การอ่านออกเสียงมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

การอ่านออกเสียงมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
การอ่านออกเสียงร้อยกรอง
การอ่านออกเสียงมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

        การอ่านออกเสียงร้อยกรอง  เป็นการอ่านที่มุ่งให้เกิดความเพลิดเพลินซาบซึ้งในรสของคำประพันธ์  ซึ่งจะต้องอ่านอย่างมีจังหวะ  ลีลา  และท่วงทำนองตามลักษณะคำประพันธ์เเต่ละชนิด

        การอ่านบทร้อยกรอง อ่านได้ ๒ แบบ ดังนี้

        ๑. อ่านออกเสียงธรรมดา เป็นการอ่านออกเสียงพูด ตามปกติเหมือนกับอ่านร้อยแก้ว แต่มีจังหวะวรรคตอน

        ๒. อ่านเป็นทำนองเสนาะ เป็นการอ่านมีสำเนียงสูง ต่ำ หนัก เบา ยาว สั้นเป็นทำนองเหมือนเสียงดนตรี มีการเอื้อนเสียง เน้นสัมผัส ตามจังหวะ ลีลาและท่วงทำนองตามลักษณะบังคับของบทประพันธ์ให้ชัดเจนเเละเหมาะสม

การอ่านออกเสียงมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
หลักเกณฑ์ในการอ่านออกเสียงร้อยกรอง
การอ่านออกเสียงมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

          ๑. ศึกษาลักษณะบังคับของคำประพันธ์ เช่น การเเบ่งจังหวะจำนวนคำสัมผัสเสียง วรรณยุกต์ เสียงหนักเบา เป็นต้น

          ๒. อ่านให้ถูกต้องตามลักษณะบังคับของคำประพันธ์

          ๓. อ่านออกเสียง ร ล คำควบกล้ำให้ชัดเจน

          ๔. อ่านออกเสียงดังให้ผู้ฟังได้ยินทั่วถึง ไม่ดังหรือค่อยจนเกินไป

          ๕. คำที่รับสัมผัสกันต้องอ่านเน้นเสียงให้ชัดเจน ถ้าเป็นสัมผัสนอกต้องทอดเสียงให้มีจังหวะยาวกว่าธรรมดา

          ๖. มีศิลปะในการใช้เสียง เอื้อนเสียง และทอดจังหวะให้ช้าจนจบบท

การอ่านออกเสียงมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
ข้อควรคำนึงในการอ่านบทร้อยกรอง
การอ่านออกเสียงมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

          ๑. ก่อนอ่านทำนองเสนาะควรรักษาสุขภาพให้ดี มีความพร้อมทั้งกายและใจ จะช่วยให้มั่นใจมากขึ้น

          ๒. ตั้งสติให้มั่นคง ไม่หวั่นไหว ตื่นเต้น ตกใจ หรือประหม่า ควรมีสมาธิก่อนอ่านเเละขณะกำลังอ่าน เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด

          ๓. ก่อนอ่านควรตรวจดูบทอ่านอย่างคร่าวๆ และรวดเร็วเพื่อพิจารณาคำยาก หรือการผัวรรณยุกต์ และอื่นๆ

          ๔. พิจารณาบทที่จะอ่าน เพื่อตัดสินใจ เลือกใส่อารมณ์ในบทอ่านให้เหมาะสมสอดคล้องกับเนื้อความ

          ๕. หมั่นศึกษาและฝึกฝนการอ่านทำนองเสนาะจากผู้รู้  เกี่ยวกับกลวิธีต่าง ๆ อยู่เสมอ  จึงจะทำให้สามารถอ่านทำนองเสนาะได้อย่างไพเราะ

การอ่านออกเสียงมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
คุณค่าของการอ่านทำนองเสนาะ
การอ่านออกเสียงมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

