ทดสอบ รีวิว LAMBRETTA V200 Special แรกพบสบตา “คันจริง” LAMBRETTA V200 Special พอจะเข้าใจได้เลย!!! งานประกอบรอบคันสวยงามดูดี ขยับสเต็ปท์จาก DEMO ที่มาโชว์ในงาน MOTOR EXPO 2018 แบบผิดหูผิดตา… รอช้าอยู่ใยเอาไปหวดกันเลย!!! เกริ่นนิด….ผมสูง 171 cm คร่อมรถแล้วเหยียบเกือบเต็มเท้า บางคนอาจติดที่ความสูงเบาะนิดหน่อย (770 มม.) ช่วงรถ-วงเลี้ยวไม่ได้เป็นปัญหา เข้าถึงได้ง่าย ขี่ง่ายตามแบบฉบับ สกู๊ตเตอร์สมัยใหม่ ที่หลายๆคนคุ้นเคยดี หน้าปัดเรือนไมล์เป็นแบบผสมผสาน Analog (มาตรวัดความเร็ว) และ Digital (ค่าต่างๆ) มีวัดค่า Volt แบตเตอรี่มาให้ด้วย อันนี้เป็นสิ่งจำเป็นมากกกกกสำหรับรถยุคนี้ (กำลังแบตไม่พอสตาร์ทก็กินข้าวลิงอย่างเดียว) ระบบส่องสว่าง FULL LED รอบคัน ที่สำคัญไฟเลี้ยวมีเสียง ตี๊ดๆๆๆ ด้วย…โคตรคลาสสิค กุญแจอาจจะดูเป็นธรรมดา แต่แอบซ่อนลูกเล่นความปลอดภัยไว้ภายในเก๊ะหน้าด้วยสวิตซ์ OFF-RUN พร้อมมีที่ชาร์ทแบบ PORT USB มาให้ด้วย ชุดนี้ลองเทสท์กันแล้วใช้งานดี มีข้อสังเกตว่ามันเล็กไปนิดสำหรับโทรศัพท์จอ 5-6 นิ้ว แต่ถ้าตัวอย่าง I6s สบาย เปิดเบาะมาเจอ U-Box ขนาดใหญ่ ใส่หมวกครึ่งใบพร้อมชิลด์หน้าได้สบายๆ อีกทั้งยังดีไซน์ให้มีการยกตัวหลบหัวฉีด เผื่อเวลาขับขี่เจอสภาพถนนอันโหดร้ายของเมืองไทยรถยุบตัวแล้วไม่กระแทกหัวฉีดหักแน่ๆ ยก U-Box เห็นแผงฟิวส์เด่นชัด จุดนี้ข้อดีคือเซอร์วิสง่ายไปอี๊กกกก …ถังน้ำมัน LAMBRETTA V200 SPECIAL ให้มาในขนาด 6 ลิตร(สำรอง0.2ลิตร) แค่นี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานแบบไร้กังวล ง่ายๆเลยคือ ขี่ทริปสบายครับ ไม่ต้องพกน้ำมัน เครื่องยนต์สูบเดี่ยว 4 จังหวะ หัวฉีด ระบายความร้อนด้วยอากาศ 169 ซีซี. ขับเคลื่อนด้วยสายพานตามยุคสมัย …กำลังในรอบต้นมีหน่วงเล็กน้อย….เนื่องจากอัตราทดที่วางมาให้รถลอยตัวในรอบกลาง-ปลาย ดังนั้นในรอบเครื่องช่วง 5,000-7,000 รอบ/นาที กำลังดีขี่สนุกติดมือ วิ่งเท่าไหร่?…ด้วยสไตล์รถประเภทนี้ ไม่ได้สร้างมาเพื่อเค้นเอาความเร็วปลาย เพราะมันเหมาะสำหรับชิลๆและมุดไปในเมืองมากกว่า แต่เราก็เอามาลองหวดดูความเร็วปลายอยู่ดี (ฮา) พบว่ารถเดิมๆสเปคโรงงาน เราพา LAMBREETA V200 Special ไปถึง110 กม./ชม ได้แบบเบาๆมือ ซึ่งแค่นี้ก็แจ่มแล้ว โดยเฉพาะสายออกทริปที่อาจต้องทำเวลาบ้างในบางช่วง!!!! ระบบเบรคเป็นชนิด “คอมบายเบรค” ไม่ใช่ ABS อย่างที่บางคนเข้าใจผิด เรานำ V200 Special ขี่รีวิวในเมือง บอกเลยว่าได้ “ใช้เบรค” บ่อยมาก เนื่องจากพฤติกรรมการขับขี่แบบไทยแลนด์แดนสไมล์ เบรกเดิมๆติดรถชุดนี้ให้ประสิทธิภาพตามมาตรฐานครับ การใช้งานทั่วๆไปด้วยความเร็วปกติ ระบบคอมบายเบรคที่ช่วยกระจายแรงเบรคหน้า-หลังก็หยุดความเร็วได้อย่างปลอดภัยตามสมควรแล้วครับ…แต่จากมุมมองเราคิดว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว ใส่ ABS มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานไปเลยจะ “จบ” กว่า… โช้คอัพหน้าแบบเทเลสโคปิคธรรมดา เซ็ทติ้งจากโรงงานเหมือนถูกออกแบบมาเอาใจวัยรุ่นสายหมอบ เนื่องจากฟีลลิ่งมาแนวแข็งๆกระด้างๆหน่อย แต่สำหรับสายที่ชอบความพริ้มนิ่มนวล ผมว่าเพียงปรับอัพเกรดชุดหน้าให้โช้คนิ่มหรือใส่ยางแก้มสูงขึ้นอีกสักนิดก็ฉลุย…ส่วนโช้คอัพหลังนี่ถือว่าโอเคเลยครับ เนื่องจาก V200 Special ให้มาแบบโช้คคู่ …มีหลายช่วงที่เรา “ซัด” เอาความเร็วท็อปสปีด ก็พบว่ามันทำงานซับแรงได้ดี ลองรูดลูกระนาดจนถึงหลุมเจ้ากรรม ก็ไม่สร้างปัญหาในการควบคุม สาดโค้งแรงๆก็เอาอยู่นะ แต่ทั้งหมดนี้ก็อยู่บนพื้นฐานทักษะคนขี่ด้วยครับ… ส่วนที่ “ส่งม้าลงพื้น” อย่าง “วงล้อ” มาในขนาด 12 นิ้ว ยางหน้า110/70 หลัง 120/70 ซึ่งคันที่เราทำการรีวิวนี้ติด “ยางรุ่นฮิต” ที่คนเล่นสกู๊ตเตอร์เขาบอกต่อกันให้ควักอย่าง Pirelli Angle Scooter (ยางนี้เฉพาะรถล็อตแรกสำหรับผู้ที่จองในงาน MOTOR EXPO 2018 นะครับ) ล้อชุดนี้นอกจากสวยพอดีๆแล้ว ยางที่ให้มาตอบโจทย์การใช้งานได้สมราคาครับ (ถ้าให้สวย LAMBRETTA น่าจะใช้ยางตัวนี้เป็น OEM ไปเลยนะ) ท้ายสุดแล้ว ถ้าถามว่ามันคุ้มค่ามั้ย ??? ในราคาค่าตัว 99,500 บาท ตอบง่ายๆว่า ถ้าคุณเลือกที่จะซื้อเพราะมันคือ LAMBRETTA แค่นั้นก็คุ้มค่าแล้ว !!!! ขอขอบคุณ Total Page Visits: 3465 - Today Page Visits: 5 |