Show
YouTube เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มที่ให้ความบันเทิง YouTube เป็นเครื่องมือ Search engine โดยเฉพาะธุรกิจกับ B2B วิดิโอจาก YouTube มักจะแสดงอยู่บนหน้าผลการค้นหาของ Google ที่ติดแท็กเหนือหน้า Wikipedia แบรนด์ต่างๆ ได้ใช้วิดีโอเพื่อสื่อสารและสร้างความบันเทิงให้กับลูกค้าและบางครั้งทำให้มียอดดูเป็นจำนวนมาก ในปี 2564 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้งาน YouTube ไปแล้วทั้งหมดประมาณ 50.76 ล้านคน แน่นอนว่า YouTube มีกลยุทธ์ Cross-channel media ตัวอย่างเช่นภาพรวมเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคแสดงให้เห็นว่าแพลตฟอร์มวิดีโออื่นๆ เป็นเพียงแค่ผู้สนับสนุนในขณะที่ YouTube เป็นดาวเด่นของการสตรีมวิดีโออย่างเห็นชัดเจน ซึ่งหมายความว่า YouTube มีศักยภาพในการดึงดูดการเข้าชมและสามารถสร้างจำนวนการดูคลิปได้จำนวนมาก คอนเทนต์สำหรับ YouTube สามารถสร้างสรรค์ได้หลากหลายประเภท แบรนด์ต่างๆ เข้าใจดีว่าการสร้างวีดีโอคอนเทนต์ไม่จำเป็นต้องใช้การผลิตด้วยต้นทุนที่สูงเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าถึงฐานลูกค้าได้ คอนเทนต์ที่สร้างสรรค์มีความสำคัญมากกว่าการตัดต่อ, มุมกล้อง, หรือเอฟเฟกต์ราคาแพง ลูกค้าของคุณต้องการคอนเทนต์ที่สามารถให้ความรู้ที่มาพร้อมกับความบันเทิง เช่น วิดีโอการใช้งานของสินค้า เป็นต้น จากการศึกษาพบว่าลูกค้ามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าหลังจากได้ดูวิดีโอเกี่ยวกับสินค้าแล้ว นั่นคือเหตุผลว่าทำไทวิดีโอเกี่ยวกับสินค้าและวิดีโอแนะนำแบรนด์จึงมีความนิยมสูงสุดในธุรกิจที่กำลังทำกลยุทธ์ Video marketing ประโยชน์อีกอย่างสำหรับแบรนด์ต่างๆ ก็คือเนื่องจากวิดีโอบน YouTube สามารถเข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นวีดีโอคอนเทนต์ของคุณจึงช่วยแบ่งเบาภาระงานบางส่วนได้ ไอเดียการสร้างวิดิโอคอนเทนต์สำหรับแบรนด์ของคุณ:
ตัวอย่างวิดีโอคอนเทนต์จากแบรนด์ต่างๆศึกษาช่อง YouTube จากแบรนด์อื่นๆ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เข้ากับแบรนด์ของ
การสร้างสรรค์ช่อง YOUTUBE ให้แบรนด์ของคุณการพัฒนาแนวความคิด (Concept development) ลองนึกถึงคำถามจากลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของคุณเกี่ยวกับสินค้าและบริการของคุณ ผู้คนมองหาต้องการมูลค่าเพิ่มในตัวสินค้าไม่ใช้ตัวสินค้า เริ่มต้นด้วยการศึกษาจากฝ่ายบริการลูกค้า ด้วยปัญหาที่ลูกค้าร้องเรียนหรือสอบถามเข้ามา หลังจากนั้นนำปัญหาเหล่านี้มาแก้ไขพัฒนาบนพื้นฐานของข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ การสร้างคอนเทนต์ YouTube ทำรายการวิดีโอคอนเทนต์ที่มีอยู่แล้วหรือคุณสร้างคอนเทนต์เพิ่มเติมเพื่อเริ่มต้นช่องช่อง