ไม่ได้เดินบัญชี ซื้อรถได้ไหม

เมื่อถึงเวลาที่เกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินติดขัด หลายคนอาจนึกถึงการกู้หนี้ยืมสิน หรือแม้แต่การกู้เงินนอกระบบ เพื่อที่จะหาเงินสดฉุกเฉินมาช่วยให้ผ่านปัญหาเหล่านั่น เราขอนำเสนออีกหนึ่งตัวเลือกให้คุณได้ตัดสินใจ เพราะหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการขอสินเชื่อทะเบียนรถ แม้เราไม่ได้ทำงานประจำ ไม่มีสลิปเงินเดือน ก็สามารถยื่นขอสินเชื่อได้เช่นกัน

บทความนี้เงินติดล้อจะช่วยชี้แจงให้เองว่า สำหรับผู้ที่ไม่มีสลิปเงินเดือนนั้น สามารถยื่นเรื่องขอสินเชื่อทะเบียนรถได้หรือไม่ มาดูกันเลยครับ!

ไม่ได้เดินบัญชี ซื้อรถได้ไหม

ไม่มีสลิปเงินเดือนสามารถขอสินเชื่อทะเบียนรถได้หรือไม่?

สำหรับคำถามที่ว่า “ไม่มีสลิปเงินเดือนจะสามารถขอสินเชื่อทะเบียนรถได้หรือไม่?” เงินติดล้อขอตอบเลยนะครับว่า ได้ แต่ก็ต้องมีเอกสารหรือหลักฐานอื่นๆ มายืนยันแทนอยู่ดีนั่นเอง

ต้องแจ้งให้เข้าใจตรงกันก่อนว่าสลิปเงินเดือนนั้นถูกนับว่าเป็นเครื่องยืนยันว่าคุณมีเครดิตดีพอ เป็นหลักฐานว่าคุณมีรายได้เข้ามาจริงทุกเดือน เพราะฉะนั้น แม้ว่าคุณจะไม่มีสลิปเงินเดือน ก็สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ หากคุณสามารถพิสูจน์ให้สถาบันการเงินเห็นได้ว่ามีวินัยทางการเงินมากพอ คุณก็สามารถขอสินเชื่อทะเบียนรถได้เช่นกัน

โดยหลักฐานที่สามารถใช้ยืนยันรายได้นอกเหนือจากสลิปเงินเดือน มีดังนี้เลยครับ

  • หลักฐานการเดินบัญชีธนาคาร

    หนึ่งในหลักฐานที่ดีที่สุดสำหรับการยื่นขอสินเชื่อนั่นก็คือ การนำเงินเข้าบัญชีธนาคารเพื่อเป็นการเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง โดยการเดินบัญชีติดต่อกันประมาณ 6 เดือน - 1 ปี หรือยิ่งมีเงินเก็บคงเหลือในบัญชีธนาคารก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าคุณมีวินัยทางการเงินที่ดี

    ไม่ได้เดินบัญชี ซื้อรถได้ไหม
  • ผู้ค้ำประกัน

    การมีผู้ค้ำประกันจะช่วยให้สถาบันการเงินมั่นใจได้ว่า ผู้ค้ำประกันนั้นจะทำการสนับสนุนผู้ยื่นกู้ให้สามารถจ่ายค่างวดได้ ทั้งนี้ผู้ค้ำประกันก็จำเป็นที่จะต้องมีประวัติทางการเงินที่ดีเช่นกัน

  • ใบเสร็จการจับจ่ายสินค้า (สำหรับเจ้าของกิจการ)

    สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการ หรือพ่อค้าแม่ค้านั้นหากไม่ได้ทำการเดินบัญชี หรือเก็บเงินไว้ในธนาคาร เพราะฉะนั้นหลักฐานที่จะนำมาแสดงได้นั่นก็คือใบเสร็จที่เจ้าของกิจการได้ไปจับจ่ายซื้อของมาขายนั่นเอง โดยทางสถาบันการเงินอาจขอภาพถ่ายหน้าร้าน หรือหลักฐานการเป็นเจ้าของร้านเพิ่มเติมด้วยแล้วแต่กรณี

หรือถ้าคุณไม่มีหลักฐานยืนยันเหล่านี้ แนะนำว่าลองติดต่อไปที่สถาบันทางการเงินเพื่อหาทางออกร่วมกันได้ครับ หรือส่งข้อมูลมาให้กับเงินติดล้อเพื่อขอคำปรึกษาด้านสินเชื่อทะเบียนรถได้ที่นี่เลยครับ

