เชื่อว่า หลายคนคงเคยเผชิญ ปัญหากับ iPhone เครื่องร้อนมาก จนไม่รู้จะหาวิธีการแก้ไขยังไง เพราะหากนำไปให้ช่างทำการตรวจสอบก็อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป หรือไม่มีเวลาพอที่จะทำเช่นนั้น ดังนั้นเราจึงรวมสาเหตุและวิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นมาให้ลองนำไปใช้ดู หากอยู่ในขอบเขตที่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเองก็จะได้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว แต่หากไม่ใช่ก็ควรรู้ว่า ควรนำไปให้ช่างตรวจสอบจะดีกว่า Show
การที่ iPhone เครื่องร้อน อาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
>> ร้านซ่อมโทรศัพท์ไอโฟน ที่ดีที่สุด สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่า iPhone ของคุณกำลังร้อนจัดเมื่อพอเข้าใจสาเหตุไปบ้างแล้วก็อยากให้ลองสังเกตสัญญาณเตือนที่จะเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ เพื่อเป็นการเน้นย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องแก้ไข โดยสัญญาณที่พบได้มีดังนี้
วิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้นหากพบว่า สาเหตุที่ iPhone ของคุณร้อนเป็นไปตามข้อมูลที่เรากล่าวไปข้างต้น สามารถใช้วิธีในการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ดังต่อไปนี้
หวังว่า รวมสาเหตุ และวิธีแก้ปัญหา ทำไมไอโฟน iPhone เครื่องถึงร้อนมาก จะสามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นสำหรับคนที่กำลังต้องเผชิญกับปัญหานี้อยู่ เนื่องจากอาจยังไม่มีเวลาว่างหรือกลัวเสียค่าใช้จ่ายมากเกินไป หากเดินทางไปพบช่างก็อาจต้องเปลี่ยนนั่นเปลี่ยนนี่จนค่าใช้จ่ายบานปลาย ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะสามารถใช้วิธีการดังกล่าวในการแก้ไขเบื้องต้นได้ แต่หากพบว่า ทำตามวิธีการทุกอย่างที่เราแนะนำไปแล้วยังไม่ได้ผล สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือแจ้งปัญหากับทางเราได้ที่นี่ https://techavenue.co.th/ >> ปรึกษาอาการเสียไอโฟน คลิกเลย หากแบตเตอรี่ของคุณไม่ชาร์จหรือชาร์จช้า หรือหากข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้น ให้ดูสิ่งที่ต้องทำ เสียบปลั๊กเข้ากับแหล่งจ่ายไฟหากต้องการชาร์จอุปกรณ์ของคุณ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้
ปลั๊กติดผนังคอมพิวเตอร์เสียบสายชาร์จเข้ากับพอร์ต USB 2.0 หรือ 3.0 บนคอมพิวเตอร์ที่กำลังเปิดเครื่องอยู่ และไม่ได้อยู่ในโหมดพักเครื่อง อย่าใช้พอร์ต USB บนคีย์บอร์ด อุปกรณ์เสริมเกี่ยวกับไฟฟ้าเสียบสายเคเบิลเข้ากับฮับจ่ายไฟ USB แท่นวาง หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่ได้รับการรับรองจาก Apple เมื่ออุปกรณ์ของคุณชาร์จแล้ว จะมีเครื่องหมายรูปสายฟ้าปรากฏขึ้นในไอคอนแบตเตอรี่ในแถบสถานะ
หากอุปกรณ์ของคุณชาร์จได้ช้าหรือไม่ชาร์จให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้ จากนั้นลองอีกครั้งหลังจากเสร็จสิ้นในแต่ละขั้นตอน
