ว่านหางจระเข้พอกหน้ากี่นาที

การใช้สมุนไพรไทยมาช่วยในด้านของความสวยความงามนั้น  มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ดังที่เราจะเห็นได้จากการที่ผู้หญิงสมัยก่อนเค้าเอาขมิ้นมาทาหน้า  นำกระเทียมมาพอกหน้าเพื่อรักษาสิว หรือทางพม่าเค้าจะใช้ทานาคามาทาหน้ากัน  ซึ่งปัจจุบันเราก็ยังเห็นเค้าใช้กันอยู่ทั่วไปค่ะ

Show

เทคนิคเหล่านี้ได้ถูกสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน  เพราะผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง  สมุนไพรอีกอย่างที่หลายคนมองข้ามไปก็คือว่านหางจระเข้  น้อยคนนักที่จะรู้ว่าว่านหางจรเข้มีคุณสมบัติช่วยให้หน้าขาวใส ผิวพรรณดีอีกด้วย วิธีการใช้ว่านหางจระเข้ทาหน้านั้นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำได้ง่ายๆ แต่เป็นการบำรุงผิวที่ได้ผลดีอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย เรามาลองพอกหน้าด้วยว่านหางจระเข้ด้วยวิธีต่างๆ กันดีกว่าค่ะ

ว่านหางจระเข้พอกหน้ากี่นาที

มาใช้ว่านหางจระเข้ทาหน้าของเรา ให้สวยเนียนใสไร้สิวกันดีกว่า

สูตรว่านหางจรเข้ นมสด และดินสอพอง

ให้เพื่อนๆ เอาว่านหางจรเข้สด มาแกะเอาเฉพาะวุ้นด้านใน  ใช้เพียงแค่ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ  เอามาผสมนมสด 1.5 ช้อนโต๊ะ จากนั้นก็เอาดินสอพองมาบดให้ละเอียด  แล้วตักมาผสมอีก 1 ช้อนโต๊ะ  คนส่วนผสมนี้ให้เข้ากัน แล้วใช้พอกให้ทั่วใบหน้าของเราได้เลย  รอ  20 นาทีจึงล้างออก  จะช่วยลดความมันบนใบหน้า  และทำให้ผิวหน้าดูเนียนกระจ่างใสอีกด้วย

ใช้ว่านหางจรเข้ ไข่แดง และน้ำมันมะกอก

เอาส่วนผสมทั้ง 3 อย่างคนให้เข้ากัน จนเป็นเนื้อเดียวกัน  แล้วเอาทาให้ทั่วหน้า เว้นบริเวณรอบๆ ดวงตาและริมฝีปากของคุณไว้นะคะ  แล้วทิ้งไว้อย่างนั้นรอจนแห้งซัก 20 นาที  จึงล้างออกด้วยน้ำเปล่า จะช่วยให้ผิวหน้าของคุณชุ่มชื้น มีน้ำมีนวล  ทำให้ผิวไม่แห้งนั่นเอง

แก้หน้ามันด้วยว่านหางจรเข้

เพียงแค่คุณเอาวุ้นของว่านหางจรเข้  มาบดให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วเอามาพอกใบหน้าของเราให้ทั่ว  แล้วรอประมาณ 25 นาทีค่อยล้างออกนะคะ  ทำบ่อยๆ เป็นประจำทุกวันจะช่วยให้ปัญหาหน้ามันของคุณหมดไป  และใบหน้ายังชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำอีกด้วยนะคะ

สูตรขมิ้นผง  นมสด และว่านหางจระเข้รักษาสิว

วิธีนี้ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เอาขมิ้นผงมา 2 ช้อนชา  นมสด 2 ช้อนโต๊ะ  และเนื้อวุ้นของว่านหางจรเข้อีก 1 ช้อนโต๊ะ  มาผสมให้เข้ากัน  แล้วเอามาพอกให้ทั่วทั้งใบหน้า ยกเว้นดวงตาและริมฝีปาก  นอกนั้นทาให้หมด ทิ้งไว้ 20 นาที ก็ล้างออก  วิธีนี้จะช่วยลดสิว ลดความมันบนใบหน้า และเพิ่มความเนียนนุ่มกระจ่างใสได้อีกด้วย  เป็นเทคนิคการใช้ว่านหางจระเข้รักษาสิว ที่ได้รับความนิยมมาก