เอกสารอื่นๆ ที่ควรเตรียมก่อนยื่นเรื่อง มีอะไรบ้าง

เมื่อทราบแล้วว่าไม่มีสลิปเงินเดือนก็สามารถทำการขอสินเชื่อทะเบียนรถได้ การเตรียมพร้อมในเรื่องของเอกสารก็ถือว่าสำคัญ เงินติดล้อแนะนำให้คุณจัดเตรียมเอกสารต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อนทำการยื่นเรื่อง เพราะจะช่วยลดระยะเวลาการดำเนินการลงไปได้ค่อยข้างมาก หากเรื่องผ่านเร็ว คุณก็จะได้รับการอนุมัติผ่านเร็วเช่นกัน

โดยเอกสารสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ มีดังนี้

  • เล่มทะเบียนรถยนต์ นำฉบับจริงมาด้วย
  • สำเนาบัตรประชาชน พร้อมกับนำบัตรประชาชนตัวจริงมาด้วย
  • สำเนาทะเบียนบ้าน ไม่จำเป็นต้องนำทะเบียนบ้านฉบับจริงมา
  • หลักฐานแสดงการมีรายได้ เช่น หลักฐานการเดินบัญชีธนาคาร หรือ Statement ย้อนหลัง 6 เดือนดังที่ได้กล่าวไปในข้างต้น

ทั้งนี้ ทางสถาบันการเงินอาจทำการขอเอกสาร หรือหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่กล่าวไป เงินติดล้อแนะนำว่าให้ทำการติดต่อไปยังสถาบันการเงินให้เรียบร้อยก่อนจะดีที่สุด เพื่อลดขอผิดพลาดในการจัดเตรียมเอกสาร

ไม่ได้เดินบัญชี ซื้อรถได้ไหม

สรุป

แม้ไม่มีสลิปเงินเดือนก็ยังสามารถทำการยื่นขอสินเชื่อทะเบียนรถได้ หากว่าคุณกำลังมองหาสถาบันทางการเงินเพื่อทำการขอสินเชื่อทะเบียนรถเงินติดล้อยินดีให้บริการและให้คำปรึกษา เพราะเรามีสินเชื่อทะเบียนรถมากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์ รถเก๋ง หรือแม้แต่รถกระบะก็สามารถยื่นเรื่องขอสินเชื่อกับเราได้

เรามีสินเชื่อทะเบียนรถมากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์ รถเก๋ง หรือแม้แต่รถกระบะก็สามารถยื่นเรื่องขอสินเชื่อกับเราได้ อนุมัติไว พร้อมให้ราคาประเมินสูงแต่อัตราดอกเบี้ยเป็นธรรมต่อลูกค้าทุกคนอย่างแน่นอน รับรองว่ามีเงินสดฉุกเฉินไว้ใช้ทันใจคุณอย่างแน่นอน

สนใจติดต่อทำเรื่องสินเชื่อทะเบียนรถกับเงินติดล้อ สามารถทำได้โดย

  • ติดต่อโดยตรงได้ที่เงินติดล้อทุกสาขาใกล้บ้านท่าน
  • Facebook Inbox เงินติดล้อ: facebook.com/messages/t/ngerntidlor
  • โทรเข้า Call Center เงินติดล้อ: 088-088-0880
  • หรือกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อรอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่

เงินติดล้อพร้อมให้บริการพี่น้องประชาชนทุกคนอย่างเต็มที่ครับ!


อยากมีรถสักคัน แต่ติดอยู่ที่อายุน้อย เงินเก็บก็ยังไม่เยอะ แล้วความฝันจะเป็นจริงได้ไหม บอกเลยว่าถ้าวางแผนซื้อรถดี ๆ ก็มีสิทธิ์ทำได้เหมือนกัน


สินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงโดยทั่วไปแล้วก็ต้องมี "รถยนต์" กับ "บ้าน" แต่ถ้ามาพูดถึงเด็กจบใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานก็น่าจะมองเรื่องการวางแผนซื้อรถยนต์เป็นหลักก่อน อาจจะด้วยว่าตอนนี้ยังอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ แล้วด้วยระบบรถสาธารณะบ้านเรายังไม่ได้ดีมาก การมีรถยนต์ส่วนตัวก็เลยดูเหมือนจะเป็นเรื่องจำเป็นไปโดยปริยาย การเก็บเงินวางแผนซื้อรถยนต์ก็เลยดูเหมือนจะเป็นเป้าหมายหนึ่งที่หลาย ๆ คนตั้งเอาไว้

