อาชีพที่ใช้ภาษาในการสื่อสาร

ในบทความก่อนหน้านี้ เราได้พูดถึงความก้าวหน้าในชีวิตและหน้าที่การงานโดยรวมกันไปแล้ว วันนี้เราจะมาบอกให้จำเพาะเจาะจงขึ้นมาอีกนิดว่า ‘อาชีพ’ หรือ ‘ตำแหน่งงาน’ ใด ที่สามารถพัฒนาแบบก้าวกระโดดหรือได้รับประโยชน์มากเป็นพิเศษจากการมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดี

แน่นอนว่า เราจะไม่มาพูดถึงอาชีพที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่า ต้องเก่งภาษาอังกฤษ เช่น มัคคุเทศน์ ล่าม นักแปล ครูสอนภาษาอังกฤษ ฯลฯ แต่เราจะมาพูดถึงอาชีพหรือตำแหน่งงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งถ้าหากมีทักษะภาษาอังกฤษอยู่ในระดับเหนือกว่าเฉลี่ยทั่วไปแล้วล่ะก็ โอกาสที่จะก้าวหน้าหรือพัฒนา ย่อมมีสูงกว่าเพื่อนร่วมสาขาอาชีพเดียวกัน

1) Artists
ไม่ว่าจะเป็นจิตรกร ประติมากร นักร้อง นักแต่งเพลง ฯลฯ ดูอย่างศิลปินแห่งชาติหลายๆคน ที่ภาษาอังกฤษได้แค่งูๆปลาๆ ยังสามารถขายผลงานของตัวเองไปได้ทั่วโลก ถ้าสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ โดยเฉพาะการพูดและการเขียน ก็จะยิ่งมีโอกาสถ่ายทอดความเป็นตัวเองหรือความหมายที่ต้องการจะสื่อออกมาผ่านงานศิลปะของตนเองให้ผู้อื่นรับรู้ได้อย่างลึกซึ้งและเข้าถึงจิตใจคนเหล่านั้นได้มากขึ้น ในขณะที่บางคนมีโอกาสได้รับเชิญไปเปิดนิทรรศการแสดงหรือนำเสนอผลงานในต่างประเทศ แต่ไม่สามารถสื่อสารกับกลุ่มผู้ชมหรือผู้ฟังได้…ช่างน่าเสียดายโอกาสจริงๆ

2) Stewart/ Air Hostess
การเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมืออาชีพแบบเยี่ยมยอดนั้น ไม่ใช่เพียงแต่ต้องคอยถามผู้โดยสารว่า “Coffe or tea?” เท่านั้น แต่ยังต้องคอยแก้ปัญหาเฉพาะให้ผู้โดยสารในแต่ละเที่ยวบินด้วย ยิ่งถ้าไปเจอภาษาอังกฤษสำเนียงตะวันออกกลางแล้วฟังไม่รู้เรื่องล่ะก็ ย่อมเกิดปัญหาใหญ่จนถึงขั้นถูกไล่ออกได้ทุกเมื่อ และถึงแม้ว่าการจะได้เลื่อนขั้นเป็น Senior หรือหัวหน้านั้น จะต้องอาศัยวุฒิภาวะและวัยวุฒิด้วย แต่การที่มีทักษะภาษาอังกฤษอันโดดเด่น ความสามารถดังกล่าวย่อมเข้าตาหัวหน้าหรือเข้าตา ‘แมวมอง’ จากสายการบินอื่นๆ ที่ให้เงินเดือนสูงกว่าและสวัสดิการที่ดีกว่า ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

3) Hotel Personnel
ไม่ว่าจะเป็น Receptionist, Front Desk, Service Staff หรือแม้แต่ Doorman ล้วนแล้วแต่เป็นตำแหน่งงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นพื้นฐานในชีวิตประจำวัน เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ในปัจจุบัน โรงแรมชั้นนำกว่า 96% ต่างก็ต้องการพนักงานโรงแรมที่พูดภาษาอังกฤษได้  ซึ่งรายได้ของพนักงานโรงแรมจะค่อนข้างดีอยู่แล้ว เพราะนอกจากเงินเดือน ก็ยังมี Service Charge และค่าทิปจากแขกชาวต่างชาติอีก ยิ่งถ้าฝึกภาษาอังกฤษให้คล่องๆ นอกจากจะมีโอกาสได้รับการ Recruit จากโรงแรมชื่อดังแล้ว ก็ยังมีโอกาสเป็นตัวแทน (Brand Ambassador) ของโรงแรมนั้นๆ อีกต่างหาก

4) Sales Account Officer
น้องๆคนไหนที่เรียนมาทางด้านนี้ หรือสนใจงานขายงานธุรกิจ ก็ต้องสนใจตำแหน่งงานนี้กันแน่ๆ ซึ่งหน้าที่หลักๆก็คือ การช่วยทำหน้าที่รักษาความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับลูกค้าของบริษัท รวมทั้งหาฐานลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งแน่นอนว่า ทักษะภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะนักธุรกิจและผู้ร่วมงานส่วนมากนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ สมัยนี้ก็ล้วนแล้วแต่ใช้ภาษาอังกฤษกันทั้งนั้น ถ้าน้องๆฝ่าฟันเรียนภาษาให้ได้ทักษะดีๆ ก็ก้าวกระโดดไปเลยกับตำแหน่งนี้ Sales Account Manager ที่เงินเดือนสูงลิบลิ่ว และยังมีอภิสิทธิ์ รวมถึงสวัสดิการต่างๆอีกมากมายที่บริษัทจะมอบให้