อยากให้สิวยุบ สิวฝ้าหาย ต้องใช้วิธีนี้

ก่อนอื่นให้เอาว่านหางจรเข้มาแช่น้ำเปล่าซัก 10 นาที  เพื่อให้ยางของว่านหางจรเข้ไหลออกมา  ยางตัวนี้จะทำให้ผิวเราระคายเคือง และเกิดผดผื่นขึ้นได้นะคะ  เมื่อล้างออกหมดแล้ว  ก็ปอกเปลือกด้านนอกออก  เราจะได้วุ้นด้านในของมัน  ให้ใช้มีดหั่นเป็นแผ่นบางๆ แล้วเอามาแปะให้ทั่วใบหน้า เหมือนตอนที่เราใช้แตงกวาแปะนั่นแหล่ะค่ะ ปล่อยไว้ซัก 20-25 นาที แล้วล้างออก ทำเป็นประจำหน้าคุณจะสวยใสไร้สิว  ใครเป็นฝ้าก็จะจางลง  หากใช้นานๆ ก็จะหายได้นะ

เผยผิวหน้าใส ด้วยการขัดหน้าด้วยว่านหางจรเข้  ข้าวโอ๊ต  แตงกวา

เอาวุ้นของว่านหางจรเข้มาใส่เครื่องปั่นรวมกับแตงกวา  เทใาถ้วยแล้วเติมข้าวโอ๊ตลงไป  คนส่วนผสมให้เข้ากันดีแล้ว  จึงนำมาชะโลมให้ทั่วใบหน้า  แล้วค่อยๆ ถูให้ทั่วใบหน้าเบาๆ ให้นวดใบหน้าไปในตัวด้วยนะคะ  เป็นการขัดล้างเซลล์ผิวเก่าออกไป เพื่อเผยผิวหน้าขาวกระจ่างใสนั่นเอง

ใช้ว่านหางจรเข้มาดีท็อกซ์ผิว

ให้เอาเนื้อมะม่วงสุก  มาปั่นรวมกันจนละเอียด  แล้วเติมน้ำมะนาวลงไปอีกนิดหน่อย  ปั่นให้ส่วนผสมเข้ากัน  แล้วใช้ทาหน้าทิ้งไว้ 20 นาทีค่อยล้างออก  จะช่วยให้ใบหน้าของคุณสดชื่นมากๆ

นี่คือสูตรการใช้ว่านหางจระเข้ทาหน้า เพื่อให้ใบหน้าของเราใสเนียนนุ่ม  ไร้สิวฝ้ากระมากวนใจ  การใช้สมุนไพรมาบำรุงผิวหน้าของเรา  นอกจากจะประหยัด ทำได้ง่ายแล้ว  ยังไม่มีผลข้างเคียงหรือสารตกค้างที่เป็นอันตรายอีกด้วยนะคะ   ถ้าบ้านใครไม่มีต้นว่านหางจรเข้  ก็ให้ไปซื้อมาแบบที่มีรากด้วย  แล้วเอามาปลุกในกระถามที่บ้านได้เลย  ปลูกง่าย เป็นไว ไม่ต้องดูแลมากมาย  ทีนี้คุณก็จะได้พอกหน้าด้วยว่านหางจระเข้บ่อยเท่าที่คุณต้องการเลยหล่ะ

ใครเคยใช้"ว่านหางจระเข้"พอกหน้าบ้าง

พอดีว่าเราแพ้สเตอรอยมากค่ะ..ใช้อะไรก็แพ้ทุกอย่าง
ตอนนี้หน้าพังยับเลยค่ะ..ทั้งสิวพด..สิวอุดตัน..สิวอักเสบ..และผื่นแพ้หน้าแย่สุดๆค่ะ
ได้ยินเรื่องว่านหางจระเข้ว่าเป็นสมุนไพรรักษาได้หลายอย่าง..เลยอย่างรู้ว่าใครเคยใช้มาพอกหน้าบ้างค่ะ
แล้วใช้ดีมั้ยค่ะ...ขอบคุณค่ะ

1

ว่านหางจระเข้พอกหน้ากี่นาที

คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ

กระทู้ที่คุณอาจสนใจ

ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ได้รับการยอมรับจากผู้คนทั่วโลก สรรพคุณมากมายของว่านหางจระเข้ก็เป็นที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลายมายาวนาน จริงหรือไม่ ใช่หรือเว่อร์ เห่อตามกระแสหรือดีจริงๆ มาพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง

