ถ่ายพรีเวดดิ้งก่อนแต่งงานกี่เดือน

หน้าแรก > ทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายของพรีเวดดิ้งที่แท้จริง ว่าหมายถึงอะไร

ถ่ายพรีเวดดิ้งก่อนแต่งงานกี่เดือน

ถ่ายพรีเวดดิ้งก่อนแต่งงานกี่เดือน

เมื่อพูดถึงคำว่าพรีเวดดิ้ง (pre wedding)ทุกคนก็คงจะนึกถึงภาพหนุ่มสาวสองคน ถ่ายภาพร่วมกันอย่างมีความสุขก่อนแต่งงาน อาจจะไม่ได้ใส่ชุดแต่งงานอย่างจริงจัง แต่เป็นการถ่ายภาพร่วมกันในอิริยาบถต่างๆ ที่เรามักจเห็นตามสื่อโซเชียล ของใครหลายๆคนนั่นเอง นั่นเป็นความหมายที่เรามักจะเข้าใจเช่นนั้น ซึ่งจขะว่าไปแล้วการถ่ายpre wedding เป็นเพียงความหมายส่วนหนึ่ง ของพรีเวดดิ้งเท่านั้น

แต่สำหรับความหมายที่แท้จริงของพรีเวดดิ้ง ก็คือการเตรียมงานทุกอย่าง ให้พร้อมสำหรับการแต่งงานจริงๆ ที่จะมาถึงอีกไม่นาน และการถ่ายpre wedding ก็เป็นส่วนหนึ่งในความหมายนั้นด้วย แต่คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิด ว่าเป็นการถ่ายรูปเพียงอย่างเดียว ฉะนั้นหากเราต้องการอยากจะสื่อความหายให้ถูกต้องเกี่ยวกับพรีเวดดิ้ง

ต้องรู้ว่าหมายถึงอะไรเสียก่อน อย่างเช่นถ้าจะเตรียมงานก็หมายถึงพรีเวดดิ้ง แต่ถ้าจะถ่ายรูปก่อนงานแต่งงาน ก็ต้องเรียกถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง แบบนี้เป็นต้น จะได้ไม่สับสน สำหรับในต่างประเทศนั้น พรีเวดดิ้งยังหมายถึงการเตรียมงานอย่างอื่น ที่เกี่ยวข้องกันงานแต่งงานนั้นๆ ด้วย ตั้งแต่การหาสถานที่ การคิดคอนเซ็ปต์ในงานแต่งงาน ไปจนถึงการหาของที่ระลึกสำหรับแขกที่เข้ามาร่วมงานด้วย

ทุกอย่างที่กล่าวมาทั้งหมด คือความหมายของพรีเวดดิ้ง ฉะนั้นต้องเข้าใจให้ถูกเสียก่อน และในการจัดงานหรือการพรีเวดดิ้ง ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญในการจัดงานแต่งงาน และคู่รักหนุ่มสาวจะต้องเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า อย่างน้อยก็หนึ่งปีขึ้นไป เพื่อให้งานที่ออกมาดูดีที่สุด แม้แต่การถ่ายpre wedding เอง ก็ต้องวางแผนเช่นกัน ว่าจะเลือกถ่ายแบบไหน คอนเซ็ปต์อะไรบ้าง เลือกสถานที่ถ่ายที่ไหนดี

โดยในการเลือกถ่ายพรีเวดดิ้ง ให้ออกมาสมบูรณ์แบบ คู่รักจะต้องหาสไตล์ในการถ่ายรูป หรือว่ารูปแบบที่เราต้องการให้เจอก่อน ว่าจะเอาแบบไหน หลังจากนั้นก็เอาคอนเซ็ปต์ที่เราต้องการอยากจะได้ ไปหาข้อมูลว่ามีสตูดิโอที่ไหนบ้าง หรือว่ามีช่างภาพคนไหน ที่สามารถถ่ายยภาพพรีเวดดิ้ง ที่เราต้องการได้บ้าง เพื่อให้ได้ผลงานที่ออกมาเพอร์เฟค จะต้องเลือกช่างภาพที่เป็นมืออาชีพเท่านั้น

ทุกวันนี้ก็มีช่างภาพ และสตูดิโอถ่ายpre wedding ให้เราเลือก ตั้งแต่ราคาถูกๆ ที่ทุกคนสามารถจับต้อได้ ไปจนถึงราคาแพงลิบลิ่วแบบที่ถ่ายให้คนดังเลย ในการเลือกก็ไม่จำเป็นจะต้องเลือกที่แพงเสมอไป ให้เอาที่เราคิดว่าเหมาะสมกับราคาที่สุด และคุณภาพของผลบงานออกมาดี แค่นี้ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว อย่าไปเลือกราคหรือว่าแพ็กเกจอะไร ที่มันแพงเกินความจำเป็น