ถ้าถามว่าอายุน้อย ๆ ควรจะออกรถมั้ย ? หากว่ากันด้วยเหตุและผล การซื้อรถยนต์ถือว่าเป็นการซื้อสินทรัพย์เสื่อมมูลค่าที่จะปรับลดลงเรื่อย ๆ แล้วนอกเหนือจากค่าผ่อนงวดรถในแต่ละเดือนแล้ว ก็ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เราต้องนำมาคิดพิจารณาด้วย ทั้งค่าน้ำมัน ค่าประกัน ค่าบำรุงรักษาต่าง ๆ บอกได้เลยว่าถ้าต้องการมีรถ Eco Car สักคันก็ต้องเตรียมเงินไว้ประมาณเดือนละ 10,000 - 12,000 บาทสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของรถยนต์คันหนึ่ง ดังนั้นเราจึงควรเลือกซื้อรถให้เหมาะกับกำลังซื้อของเรา ซึ่งถ้าเราใช้รถยนต์เยอะก็อาจจะต้องเตรียมไว้มากกว่านั้น ส่วนตัวก็เลยมองว่าอายุน้อย ๆ การมีรถยนต์สักคันอาจจะไม่ควรสักเท่าไร เพราะรายจ่ายเรื่องรถยนต์จะเป็นรายจ่ายที่เยอะมากต่อเดือน ดังนั้นเจ้าของรถมือใหม่ทั้งหลายจึงควรจะคำนวณค่าใช้จ่ายสำหรับรถคันแรกให้ดีเสียก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

แต่ถ้าจำเป็นจริง ๆ คนอายุน้อย ๆ เพิ่งเริ่มทำงานอยากจะมีรถยนต์เป็นของตัวเองสักคันจะเตรียมตัวอย่างไร และวางแผนซื้อรถอย่างไร จึงจะเหมาะสม และไม่ทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน มาฟังคำแนะนำกัน

ก่อนอื่นเลยหากว่าเราจะวางแผนซื้อรถยนต์ เราต้องรู้ราคารถยนต์หรือรุ่นรถยนต์ที่เราอยากได้ เพราะจะเป็นตัวที่กำหนดว่าเราต้องเตรียมเงินไว้เดือนละเท่าไร เพราะถ้าเป็นเด็กจบใหม่ ๆ มา การที่จะมีเงินสดเพื่อไปซื้อรถยนต์หนึ่งคันเลยน่าจะเป็นเรื่องที่ยากอยู่เหมือนกันถ้าไม่มีทางบ้านให้การสนับสนุน ดังนั้นส่วนใหญ่จะใช้บริการสินเชื่อรถยนต์เป็นหลักกันอยู่แล้ว ก็จะมีการผ่อนตั้งแต่ 12 เดือนไปจนสูงสุดแถว ๆ 72 เดือน

สิ่งที่เราควรจะรู้เกี่ยวกับการวางแผนซื้อรถ คือการผ่อนชำระค่างวด เพราะยิ่งเราผ่อนนานเท่าไรเราก็จะยิ่งโดนคิดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น เพราะการคิดดอกเบี้ยของการซื้อรถยนต์จะเป็นการคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat rate) ตัวอย่างเช่น

ถ้าเราเอารถเข้าไฟแนนซ์หรือใช้บริการสินเชื่อรถยนต์ สมมติว่ารถยนต์ราคา 600,000 บาท แล้วเราดาวน์ประมาณ 25% ก็คือ 150,000 บาท แปลว่าเราต้องใช้บริการสินเชื่อรถ 450,000 บาท

สมมติว่าโดนคิดดอกเบี้ยที่ 3% ต่อปี แล้วเราผ่อน 60 เดือนหรือ 5 ปี เวลาที่เขาคำนวณดอกเบี้ย เขาจะคำนวณด้วยการที่เอา 450,000 บาท มาคูณ 3% จะเท่ากับ 13,500 บาท แล้วเราผ่อนรถเป็นเวลา 5 ปี ก็เอา 13,500 x 5 ปี จะเท่ากับ 67,500 บาท นั่นแปลว่าเราจะมีหนี้ทั้งหมด 450,000 + 67,500 บาท จะเท่ากับ 517,500 บาท แล้วเราจะผ่อนงวดละเท่าไร ก็จะเอา 517,500 บาท มาหาร 60 งวด เราจะต้องผ่อนงวดละ 8,625 บาท

