 Show ผมเห็นกระทู้ที่ถามคำถามนี้เยอะมากครับ แล้วในฐานะที่ผมเคยสร้างช่วยแบรนด์เสื้อยืดมาแล้ว ผมเลยอยากจะสร้างกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อช่วยเพื่อนๆที่อยากจะสร้างแบรนด์เสื้อยืดของตัวเองออกมาขายครับผม
ผมไม่อยากจะพูดมาก กลัวว่าจะเบื่อกันไปก่อน เพราะฉนั้นเรามาเริ่มกันเลยนะครับ
3 ปัจจัยหลักๆที่ต้องคำนึงถึง1. กลุ่มลูกค้าในตลาดที่มีการแข่งขันสูงแบบเสื้อยืด ถ้าเราอยากจะเจาะตลาดเข้าไปได้ เราต้องเริ่มจากการเลือกกลุ่มลูกค้าที่ถูกครับผม เราจะเลือกให้ถูกยังไงงั้นเหรอครับ? เราต้องเจาะจงกลุ่มลูกค้าครับ หลายๆคนคิดว่า เราต้องมีสินค้าก่อนแล้วค่อยมาหาว่าใครที่เราจะเจาะจงดี จริงๆแล้วมันไม่ใช่นะครับ เราควรจะเลือกกลุ่มลูกค้าก่อน แล้วค่อยหาสินค้าที่เหมาะกับเขา แล้วค่อยไปขายให้เขา การเลือกกลุ่มลูกค้าสำหรับแบรนด์เสื้อผ้าควรจะเริ่มจาก กลุ่มลูกค้าที่เล็ก และ เจาะจงครับ ตัวอย่าง แทนที่จะขายเสื้อผ้าให้กับผู้ชาย เราควรจะเลือกขายเสื้อผ้าให้กับผู้ชายที่ชอบเพลงร็อค แบบนี้เป็นต้นครับ อย่าห่วงนะครับว่าจะได้ลูกค้าน้อย และเงินน้อย เหตุผลที่ควรจะทำแบบนี้เพราะเราต้องการฐานลูกค้าก่อนครับ ถ้าเรามีฐานลูกค้าแล้ว เราจะขายอย่างอื่นได้ง่ายๆ ยกตัวอย่างแบรนด์โปรดผมเลยนะครับ บริษัท Levi’s เริ่มจากการขายแค่กางเกงยีนย์ ตอนนี้แบรนด์เขาขายเสื้อ กางเกงใน และอะไรอีกหลายอย่าง ถ้า Levi’s เริ่มมาด้วยการขายของทั้งหมดที่ขายอยู่ตอนนี้ ผมว่า Levi’s คงไม่ดังเหมือน Levi’s ตอนนี้แน่นอนครับ 2. ดีไซน์ของเสื้อยืด เสื้อยืดที่ไหนก็มีขาย จริงไหมครับ? หลายๆที่เหมือนกับไม่มีผิด แล้วลูกค้าจะตัดสินใจยังไงหละครับ? ใช่ครับ ตัดสินใจที่ดีไซน์ ดีไซน์นี้ผมหมายถึงคำพูดที่อยู่บนเสื้อด้วยนะครับ ไอ่พวกนี้สำคัญมาก เพราะคนเรามักจะซื้อเสื้อผ้าที่บอกถึงความเป็นตัวตนและนิสัยของเขาครับ เทคนิคง่ายๆก็คือหาคำเด็ดๆที่เขานิยมกันตอนนี้ มาปริ้นลงบนเสื้อครับ อย่าคิดมากนะครับ เพราะส่วนใหญ่เสื้อยืดที่ขายดีๆ ดีไซน์ไม่ยากครับ อาจจะเป็นแค่ คำกวนๆ หรือ คำโดนๆ แค่นั้นเองครับ ลองดูอันนี้เป็นตัวอย่างนะครับ 3. คุณภาพของเนื้อผ้าสิ่งที่จะทำให้แบรนด์ของคุณแตกต่างอีกอย่างหนึ่งก็คือ คุณภาพของเนื้อผ้าครับ คุณไม่จำเป็นต้องเลือกเนื้อผ้าที่ดีมากๆ เพราะจะทำให้ต้นทุนแพงและเอามาขายยาก ขอให้เป็นเนื้อผ้าที่ใส่สบาย ไม่เหมือนเสื้อยืดทั่วไปตามตลาดนัดครับ เนื้อผ้าสำหรับเสื้อยืด โพโลลอย 35%/คอตตอน %65 (Polyester 35%/ cotton 65%) เหมาะสำหรับที่จะใส่ทั้งในฤดูร้อนและหนาวครับ ข้อดีของมันคือ ไม่อึดอัด ใช้ได้นาน และจะไม่หดตัว ง่ายต่อการเอาไปสกรีนรูปหรือคำลงไป 100% คอตตอน (cotton 100%) ระบายอากาศดี แต่จะหดตัวและยับง่ายครับ อันนี้ก็ใส่โอเคนะครับ 100% โพโลลอย (100% Polyester) อันนี้จะหนาหน่อยครับ จะเหมาะสำหรับใส่ในฤดูหนาว และจะไม่ระบายอากาศดีเท่ากับ คอตตอนกับ คอตตอนผสมโลโลลอย และสามารถซักได้หลายครั้งมากกว่า จะไม่เสียง่าย ทำเอง หรือ จ้างโรงงานทำให้ดี?อันนี้เป็นคำถามที่ผมได้รับเยอะมากครับ จากคนที่เริ่มทำธุรกิจเสื้อยืดใหม่ๆ เพราะไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี คำตอบของผมก็คือ