หากอุปกรณ์หยุดชาร์จเมื่อชาร์จได้ 80 เปอร์เซ็นต์iPhone อาจค่อยๆ อุ่นขึ้นในระหว่างที่ชาร์จอยู่ ในการเพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ หากแบตเตอรี่ร้อนเกินไป ซอฟต์แวร์อาจจำกัดการชาร์จไม่ให้เกิน 80 เปอร์เซ็นต์ iPhone จะกลับมาชาร์จอีกครั้งเมื่ออุณหภูมิลดลง ลองย้าย iPhone และที่ชาร์จไปไว้ในสถานที่ที่เย็นกว่า สำหรับ iOS 13 และใหม่กว่า ให้ชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่เพื่อชะลออัตราการมีอายุมากขึ้นของแบตเตอรี่ โดยลดเวลาที่ iPhone ของคุณจะได้รับการชาร์จจนเต็ม iPhone จะใช้การเรียนรู้ของเครื่องในอุปกรณ์เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมการชาร์จรายวันของคุณ โดยจะรอจนคุณต้องการใช้ iPhone จึงจะชาร์จให้ปริมาณแบตเตอรี่สูงกว่า 80 เปอร์เซ็นต์จนกระทั่งเต็ม* การชาร์จเพื่อถนอมแบตเตอรี่จะทำงานเฉพาะเมื่อ iPhone ของคุณคาดการณ์ว่าจะเชื่อมต่อกับที่ชาร์จเป็นเวลานาน *ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการชาร์จประจำวันของคุณจะถูกจัดเก็บไว้ใน iPhone ของคุณเท่านั้น ข้อมูลนี้จะไม่รวมอยู่ในข้อมูลสำรองและจะไม่แชร์กับ Apple หากการเตือนแจ้งว่าอุปกรณ์เสริมไม่รองรับหรือไม่ได้รับการรับรองการแจ้งเตือนเหล่านี้อาจแสดงขึ้นด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
ดูเพิ่มเติม
วันที่เผยแพร่: 11 กรกฎาคม 2565 ไอโฟน12ทำไมเครื่องร้อนทำไมไอโฟนร้อนจัด รวมสาเหตุที่ทำให้เครื่องร้อนได้มีดังนี้ การชาร์จและใช้งานอุปกรณ์ของคุณพร้อมกัน สตรีมวิดีโอคุณภาพสูงเป็นเวลานาน หรือจัด livestream เป็นระยะเวลานาน การใช้ GPS แบบเรียลไทม์บน อุปกรณ์รุ่นเก่า older.
ทำไมชาร์จแบตไอโฟนแล้วร้อนการชาร์จแบตเตอรี่ เมื่อเรานำ iPhone ไปเสียบชาร์จ อาจะส่งผลให้ iPhone มีความร้อนเพิ่มขึ้น เพราะต้องเก็บประจุเข้าไปในแบตเตอรี่ ยิ่ง iPhone ที่มีแบตเตอรี่เหลือน้อยมาก ๆ ก็จะเกิดการเร่งการชาร์จและทำให้เครื่องร้อนขึ้นนั่นเอง
ทำไมไอโฟนเครื่องใหม่ร้อนiOS ที่ใหม่เกินไป ก็เป็นไปได้ที่อาจจะทำให้เครื่องร้อน เนื่องจากใน OS ใหม่ที่อัพเดทนั้น ไม่ได้รองรับกับรุ่นมือถือที่ใช้งานอยู่ หรืออาจจะรองรับก็จริง แต่สเปคภายในเครื่อง ไม่ได้มีประสิทธิภาพพอที่จะใช้งานได้ จึงทำให้เครื่องนั้นทำงานหนักเกินไป สุดท้ายแล้วเครื่องก็จะร้อนเกินไปนั่นเอง
ทำไมชาร์จแบตแล้วเครื่องร้อนความร้อนในสมาร์ทโฟนเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่สาเหตุภายนอกอย่างการวางสมาร์ทโฟนตากแดดนานๆ, สวมเคสที่ไม่ระบายความร้อน, ใช้งานประมวลผลหนักขณะชาร์จแบตเตอรี่, ใช้สายชาร์จไม่ได้มาตรฐาน ไปจนถึงสาเหตุภายใน เช่น บั๊กที่ทำให้แอปใช้ CPU ตลอดเวลา, มีแอปทำงานเบื้องหลังมากเกินไป, บั๊กของตัวระบบ, แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ เป็นต้น แต่ ...
|