YouTube ของคุณควรสอดคล้องกับภาพและผลลัพธ์โดยรวมของคุณในแง่ของกลยุทธ์และหลักเกณฑ์ในการสื่อสาร แผนบรรณาธิการมีประโยชน์มากสำหรับการวางแผนการถ่ายทำในอนาคต กำหนดว่าใครในทีมการตลาดของคุณรับผิดชอบการตลาดบน YouTube การสร้างช่อง YouTube การสร้างช่อง YouTube ทำได้ง่ายดายเพียงแค่มีบัญชี Google คุณก็สามารถลงทะเบียนบัญชี YouTube ได้แล้ว สัญลักษณ์ของช่องควรเป็นโลโก้แบรนด์ และคอนเทนต์เกี่ยวกับการสื่อสารในอดีตของคุณ เพื่อให้เป็นที่จดจำแกลูกค้าของคุณ การวัดผลและเพิ่มประสิทธิภาพ ฟังก์ชั่น YouTube Analytics เป็นเครื่องมือให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกิจกรรมทั้งหมดบน YouTube เครื่องมือนี้จะบอกคุณว่าวิดิโอใหนเพิ่มผู้คนติดตาม YouTube Integration กับช่องทางการตลาดอื่นๆ การผสานรวม YouTube กับช่องทางการตลาดอื่นๆ สามารถนำวิดิโอเข้ากับเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของคุณได้อย่างง่ายดาย โดยยังคงใช้ลิงก์ในวิดีโอ YouTube เพื่อดึงดูดผู้ชมไปยังช่องทางการสื่อสารอื่นๆ เช่น หน้า Landing Page ของผลิตภัณฑ์ SEO Google ใช้ Tag เหล่านี้เพื่อประเมินเนื้อหาและการแสดงผลการค้นหาแก่ผู้เข้าชม หากวิดีโอของคุณปรากฏในผลการค้นหาแล้ว ให้สร้าง Rich snippet โดยใช้ Video Rich Snipped Generator ผู้คนมีแนวโน้มที่จะดูวิดีโอที่มีการแสดงตัวอย่างก่อนมากกว่า เมื่อรู้ถึงข้อดีแล้ว ต่อไปเราจะมาทำความเข้าใจเทคนิคบางประการที่จะช่วยให้คุณสร้างกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพได้ โดยปกติแล้วเครื่องมือค้นหาทั้งบนยูปทูปเอง หรือ กูเกิล จะใช้พื้นฐานของอัลกอริทึมแบบเดียวกันสำหรับการจัดอันดับเว็บไซต์และวิดีโอ โดยมุ่งเน้นที่การมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้ ซึ่งปัจจุบันผลการค้นหาวิดีโอของยูทูปได้รวมเข้ากับผลการค้นหาของกูเกิลเพื่อทำให้การค้นหาของผู้คนง่ายขึ้น ซึ่งเชื่อว่าหลายคนอาจจะพอทราบพื้นฐานต่างๆ ในการผลักดันให้วีดีโอติดอันดับที่ดีในหน้าการสืบค้นอยู่บ้าง เช่น การรวมคีย์เวิร์ดไว้ในชื่อวีดีโอ (Video Title) ในคำอธิบาย (Meta Description) และการเพิ่ม Tag เป็นต้นอย่างไรก็ตาม เรายังสามารถทำวิธีอื่นๆ ได้อีก อาทิ การทำให้บอทสามารถทำความเข้าใจวิดีโอของคุณได้สะดวกด้วยข้อความต่างๆ ความจริง คือ บอทของเครื่องมือค้นหาไม่สามารถทำความรู้จักกับวิดีโอที่ขาดองค์ประกอบที่เหมาะสมของข้อความได้ ดังนั้นบอทจึงต้องอาศัยข้อมูลเฉพาะที่เป็นข้อความประกอบของวีดีโอเพื่อใช้ในการจัดทำดัชนี (Index) ได้อย่างเหมาะสมซึ่งเทคนิคสำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้เลย คือ การควบคุมพลังของข้อความต่างๆ ในวิดีโอ ซึ่งสามารถส่งผลในเชิงบวกต่อประสบการณ์ของผู้ใช้ การมีส่วนร่วม ตลอดจนการใช้เวลาในการรับชม ซึ่งต่อไปเราจะพูดถึง เทคนิคในการเพิ่มปริมาณการเข้าชมวิดีโอหรือเรียกง่ายๆ ว่าวิธีทำให้เสิร์ชเอนจินชอบวีดีโอของเรา ด้วยเทคนิคไม่กี่ขั้นตอน แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีได้ครับ 1. การเลือก Keyword ให้เหมาะสมกับวีดีโอคำหลักมักจะอยู่ในชื่อวิดีโอและข้อมูลเมตา (Meta Description) และเมื่อมีเสียงพูดคำหลักจะปรากฏในคำอธิบายภาพและการถอดเสียง คำหลักและวลีคำหลัก ควรสอดคล้องกับอะไรก็ตามที่อธิบายวิดีโอของคุณอย่างถูกต้อง คำและวลีที่ผู้ใช้ป้อนในเครื่องมือค้นหาเพื่อค้นหาเนื้อหาที่คล้ายกับของคุณ หากต้องการทราบว่าผู้คนใช้วลีและคีย์เวิร์ดใดในการค้นหา คุณจะต้องค้นคว้าเกี่ยวกับคีย์เวิร์ด กลยุทธ์ง่ายๆ ในการค้นหาคีย์เวิร์ดสำหรับวิดีโอของคุณคือใช้ Search Suggest ของ ยูทูปพิมพ์คำหรือวลีที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของคุณในแถบค้นหาและดูคำแนะนำที่นำเสนอนอกจากนี้คุณยังสามารถค้นหาคีย์เวิร์ดจากรายงานการค้นหาของยูปทูปได้ ใน YouTube Studio หากต้องการตรวจสอบว่าคุณมีคีย์เวิร์ดที่ดีหรือไม่ ให้ค้นหาวีดีโอที่ช่องเสิร์ช และดูว่ามี “ผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้อง” ที่สร้างไว้จำนวนเท่าใด ตามหลักการแล้วคุณต้องการค้นหารูปแบบต่างๆ ของคำหลักที่มีปริมาณการค้นหาสูงแต่มีการแข่งขันน้อยกว่าเพื่อให้คุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง 2. สร้างคำบรรยายผ่านไฟล์ (SRT) แทนการถอดเสียงอัตโนมัติยูทูปมีระบบถอดเสียงวิดีโออัตโนมัติเพื่อสร้างคำบรรยายให้แก่วีดีโอ อย่างไรก็ตาม คำบรรยายอัตโนมัติมีความแม่นยำเพียง 70% เท่านั้น ซึ่งบางครั้งคำอาจดูงงๆ หรือเข้าใจได้ยาก และอาจไม่สอดคล้องกับเนื้อหาได้ ซึ่ง แนวทางของ กูเกิล คือ ลงโทษเนื้อหาที่โดนสแปม ซึ่งส่วนหนึ่งของคำจำกัดความของ สแปม คือ “คำที่ไม่มีความหมายที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ” ดังนั้น การใช้คำอธิบายภาพที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการถูกระบุว่าเป็นสแปมได้ และนำไปสู่การสูญเสียอันดับการค้นหาไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นทางที่ดีคุณควรเพิ่มคำบรรยายให้ถูกต้องตามที่ต้องการ ผ่านไฟล์ SRTลงในวิดีโอของคุณการถอดเสียงเพื่อเพิ่มคำบรรยายในวิดีโอจะช่วยให้วิดีโอของคุณเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างยิ่งขึ้นได้ (รวมถึงผู้ชมที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยิน) การถอดเสียงเหมาะกับวิดีโอที่มีระยะเวลา (Duration) น้อยกว่า 1 ชั่วโมง และวีดีโอควรมีคุณภาพเสียงที่ดี