คุณอยู่ที่: หน้าหลัก › บทความไอที 24 ชั่วโมง › วิธีจับภาพหน้าจอ ScreenShot บน Windows สำหรับคีย์บอร์ดที่ไม่มีปุ่ม PrintScreen Show ใครที่ใช้คอมพิวเตอร์พีซี คียบอร์ดแบบปกติ เวลาที่จะจับภาพหน้าจอง่ายแค่กดปุ่ม PrintScreen แล้วกด Ctrl + V วางในแอปพิมพ์งาน หรือโปรแกรมแต่งภาพก็ได้ หรือไม่ก็ กดปุ่ม Windows + PrintScreen ก็จะบันทึกภาพหน้าจอลงบน Screenshot ได้เลย แต่ถ้าเป็นคีย์บอร์ดขนาดเล็กหรือ Notebook ที่ไม่มีปุ่ม PrintScreen จะทำอย่างไรดี ตอนนี้มีคำตอบแล้ว ยังจำโปรแกรมจับภาพหน้าจอ Snipping Tool บน Windows ได้มั้ย แอปนี้ละมีอยู่แล้วใน Windows Vista , 7 , 8 และ Windows 10 ก็มีด้วย คุณสามารถที่จะจับภาพหน้าจอบางส่วน หรือทั้งหมดได้เลย หาง่ายสุดคือ กดปุ่ม Windows + Q เพื่อเข้า Search ค้นหา แล้วพิมพ์ Snipping Tool ก็เจอแอปนั้นเลย วิธีใช้คือ คลิก New เพื่อเริ่มจับภาพหน้าจอทันที
แต่ถ้าเลือกจับภาพหน้าจอบางส่วน ให้คลิกที่ลูกศรลงข้างเมนู New แล้วจะพบเมนูต่อไปนี้
แค่นี้ก็จับภาพหน้าจอได้แล้ว ก็ save บันทึกรูปตามปกติได้เลย นอกจากนี้ยังมีอีกวิธีนึง คือกำหนดปุ่มใหม่แทนปุ่ม PrintScreen ที่หายไป ด้วยโปรแกรม Sharpkeysโดยดาวน์โหลดติดตั้งโปรแกรม Sharpkeys ลงคอมก่อนจากนั้นเปิดโปรแกรม Sharpkeys แล้วคลิกที่ Type Key ปุ่มซ้าย แล้วต่อด้วยปุ่มที่ต้องการจะเปลี่ยน (แนะนำใช้ร่วมกับปุ่ม ctrl หรือ alt ) เมื่อเลือกข้างซ้ายเรียบร้อยแล้ว มาเลือกทางด้านขวาไปที่ PrtSc เพื่อบังคับให้ปุ่มที่กำหนดทางด้านซ้าย กลายเป็นปุ่ม PrintScreen แทน แล้วคลิก OK แค่นี้ปุ่มที่กำหนดนั้นก็กลายเป็นปุ่ม Printscreen แล้ว สำหรับคนที่ชอบจับภาพด้วยคีย์บอร์ด กดแล้วได้ภาพ save ไว้ในโฟลเดอร์ screenshot เลย แต่ดันไม่มีปุ่ม PrintScreen เราสามารถใช้ปุ่มคีย์ลัดอื่นๆแทนคือ กดปุ่ม Windows + Fn + Spacebar เพื่อจับภาพแล้ว save ลง โฟลเดอร์ Screenshot ได้ ข้อมูลจาก Makeuseof Mechanical
Keyboard คีย์ครอนรุ่นไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ สวัสดีเพื่อน ๆ และว่าที่สมาชิกใหม่ของครอบครัวคีย์ครอนคีย์บอร์ดทุกคน เนื่องจากลูกค้าหลายคนมีข้อสงสัยว่าคีย์บอร์ดของเราแต่ละรุ่นนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร และเหมาะกับการใช้งานแบบไหนบ้าง วันนี้ทาง Keychron Thailand จะมารีวิวคีย์ครอนแต่ละรุ่น ทั้งรุ่น K1, K2, K3, K4, K6 และ K8 เพื่อให้คนที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อคีย์บอร์ด Keychron รู้ว่าคีย์ครอนรุ่นไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวนั่นเอง หากคุณต้องการทราบข้อมูลเรื่องระดับความดังของเสียงพิมพ์ แรงกดและแรงต้าน หรือความรู้สึกขณะพิมพ์คีย์บอร์ด คุณสามารถอ่านบทความเรื่อง ประเภทของสวิตช์ Gateron ได้ที่ลิงก์นี้เลย โดยสินค้าคีย์บอร์ด ก่อนอื่นขอแนะนำพระเอกของเราก่อน นั่นก็คือ Keychron K2 เพราะว่ารุ่น K2 เป็นคีย์บอร์ดไร้สายที่ได้รับการระดมทุนมากที่สุดในโลกในปี 