เพียงแค่ให้เรามีภาพแห่งความทรงจำเก็บเอาไว้บ้าง แค่นี้ก็ถือว่าครบจุดประสงค์ของการถ่ายพรีเวดดิ้งแล้ว เก็บเงินที่จำเป็นเหล่านั้น เอาไว้ใช้หลังจากการจัดงานแต่งงานจะดีกว่า การถ่ายพรีเวดดิ้ง เป็นเพียงองค์ประกอบอย่างหนึ่งเท่านั้น ซึ่งจะว่าไปแล้ว จะถ่ายหรือไม่ถ่ายก็ได้

ขึ้นอยู่กับความเห็นของหนุ่มสาวแต่ละคน มีหลายคู่เหมือนกัน ที่จะงานแต่งงานกันเลย โดยที่ไม่มีการถ่ายpre wedding เพราะเห็นว่าเป็ฯเรื่องไม่จำเป็น อาจจะถ่ายบ้างเล็กน้อยเพื่อเป็นพิธีก็ได้ แต่ก็ให้เลือกราคาเหมาะสมกับฐานะของเราจะดีที่สุด

TAG :

เขียนโดย

ช่วง 12-18 เดือนก่อนถึงวันงาน
          - พาญาติผู้ใหญ่มาทาบทามสู่ขอ รวมถึงตกลงกันเรื่องสินสอด พูดคุยกันเกี่ยวกับพิธีแต่งงานในเบื้องต้นคร่าว ๆ
          - ไปดูฤกษ์แต่งงานพร้อมกำหนดวันแต่งงาน
          - ปรึกษากันว่าจะใช้วิธีอะไรในการจัดเก็บข้อมูลเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานแต่งงาน เช่น เวดดิ้งแพลนเนอร์ เช็กลิสต์
          - กำหนดงบประมาณที่จะใช้สำหรับงานให้ชัดเจน โดยรวมเงินสินสอดที่ต้องมอบให้กับฝ่ายเจ้าสาวด้วย
          - ทำความเข้าใจกันก่อนว่างบประมาณทั้งหมดนั้นจะใช้ในแต่ละเรื่องเท่าไหร่
          - เปิดบัญชีร่วมกันขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้สำหรับเก็บและจ่ายในเรื่องงานแต่งทั้งหมด
          - เลือกเพื่อนเจ้าบ่าว-สาว รวมถึงระบุหน้าที่ของพวกเขาไปเลยให้ชัดเจน
          - ช่วยกันพิจารณาว่ามีอะไรบ้างที่ต้องเช่า เช่น เต็นท์ สำหรับงานแต่งเอาท์ดอร์, อุปกรณ์ตกแต่งงานต่าง ๆ
 

ช่วง 9-12 เดือนก่อนถึงวันงาน

          - พิจารณาว่าจะติดต่อจ้างช่างภาพงานแต่งงาน/วิดีโอ รวมถึงติดต่อช่างแต่งหน้า ทำผมให้พร้อมสำหรับวันงาน
          - เตรียมเช่าชุดแต่งงาน
          - แจ้งให้คุณแม่รับทราบเกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องธีม/สีชุด เพื่อที่จะได้เลือกสีให้เข้ากับงาน
          - จ้างพิธีกรมาดำเนินงานแต่งหรือบอกกล่าวเพื่อนที่สามารถเป็นพิธีกรให้ได้
          - ตรวจดูกฎหมายแต่งงานก่อนด้วยว่ามีรายละเอียดว่าอย่างไรบ้าง
          - เลือกเพลงสำหรับเปิดในงานพิธีวิวาห์

ช่วง 6-9 เดือนก่อนถึงวันงาน

          - เลือกซื้อแหวนแต่งงาน
          - จัดเตรียมคุยงานกับผู้ให้บริการจัดตกแต่งดอกไม้ 
          - คู่บ่าวสาวรวมถึงเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องตกลงกันให้ดีว่าจะซื้อหรือเช่าชุด แล้วชุดแต่ละคนนั้นแมทช์กันหรือเปล่า
          - มองหาเครื่องประดับ เช่น เข็มกลัดติดบริเวณแขนเสื้อตรงข้อมือสำหรับเจ้าบ่าว รองเท้า เครื่องเพชร ฯลฯ
          - พิจารณาเรื่องอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ต้องใช้ในงาน เช่น การตกแต่งเวที แบคดรอป หน้างาน เค้ก เทียน สมุดอวยพร ฯลฯ
          - ช่วยกันวางแผนเรื่องฮันนีมูน และเตรียมจองที่พัก พาหนะในการเดินทาง เช่น ตั๋วเครื่องบิน