และมีเสียงพูดที่ชัดเจน ไฟล์ข้อความถอดเสียง ควรเป็นภาษาเดียวกันกับบทสนทนาในวิดีโอ (อักขระจำกัดที่ 5,000 ตัว) นอกจากนี้การถอดเสียงยังช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมด้วยการทำให้ผู้ชมสามารถเข้าใจเนื้อหาได้อย่างรวดเร็วอีกด้วยนอกจากนี้ อย่างที่เราเกริ่นไปข้างต้น ว่าเสิร์ชเอนจินสามารถรวบรวมข้อมูลที่เป็นข้อความได้ แต่ไม่สามารถดูวิดีโอได้ คำอธิบายภาพของคุณจะเต็มไปด้วยคำหลักที่เกี่ยวข้องซึ่งระบุว่าวิดีโอของคุณเกี่ยวกับอะไร เพื่อให้เสิร์ชเอนจินสามารถรวบรวมข้อมูลเนื้อหาของคุณได้อย่างสะดวก 4. เขียนชื่อ คำอธิบาย และแท็ก ที่เหมาะสมกับคีย์เวิร์ดหลักเมื่อคุณมีคำหลัก หรือ Keyword ที่ดีแล้ว คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อความที่เกี่ยวข้องกับวิดีโอของคุณได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับคำหลัก ตัวอย่างเช่น หากคุณเผยแพร่วิดีโอเกี่ยวกับการสอนทำอาหาร อย่าลืมปรับชื่อ คำอธิบาย และแท็กให้เหมาะสมสำหรับวลี “สอนทำอาหาร” นอกจากนี้อย่ากังวลจนเกินไปกับการใช้คีเวิร์ดให้เหมาะสมว่าบอทจะมองว่าเป็นการแสปม เพราะท้ายที่สุดแล้วเราต้องเขียนเพื่อให้มนุษย์เข้าใจก่อน ไม่ใช่หุ่นยนต์ 5. พูดถึงคีย์เวิร์ดหลักในวิดีโอหากคุณไม่พูดถึงคีย์เวิร์ดหลักในวิดีโอ จะทำให้คำหลักนั้นไม่ปรากฏในคำอธิบายภาพหรือการถอดเสียง ซึ่งถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของการทำให้กลยุทธ์ของคุณประสบความสำเร็จ ดังนั้นพยายามรวมคำหลักของคุณอย่างรอบคอบและเป็นธรรมชาติที่สุดเข้าไปในวิดีโอของคุณ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ข้อความถอดเสียงของคุณมากเกินไปควรวางแผนสคริปต์ล่วงหน้า และพยายามรวมคำหลักของคุณไว้ที่จุดเริ่มต้นของวิดีโอเพื่อให้คำหลักปรากฏในช่วงต้นของการถอดเสียง 6.ใช้ภาพขนาดย่อ (Thumbnail) ที่น่าสนใจการเลือกใช้ภาพขนาดย่อของวิดีโอ หรือ ที่หลายคนเรียกว่า ภาพปก (Cover) ที่เหมาะสมและดึงดูด จะช่วยสร้างความแตกต่างได้อย่างมากต่ออัตราการคลิก ซึ่งก่อนอื่นเราควรใช้รูปภาพคุณภาพสูงที่มีอัตราส่วนภาพ 16:9 แม้ระบบจะเสนอภาพหน้าจอ 3 ภาพมาให้เลือก แต่ความจริงเรายังสามารถอัปโหลดภาพที่ต้องการเองได้ อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่าระบบจะวางตัวเลขระยะเวลา (Duration) ของวิดีโอไว้ที่มุมล่างของภาพขนาดย่อ ดังนั้นควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งกีดขวางเนื้อหาที่สำคัญในภาพขนาดย่อของคุณ นอกจากนี้ โปรดจำไว้ว่า Google ใช้การจดจำรูปภาพเพื่อกรองภาพบางภาพออกโดยอัตโนมัติ เช่น โลโก้ยูทูป ตามหลักการแล้ว คุณต้องการภาพที่สื่อถึงคำหลักเป้าหมายของคุณได้ชัดเจน ซึ่งสิ่งนี้จะนำคุณไปสู่การแสดงวีดีโอในส่วน วีดีโอที่เกี่ยวข้องได้ดียิ่งขึ้น 7.