 5) Accountant/ Audit
สำนักบัญชีระดับโลกมากมายอย่าง Pricewaterhousecoopers หรือ Deloitte Thailand รวมถึงสำนักบัญชีชื่อดังต่างๆ มักจะมีฐานเงินเดือนที่สูงกระแทกเพดาน ดังนั้น ใครที่เรียนหรือทำงานมาในสายนี้ ย่อมอยากจะมีโอกาสเข้าไปนั่งทำงานในออฟฟิสขององค์กรระดับโลกกันทุกคน แต่การจะฝ่าฟันเอาชนะ Candidates คนอื่นๆได้นั้น คุณสมบัติอันดับสองรองจากทักษะด้านบัญชีแล้ว ก็คือทักษะด้านภาษาอังกฤษนั่นเอง

6) Lawyer
ไม่จำเป็นต้องไปทำงานถึงต่างประเทศหรือในประเทศอังกฤษและอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่นักกฏหมายสามารถทำเงินได้มากมายจนหลายๆคน หลายๆอาชีพต้องอิจฉา ขอเพียงแค่น้องๆหันมาศึกษาภาษาอังกฤษและพัฒนาทักษะให้ดี โดยเฉพาะพวกคำศัพท์ที่จำเป็นต่างๆ ก็สามารถทำงานใน Law Firms ข้ามชาติที่มาเปิดสาขาในประเทศไทยได้แล้ว ซึ่งนอกจากจะงานสบายแล้ว เงินเดือนยังดีอีกต่างหาก และถึงแม้จะไม่ได้ทำงานใน Law Firms ข้ามชาติเหล่านั้น แต่ก็ยังสามารถรับว่าความหรือเป็นที่ปรึกษาให้กับนักธุรกิจและบริษัทต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยได้อีกด้วย

7) Programmer
การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้น ย่อมต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษเป็นหลัก นอกจากจะใช้ในการทำงานแล้ว หากต้องการความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด หรืออยากมีโอกาสในการโปรโมทฝีมือของตัวเองให้นักลงทุนและนักธุรกิจทั่วไปได้เล็งเห็น ก็จำเป็นต้องหมั่นค้นคว้าศึกษาจากตำราภาษาอังกฤษ รวมถึงต้องมีสายสัมพันธ์ไว้แลกเปลี่ยนวิชาความรู้กับกลุ่มโปรแกรมเมอร์ชาวต่างชาติในฟอรั่มออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียกรุ๊ปต่างๆด้วย จึงจะพัฒนาฝีมือและโอกาสในหน้าที่การงานได้อย่างเต็มศักยภาพ

8) Marketing Communication Officer
ลักษณะเนื้องานของ Marketing Communications ก็มีหน้าที่เน้นไปที่การสื่อสารและสร้างภาพลักษณ์ของบริษัทน่าสนใจ มีคุณค่า และเป็นที่จดจำได้ นอกจากนี้ ยังต้องช่วยวางแผนเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัท รวมถึงหน้าที่ในการประสานงาน PR จัดอีเว้นท์ และดูแลเนื้อหาบนสื่อออนไลน์ การพัฒนาเชิงกลยุทธ์ กิจกรรมส่งเสริมการขาย ซึ่งถ้ามีทักษะภาษาอังกฤษที่ดี ย่อมสามารถช่วยขับเคลื่อนองค์กรได้เป็นอย่างมาก และอาจก้าวขึ้นไปเป็นระดับ Manager ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งบอกได้เลยว่า เป็นตำแหน่งที่มีรายได้ต่อเดือนสูงมากๆ จนสามารถเก็บเงินแล้วลาออกมาเปิดบริษัทของตัวเองได้ ภายในระยะเวลาไม่นานเลย

9) Purchasing Officer           
ตำแหน่ง Purchasing Officer หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดซื้อ โดยเฉพาะในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโลจิสติคส์นั้น หากมีทักษะภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะด้านการเขียนแล้วล่ะก็ จะช่วยให้บริษัทได้รับข้อเสนอดีๆ มีคู่ค้าใหม่ๆ ได้แบบก้าวกระโดด โดยจะต้องทำการประสานงานกับเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ลูกค้า เพื่อทำการหารือและตอบรับข้อเสนอในนามของบริษัท ซึ่งหากเป็นบริษัทใหญ่ๆ ก็มักจะต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษที่ดีในการสื่อสารกับบรรดา Stakeholders ทั้งหมดเหล่านั้น อันจะนำมาซึ่งความสำเร็จของตนเองและของบริษัท จากนั้นแล้ว ตำแหน่ง Purchasing Manager ก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมและไม่นานเกินรอ 

ทั้งหมดนี้ก็คือ 9 อาชีพที่สามารถพัฒนาแบบก้าวกระโดด ด้วยการมีทักษะภาษาอังกฤษติดตัว เรียกได้ว่า ภาษาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะการสื่อสารภาษาอังฤษเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นที่ต้องการ ซึ่งไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคสมัยก็ยังเป็นเรื่องที่สำคัญ ทั้งต่อตนเอง เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน และเป็นที่โปรดปรานสำหรับกลุ่มเป้าหมายหรือคู่ค้าของสาขาอาชีพนั้นๆ อยู่เสมอครับ

งานอาชีพอะไรที่ใช้ภาษาในการสื่อสารมากที่สุด

อาชีพใดใช้ภาษา

อาชีพใดที่ต้องใช้ความสามารถทางการสื่อสาร

เก่งภาษาทำอาชีพอะไรได้บ้าง