เทคโนโลยีมีผลต่อการตลาดอย่างไร

ตัวขับเคลื่อนที่ทรงพลังประการหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้คือเทคโนโลยี ซึ่งมีความก้าวหน้าอย่างมากในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา นวัตกรรมนี้กำหนดพฤติกรรมผู้บริโภคและกำหนดสิ่งที่บริษัทสามารถทำได้และไม่สามารถทำได้ในโลกดิจิทัล

เทคโนโลยีความจริงเสริมเป็นหนึ่งในนวัตกรรมดังกล่าว และความสามารถในการยกระดับประสบการณ์การช็อปปิ้งกำลังส่งผลกระทบอย่างแท้จริงต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค

เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การโต้เถียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากจะมีผลกระทบอย่างมากต่อกลยุทธ์ทางการตลาดในอนาคตอันใกล้ หากยังไม่มี

แต่ความจริงเสริมคืออะไร และมันส่งผลต่อพฤติกรรมของลูกค้าอย่างไร?

มาดูกัน:

Augmented Reality คืออะไร?

พูดง่ายๆ ก็คือ Augmented Reality (AR) เป็นเวอร์ชันปรับปรุงของโลกแห่งความเป็นจริง

เทคโนโลยีนี้ใช้สิ่งที่เราเห็นรอบตัวเรา และซ้อนเนื้อหาที่สร้างโดยคอมพิวเตอร์ทับเนื้อหานั้น ในรูปแบบของเสียง ภาพ กราฟิก และข้อมูลตำแหน่ง

และในขณะที่บางคนอาจอ่านข้อความนี้และคิดว่า "แปลกใหม่" แต่ความจริงแล้วเทคโนโลยีความจริงเสริมก็มีความสำคัญพอๆ กับสิ่งประดิษฐ์ที่สำคัญพอๆ กับ iPhone ปัญญาประดิษฐ์เป็นประตูสู่ metaverse และจะช่วยกำหนดอนาคตของชีวิตดิจิทัลของเราด้วยพลังแห่งปัญญาประดิษฐ์

เป็นธุรกิจขนาดใหญ่อยู่แล้ว แต่ความเป็นจริงเสริมคาดว่าจะเติบโตเป็นอุตสาหกรรมมูลค่า 250 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2571 ( Statista) สิ่งนี้จะอำนวยความสะดวกโดยการเปิดตัว 5G ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพของเทคโนโลยีนี้อย่างมาก

ไม่ควรสับสนกับความเป็นจริงเสมือนซึ่งนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ โดยผู้ชมจะมองไม่เห็นโลกแห่งความเป็นจริงรอบตัวพวกเขา

ความเป็นจริงเสมือนยังต้องการฮาร์ดแวร์ราคาแพงจำนวนมาก ในทางตรงกันข้าม สิ่งที่ยอดเยี่ยมอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยีความจริงเสริมก็คือการเข้าถึงข้อมูลสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการเพียงสมาร์ทโฟนที่มีกล้องที่ใช้งานได้

ขณะนี้มีอุปกรณ์เหล่านี้กว่า 6 พันล้านเครื่องที่ใช้อยู่ทั่วโลก ( Statista) และนี่หมายความว่าบริษัทต่างๆ ที่รวมเอาเทคโนโลยีความจริงเสริมเข้ากับกลยุทธ์ทางการตลาดของตนสามารถคาดหวังให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้อย่างแท้จริง

เพิ่มความเป็นจริงและประสบการณ์ของลูกค้า

ประสบการณ์ของลูกค้า - หรือ CX - มีความสำคัญเพราะมันกำหนดกระบวนการตัดสินใจของผู้บริโภค

มีหลักฐานมากมายที่จะสนับสนุนสิ่งนี้ 65% ของผู้คนได้รับอิทธิพลจาก CX มากกว่าโฆษณาแบบดั้งเดิม ( PwC) ในขณะที่ 74% มีแนวโน้มที่จะซื้อโดยอาศัยปัจจัยนี้เพียงอย่างเดียว ( Forbes)

ในท้ายที่สุด CX ที่ยอดเยี่ยมจะช่วยให้บริษัทของคุณโดดเด่นกว่าคู่แข่ง - มันดึงดูดลูกค้าใหม่ เพิ่มความสามารถของคุณในการรักษาลูกค้าที่มีอยู่ และปรับปรุงชื่อเสียงของคุณ

ด้วยเหตุนี้ จึงถือเป็นพื้นฐานสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจใดๆ แต่อะไรเป็นตัวกำหนด CX ที่ยอดเยี่ยม

พูดง่ายๆ ก็คือ CX ที่ยอดเยี่ยมคือสิ่งที่ทำให้ลูกค้ามาก่อน และได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทุกส่วนของการเดินทางของลูกค้าเป็นแบบส่วนตัวและปราศจากความเครียด และเมื่อพูดถึงการตลาดและอินเทอร์เน็ต บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องค้นหาวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนเป็นจริง

ความจริงเสริมนั้นยอดเยี่ยมในเรื่องนี้ วิธีที่ดึงโลกดิจิทัลและโลกแห่งความจริงมารวมกันเป็นโอกาสสำหรับบริษัทต่างๆ ในการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและน่าจดจำสำหรับผู้บริโภค ซึ่งจะเชื่อมต่อกับพวกเขาในระดับอารมณ์มากขึ้น

ตัวอย่างเช่น แทนที่จะเพียงแค่เรียกดูรูปภาพของเสื้อผ้าบนเว็บไซต์ ผู้บริโภคสามารถเดินเข้าไปในร้าน เลือกสิ่งที่จะลองสวมใส่ และดูว่าพวกเขามีลักษณะอย่างไรในนั้น

