เราทุกคนต่างรู้กันอยู่แล้วว่า “หนังสือ” ให้ประโยชน์กับเราได้อย่างมากมาย ทั้งความรู้ สมาธิ รวมทั้งยังช่วยให้เราได้พักจากเรื่องต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ แต่บางครั้งการอ่านหนังสือนั้นต้องใช้เวลาและสมาธิค่อนข้างมาก หลายคนจึงเลือกไปทำอย่างอื่นแทน ทำให้การหยิบหนังสือมาอ่านกลายเป็นตัวเลือกสุดท้าย ทั้ง ๆ ที่ประโยชน์ของการอ่านหนังสือมีมากมาย วันนี้ JobThai เลยได้รวบรวมประโยชน์ต่าง ๆ ที่ได้จากการอ่านหนังสือ เพื่อย้ำให้ทุกคนเห็นว่าการอ่านหนังสือนั้นสำคัญแค่ไหน และอาจทำให้คุณต้องหันมาเลือกหยิบหนังสือสักเล่มขึ้นมาอ่าน 1. ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองสมองของมนุษย์ก็เหมือนมวลกล้ามเนื้อที่ต้องการการขยับ การออกกำลังกาย เพื่อให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งการอ่านหนังสือก็เหมือนเป็นการออกกำลังสมอง ที่ทำให้สมองของเราได้คิดและได้ทำงานตลอดเวลา และจากการศึกษาพบว่า การกระตุ้นการทำงานของสมอง (Mental Stimulation) อย่างสม่ำเสมอจะช่วยชะลอและป้องกันการเป็นโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ก็ยังเป็นการช่วยพัฒนาความจำได้อีกด้วย ยิ่งอ่านหนังสือมาก สมองที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจดจำก็จะได้ทำงานมาก 2. ความเครียดลดลงและจิตใจสงบมากขึ้นความเครียดเกิดขึ้นเมื่อเราจมอยู่กับเรื่องเรื่องหนึ่งที่คิดไม่ตกและยังไม่สามารถหาวิธีแก้ได้ แต่การอ่านหนังสือที่ต้องใช้สมาธิในระดับหนึ่ง ความเครียดจากงานหรือปัญหาที่เราเจอมาจะถูกลืมไปทันที เพราะการอ่านนิยายสนุก ๆ บทความดี ๆ จะทำให้เราจดจ่ออยู่กับเวลาในขณะนั้นและลืมความกังวลต่าง ๆ ไป นอกจากนี้เราอาจได้แง่คิดหรือทัศนคติดี ๆ ผ่านการอ่านเรื่องราวต่าง ๆ ที่ทำให้เราได้เปลี่ยนมุมมองต่อปัญหาที่เราเผชิญอยู่ก็ได้ 3. ได้รับความรู้แน่นอนอยู่แล้วว่าเมื่อเราอ่านหนังสือเราต้องได้ความรู้กลับมา และการมีความรู้ติดตัว แม้ว่ายังไม่ได้ใช้ในตอนนี้แต่ยังไงก็ต้องเป็นประโยชน์ในอนาคตแน่ ๆ ซึ่งเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะต้องนำความรู้เหล่านั้นออกมาใช้เมื่อไหร่ แต่ยิ่งมีความรู้มากแค่ไหน ก็จะยิ่งทำให้เราได้เปรียบมากขึ้น เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาและความท้าทายต่าง ๆ นอกจากนี้สิ่งของหรือเงินทองอาจถูกขโมยไปได้ แต่ความรู้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถเอาไปจากเราได้อย่างแน่นอน 4. มีคลังคำศัพท์ที่มากขึ้น มีทักษะการสื่อสารที่ดีขึ้นทักษะในการสื่อสารเป็นเรื่องที่ทุกวัยควรมีอยู่แล้ว ทั้งนักศึกษาที่ต้องใช้ทักษะการเขียนในการทำวิทยานิพนธ์ คนหางานที่ต้องใช้ทักษะการพูดเวลาสัมภาษณ์งาน หรือทำงานที่ต้องใช้การสื่อสารเวลาพรีเซนต์งาน ขายงาน ไปจนถึงการติดต่อทั้งภายในและภายนอกองค์กร ซึ่งถ้าเราอ่านหนังสือมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งมีคลังคำศัพท์เพิ่มมากเท่านั้น และคำศัพท์มากมายเหล่านั้น จะทำให้เราสามารถสื่อสารได้อย่างมืออาชีพมากขึ้น นอกจากนี้การอ่านหนังสือภาษาต่างประเทศก็จะช่วยในการเรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ ได้ดี และจะทำให้การพูดและการเขียนของเราคล่องขึ้น 5. มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้มากขึ้นโลกออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของเราทุกคนมากขึ้น จนอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราโดยที่เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ มีเรื่องต่าง ๆ มากมายที่ดึงดูดความสนใจของเราพร้อมกันในเวลาเดียว หลายคนสามารถทำงาน เช็กอีเมล แชทกับเพื่อน อ่านสเตตัส และดูโทรศัพท์มือถือ ได้ภายในเวลาเพียงแค่ 5 นาที ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้สมาธิและประสิทธิภาพในการทำงานของเราลดลง แต่ถ้าเราได้ลองหันมาอ่านหนังสือ เราก็จะให้ความสนใจและโฟกัสไปที่เรื่องราวในหนังสือเพียงอย่างเดียว ก่อนเริ่มทำงาน ลองหาเวลาอ่านหนังสือ สัก 15–20 นาที แล้วจะพบว่ามันสามารถช่วยให้เรามีสมาธิมากขึ้นเมื่อถึงเวลาทำงาน
JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน บทความเดิมได้ถูกเผยแพร่ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2016 และได้รับการอัปเดตโดยทีมงาน JobThai tags : ไลฟ์สไตล์, ประโยชน์, คนทำงาน, เคล็ดลับสำหรับคนทำงาน, เทคนิคสำหรับคนทำงาน, ทำงานอย่างมีความสุข, ความสุขในการทำงาน, เคล็ดลับความสำเร็จ, เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ, ทำงานให้มีความสุข, แนวคิดในการทำงาน วัยรุ่นจะฝึกทักษะชีวิตได้อย่างไรฝึกทักษะการตัดสินใจ (Decision making) ฝึกทักษะการแก้ปัญหา (Problem solving) ฝึกทักษะการคิดสร้างสรรค์ (Creative thinking) ฝึกทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ (Critical thinking) ฝึกทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
(Effective communication) ฝึกทักษะการสร้างสัมพันธภาพระหว่างบุคคล (Interpersonal relationship) ฝึกทักษะการตระหนักรู้ในตน (Self-awareness) ฝึกทักษะการเข้าใจผู้อื่น (Empathy) ฝึกทักษะการจัดการกับอารมณ์ (Coping with emotion) |