ช่วง 3-6 เดือนก่อนถึงวันงาน
          - จัดเตรียมจัดหา/จองพาหนะที่ต้องใช้เดินทางในวันงานแต่ง
          - ตัดสินใจว่าจะเลือกอะไรเป็นของชำร่วยสำหรับแขก

 ช่วง 2 เดือนก่อนถึงวันงาน
          - ส่งการ์ดเชิญให้แขกทั้งหมด
          - เตรียมสคริปต์สำหรับพูดกล่าวขอบคุณในงานพิธี รวมถึงฝึกฝนการพูดให้คล่องด้วย
          - เตรียมจัดหาพิธีกรมาดำเนินงานในพิธี ถ้าหากจ้างพิธีกรมืออาชีพก็ควรซักซ้อมเกี่ยวกับลำดับขั้นตอนของพิธีในงาน เพื่อให้สามารถดำเนินไปอย่างไม่ติดขัด หรือถ้าจะให้เพื่อนช่วยทำหน้าที่นี้ให้ ก็ลองนัดแนะเกี่ยวกับลำดับขั้นตอนให้เขาทราบเสียก่อน
          - หาของขวัญชิ้นพิเศษให้กับเพื่อนและครอบครัว เพื่อแทนคำขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือในการเตรียมงาน
          - เตรียมรายชื่อเพลงที่ต้องการให้เปิดในงาน และเพลงแรกควรเป็นเพลงสนุก ๆ ก่อนเพื่อให้งานเริ่มต้นด้วยความครึกครื้น
          - เตรียมจองคอร์สสำหรับบำรุงผิวพรรณและเส้นผมช่วงก่อนวันแต่งสัก 2-3 วัน ให้เปล่งประกายต้อนรับวันวิวาห์

ช่วง 1 เดือนก่อนถึงวันงาน
         - ตรวจสอบแพ็กเกจฮันนีมูนว่าตรงตามที่จองไว้หรือไม่
         - เตรียมแผนผังที่นั่งสำหรับแขกให้เสร็จสมบูรณ์ ระบุตำแหน่งที่นั่งให้เรียบร้อยว่าใครนั่งตรงไหน
         - ไปลองชุดแต่งงานอีกครั้ง เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้าย
         - เช็กเรื่องที่จอดรถด้วยว่าเพียงพอสำหรับจำนวนแขกหรือไม่
         - โทรศัพท์ไปยืนยันกับผู้ให้บริการต่าง ๆ เช่น รถเช่า อาหาร เครื่องดื่ม สถานที่จัดงาน จัดดอกไม้ ช่างภาพ พิธีกร ฯลฯ รวมถึงสอบถามรายละเอียดว่าทุกอย่างที่ดำเนินการไปนั้นเรียบร้อยดีหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบทุก ๆ เรื่องที่จัดการไปทั้งหมดอีกครั้งว่าเรียบร้อยดีหรือเปล่า
 


ช่วง 1 สัปดาห์ก่อนถึงวันงาน
        - ส่งตารางเวลาที่ระบุเวลา และขั้นตอนในวันพิธีให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดงาน
        - ตรวจสอบรายชื่อแขกที่ตอบรับคำเชิญว่าจะมาร่วมงานอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้ตกหล่นใครไป
        - ไปร้านเสริมสวย สปา หรือคลินิกความงามที่ได้จองคอร์สบำรุงผิวพรรณและเส้นผมเอาไว้
        - รวบรวมสิ่งที่จำเป็นหรือสิ่งของมีค่าไว้ในกระเป๋าใบเดียว แล้วฝากเอาไว้กับคนที่ไว้ใจได้
        - ส่งแผนที่ระบุตำแหน่งที่นั่งของแขกให้กับผู้เชิญแขก เพื่อจะได้นำแขกไปนั่งได้ถูกตำแหน่ง
        - เตรียมซองสำหรับใส่เงินค่าใช้จ่าย และมอบให้กับเพื่อนเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวเพื่อนำไปจ่าย
        - ซักซ้อมพิธีแต่งงานให้เป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ ทบทวนบทบาทหน้าที่ของเพื่อนเจ้าบ่าว-สาวและพิธีกรให้ชัดเจน
 

