การจัดการศพขั้นต้นแยกออกเป็น ๒ วิธี คือ วิธีที่ ๑ สำหรับมุสลิมที่ตายด้วยโรคภัยไข้เจ็บ หรือด้วยพิษบาดแผลที่กำลังรักษาอยู่ - ให้นำศพมาอาบน้ำชำระสิ่งสกปรกที่ติดอยู่รีดท้อง เพื่อให้สิ่งปรกภายในเคลื่อนที่ออกมา แล้วรดน้ำให้สะอาดทั้งตัว - นำศพมาวางบนผ้าขาวซึ่งปูไว้ ๓ ชั้น นำมือทั้งสองไว้ที่ระดับอกให้มือขวาทับบนมือซ้ายแล้วห่อด้วยขาว ๓ ชั้น - นำศพไปบรรจุในหีบศพถ้าหากอยู่ในที่กันดาร ไม่ใช้หีบศพก็ได้แต่ให้ทำลูกหลุมเพื่อเตรียมฝัง - ฝังในหลุมลึก คะเนพอไม่ให้มีกลิ่นขึ้น หรือสัตว์ป่าคุ้ยเขี่ยขึ้นมาได้ - เมื่อฝังในที่ใดแล้ว ห้ามขุดศพนั้นขึ้นมาไม่ว่าประการใด ๆ - การฝังให้วางศพนอนตะแคงข้างขวา หันหน้าศพไปทางทิศตะวันตก แล้วนำดินที่ขุดขึ้นมากลบไปจนหมด - หากจำเป็นต้องนำศพกลัง ให้รักษาไว้ไม่ให้มีกลิ่นเหม็น ถ้าปล่อยให้มีกลิ่นเหม็นทางศาสนาถือว่าเป็นการบาป วิธีที่ ๒ สำหรับทหารที่ตายในขณะปฏิบัติการ ทหารที่ตายในขณะปฏิบัติการในสนามรบนั้น ไม่จำเป็นต้องเตรียมการเกี่ยวกับการอาบน้ำหรือห่อศพ ใด ๆ ทั้งสิ้นให้ใส่เสื้อผ้าในชุดเดิม แล้วฝังลงไปเลยวิธีฝังเหมือนกับวิธีที่ ๑ และถ้าตายพร้อมกันหลายศพก็ฝังลงในหลุมเดียวกันได้ ข้อแนะนำในการไปเยี่ยมเคารพศพผู้นับถือศาสนาอิสลาม เมื่อชาวมุสลิมถึงแก่กรรม เจ้าหน้าที่จะจัดการศพตามพิธีทางศาสนา เช่น ๑. กรณีศพอยู่ที่บ้าน - นำศพมาอาบน้ำชำระสิ่งสกปรก รดน้ำให้สะอาดทั้งตัว - นำศพมาวางบนผ้าข้าวซึ่งปูไว้ ๓ ชั้น หรือนำศพบรรจุในหีบศพ - ผู้ไปเยี่ยมเคารพศพ ควรไปแสดงไว้อาลัยกับญาติที่มีชีวิตอยู่ เป็นการให้เกียรติแก่เจ้าภาพ - ทำความเคารพศพ โดยกล่าวคำไว้อาลัยได้ (ไม่นิยมนำหวีดไปวาง) - มอบเงินซองช่วยเหลือ (ถ้ามี) - เสร็จพิธี ๒. กรณีศพอยู่ที่มัสยิดหรือสุเหร่า - ผู้ร่วมพิธีจะรอเคารพศพก่อนพิธีละหมาด - ผู้ร่วมพิธีมุ่งไปแสดงความเสียใจกับญาติ (พิธีฝังจะเป็นพิธีของญาติ ๆ) - หากมีเงินซองช่วยมอบเจ้าภาพ ------------- ประเพณีงานศพ ประเพณีงานศพ เมืองตรังมีทั้งชาวไทยพุทธ ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยเชื้อสายจีน ประเพณีงานศพเมืองตรังจึงมีพิธีกรรมที่แตกต่างไปตามศาสนาและความเชื่อดั้งเดิม แต่มีบางอย่างทีเหมือนกันอันแสดงถึงความเป็นตรัง งานศพชาวไทยพุทธ พิธีฝังศพชาวไทยมุสลิม พิธีฝังศพชาวไทยเชื้อสายจีน |