พืชแห่งความเป็นอมตะ

หลักฐานทางประวัติศาสตร์พบการใช้งานจากประโยชน์ของว่านหางจระเข้มาอย่างยาวนานกว่า 6,000 ปี ราชีนีเนเฟอร์ติติและราชินีคลีโอพัตราแห่งอียิปต์ใช้ว่านหางจระเข้เป็นเครื่องประทินโฉมเป็นประจำ ที่อีกซีกโลก อเล็กซานเดอร์มหาราช กษัตริย์กรีกโบราณ ใช้ว่านหางจระเข้รักษาทหารในกองทัพ 

นอกจากนี้ ชาวมายาในแถบอเมริกาใต้ก็ได้ขนานนามว่านหางจระเข้ว่าเป็นน้ำพุแห่งความอ่อนเยาว์ จนกระทั่งมายุคหลังที่ชาวจีนและอินเดียใช้ว่านหางจระเข้มาทำยา ปัจจุบันไม่ว่าที่ไหนๆ บนโลกก็ใช้ประโยชน์ของว่านหางจระเข้

ยินดีที่ได้รู้จักกับว่านหางจระเข้    

ว่านหางจระเข้เป็นไม้อวบน้ำหรือซักคิวเลนต์ พืชชนิดนี้เก็บน้ำไว้ในเซลล์เพื่อทนความแห้งแล้ง ว่านหางจระเข้มีมากกว่า 300 สายพันธุ์ แต่มีเพียง 3-4 สายพันธุ์เท่านั้นที่มีสรรพคุณทางยา และที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ อโลเวร่า ว่านหางจระเข้อยู่ในตระกูลลิเลียมหรือลิลลี่ จึงมีชื่อเล่นว่าลิลลี่แห่งทะเลทราย  

ประโยชน์ครอบจักรวาลของว่านหางจระเข้

สรรพคุณของว่านหางจระเข้มาจากส่วนประกอบที่มีประโยชน์มากมาย 

  • วิตามิน - ทั้งวิตามินเอ บีต่างๆ ซี และอี ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ ดีท็อก และชะลอความแก่ของเซลล์ต่างๆ 

  • น้ำตาล - ช่วยเสริมสร้างการทำงานในระบบต่างๆ ของร่างกาย

  • เอนไซม์ - ช่วยลดการอักเสบของผิว

  • กรดอะมิโน - ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

  • แร่ธาตุ - ทั้งแคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และสังกะสี ที่ช่วยในการดูดซึมของวิตามิน  

  • อื่นๆ - ว่านหางจระเข้ยังมีส่วนประกอบของกรดซาลิไซลิก ที่ช่วยลดการอักเสบและยับยังการเจริญเติบโตของเชื้อโรคและแบคทีเรีย 

10 ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ที่คุณต้องตะลึง

ส่วนของว่านหางจระเข้ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มี 2 ส่วนด้วยกัน คือ เจลที่มีลักษณะเป็นวุ้นใสๆ อยู่ด้านในของใบ และอีกส่วนที่อาจไม่ค่อยเป็นที่รู้จักก็คือน้ำยางที่มีสีเหลืองอยู่บริเวณเปลือกที่โคนใบ แต่น้ำยางต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง 

เตรียมให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

การนำใบว่านหางจระเข้มาใช้ ให้เลือกใบที่หนา สมบูรณ์ และปราศจากเชื้อรา ตัดใบบริเวณโคนเพราะเป็นที่ที่มีสารอาหารมากที่สุด ปล่อยให้น้ำยางไหลออกจนหมด ล้างใบและเช็ดให้แห้ง วางใบให้ราบไปกับโต๊ะ ใช้มีดตัดขอบใบที่มีหนามออกทั้งสองข้าง ยกเปลือกใบด้านบนออก จากนั้นใช้ช้อนตักวุ้นด้านในมาใช้   

#1 เมนูคลายร้อน

อากาศร้อนๆ มาเติมความสดชื่นด้วยว่านหางจระเข้ มีประโยชน์และแคลอรี่ต่ำ

น้ำว่านหางจระเข้ปั่น

นำเนื้อวุ้นของว่านหางจระเข้ไปต้มจนสุกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นปั่นเนื้อว่านหางจระเข้กับน้ำใบเตย น้ำเชื่อม และน้ำแข็ง ก็ได้เครื่องดื่มชื่นใจในวันร้อนๆ 

