหาส่วนนี้ถือว่าแก้ไขได้ไม่ยาก แต่ต้องระวังอย่าทำลัดขั้นตอนจะดีที่สุด จะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง โดยขั้นตอนให้ทำตามนี้

  1. ตอนเครื่องยังดับและเปิดไม่ติด ให้ถอดปลั๊กของโน๊ตบุ๊คออกแล้วเปิดฝาหลังของเครื่องมาถอดสายแบตเตอรี่ที่ต่อเข้ากับตัวเมนบอร์ด กรณีแบตเตอรี่ของโน๊ตบุ๊ครุ่นนั้นเป็นแบบฝังแล้วถอดไม่ได้ให้เสียบปลั๊กเอาไว้ตามเดิม
    1. ขั้นตอนนี้มีเคล็ดลับคือ ให้ใช้คีมหนีบปลายแหลมสอดเข้าไปหนีบสายไฟทุกเส้นให้อยู่ในแนวคีม ก่อนหนีบดึงเบา ๆ ให้หัวปลั๊กที่เป็นพลาสติกเลื่อนออกมา ค่อยเอาปลายคีมเขี่ยออกเพื่อป้องกันการดึงสายไฟแรงเกินไปแล้วสายไฟขาด
  2. พอถอดสายแบตเตอรี่ออกแล้ว ให้กดปุ่มเปิดเครื่องค้างเอาไว้ 30 วินาที เพื่อดึงไฟฟ้าที่ค้างอยู่ในระบบออกมาให้หมด
  3. ให้เสียบปลั๊กโน๊ตบุ๊คจากนั้นกดปุ่มเปิดเครื่อง ห้ามเสียบสายแบตเตอรี่ ถ้าโน๊ตบุ๊คเปิดติดแล้วให้รอจนเครื่องบูตเข้าหน้า Windows จนเสร็จค่อยกด Shutdown ตามปกติ
  4. ถอดปลั๊กไฟโน๊ตบุ๊คออก แล้วต่อสายแบตเตอรี่กลับเข้าเมนบอร์ดให้เรียบร้อย ปิดฝาจากนั้นเปิดเครื่องแล้วใช้งานได้ตามปกติ

ส่วนถ้าโน๊ตบุ๊คของใครทำตามขั้นตอนทั้งหมดนี้แล้วยังเปิดไม่ติด ให้ย้อนกลับไปทำในข้อ 2 อีกครั้ง แต่ให้กดปุ่มเปิดเครื่องนานขึ้นเป็น 1 นาที แล้วทำตามขั้นตอนทั้งหมดอีกครั้ง ซึ่งถ้าปัญหาเกิดจากอาการแบตเตอรี่ล้นจริง เครื่องของเราก็จะกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว

5. ถ่าน CMOS อาจจะมีปัญหา ลองเปลี่ยนดูหน่อย

ถ่าน CMOS (Complementary Metal Oxide Semiconductor) เป็นอีกชิ้นส่วนสำคัญในโน๊ตบุ๊คซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้จักมันนัก ซึ่งถ่านตัวนี้จะถูกใส่เอาไว้บนเมนบอร์ดที่รังถ่านเพื่อจ่ายไฟเลี้ยงให้ระบบ BIOS ที่เป็นระบบเบื้องหลังของโน๊ตบุ๊คเพื่อเซฟการตั้งค่าต่าง ๆ เอาไว้ เมื่อเรากด Shut down โน๊ตบุ๊คไปแล้วการตั้งค่าไม่หายเพราะได้ไฟเลี้ยงจากถ่านอันนี้นั่นเอง ซึ่งถ้าถ่าน CMOS หรือถ่านกระดุมแบตใกล้หมดหรือหมดแล้วก็จะมีอาการเจ้าปัญหาได้แก่ 

  1. โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ได้ หรือบางครั้งอาจจะสุ่มเปิดติด
  2. วันและเวลาที่เราตั้งค่าตัวเครื่องเอาไว้หายไป
  3. อุปกรณ์ส่วนต่อเสริมต่าง ๆ ทำงานไม่เป็นปกติ
  4. ไดรเวอร์บางตัวไม่ทำงานหรือหายไป
  5. ต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi หรือ LAN ไม่ได้
  6. มีเสียงปี๊บดังออกมาจากโน๊ตบุ๊ค