พอเห็นการคำนวณแบบนี้เราก็จะเห็นว่า หากว่าเราวางแผนซื้อรถ โดยสามารถดาวน์ได้เยอะเท่าไร ก็จะยิ่งเป็นภาระต่องวดน้อยลง และถ้าผ่อนคำนวณงวดได้สั้น ก็จะเสียดอกเบี้ยน้อยเท่านั้น คำแนะนำก็คือ ควรจะเก็บเงินซื้อรถยนต์หรือควรนำเงินมาดาวน์ให้ได้ยิ่งเยอะยิ่งดี สัก 30 - 40% เป็นอย่างน้อย เพื่อลดภาระในแต่ละงวดลงไปอีก

นอกจากนี้ หลังจากที่เราคำนวณเสร็จแล้วว่าต้องผ่อนเดือนละเท่าไร ขั้นตอนต่อไปของการวางแผนซื้อรถคือ การดูค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าประกันรถยนต์ เป็นต้น เพราะเชื่อว่าเมื่อเราออกรถมาใหม่เราก็คงไม่อยากขับรถแบบไม่มีประกันแน่ ๆ เพราะถือว่าเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง ถ้าเกิดเราขับออกไปแล้วเกิดอุบัติเหตุมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ก็อาจจะทำให้เราประสบปัญหาการเงินในอนาคตได้ นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องค่าบำรุงรักษาต่าง ๆ ทั้งเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนยาง ก็เป็นรายจ่ายที่ไม่น้อยเหมือนกัน

ถ้าใครอยากคำนวณดูว่าเราต้องผ่อนเท่าไรยังไง ทางกรุงศรีฯ เราก็มีบริการ Plan Your Money ที่ไม่ได้ช่วยแค่การวางแผนซื้อรถ แต่เป็นการวางแผนการเงินของเราทั้งหมด เพียงแค่เรากรอกข้อมูล เราก็จะรู้ทันทีว่าเราต้องผ่อนงวดละเท่าไร และนอกจากเรื่องรถยนต์ Plan Your Money ก็ยังมีบริการคำนวณเรื่องการกู้ซื้อบ้าน รวมไปถึงการวางแผนภาษีที่จะช่วยทำให้เราเสียภาษีน้อยลง ทำให้เราเหลือเงินเก็บมากขึ้นด้วย

สุดท้ายก่อนที่เราจะวางแผนซื้อรถยนต์สักคันหนึ่ง อย่าลืมคิดคำนวณให้ดีก่อนว่าเราจำเป็นต้องใช้รถยนต์จริง ๆ เพราะอย่างที่เราเห็นว่าการมีรถยนต์ 1 คัน ก็มีรายจ่ายไม่ใช่น้อย ถ้าสำหรับคนที่ทำงานได้รับเงินเดือน 15,000 บาทแล้ว ต้องมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถยนต์สูงถึง 80% ก็ไม่น่าจะรับภาระค่าใช้จ่ายไหวแน่ ๆ

ดังนั้นการมีรถยนต์คันหนึ่งเราก็จะมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นมาไม่น้อยเหมือนกัน แนะนำว่าถ้าเรามีรถยนต์แล้วไม่ได้สร้างรายได้ให้กับเราเพิ่มเติมเลยมีแต่รายจ่าย ส่วนตัวก็แนะนำว่าอาจจะยังไม่ถึงเวลาที่ควรมี แต่ถ้าบางคนการเดินทางยากลำบากจริง ๆ อาจจะต้องหาวิธีการเดินทางรูปแบบอื่น ๆ ที่น่าจะช่วยประหยัดเวลาและรายจ่ายได้ การคำนวณต่าง ๆ จะช่วยทำให้เราเห็นภาพมากขึ้น ตัดสินใจได้ดีขึ้น และลดอารมณ์การใช้จ่ายลงแบบไม่คิดได้เป็นอย่างดี รถยนต์เป็นสินทรัพย์ที่ราคาค่อนข้างสูงก่อนซื้อควรวางแผนซื้อรถให้ดีก่อนทุกครั้ง