ว่านหางจระเข้ลอยแก้ว

หั่นวุ้นด้านในใบของว่านหางจระเข้เป็นลูกเต๋า นำไปลวกในน้ำพอเดือดแล้วยกออก นำไปคลุกในแป้งมันแล้วต้มจนลอยขึ้นมา จากนั้นตักออกไปแช่ในน้ำให้หายร้อน นำว่านหางจระเข้ชุบแป้งไปใส่ในน้ำเชื่อมและน้ำแข็งก็เป็นอันพร้อมเสริฟ 

#2 ว่านหางจระเข้รักษาสิว

คุณสมบัติลดการอักเสบและต่อต้านแบคทีเรียของว่านหางจระเข้ทำให้ผสมผสานกันอย่างลงตัวที่จะใช้รักษาสิวแบบไม่พึ่งสารเคมี นอกจากรักษาสิวแล้ว ว่านหางจระเข้ยังช่วยลดการเกิดรอยจากสิวด้วย เพราะสารอะโลซินในว่านหางจระเข้ช่วยลดการเกิดรอยดำและช่วยสมานแผล

ว่านหางจระเข้ล้วนๆ

ใช้วุ้นด้านในของว่านหางจระเข้ทาไปบนสิวและทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างออกตอนเช้า ทำซ้ำไปจนสิวหาย 

ว่านหางจระเข้และทีทรีออยล์

เพิ่มพลังการฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วยการผสมทีทรีออยล์สัก 2-3 หยดลงไปในวุ้นว่านหางจระเข้ ผสมให้เข้ากัน ใช้แต้มไปบนสิวและทิ้งไว้ข้ามคืน  

ว่านหางจระเข้ น้ำผึ้ง และอบเชย

ทั้งน้ำผึ้งและอบเชยล้วนมีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและลดการอักเสบเช่นเดียวกับว่านหางจระเข้ จึงช่วยกันรักษาสิวอย่างมีประสิทธิภาพ ผสมเจลว่านหางจระเข้ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ และผงอบเชย ¼ ช้อนชา คนส่วนผสมให้เข้ากัน แต้มที่สิวทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วจึงล้างออก 

#3 ว่านหางจระเข้ทาหน้า

คุณคงสงสัยว่าว่านหางจระเข้ทาหน้าช่วยอะไรบ้าง ตอบได้เลยว่ามากมาย เพราะวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารต่างๆ ทั้งช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวพรรณ ในขณะเดียวกันก็ช่วยป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นใหม่อีกด้วย ทั้งริ้วรอย ความเหี่ยวย่น ผิวแห้งกร้าน ว่านหางจระเข้ช่วยได้

สเปรย์ให้ความชุ่มชื้น

ว่านหางจระเข้ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ในระหว่างวันคุณสามารถพ่นสเปรย์ว่านหางจระเข้เพิ่มความสดชื่นแบบไร้ความมันได้ เพียงผสมน้ำและวุ้นว่านหางจระเข้ในอัตราส่วน 2:1 เทลงในขวดสเปรย์และเขย่าให้ส่วนผสมเข้ากัน เหมาะสำหรับพกพาไปใช้ระหว่างวัน 

สครับขัดหน้า

การขัดหน้าช่วยทำให้ลดการสะสมของสิ่งสกปรกที่อาจนำไปสู่การเกิดสิวและทำให้หน้าไม่หมองคล้ำ ผสมว่านหางจระเข้ ¼ ถ้วยตวง น้ำมันมะพร้าว ½ ถ้วยตวง และน้ำตาล ½ ถ้วยตวง คนส่วนผสมแล้วนำมาทาหน้าให้ทั่วและนวดเบาๆสักพักก่อนจะล้างออก

มาสก์หน้า

ก่อนจะใช้มาสก์ว่านหางจระเข้ทาหน้า ให้คุณทดลองทาส่วนผสมไปบนท้องแขนหรือข้อพับ ทิ้งไว้สักครู่ หากไม่เกิดอาการแพ้ก็สามารถใช้ทาทั่วหน้าได้ 

ว่านหางจระเข้แบบเพียวๆ - นำวุ้นว่านหางจระเข้ไปปั่นจนเหลว จากนั้นนำกระดาษทิชชูหนามาตัดให้เป็นช่องตาและปาก จุ่มกระดาษลงในน้ำว่านหางจระเข้จนชุ่มแล้วนำมาวางบนหน้า  