เทคโนโลยีนี้สนุกแต่ยังค่อนข้างใหม่ แปลกใหม่ และน่าตื่นเต้นสำหรับผู้บริโภค ดังนั้นจึงเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มการมีส่วนร่วม

การวิจัยสนับสนุนสิ่งนี้ด้วยประสบการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AR ให้อัตรา Conversion ที่สูงกว่าการตลาดแบบเดิม 94% ( Deloitte)

ตัวอย่างในโลกแห่งความเป็นจริงของเทคโนโลยี Augmented Reality

เทคโนโลยี Augmented Reality มีมาระยะหนึ่งแล้ว แต่อาจเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดสำหรับการใช้งานในตัวกรอง Snapchat และโลกแห่งเกมออนไลน์

เทคโนโลยีสารสนเทศทางการตลาด เป็นขั้นตอนดำเนินกิจกรรม ทั้งในเรื่องของการขายและตลาด โดยจัดเป็นภาระทำงานสำคัญที่อยู่ภายใต้องค์กรหนึ่ง อันสืบเนื่องมาจากแนวคิดดำเนินธุรกิจ ณ ปัจจุบัน มุ่งเน้นไปยังความพอใจของลูกค้าเป็นเป้าหมายหลัก ทั้งนี้องค์กรทั้งหลายจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับขั้นตอนดำเนินงาน ทางด้านตลาด  รวมถึงสร้างแรงจูงใจ ให้แก่บุคลากรของทุกหน่วยงาน เพื่อสร้างมูลค่าของผลิตภัณฑ์อันส่งมอบให้แก่ลูกค้าทุกราย ซึ่งจะนำไปสู่ความพึงพอใจของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนมีภาพลักษณ์ดีขึ้นตามไปด้วย

เทคโนโลยีการตลาด เป็นเครื่องมือเพื่อใช้ในงานตลาด ทั้งในเรื่องพัฒนาผลิตภัณฑ์ตลอดจนสร้างโปรแกรมทางตลาดที่ดี อันจำเป็นต้องใช้สารสนเทศเข้ามาช่วยด้วย เพราะในปัจจุบัน  ตลาดมีขนาดใหญ่ขึ้น ผู้บริโภคมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้วิธีตลาดมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น และธุรกิจก็ยังจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับสภาพแวดล้อม ซึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วรวมทั้งแข่งขันสูงมากขึ้น  เพราะฉะนั้น การใช้สารสนเทศอันทันสมัยจึงมีความจำเป็นอย่างมหาศาล

การตลาด มีความสำคัญต่อธุรกิจ เพราะหน่วยงานนี้จะคอยดูแลขั้นตอนกระจายสินค้าและบริการลูกค้า โดยเริ่มตั้งแต่ศึกษา , วิเคราะห์ , วางแผน ตลอดจนสร้างความต้องการ รวมทั้งส่งเสริมการขายจนสินค้าถึงมือลูกค้า อันประกอบด้วยปัจจัย 4 ข้อ คือ ผลิตภัณฑ์ , ราคา , สถานที่ รวมทั้งโฆษณา ซึ่งเรียกว่า ‘4Ps’ โดยสารสนเทศประเภทนี้ ต้องขั้นตอนวิเคราะห์ , วางแผน , ตรวจสอบ ตลอดจนควบคุมให้แผนเป็นไปตามต้องการซึ่งแหล่งข้อมูลที่นำมาตกผลึก มีดังนี้…

1.ปฏิบัติงาน แสดงให้เห็นถึงยอดขายรวมทั้งขั้นตอนดำเนินงานทางด้านตลาด ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงอันเกิดขึ้นจากขั้นตอนดำเนินงาน ซึ่งช่วยตรวจสอบ , ควบคุม ตลอดจนวางแนวทางปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพสูงมากกว่าเดิม

2.วิจัยตลาด ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลทางตลาด เน้นไปในเรื่องของพฤติกรรมกับความสัมพันธ์ของผู้บริโภค โดยนักการตลาดจะต้องวิจัยบนสมมติฐานพร้อมเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ตามปกติแล้วข้อมูลในการวิจัยตลาด มักได้มาจากการรวบรวมข้อมูลขั้นต้น เช่น สังเกต, สัมภาษณ์ , ใช้แบบสอบถาม การวิจัยตลาดจะช่วยให้ผู้บริหารมีขั้นตอนวางแผนรวมทั้งตัดสินใจได้ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของความถูกต้องตลอดจนความน่าเชื่อถือในการอธิบายพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายด้วย

3.คู่แข่ง สิ่งหนึ่งที่ธุรกิจจำเป็นต้องมีความเข้าใจในคู่แข่งขัน ก็คือ เรื่องของจำนวนและศักยภาพ โดยอาศัยข้อมูลจากงานของคู่แข่ง อันช่วยให้ธุรกิจของคุณวางแผนอย่างเหมาะสม ตามปกติแล้วข้อมูลจากคู่แข่งขันจะมีลักษณะปราศจากโครงสร้าง เช่น ทดลองใช้สินค้า , บริการ , สัมภาษณ์ลูกค้า เป็นต้น

4.กลยุทธ์ เป็นข้อมูลที่สำคัญทางตลาด เพราะกลยุทธ์ถือเป็นเครื่องกำหนดแนวทางปฏิบัติของทุกธุรกิจ อีกทั้งยังเป็นรากฐานสำคัญในขั้นตอนกำหนดกลยุทธ์อีกด้วย

5.ข้อมูลภายนอก ความเปลี่ยนแปลงอันเกิดขึ้นจากเศรษฐกิจ , การเมือง , สังคม รวมทั้งเทคโนโลยี โดยส่งผลต่อโอกาสหรืออุปสรรคต่างๆของธุรกิจ รวมทั้งเปลี่ยนขั้นตอนของการดำเนินงานด้วย