วิธีขึ้นเครื่องบินในประเทศ ดอนเมือง

มือใหม่หัดบิน ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกยังไงให้สนุก

การที่เราเพิ่งจะได้ทำอะไรสักอย่างเป็นครั้งแรก มันก็ต้องรู้สึกตื่นเต้นเป็นธรรมดา ซึ่งความตื่นเต้นก็มักจะมาพร้อมกับความกังวลใจ เพราะเราต้องไปเจอกับสิ่งแปลกใหม่ที่ยังไม่เคยเจอมาก่อน แต่การได้ออกจาก Comfort Zone เพื่อมาทำอะไรที่ตื่นเต้นดูบ้าง ก็น่าสนใจดีเหมือนกันนะ

เตรียมตัวให้พร้อม เมื่อต้องขึ้นเครื่องบินครั้งแรก

Airplane Aircraft Travel Trip

สำหรับนักเดินทางมือใหม่ ที่กำลังจะได้เดินทางด้วยเครื่องบินเป็นครั้งแรก และยังคงกังวลว่าจะทำพลาดหรือเผลอหลงลืมอะไรไป งั้นมาดูแนวทางการเตรียมตัวที่ rabbit finance นำมาฝากกันเถอะ

ตรวจสอบเวลาตั๋วเครื่องบินและ Itinerary ให้ละเอียด

หลังจากที่คุณทำการสั่งซื้อตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับอีเมลใบเสร็จรับเงิน, Itinerary หรือแผนการเดินทาง และ E-ticket (ตั๋วเครื่องบินอิเล็กทรอนิกส์) โดยคุณสามารถทำการปริ้นท์หรือพิมพ์เอกสารสำคัญเหล่านี้ ติดตัวไปในวันเดินทางของคุณด้วย ซึ่งจะสะดวกรวดเร็วกว่าการเปิดผ่านสมาร์ทโฟนของคุณ อีกทั้งยังเป็นการป้องกันข้อผิดพลาดต่าง ๆ หรือสัญญาณโทรศัพท์ไม่มี เปิดอีเมลไม่ได้ เป็นต้น

วางแผนการเดินทางไปยังสนามบิน

หลังจากที่ทราบสนามบินต้นทางของคุณที่คุณต้องไปเช็คอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระแล้ว คุณควรวางแผนการเดินทางไปยังสนามบินล่วงหน้า เพื่อเป็นการป้องกันการตกเครื่อง เช็คอินไม่ทัน และทำให้คุณพลาดเที่ยวบินสำคัญของคุณ ดังนั้น สำหรับการเดินทางไปยังต่างประเทศ คุณควรวางแผนเดินทางให้ถึงสนามบินอย่างน้อย 3 ชั่วโมงล่วงหน้า และ 1-2 ชั่วโมงล่วงหน้าสำหรับการเดินทางภายในประเทศ

เพื่อไม่ให้คุณพลาดทุกการเดินทางหรือเสียเวลาไปกับการรอรถแท็กซี่ รถไฟ หรือรถโดยสารที่ไม่สามารถกะเวลาได้ ดังนั้น Klook ขอแนะนำบริการรถรับส่งสนามบิน ซึ่งปัจจุบัน Klook ได้ครอบคลุมการให้บริการมากกว่า 20 สนามบินในไทย และอีกกว่า 1,300 สนามบินทั่วโลก

อย่าลืม! กระเป๋าเดินทาง

กระเป๋าเดินทางเป็นไอเท็มสำคัญของเหล่านักเดินทาง จะใบเล็กหรือใบใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่จะเดินทางไปและกิจกรรมที่จะทำ ในตอนที่กำลังจัดกระเป๋าก็ควรลองประมาณคร่าว ๆ ดูว่าเดินทางไปนานแค่ไหน ต้องใช้อะไรบ้าง ให้เลือกแต่ของใช้ที่จำเป็นจริง ๆ เพื่อไม่ให้สิ่งของต้องกลับมาเป็นภาระของเราในภายหลัง และจัดแยกให้เป็นสัดส่วน ของชิ้นไหนที่ต้องหยิบใช้บ่อยก็ย้ายมาใส่ไว้ในกระเป๋าเป้ที่เปิดหยิบได้ง่ายก็ได้

เมื่อจองตั๋วเครื่องบินไปแล้ว อย่าลืมเช็กว่าทางสายการบินกำหนดน้ำหนักกระเป๋าสำหรับขึ้นเครื่องเอาไว้แค่ไหน และมีของชิ้นไหนที่ต้องโหลดใต้เครื่องบ้าง เพราะแต่ละสายการบินก็จะมีกฎที่แตกต่างกันออกไป ก่อนออกเดินทางก็ตรวจดูอีกครั้งให้แน่ใจ จะได้ไม่เสียเวลาตอนตรวจกระเป๋านะ 

  • Check-in ทำยังไงบ้าง?