ว่านหางจระเข้และมะนาว - มะนาวมีเอเอชเอหรือกรดผลไม้ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เมื่อผสมในว่านหางจระเข้ก็เป็นการผลัดเซลล์และบำรุงไปในตัว ผสมว่านหางจระเข้และน้ำมะนาวในสัดส่วน 8:1 ทาหน้าให้ทั่วแล้วทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที โดยเมื่อล้างออกแล้วให้คุณทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวใหม่จากแสง  

ว่านหางจระเข้ แตงกวา และน้ำกุหลาบ - เป็นสูตรช่วยสมานผิวและลดการอักเสบ ผสมวุ้นว่านหางจระเข้ เนื้อแตงกวาบดละเอียด และน้ำกุหลาบ อย่างละ 1 ช้อนชาเข้าด้วยกัน จากนั้นใช้สำลีชุบส่วนผสมทาทั่วหน้า ทิ้งไว้จนแห้งแล้วล้างออก

#4 มือแห้งใช้ว่านหางจระเข้

ช่วงโควิดที่เราต้องล้างมือและใช้แอลกอฮอล์ตลอดเวลา ทำให้มือแห้งได้ง่ายๆ ถ้ามือแตกก็จะเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าได้อีก จะใช้ครีมทามือก็เหนียวเหนอะหนะ ลองใช้วุ้นว่านหางจระเข้บดผสมกับน้ำผึ้งนำมาพอกมือทิ้งไว้แล้วล้างออก มือก็จะชุ่มชื้นขึ้นมาทันที 

#5 ว่านหางจระเข้ขจัดกลิ่นปาก

วุ้นจากว่านหางจระเข้สามารถนำมาใช้เสมือนยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปากได้ ว่านหางจระเข้ช่วยลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและยีสต์ที่ทำให้เกิดคราบหินปูน จึงช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกอันเป็นสาเหตุของกลิ่นปาก 

นอกจากนี้ คุณสมบัติในการลดการอักเสบและช่วยสมานแผลยังทำให้ว่านหางจระเข้ใช้แต้มรักษาร้อนในภายในปากได้ด้วย  

#6 หยุดปัญหาผม เลิกจมกับความเครียด

การใช้ชีวิตที่มีแต่ความเครียดและต้องเผชิญกับมลพิษทุกวันนี้ ทำให้เกิดปัญหาหนังศีรษะและเส้นผมที่ทำให้เราเครียดเพิ่มไปอีก ลองใช้ตัวช่วยอย่างว่านหางจระเข้ดู

ลดรังแค - นำวุ้นจากว่านหางจระเข้ผสมกับครีมนวดผม น้ำมันมะกอก และน้ำมันมะพร้าว คนส่วนผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อครีม ป้ายครีมไปบนหนังศีรษะให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพักแล้วสระออก เท่านี้ก็ช่วยลดอาการคันและลดการเกิดรังแค แถมบำรุงหนังศีรษะไปด้วย 

ลดการเกิดผมหงอก - นำว่านหางจระเข้มาปั่นรวมกับดอกอัญชัญ จากนั้นนำไปชะโลมผมให้ทั่ว ทิ้งไว้ 30 นาที ก่อนจะสระผมตามปกติ ทำเป็นประจำจะช่วยลดการเกิดผมหงอก

ลดผมร่วง - เอนไซม์ในว่านหางจระเข้ช่วยกระตุ้นการทำงานของเนื้อเยื่อบริเวณรากผมจึงช่วยบำรุงหนังศีรษะ ลดการเกิดผมร่วง และเร่งการงอกของเส้นผม ทำส่วนผสมของมาส์กผมโดยการนำวุ้นว่านหางจระเข้ไปปั่นกับน้ำในอัตราส่วน 1:1 กรองเอาแต่น้ำและนำมาทาที่โคนผม หมักทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออก  

#7 ผิวไหม้ใช้ว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้ช่วยลดการอักเสบ รอยแดง และอาการแสบร้อนที่เกิดจากการโดนแสงแดดเผาไหม้บริเวณผิวหนัง เพียงนำวุ้นว่านหางจระเข้ไปปั่นจนเป็นน้ำ จากนั้นนำไปใส่ในบล๊อกทำน้ำแข็ง แช่จนแข็งแล้วนำมาทาบริเวณที่ผิวหนังไหม้ ความเย็นและว่านหางจระเข้จะช่วยบรรเทาอาการได้เป็นอย่างดี  

#8 ว่านหางจระเข้รักษาแผล

แผลหรือการระคายเคืองต่างๆ บนผิวหนัง บรรเทาได้ด้วยว่านหางจระเข้

แมลงสัตว์กัดต่อย - ตุ่มคันจากการโดนแมลงกัด โดยเฉพาะยุง สามารถบรรเทาได้โดยการทาว่านหางจระเข้ที่จะช่วยให้อาการบวม ปวด แดง และคันแสนจะกวนใจหายเร็วขึ้น ทำให้คุณไม่ต้องเกาจนผิวหนังถลอก 

แผล - ว่านหางจระเข้สามารถนำมาใช้ทาแผลสดได้ด้วย จะช่วยห้ามเลือดและยับยั้งการเกิดแผลเป็น นอกจากนี้ ไม่ว่าจะแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือฝี ก็บรรเทาได้ด้วยว่านหางจระเข้เช่นกัน 

#9 อาหารไม่ย่อย ว่านหางจระเข้ช่วยได้

 การรับประทานว่านหางจระเข้มีส่วนช่วยลดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ จะนำเนื้อไปต้มสุกแล้วกินเลย หรือครีเอทเมนูเครื่องดื่มและขนมก็ได้ แต่หากคุณไม่มีเวลาหรือไม่มีทักษะในการทำอาหาร ตามห้างสรรพสินค้าก็มีว่านหางจระเข้อบแห้งวางขายอยู่   

#10 ยาระบาย

ยาระบายแผนโบราณของไทยที่มีชื่อเรียกว่ายาดำทำจากน้ำยางของว่านหางจระเข้ที่ได้มาจากโคนใบ โดยการนำน้ำยางไปเคี่ยวจนแห้งเป็นก้อน แต่ยาระบายสูตรนี้มีฤทธิ์ค่อนข้างแรง จึงควรใช้ในปริมาณที่น้อย 

8 ข้อต้องใส่ใจ ก่อนใช้ว่านหางจระเข้

แม้ประโยชน์ของว่านหางจระเข้จะมีมากมาย และโดยทั่วไปก็ไม่ส่งผลเสียใดๆ แต่ก็มีข้อควรระวัง โดยเฉพาะคนที่อาจมีอาการแพ้หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง 

  • คนที่แพ้กระเทียม หัวหอม และทิวลิป มักจะแพ้ว่านหางจระเข้ด้วย

  • ผู้หญิงที่มีรอบเดือนไม่ควรกินว่านหางจระเข้เพราะจะทำให้รอบเดือนกระปิดกระปอย

  • หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ควรหลีกเลี่ยงการกินว่านหางจระเข้

  • ผู้ป่วยเบาหวานต้องระวัง ว่านหางจระเข้มีผลในการลดระดับน้ำตาลในเลือด จึงต้องระวังหากคุณกินยาเกี่ยวกับเบาหวานเพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงต่ำเกินไปจนเป็นลม 

  • ผู้ป่วยโรคไต โรคระบบทางเดินอาหาร โรคหัวใจ และผู้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือด ควรเลี่ยงการกินว่านหางจระเข้ 

  • ผู้ที่กำลังจะผ่าตัดไม่ควรกินว่านหางจระเข้ 2 อาทิตย์ก่อนการผ่าตัด

  • น้ำยางมีฤทธิ์แรง การนำว่านหางจระเข้มาใช้ ทั้งใช้กินและใช้ทา ต้องล้างน้ำยางออกให้หมดเพื่อป้องกันท้องเสียและการระคายเคืองผิวหนัง แต่หากคุณต้องการใช้น้ำยางมาทำยาดำ ให้แยกน้ำยางใส่ถ้วย ก่อนนำว่านหางจระเข้ไปล้างเพื่อใช้ทำอย่างอื่น 

  • ระวังแผลขนาดใหญ่ แม้การใช้ว่านหางจระเข้สำหรับภายนอกจะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงและช่วยสมานแผล แต่หากแผลไหม้หรือแผลของมีคมบาดมีขนาดใหญ่ ควรพบแพทย์

ปล่อยผ่านไม่ได้แล้ว ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ พิสูจน์แล้วโดยผู้คนทั่วโลกมาหลายยุคหลายสมัย ต้องรีบหามาปลูกในบ้านซะแล้ว ได้ทั้งตกแต่งบ้านให้สวยงาม แถมยังเหมือนมีร้านขายยาติดบ้าน