แล้วก็เดินทางมาถึงวันแต่งงานสักที
        - ห้ามตื่นสายเป็นอันขาด เตรียมตั้งนาฬิกาปลุกให้ดีเลยทีเดียว 
        - แต่งหน้า ทำผมให้เรียบร้อย
        - เช็กสิ่งของสำคัญ เช่น แหวนแต่งงาน สินสอด 
         - ให้เลือกใช้เจลอาบน้ำ โลชั่น และน้ำหอมที่อยู่ในเซตเดียวกัน เพราะจะมีกลิ่นที่เหมือนกัน ถ้าหากใช้กลิ่นที่ต่างกันแล้ว อาจทำให้กลิ่นของแต่ละผลิตภัณฑ์ตีกันได้
         - ทำตัวสบาย ๆ ผ่อนคลาย ไม่ต้องไปกังวลว่าจะเกิดความไม่เรียบร้อยถึงในงาน ให้เชื่อใจเพื่อน ๆ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานว่าพวกเขาสามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
         - อย่าลืมดูแลรักษาความสะอาดในช่องปากด้วย เพราะคุณอาจจะต้องจูบแสดงความรักกันในงานแต่ง 
         - ยิ้มแย้มและสนุกไปกับงานวันสำคัญของพวกคุณกัน ไม่ต้องกลัวว่างานจะออกมาไม่สมบูรณ์ เพราะว่าวันนี้เป็นวันที่ผองเพื่อนและครอบครัวมารวมตัวกันแสดงความยินดีกับพวกคุณทั้งที จะกังวลอะไรอีกล่ะ จริงไหม

            เอาล่ะ และทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีการเตรียมงานแต่งขั้นเทพที่เรานำมาฝาก เป็นการแบ่งระยะเวลาว่าตอนไหนต้องจัดการเรื่องอะไรบ้าง เพื่อที่งานแต่งของคุณจะได้ออกมาสมบูรณ์แบบและครบถ้วนมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ลองนำไปปรับใช้กันดูตามความเหมาะสมกันนะ

🚩ช่างภาพและ VDO งานแต่งงานมืออาชีพ 
📍Fanpage :BirdEyeView Wedding Studio
📞081-843-2726 👩K'Art
📷LINE : birdeyeviewstudio

www.BirdEyeViewPhoto.com

ถ่ายพรีเวดดิ้งควรถ่ายก่อนแต่งกี่เดือน

จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนของการถ่าย pre-wedding เตรียม presentation ซึ่งแน่นอนว่านี่คือความสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่จะขาดไม่ได้เลย เพราะจะสร้างความประทับใจให้ว่าที่เจ้าบ่าว ว่าที่เจ้าสาว รวมถึงแขกที่มาร่วมงานในคราวเดียวกันด้ว โดยการถ่าย pre-wedding และทำ presentation ความเตรียมการล่วงหน้าก่อน 2-3 เดือน กำลังดีค่ะ

ของชำร่วยสั่งล่วงหน้ากี่เดือน

ดังนั้น ทางร้านแนะนำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อของชำร่วยก่อนวันงานซัก 2-3 เดือนจะดีที่สุดค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ลูกค้าสามารถสอบถามมาได้ตลอดค่าว่าของชำร่วยที่ลูกค้าสนใจมีของมั้ย ใช้เวลาในการผลิตกี่วัน ทางร้านยินดีตอบทุกคำถามค่ะ สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการกับร้านพรสิริ ทางร้านจะกำหนดวันคร่าวๆไว้ให้ลูกค้าค่ะ ซึ่งทางร้านจะดูว่า ของ ...

จองสถานที่แต่งงานล่วงหน้ากี่เดือน

ส่วนใหญ่หลายคู่จะแต่งงานกันช่วงปลายปี หากฤกษ์ของบ่าว-สาวตรงกับช่วงนั้น จะต้องรีบจองสถานที่ล่วงหน้า 6-10 เดือนเป็นอย่างน้อย เพื่อให้ได้สถานที่ที่ตรงใจมากที่สุด ดูฤกษ์ปี 65.

ลงภาพพรีเวดดิ้งตอนไหนดี

พรีเวดดิ้ง คือ ภาพถ่ายระหว่างบ่าวสาวก่อนแต่งงาน โดยปกติแล้วมักจะใช้เวลาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งก่อนวันแต่งงานประมาณ 3-6 เดือน หลายคนอาจคิดว่าการถ่ายพรีเวดดิ้งไม่จำเป็นและทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่จริงๆ แล้วการถ่ายพรีเวดดิ้งช่วยทำให้คุณมีวันแต่งงานที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น เพราะในวันพรีเวดดิ้งเหมือนเป็นวันที่เจ้าบ่าวและ ...