เมื่อถึงกำหนดเดินทาง สิ่งที่ต้องทำเมื่อถึงสนามบินก็คือการ Check-in โดยควรมาถึงสนามบินและ Check-in ก่อนเวลาขึ้นเครื่องอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพราะทางเคาน์เตอร์ของสายการบินจะปิดการ Check-in ในเวลา 45 นาที – 1 ชั่วโมง ก่อนเวลาเครื่องออก ถ้ามาไม่ทันก็ขึ้นเครื่องไม่ทัน อาจจะตกเครื่อง อดไปเที่ยวได้นะคะ แนะนำให้เลือกดูวิธีเช็กอินที่เราทำได้สะดวกที่สุด ตามวิธีดังต่อไปนี้เลย

เคาน์เตอร์เช็คอิน

การเช็กอินที่เคาน์เตอร์ของสายการบิน เป็นวิธีที่ง่ายและไม่ซับซ้อน เมื่อเดินทางไปถึงสนามบิน แล้วไปที่เคาน์เตอร์ของสายการบิน ยื่นหนังสือเดินทาง (Passport) หรือตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ ให้กับเจ้าหน้าที่ แล้วทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการให้ หากมีคำถามหรือต้องการคำแนะนำก็สามารถสอบถามได้โดยตรงเลย

เช็คอินผ่านตู้คีออส

ตามสนามบินใหญ่ ๆ ที่มีปริมาณผู้โดยสารเยอะ จะมีการติดตั้งตู้สำหรับเช็กอินแบบบริการตนเอง โดยผู้โดยสารสามารถมาทำการเช็กอินผ่านตู้นี้ได้ ในกรณีที่ไม่อยากต่อแถวรอเช็กอินหน้าเคาน์เตอร์ให้เสียเวลา

วิธีการคือนำหนังสือเดินทางหรือตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ไปสแกนที่ตู้ และทำตามขั้นตอนที่แสดงบนจอไปเรื่อย ๆ เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยตัวเครื่องก็จะพิมพ์ Boarding Pass ออกมาให้ ถ้ามีสัมภาระชิ้นใหญ่หรือกระเป๋าเดินทางที่ต้องโหลดใต้เครื่องก็นำไปที่เคาน์เตอร์โหลดกระเป๋าได้เลย

เช็คอินออนไลน์

การเช็กอินออนไลน์แบบนี้เหมาะกับคนที่ไม่ชอบต่อคิวรอนาน ๆ เพราะมันค่อนข้างสะดวกสบาย ด้วยการเช็กอินผ่านช่องทางออนไลน์กับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของสายการบินนั้น ๆ ได้เลย

ส่วนใหญ่แล้วทางสายการบินจะเปิดให้ผู้โดยสารเข้าไปเช็กอินในระบบได้ก่อนเวลาเดินทาง 24 ชั่วโมง และจะปิดก่อนเวลาเดินทาง 1-2 ชั่วโมง เมื่อทำการเช็กอินออนไลน์เรียบร้อยแล้วให้พิมพ์ตัว Boarding pass ออกมา หรือบางสายการบินอาจให้ผู้โดยสารไปรับที่หน้าเคาน์เตอร์ แค่นี้ก็เรียบร้อย พอไปถึงสนามบินก็เอากระเป๋าไปโหลดได้เลย

เริ่มออกเดินทาง ลุยกันเลย!

