แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า

แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า

ทดสอบ รีวิว LAMBRETTA V200 Special
เรื่อง : TeareR ,ภาพ : MX Team6
หลังจากโดน “โรคเลื่อน” เล่นงานมาถึง 6 เดือน…ในที่สุด LAMBRETTA ล็อตแรกก็ถูกส่งถึงมือผู้ใช้ชาวไทยซะที ตอนนี้มาครบทั้ง V125 และ V200 ซึ่งคันที่เราหยิบมารีวิวนี้เป็น V200 Special ที่ได้รับความอนุเคราะห์จาก Moto Praram5 ดีลเลอร์รายสำคัญของแลมฯในเมืองไทยนั่นเอง

แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า

แรกพบสบตา “คันจริง” LAMBRETTA V200 Special พอจะเข้าใจได้เลย!!! งานประกอบรอบคันสวยงามดูดี ขยับสเต็ปท์จาก DEMO ที่มาโชว์ในงาน MOTOR EXPO 2018 แบบผิดหูผิดตา… รอช้าอยู่ใยเอาไปหวดกันเลย!!!

แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า
แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า

เกริ่นนิด….ผมสูง 171 cm คร่อมรถแล้วเหยียบเกือบเต็มเท้า บางคนอาจติดที่ความสูงเบาะนิดหน่อย (770 มม.) ช่วงรถ-วงเลี้ยวไม่ได้เป็นปัญหา เข้าถึงได้ง่าย ขี่ง่ายตามแบบฉบับ สกู๊ตเตอร์สมัยใหม่ ที่หลายๆคนคุ้นเคยดี

แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า
แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า
แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า

หน้าปัดเรือนไมล์เป็นแบบผสมผสาน Analog (มาตรวัดความเร็ว) และ Digital (ค่าต่างๆ) มีวัดค่า Volt แบตเตอรี่มาให้ด้วย อันนี้เป็นสิ่งจำเป็นมากกกกกสำหรับรถยุคนี้ (กำลังแบตไม่พอสตาร์ทก็กินข้าวลิงอย่างเดียว) ระบบส่องสว่าง FULL LED รอบคัน ที่สำคัญไฟเลี้ยวมีเสียง ตี๊ดๆๆๆ ด้วย…โคตรคลาสสิค

แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า
แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า
แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า

กุญแจอาจจะดูเป็นธรรมดา แต่แอบซ่อนลูกเล่นความปลอดภัยไว้ภายในเก๊ะหน้าด้วยสวิตซ์ OFF-RUN พร้อมมีที่ชาร์ทแบบ PORT USB มาให้ด้วย ชุดนี้ลองเทสท์กันแล้วใช้งานดี มีข้อสังเกตว่ามันเล็กไปนิดสำหรับโทรศัพท์จอ 5-6 นิ้ว แต่ถ้าตัวอย่าง I6s สบาย

แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า

เปิดเบาะมาเจอ U-Box ขนาดใหญ่ ใส่หมวกครึ่งใบพร้อมชิลด์หน้าได้สบายๆ อีกทั้งยังดีไซน์ให้มีการยกตัวหลบหัวฉีด เผื่อเวลาขับขี่เจอสภาพถนนอันโหดร้ายของเมืองไทยรถยุบตัวแล้วไม่กระแทกหัวฉีดหักแน่ๆ ยก U-Box เห็นแผงฟิวส์เด่นชัด จุดนี้ข้อดีคือเซอร์วิสง่ายไปอี๊กกกก …ถังน้ำมัน LAMBRETTA V200 SPECIAL ให้มาในขนาด 6 ลิตร(สำรอง0.2ลิตร) แค่นี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานแบบไร้กังวล ง่ายๆเลยคือ ขี่ทริปสบายครับ ไม่ต้องพกน้ำมัน

แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า

เครื่องยนต์สูบเดี่ยว 4 จังหวะ หัวฉีด ระบายความร้อนด้วยอากาศ 169 ซีซี. ขับเคลื่อนด้วยสายพานตามยุคสมัย …กำลังในรอบต้นมีหน่วงเล็กน้อย….เนื่องจากอัตราทดที่วางมาให้รถลอยตัวในรอบกลาง-ปลาย ดังนั้นในรอบเครื่องช่วง 5,000-7,000 รอบ/นาที กำลังดีขี่สนุกติดมือ

แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า

วิ่งเท่าไหร่?…ด้วยสไตล์รถประเภทนี้ ไม่ได้สร้างมาเพื่อเค้นเอาความเร็วปลาย เพราะมันเหมาะสำหรับชิลๆและมุดไปในเมืองมากกว่า แต่เราก็เอามาลองหวดดูความเร็วปลายอยู่ดี (ฮา) พบว่ารถเดิมๆสเปคโรงงาน เราพา LAMBREETA V200 Special ไปถึง110 กม./ชม ได้แบบเบาๆมือ ซึ่งแค่นี้ก็แจ่มแล้ว โดยเฉพาะสายออกทริปที่อาจต้องทำเวลาบ้างในบางช่วง!!!!

แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า

ระบบเบรคเป็นชนิด “คอมบายเบรค” ไม่ใช่ ABS อย่างที่บางคนเข้าใจผิด เรานำ V200 Special ขี่รีวิวในเมือง บอกเลยว่าได้ “ใช้เบรค” บ่อยมาก เนื่องจากพฤติกรรมการขับขี่แบบไทยแลนด์แดนสไมล์ เบรกเดิมๆติดรถชุดนี้ให้ประสิทธิภาพตามมาตรฐานครับ การใช้งานทั่วๆไปด้วยความเร็วปกติ ระบบคอมบายเบรคที่ช่วยกระจายแรงเบรคหน้า-หลังก็หยุดความเร็วได้อย่างปลอดภัยตามสมควรแล้วครับ…แต่จากมุมมองเราคิดว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว ใส่ ABS มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานไปเลยจะ “จบ” กว่า…

แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า

โช้คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิคธรรมดา เซ็ทติ้งจากโรงงานเหมือนถูกออกแบบมาเอาใจวัยรุ่นสายหมอบ เนื่องจากฟีลลิ่งมาแนวแข็งๆกระด้างๆหน่อย แต่สำหรับสายที่ชอบความพริ้มนิ่มนวล ผมว่าเพียงปรับอัพเกรดชุดหน้าให้โช้คนิ่มหรือใส่ยางแก้มสูงขึ้นอีกสักนิดก็ฉลุย…ส่วนโช้คอัพหลังนี่ถือว่าโอเคเลยครับ เนื่องจาก V200 Special ให้มาแบบโช้คคู่ …มีหลายช่วงที่เรา “ซัด” เอาความเร็วท็อปสปีด ก็พบว่ามันทำงานซับแรงได้ดี ลองรูดลูกระนาดจนถึงหลุมเจ้ากรรม ก็ไม่สร้างปัญหาในการควบคุม สาดโค้งแรงๆก็เอาอยู่นะ แต่ทั้งหมดนี้ก็อยู่บนพื้นฐานทักษะคนขี่ด้วยครับ…

แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า
แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า

ส่วนที่ “ส่งม้าลงพื้น” อย่าง “วงล้อ” มาในขนาด 12 นิ้ว ยางหน้า110/70 หลัง 120/70 ซึ่งคันที่เราทำการรีวิวนี้ติด “ยางรุ่นฮิต” ที่คนเล่นสกู๊ตเตอร์เขาบอกต่อกันให้ควักอย่าง Pirelli Angle Scooter (ยางนี้เฉพาะรถล็อตแรกสำหรับผู้ที่จองในงาน MOTOR EXPO 2018 นะครับ) ล้อชุดนี้นอกจากสวยพอดีๆแล้ว ยางที่ให้มาตอบโจทย์การใช้งานได้สมราคาครับ (ถ้าให้สวย LAMBRETTA น่าจะใช้ยางตัวนี้เป็น OEM ไปเลยนะ)

แล ม เบ ร ต ต้า กับ เว ส ป้า

ท้ายสุดแล้ว ถ้าถามว่ามันคุ้มค่ามั้ย ??? ในราคาค่าตัว 99,500 บาท ตอบง่ายๆว่า ถ้าคุณเลือกที่จะซื้อเพราะมันคือ LAMBRETTA แค่นั้นก็คุ้มค่าแล้ว !!!!
***คนไม่ได้เลือกรถ……รถต่างหากที่เลือกคน***

ขอขอบคุณ
-MOTO GROUP พระราม5 เอื้อเฟื้อรถทดสอบในครั้งนี้

Total Page Visits: 3465 - Today Page Visits: 5