ซึ่งถ้าแก้ปัญหาตามที่แนะนำไป 4 ข้อแล้วยังไม่หาย ขอแนะนำให้เปลี่ยนถ่าน CMOS อาจจะช่วยได้ ซึ่งถ่าน CMOS ตัวนี้ สามารถหาซื้อได้ตามอินเตอร์เน็ตหรือไปหาซื้อตามร้านขายแบตเตอรี่เจ้าต่าง ๆ โดยเมนบอร์ดจะใช้ถ่าน CMOS รหัส CR2032 ราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ก้อนละ 25-30 บาท ซึ่งนอกจากโน๊ตบุ๊คแล้ว เมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปก็ใช้ถ่านก้อนแบบนี้เหมือนกัน ถ้าเมนบอร์ดคอมพิวเตอร์ของเราไม่เซฟวันและเวลา รวมทั้งให้เรากด F1 ถึงจะเปิดเข้าหน้า Windows ได้ ให้สันนิษฐานว่าถ่าน CMOS หมดแล้วซื้อมาเปลี่ยนได้เลย

6. ชิ้นส่วนในคอมบางชิ้นอาจจะเสียหาย

ถ้าเราเช็คปัญหาทั้งหมดแล้วโน๊ตบุ๊คก็ยังเปิดไม่ติด หรือเปิดมาแล้วมีแต่เสียงพัดลมอย่างเดียวไม่เห็นภาพบนหน้าจอเลยแม้จะแก้ตามวิธีที่ผู้เขียนนำเสนอไปแล้วก็ตาม ให้สันนิษฐานได้เลยว่าชิ้นส่วนภายในเครื่องสักชิ้น ไม่ว่าจะเป็นสายแพหน้าจอ, ชิ้นส่วนบนเมนบอร์ดเสียหายจนเครื่องทำงานผิดพลาด ไม่สามารถบูตตัวเองขึ้นมาทำงานได้ตามปกติ ซึ่งถ้ามาถึงขั้นนี้ก็ต้องยกไปศูนย์บริการหรือโทรเรียกช่างให้เข้ามาให้บริการแบบ On site service แทน ซึ่งทางช่างก็จะนำเครื่องไปซ่อมบำรุงตามขั้นตอนก่อนจะส่งกลับมาให้เราอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งบางแบรนด์ก็จะมีโน๊ตบุ๊คสำรองให้ผู้ใช้เอาไว้ใช้ทำงานระหว่างซ่อมด้วย

จะเห็นว่าวิธีแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติดนั้น ผู้ใช้อย่างเราก็สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ และมีอาการเสียวน ๆ อยู่ภายใน 6 ข้อนี้เป็นหลัก ซึ่งอย่างแย่ที่สุด คือชิ้นส่วนภายในเครื่องเสียหายจนต้องส่งช่างให้เอาไปซ่อมตามขั้นตอนไป ซึ่งถ้าเราสามารถแก้ปัญหาเครื่องเปิดไม่ติดได้ก็จะช่วยเซฟเงินและเวลาไปได้มาก

อย่างไรก็ตาม ในขั้นตอนถอดสายแบตเตอรี่ที่แนะนำไปในบทความนี้ ผู้เขียนขอแนะนำว่าให้หาผ้าหรือพื้นยาง เช่น ยางรองเขียนมารองเท้าเอาไว้ก่อนจะเริ่มทำตามขั้นตอนนี้ เพื่อไม่ให้เท้าของเราแตะพื้นที่อาจจะไม่ได้เป็นฉนวนไฟฟ้าแล้วทำให้ไฟฟ้าที่ค้างอยู่ในเครื่อง หรือไฟฟ้าสถิตย์ที่ตัวเราข้ามไปถึงตัววงจรแล้วเกิดอาการไฟลัดข้ามวงจรจนเกิดความเสียหายมากขึ้น