2019 เป็นคีย์บอร์ดที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังเป็นรุ่นที่ราคาถูกที่สุด ใช้งานง่ายคล่องตัว และขายดีที่สุดของคีย์ครอน ถ้าจะเรียกรุ่น K2 ว่าเป็นคีย์ครอนรุ่นมาตรฐานที่ชาวคีย์ครอนต้องมีก็คงไม่ผิดเลย โดยฟีเจอร์หลักของรุ่นนี้ก็คือ เป็นคีย์บอร์ดขนาด 75% มีปุ่มกด 84 ปุ่ม ไม่มีปุ่มตัวเลข (Numpad) และไม่มีปุ่ม Insert คีย์ครอนรุ่น K2 นี้มีการจัดวางเลย์เอาต์แบบแนบชิดกันทุกปุ่มกด (Compact) ทำให้มีขนาดกะทัดรัดกำลังดี เหมาะกับวัยทำงานที่ชอบตกแต่งโต๊ะให้เรียบหรูดูดี สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่ชอบตกแต่งออฟฟิศด้วยคีย์บอร์ดสวย ๆ ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลย นอกจากนี้คีย์บอร์ด Keychron ทุกรุ่นสามารถใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดสามอุปกรณ์ ทำให้ชาวออฟฟิศที่งานยุ่งสามารถใช้พื้นที่ทำงานได้อย่างประหยัดและสะอาดตา ถ้าหากคุณเป็นเกมเมอร์ที่อยากจะลองเปลี่ยนมาใช้ Mechanical Keyboard ดีไซน์มินิมอล คีย์ครอน K2 ของเราก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะว่าคีย์ครอนรุ่นนี้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ได้ทุกรูปแบบนั่นเอง Keychron K4คีย์บอร์ดไร้สายคีย์ครอนรุ่น K4 มีฟีเจอร์หลักเหมือนกับ Keychron K2 เกือบทุกประการ ต่างกันที่รุ่น K4 นั้นมีแถบปุ่มตัวเลข (Numpad) เพิ่มเข้ามาที่ด้านขวาของแป้นพิมพ์เท่านั้น ปุ่มตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมานี้จึงทำให้ผู้ใช้งานสามารถพิมพ์ตัวเลขได้สะดวกยิ่งขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องสลับภาษาแล้วกดปุ่มตัวเลขด้านบนเหมือนรุ่น K1 (84 keys), K2 หรือ K6 เลย และด้วยฟีเจอร์พิเศษที่เพิ่มเข้ามานี้ จึงทำให้ผู้ใช้ที่ทำงานอยู่กับตัวเลข เช่น นักบัญชี นักการเงิน งานธนาคาร หรือนักวิเคราะห์ข้อมูล สามารถใช้ Keychron K4 ได้เกิดประโยชน์สูงสุดเลยล่ะ นอกจากคีย์ครอนรุ่นนี้จะพัฒนาขึ้นมาตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ทำงานเกี่ยวกับตัวเลขแล้ว คีย์บอร์ด Keychron K4 ยังเป็นที่ถูกใจของผู้ใช้งานทั่วไปที่ชอบความสะดวกสบายครบเครื่อง ไม่ต้องวุ่นวายกับการสลับภาษาเหมือนแป้นพิมพ์โน้ตบุ๊ก ถ้าหากคุณเป็นคนที่ทำงานติดออฟฟิศหรือคิดว่าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนี้คุ้มค่าเมื่อเทียบกับความสะดวก คีย์บอร์ด Keychron K4 ก็ต้องตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน Keychron K1มาถึงคีย์บอร์ดรุ่นแรกของแบรนด์คีย์ครอนของเรา Keychron K1 กันแล้ว รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เปิดตัวระดมทุนบนเว็บไซต์ Kickstarter.com ครั้งแรกก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้คนทั่วโลก โดยคีย์บอร์ด Keychron K1 รุ่นนี้มีตัวเครื่องบางเฉียบเพียงแค่ 18 มิลลิเมตรเท่านั้น วัสดุที่ใช้ผลิตแข็งแรงแต่มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย