ปลั๊กพ่วงมีดีกว่าที่คิด Share : เชื่อว่าหลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้ว ในบางบ้านอาจจะเป็นอุปกรณ์ที่แทบขาดไม่ได้เลย ทั้งนี้นอกจากจะช่วยเรื่องความสะดวกสบายแล้วยังมีประโยชน์อีกหลายอย่างที่บางคนอาจจะยังไม่รู้ ดังนั้นวันนี้เรามาดูไปพร้อมๆกันเลยครับ ในปัจจุบันอุปกรณ์ใช้ไฟฟ้าต่างๆต้องต่อผ่านหม้อแปลงไฟฟ้าของตัวอุปกรณ์ก่อน ทำให้การเลือกเสียบปลั๊กเข้ากับปลั๊กไฟทั่วไปนั้น ยังคงส่งกระแสไฟฟ้าไหลผ่านหม้อแปลงของอุปกรณ์ถึงแม้จะปิดสวิตช์อยู่ก็ตาม ซึ่งนอกจากจะทำให้เปลืองไฟแล้ว ยังเป็นสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ได้อีกด้วย เพราะในตัวหม้อแปลงของอุปกรณ์เหล่านั้นอาจจะเกิดความร้อนสะสมจากการเสียบหม้อแปลงไฟฟ้าทิ้งไว้เป็นเวลานานๆ จนทำให้ร้อนจัดและทำให้ติดไฟลุกไหม้นั่นเอง ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับบ้านและโครงการน่าอยู่ ได้ที่ www.facebook.com/inside2home www.inside2home.com Inside2home ไอเดียแต่งบ้าน Newsletter Follow us หลักการตัดไฟของรางปลั๊กไฟพ่วงแบบมีสวิทช์นั้น ส่วนมากเขาจะออกแบบมาให้ตัดไฟเพียงเส้นเดียว ซึ่งก็เพียงพอที่ทำให้ไฟฟ้าไม่ครบวงจร และทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้านำไฟฟ้าไปใช้ไม่ได้ (ดูในรูปประกอบ) ดังนั้นถ้าจะให้ถูกต้อง เราต้องให้มันตัดไปถูกเส้น L ซึ่งมีไฟฟ้า แต่ถ้าเราเผอิญไปทำให้มันตัดเส้น N ก็จะทำให้ไฟสีแดงบนรางปลั๊กดับ และอุปกรณ์ไฟฟ้าดึงไฟฟ้าไปใช้ไม่ได้เหมือนกัน แต่จะยังมีไฟฟ้าไหลออกมาจากปลั๊กได้อยู่ ชาวจีนเฉลิมฉลองกันอย่างหนาตา หลังจากอยู่ภายใต้มาตราการ zero covid19 มาเกือบ 3 ปี อย่างไรก็ตาม จีนอาจมีผู้ติดโควิด ถึง 1 ล้านรายต่อวันในเร็ว ๆ นี้ ตามรายงานของ Airfinity ที่รายงานโดย Bloomberg บริษัทวิจัยยังคาดการณ์ว่าเคสรายวันอาจเพิ่มขึ้นเป็น 3.7 ล้านรายในเดือนมกราคม ในเดือนมีนาคม พวกเขาคาดว่าจะมีคลื่นลูกใหม่ ซึ่งเคสอาจสูงถึง 4.2 ล้านรายต่อวัน อย่างเป็นทางการ ทางการจีนรายงานผู้ป่วยโควิดประมาณ 3,000-5,000 รายต่อวันตลอดเดือนธันวาคม แต่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติได้หยุดประกาศผู้ป่วยโควิดรายวันทั้งหมดตั้งแต่วันอาทิตย์สัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากประเทศกำลังเตรียมเปิดประเทศเต็มรูปแบบในวันที่ 8 มกราคม สวัสดีครับวันนี้ ปลั๊กไทยดอทคอม ก็จะมาไขข้อข้องใจที่มีแฟนเพจเข้ามาถามกันมากว่า "ปิดสวิตช์ปลั๊กไฟ ปลั๊กพ่วง แล้วก็ยังไม่ปลอดภัย จริงหรือ! มาเลยครับ วันนี้จะมาตอบคำถาม จะได้เข้าใจกัน ... มารื้อฟื้นความทรงจำกันดีกว่า ทุกคนเคยเรียนวิทยาศาสตร์ ที่ชั่วโมงวิทยาศาสตร์นั้น ตอนที่เราทดลองเรื่องถ่านไฟฉายกับหลอดไฟ การทำให้ไฟติดนั้น ก็ต้องมีไฟครบวงจรถูกไหมครับ ดังภาพ แน่นอนก็ต้องมีที่เรียกว่า "ขั้วบวก" และก็ "ขั้วลบ" เพื่อให้ไฟมันครบวงจร และเช่นเดียวกัน สายไฟบ้านเราก็ประกอบไปด้วย L = Line เปรียบได้ว่าขั้วบวก N = Nutral เปรียบได้ว่าขั้วลบ อันนี้เอาภาษาที่เข้าใจง่าย ๆ ก่อนนะครับ เพราะจริง ๆ ไฟฟ้ากระแสสลับมันเป็นเรื่องความต่างศักดิ์ทางไฟฟ้า ต่างกับกระแสตรง แต่อธิบายเยอะไปจะไม่เข้าใจกัน ทีนี้ เราเห็นรูเต้าเสียบปลั๊กไฟบ้านเราใช่ไหมครับ .... เอ๊ยย จะรู้ยังไง อันไหน L อันไหน N ลองดูอันนี้ครับ สิ่งที่เราชินและรู้สึกไม่แตกต่าง จริง ๆ แล้วมันแตกต่างครับ ไปดูเต้าเสียบที่บ้านได้เลยครับว่า เต้าเสียบสองขา หรือสามขาก็ตามเต้าเสียบ L และ N จะไม่เท่ากันครับ รูแคบคือ L และรูกว้างคือ N ครับ ส่วนรูกลางคือ G หรือสายดิน หรือกราวด์ การเดินสายก็จะมีการบอกชัดเจนด้านหลังว่า L ให้เข้าไหน N ให้เข้าไหน เพื่อการเดินสายไฟที่ถูกต้อง ทีนี้ปัญหามันจะเกิดกับสวิตช์ปลั๊กไฟ ปลั๊กพ่วง แม้ว่าจะปิดไปแล้ว แต่ไฟก็ยังติดอยู่ สาเหตุเกิดจาก 1.ช่างเดินสายไฟผิด สลับ L และ N 2.ช่างเดินสายถูกแล้วแต่เราเสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าผิดด้าน L และ N ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ .... อ้างอิงก่อนว่า ปกติแล้ว สวิตช์ไฟมันจะตัดวงจรที่ขั้ว L ซึ่งมีความปลอดภัย ถ้าเดินสายถูก เสียบสายถูก เท่ากับว่าปลั๊กพ่วง รางปลั๊กไฟอันนั้น ไม่มีไฟเข้าแล้ว .... แต่กลับกัน ถ้าเราเสียบผิดด้าน หรือเดินสายไฟผิด วงจรที่ตัดปกติที่ขั้ว L มันกลายไปตัดที่ขั้ว N ทำให้ไฟก็ยังเข้าอยู่ "แม้ว่าจะปิดสวิตช์ไปแล้วก็ตาม" ดังนั้น โอกาสที่เกิดอุบัติเหตุแม้ว่าจะมีการปิดสวิตช์แล้ว แต่ถ้าเราประมาท และยังเสียบผิด ๆ ก็ยังสามารถเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้ อย่างภาพนี้ จากกระทู้ เตือนภัยไกล้ตัว ปลั๊กพ่วง ระเบิด!!!! แบบ MINI เพื่อความปลอดภัยเราก็ต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วน ดังภาพ หรือเพื่อความแน่นอนที่สุดคือ .. เปลี่ยนเต้าเสียบเป็นแบบ 3 รู และก็ใช้ปลั๊ก 3 รู อันนี้เสียบไม่ผิดแน่นอน (ถ้าช่างไม่เดินสายไฟผิดนะ) สมัยนี้เค้าใช้ 3 ขาแบบมีสายดินเพื่อความปลอดภัยแล้วครับ ส่วนอุปกรณ์ 2 ขา ก็ดูให้ดีกว่าจะเสียบนะครับ แต่ถึงอย่างไร ถ้าเราไม่อยู่บ้านนาน ๆ ไปต่างจังหวัด ยังไงก็อย่าลืมถอดปลั๊กออกจากเต้ากันไฟนะครับ อันนี้ปลอดภัยที่สุดคร๊าบบบบบผม |