เพิ่ม Card และ End screensการเพิ่มการ์ด คือ การแจ้งเตือนถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่จะปรากฎบนหน้าวีดีโอ ซึ่งกระตุ้นให้ผู้คนดำเนินการตามที่ต้องการระหว่างการรับชมวิดีโอของคุณ หลังจากตั้งค่าแล้ว การ์ดจะปรากฏที่มุมขวาด้านบนของวิดีโอเพื่อโน้มน้าวให้ผู้ใช้คลิก เนื่องจาก ยูทูปมุ่งหวังที่จะรักษาผู้คนไว้บนแพลตฟอร์ม การเพิ่มการ์ดจึงเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มอันดับวีดีโอของคุณ คุณสามารถเพิ่มการ์ดได้สูงสุดถึงห้าใบในวิดีโอ การ์ดสามารถรวม CTA (Call to action) ต่างๆ ได้ เช่น การนำผู้ชมไปยังช่องอื่น การบริจาคให้องค์กรไม่แสวงหากำไร หรือการระดมทุน เป็นต้น นอกจากนี้ การเพิ่ม End screens ในตอนท้ายที่จะปรากฏขึ้นหลังจากวิดีโอจบลง จะช่วยบอกผู้ดูว่าพวกเขาจะทำอะไรต่อไปได้บ้าง ซึ่งโดยสรุปแล้ว การใช้วิธีเพิ่มการ์ด และ End screens สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในด้านประสบการณ์ของผู้ดู และกระตุ้นให้พวกเขาดูวิดีโออื่นๆ หรือดำเนินการเพิ่มเติมตามที่คุณต้องการเมื่อดูวีดีโอจบแล้ว 8. โฟกัสที่การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ตัวชี้วัดการมีส่วนร่วมของผู้คน เช่น ความคิดเห็น การชอบ การแชร์ และการสมัครรับข้อมูลมีความสัมพันธ์อย่างมากกับอันดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะเสิร์ชเอนจินของ Google ที่ค่อนข้างใส่ใจมากเกี่ยวกับวิธีที่ผู้ดูตอบสนองต่อเนื้อหาของคุณ เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้ผู้คนอยู่ในเว็บไซต์ของตน เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ พยายามสนับสนุนให้พวกเขา แชร์ ชอบ หรือแสดงความคิดเห็นในวิดีโอของคุณ และใช้เวลาในการตอบกลับความคิดเห็นซึ่งจะช่วยสร้างคะแนนการมีส่วนร่วมได้เป็นอย่างดี 9. หมั่นติดตามผลการวิเคราะห์วิธีที่จะทราบว่ากลยุทธ์วีดีโอของคุณใช้ได้ผลหรือไม่ คือ การติดตามการวิเคราะห์ได้ในระบบหลังบ้านของยูทูป ตัวชี้วัดต่างๆ จะช่วยให้คุณเข้าใจได้ว่าวิดีโอของคุณทำงานได้ดีในส่วนใด และมีจุดใดบ้างที่อาจยังต้องการการปรับแต่ง ซึ่งในระบบหลังบ้านของยูทูป มีการเสนอรายงานการวิเคราะห์ที่ละเอียดพอสมควรเพื่อช่วยในการติดตามและวัดผลประสิทธิภาพวีดีโอและช่องของคุณ ความจริงเทคนิคต่างๆ ที่เราแนะนำในวันนี้เป็นเพียงส่วนสำคัญบางส่วน ซึ่งยังมีเทคนิคอื่นๆ อีกมากมายที่จะช่วยให้การทำ Video Content ของคุณประสบความสำเร็จ ซึ่งในโอกาสหน้า Talka จะเสาะหาเทคนิค ดีๆ มาแบ่งปันให้ได้ติดตามกันอีกครับ แหล่งที่มา : https://www.merkleinc.com/emea/blog https://www.3playmedia.com/blog/ https://www.wordstream.com/blog |