เมื่อผ่านขั้นตอนการเช็กอินและโหลดกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือเตรียมตัวเพื่อผ่านจุดตรวจในสนามบินก่อนขึ้นเครื่อง กำ Passport และ Boarding pass ให้แน่น แล้วเดินไปที่จุดตรวจอย่างมั่นใจเลย

  • จุดตรวจบัตรโดยสาร – เป็นจุดที่น่าจะผ่านได้ทุกคน ถ้าไม่มีอะไรที่ดูผิดปกติมากจริง ๆ

  • จุดตรวจค้น – เป็นจุดที่เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจค้นสัมภาระ หากพบว่าพกสัมภาระที่มีขนาดเกินที่สายการบินกำหนดไว้ เช่น ขวดของเหลวที่มีปริมาณเกิน 100 ml. หรือพาวเวอร์แบงก์ความจุสูง ก็จะถูกนำออกมาไว้ที่จุดตรวจนี้

  • จุดตรวจหนังสือเดินทาง – มีทั้งแบบที่ตรวจหน้าเคาน์เตอร์และตรวจอัตโนมัติ เราสามารถเลือกตรวจแบบไหนก็ได้ แต่ผู้โดยสารที่ไม่ได้แจ้งวันเกิด เช่น ผู้โดยสารสูงอายุ จะต้องไปตรวจที่จุดตรวจหน้าเคาน์เตอร์เท่านั้น

  • ขึ้นเครื่องบิน เตรียมเหินฟ้า

ได้เวลาขึ้นเครื่อง ก็เดินตรงไปนั่งตามเลขหมายที่ระบุไว้บนตั๋วได้เลย ส่วนกระเป๋าเป้ใบเล็ก ๆ ที่ Carry on ได้จะวางไว้บนตัก ใต้ที่นั่ง หรือเก็บไว้บนช่องเก็บของเหนือศีรษะก็ได้ เมื่อนั่งบนที่นั่งแล้วให้รัดเข็มขัด และสังเกตบริเวณสัญญาณไฟรูปเข็มขัดที่อยู่เหนือศีรษะ หากต้องการเข้าห้องน้ำหรือปลดเข็มขัดออกให้รอสัญญาณไฟนั้นดับ จึงเป็นสัญญาณว่าปลอดภัยและสามารถปลดเข็มขัดแล้วลุกออกไปได้

ที่สำคัญอย่าลืมปิดโทรศัพท์มือถือ หรือเปิดโหมดเครื่องบิน งดเล่นมือถือสักพักในระหว่างอยู่บนเครื่องบิน เพื่อความปลอดภัย

  • เครื่องบินมาถึงจุดหมายปลายทาง

เมื่อเครื่องบินถึงจุดหมายปลายทางและลงจอดเรียบร้อย ให้เตรียมเอกสารที่ได้รับแจกเพื่อกรอกรายละเอียดในตอนขึ้นเครื่อง ออกมายื่นให้กับเจ้าหน้าที่บริเวณจุดตรวจคนเข้าเมืองพร้อมกับยื่น Passport เมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว หาจอแสดงรายละเอียดของเที่ยวบินและสายพานสำหรับไปรับกระเป๋าที่โหลดใต้เครื่องเอาไว้ เมื่อรับกระเป๋าแล้วก็ถือว่าเรียบร้อย เตรียมออกไปเที่ยวกันได้เลย

การเลือกใช้บริการเช่ารถ จึงสามารถตอบโจทย์การเดินทางของคุณมากกว่าการเดินทางด้วยรถประจำทางสาธารณะหรือรถแท็กซี่ เพราะนอกจากคุณจะสามารถเดินทางไปยังสถานที่ ๆ คุณต้องการได้อย่างอิสระแล้ว การใช้บริการเช่ารถนั้นยังสะดวกสบาย และมีความเป็นส่วนตัวอีกด้วย Klook ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ทริปการเดินทางท่องเที่ยวของคุณเป็นไปได้อย่างสะดวกสบายและราบลื่นที่สุด ด้วยบริการเช่ารถจากผู้ให้บริการชั้นนำทั่วโลกในราคาเริ่มต้นเพียง 490 บาทเท่านั้น

เพื่อน ๆ ที่กำลังจะขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ลองนำวิธีที่เราแนะนำไปปรับใช้กันได้เลย ขอบอกว่าตื่นเต้นจริง แต่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หากเตรียมตัวมาดี เราก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกังวล เตรียมเงินและบัตรเครดิตไปเที่ยว กินช้อป ให้สนุก แล้วกลับมาแชร์ประสบการณ์ดี ๆ ให้กันบ้างนะ

บทความที่คุณไม่ควรพลาด!