นอกจากนี้ยังเป็นคีย์บอร์ดเมคานิคอลไร้สายที่ใช้สวิตช์ Gateron แบบ Low-profile ทำให้ใช้แรงกดน้อยกว่า มีแรงต้านน้อยกว่า Keychron รุ่นอื่น ด้วยเหตุนี้ Keychron K1 จึงเหมาะกับผู้ใช้คีย์บอร์ดที่ชื่นชอบสัมผัสการพิมพ์แบบโน้ตบุ๊ก แต่มีความต้องการอยากใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ทำงานตัวอื่นอย่างสมาร์ทโฟนหรือไอแพดด้วยนั่นเอง คีย์บอร์ด Keychron K1 รุ่นนี้เหมาะกับหนุ่มสาวออฟฟิศที่ต้องเปลี่ยนสถานที่ทำงานเป็นประจำ หรือเหมาะกับคนที่มักจะต้องหอบงานกลับไปทำต่อนอกสถานที่ เนื่องจาก Keychron K1 เป็นคีย์บอร์ดไร้สายที่บางเบา น้ำหนักน้อย ขนาดพอดี ไม่เทอะทะ หรือถ้าหากคุณต้องทำงานติดออฟฟิศแต่ชอบดีไซน์เรียบหรู การเลือกซื้อรุ่น K1 ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน Keychron K3Keychron K3 เป็นเมคานิคอลคีย์บอร์ดแบบ Low-profile รุ่นแรกของโลกที่สามารถใช้ฟีเจอร์ Hot swap เปลี่ยนสวิตช์ได้ทันทีโดยไม่ต้องบัดกรี และเป็นครั้งแรกที่มีสวิตช์ใหม่อย่าง Optical เข้ามาให้เลือกใช้ด้วย ซึ่งทนทานและตอบสนองไวกว่าเดิม สำหรับใครที่สนใจอยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับ Optical switch สามารถคลิกไปอ่านได้ที่ลิงก์นี้เลย K3 ถูกปรับรูปโฉมใหม่ด้วย low profile switch ที่บางลงกว่าสวิตช์แบบเดิมถึง 40% บวกกับโครงสร้างอลูมิเนียมบางเฉียบจึงทำให้ K3 กลายเป็นเมคานิคอลคีย์บอร์ดไร้สายที่บางและเบาที่สุดในโลก มาพร้อมเลย์เอาต์ 75% มีปุ่มกดทั้งหมด 84 ปุ่ม พร้อมปุ่มคีย์ลัดมัลติมีเดีย 12 ปุ่ม ซึ่งจะเหมือนกับรุ่น K2 และบลูทูธเวอร์ชั่น 5.1 ก็สามารถทำให้เชื่อมต่อได้ระยะไกลถึง 10 เมตร ส่วนความสามารถอื่น ๆ ก็ยังครบเครื่องตามแบบฉบับของคีย์บอร์ดคีย์ครอนรุ่นก่อน ๆ เช่นเคย K3 คือเวอร์ชั่นกะทัดรัด (compact) ของคีย์บอร์ด TenKeyLess ที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงมัลติมีเดียคีย์และฟังก์ชั่นคีย์ได้ด้วยพื้นที่ที่เล็กกว่า ดีไซน์เรียบหรู มินิมอล และเพรียวบางที่สุดในทุกรุ่น เหมาะสำหรับคนที่ต้องเคลื่อนย้ายสถานที่ทำงานบ่อย ๆ ถ้าคุณถูกใจในความเพรียวบางแบบ ultra-slim ก็หยิบคีย์ครอนรุ่น K3 เข้าลิสต์ของที่ต้องมีได้เลย Keychron K6คีย์บอร์ด Keychron K6 รุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุดด้วยจำนวนปุ่มกดเพียง 68 ปุ่มเท่านั้น (ไม่มีปุ่มตัวเลขด้านขวา ไม่มีปุ่ม Insert ไม่มีปุ่ม print screen นอกจากนี้ยังรวมปุ่ม function keys ปุ่ม media keys และปุ่มตัวเลขด้านบนเข้าด้วยกัน) ทำให้คีย์ครอนรุ่นนี้เป็นรุ่นที่กะทัดรัดที่สุด เหมาะสำหรับผู้ใช้เฉพาะกลุ่มหรือผู้ที่มีความต้องการแบบพิเศษ เช่น ผู้ใช้ที่ต้องพกคีย์บอร์ดเดินทางไปทำงานบ่อย ๆ ผู้ใช้ที่ชอบดีไซน์คีย์บอร์ดขนาดกะทัดรัด (Compact) ผู้ใช้ที่ต้องการใช้คีย์บอร์ดขนาดเล็กเพื่อเพิ่มที่ว่างบนโต๊ะทำงาน หรือผู้ใช้ที่ต้องการคีย์บอร์ดขนาด 65% มาตกแต่งโต๊ะให้เข้าสไตล์กับออฟฟิศ เป็นต้น แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าถ้าหากคุณซื้อคีย์บอร์ดรุ่นนี้ไป คุณอาจจะต้องอาศัยเวลาทำความคุ้นเคยกับมันสักหน่อย เพราะด้วยความที่ Keychron K6 รวบปุ่ม Function Keys (F1-12) ปุ่ม Media Keys (เพิ่ม-ลด-ปิดเสียง ปรับความสว่าง ปรับขนาดจอ เปิด-ปิดไวไฟ ฯลฯ) มาไว้ที่ปุ่มตัวเลขด้านบน ทำให้ผู้ใช้งานต้องกดปุ่ม Fn กำกับเมื่อสลับการใช้งานระหว่างปุ่มกดพิเศษนั่นเอง คีย์บอร์ด Keychron K6
รุ่นนี้ยังมีความพิเศษสำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ K6 เป็นคีย์บอร์ดคีย์ครอนที่สามารถทำการ “Hotswap” หรือถอดปรับแต่งสวิตช์กดได้ตามใจโดยไม่ต้องบัดกรีแผงวงจรให้ยุ่งยาก เรียกได้ว่า Keychron K6 นี้มีฟีเจอร์เด็ดเฉพาะทางมากมาย หากจะบอกว่า Keychron รุ่น K6 เป็นขวัญใจของชาวเมคานิคอลคีย์บอร์ดสายฮาร์ดคอร์ก็คงไม่ผิด Keychron K8Keychron รุ่น K8 เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบคีย์บอร์ดแบบ Tenkeyless layout ซึ่งจะมาช่วยยกระดับความโปรดักทีฟให้กับคุณ ด้วยขนาดที่สั้นลงทำให้มีพื้นที่ในการจัดวางมือมากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับการใช้คีย์บอร์ดแบบ Full size ที่วงแขนของเราจะกางมากกว่าปกติเพื่อรองรับแป้นพิมพ์ยาว ๆ เมื่อตัดพื้นที่ Numpad ออกไปได้ก็จะถนัดต่อการใช้งานและไม่ทำให้เมื่อยแขน อีกทั้งยังมีพื้นที่สำหรับใช้เมาส์เพิ่มมากขึ้นด้วย ในส่วนของวัสดุตัวฐานคีย์บอร์ดนั้นเป็นพลาสติก และเฟรมเป็นอลูมิเนียม มีความแข็งแรงทนทาน Keychron รุ่น K8 ถูกออกแบบให้แป้นพิมพ์มีความลาดเอียงขณะวาง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถกดปุ่มได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้านล่างมีขารองที่สามารถปรับความชันคีย์บอร์ดได้สองระดับตามความถนัดของคุณ หากคุณประสบปัญหากดแป้นพิมพ์บน K4 ผิดอยู่บ่อย ๆ คีย์บอร์ดตัวนี้เหมือน K4 ที่ตัดปุ่ม numpad ออก และได้ทำการแยก Navigation Keys ให้ห่างออกมาเล็กน้อย เพื่อตอบโจทย์ความถนัดที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน ใครที่รู้สึกว่าไม่ถนัดกับแป้นที่ติดกันใน K4 ก็เลือกซื้อเป็นตัว K8 แทนได้ ตัวคีย์บอร์ดที่สั้นลงจะทำให้คุณประหยัดพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น และช่วยลดอาการเมื่อยมือจากการต้องใช้เมาส์ไกล ๆ อีกด้วย เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลเบื้องต้นของคีย์บอร์ด Keychron แต่ละรุ่น หากคุณลูกค้าชอบหรือสนใจคีย์ครอนรุ่นไหนเป็นพิเศษก็สามารถติดต่อสอบถามทีมงานของเราได้ทุกเมื่อ และขอย้ำอีกครั้งว่าบทความนี้เป็นเพียงข้อแนะนำเบื้องต้นเท่านั้น หากคุณลูกค้าชอบฟีเจอร์ไหนของรุ่นใดเป็นพิเศษก็สามารถเลือกซื้อได้ตามใจชอบ ถ้าหากคุณต้องการคำแนะนำแบบเป็นส่วนตัวจากเรา คุณก็สามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของเราโดยคลิกมุมขวาล่างเพื่อแชทกับเจ้าหน้าที่ได้ทันทีเลย ช่องทางเลือกซื้อสินค้า |