          ๑. ผู้ฟังเห็นความงามของบทร้อยกรองที่อ่าน

          ๒. ผู้ฟังได้รับความไพเราะและเกิดความซาบซึ้ง

          ๓. เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน

          ๔. จดจำบทร้อยกรองได้รวดเร็วเเม่นยำ

          ๕. ช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้เป็นคนอ่อนโยน

          ๖. ช่วยสืบทอดวัฒนธรรมในการอ่านทำนองเสนาะไว้เป็นมรดกของชาติ

การอ่านออกเสียงมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
วิธีการอ่านทำนองเสนาะจากคำประพันธ์
การอ่านออกเสียงมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

          กลอนสุภาพ  นิยมอ่านเสียงสูง ๒ วรรค และเสียงต่ำ ๒ วรรค การเเบ่งจังหวะวรรคในการอ่าน มีดังนี้

                    วรรคละ ๖ คำ   อ่าน ๒/๒/๒    OO/OO/OO

                    วรรคละ ๗ คำ   อ่าน ๒/๒/๓    OO/OO/OOO

                    วรรคละ ๘ คำ   อ่าน ๓/๒/๓    OOO/OO/OOO

                    วรรคละ ๙ คำ   อ่าน ๓/๓/๓     OOO/OOO/OOO

          กาพย์ยานี ๑๑ มีจำนวนคำ ๑๑ คำ นิยมอ่านเสียงสูงกว่าปกติจึงจะเกิดความไพเราะ การเเบ่งจังหวะวรรดในการอ่าน มีดังนี้

                    วรรคหน้า ๕ คำ   อ่าน ๒/๓    OO/OOO

                    วรรคหลัง ๖ คำ    อ่าน ๓/๓    OOO/OOO

การอ่านออกเสียงมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

          เว็บไซต์  :  http://www.trueplookpanya.com/new/cms_detail/knowledge/2613-00/

การอ่านออกเสียงมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

ลักษณะของการอ่านออกเสียงมีกี่ประเภท

การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง เป็นการอ่านที่มุ่งให้เกิดความเพลิดเพลิน ซาบซึ้งในรสของบท ประพันธ์ซึ่งต้องอ่านอย่างมีจังหวะ ลีลา และท่วงทำนองตามลักษณะคำประพันธ์แต่ละชนิด มีวิธีออกเสียงได้ ๒ อย่าง คือ ออกเสียงอย่างการอ่านร้อยแก้ว และออกเสียงเป็นทำนองเสนาะ

การอ่านออกเสียงมีอะไรบ้าง

การอ่านออกเสียง คือ การอ่านที่ผู้อ่านเปล่งเสียงออกมาให้ผู้อื่นได้ยินเป็นถ้อยคำ ประโยค หรือเรื่องราว หลักในการอ่านออกเสียง - ไม่อ่านเร็วหรือช้าเกินไป - อ่านด้วยความดังที่เหมาะสมไม่ดังหรือเบาเกินไป

การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองมีกี่แบบอะไรบ้าง

การอ่านบทร้อยกรอง อ่านได้แบบ ๑. อ่านแบบธรรมดา เป็นการอ่านออกเสียงพูดธรรมดา ไม่มีทานองเหมือนอ่านร้อยแก้ว แต่มีการ แบ่งจังหวะวรรคตอนให้ถูกต้องตามชนิดของคาประพันธ์ ๒. อ่านแบบทานองเสนาะ เป็นการอ่านออกเสียงที่มีทานองอย่างไพเราะ มีเอื้อนเสียง เน้นสัมผัส แบ่งจังหวะจานวนคา การอ่านตามฉันทลักษณ์บังคับของคาประพันธ์

ความสําคัญของการอ่านคืออะไร

การอ่านเป็นพฤติกรรมการรับสารอย่างหนึ่ง กล่าวคือเป็นการรับรู้เรื่องราวโดยใช้สายตามองดูตัวอักษร แล้วสมองก็ จะลาดับเป็นถ้อยคา ประโยค และข้อความต่างๆ เกิดเป็นเรื่องราวตามความรู้และประสบการณ์ของผู้อ่านแต่ละคน การอ่านช่วยให้เราสามารถติดตามความเคลื่อนไหว ความก้าวหน้า และความเปลี่ยนแปลงทั้งหลายได้ทันต่อ เหตุการณ์ ฉะนั้นการอ่าน ...