การให้โรงงานทำให้ขอดีของ – เราไม่ต้องปวดหัวเรื่องเครื่องและค่าซื้อเครื่อง – เราสามารถสั่งได้ทีละจำนวนมากๆ และไม่ต้องจ้างคน ข้อเสีย – เราควบคุมคุณภาพไม่ได้ เขาอาจจะทำได้ไม่ดีเท่าที่เราต้องการ – โรงงานจะกำหนดราคาเท่าไหร่ก็ได้ – โรงงานสามารถหยุดทำให้เราเมื่อหมดสัญญาได้ ทำเองที่บ้านข้อดี – ทำเท่าไหร่ก็ได้ ตามกำลังและเวลา – กำไรเยอะกว่า – ควบคุมการผลิตได้ ข้อเสีย – อาจจะต้องจ้างลูกจ้าง ถ้าต้องทำเยอะ – ลองผิด ลองถูกตอนแรกๆ ยังไงคุณต้องเอาไปคิดดูนะครับ ว่าอันไหนเหมาะสำหรับคุณมากกว่ากัน สำหรับคนที่คิดว่าจะให้โรงงานทำให้ ลองเข้าไปดูเว็ปโรงงาน 1 ที่นี้นะครับ http://www.inksidea.com แล้วสำหรับคนที่อยากจะทำเอง เรามาดูกันครับ แหล่งซื้อเสื้อยืด ที่ไหน และ ราคาเท่าไหร่จากประสบการณ์ที่ผมเคยไปเดินซื้อดูนะครับ ผมเห็นว่า ประตูน้ำ กับ โบ๊เบ๊ นี้จะดีที่สุด แต่โบ๊เบ๊ เสื้อยืดค่อนข้างที่จะคุณภาพต่ำหน่อย ถ้าดีๆไปเลยก็แพงครับ (80+ บาท) ถ้ามีเวลา ลองไปเดินดูเสื้อยืดเปล่าที่ประตูน้ำดูนะครับ ดูว่าจะเจอทรงและแบบที่โดนใจหรือเปล่า แล้วผมมีอีกทางหนึ่งก็คือ หาใน Alibaba ครับ อันดับแรก เราเข้า Google แล้วค้นหาโดยใช้คำว่า ” plain t shirt bulk alibaba ” แล้วคุณจะเจอหน้านี้ครับ คุณจะเห็นว่ามีเสื้อราคาถูกๆประมาณแค่ 20 – 50 บาทต่อตัวเท่านั้น ถ้าซื้อเยอะ เขาลดให้ได้อีกครับ แต่อันนี้ต้องคุยกับเขาเอาเอง ถ้าจะคุยกับเขาต้องสมัครสมาชิกก่อนนะครับ ถ้าใครมี gmail อยู่แล้ว ก็เข้าโดยการใช้ gmail ได้เลยครับ หลังจากคลิกเข้าไปในตัวสินค้านะครับ แล้วจะเห็นกดตรงนี้ครับ แล้วจะมีห้องแชทโผล่ขึ้นมาแบบนี้ ลองคุยและเจรจากับเขาดูนะครับ ถ้าคุยกันดีๆ เขาอาจจะลดราคาให้อีกก็ได้ สำหรับคนพูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง ไม่ต้องห่วงครับ สามารถใช้ google translate ได้เลย ไม่มีปัญหาครับ หลังจากที่รู้แล้วว่าจะซื้อสินค้าจากตรงไหน เรามาดูที่วิธีการต่อไปเลยครับ การปริ้นรูปภาพหรือคำลงไปบนเสื้อยืดสมัยนี้เรามีทางเลือกในการปริ้นรูปหรือคำพูดลงไปบนเสื้อยืดกันอยู่ 3 แบบนะครับ แต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียที่ไม่เหมือนกัน เราลองมาดูกันครับ การพิมพ์แบบ สกรีน (screen printing)อันนี้เป็นการพิมพ์รูปหรือตัวอักษรที่ใช้กันมานานแล้วครับ ไม่ต้องเสียเงินไปซื้ออุปกรณ์และเครื่องที่แพงๆ ข้อดีของมันคือเราสามารถทำได้ทีละเยอะๆครับ ราคาไม่ค่อยแพงด้วย แต่ปัญหาจะเกิดตอนที่เราจะพิมพ์รูปหรือตัวอักษรที่มันมีความซับซ้อนหรืออะไรที่มีมากกว่า 5 สี มันจะออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ แต่โดยรวมแล้ว อันนี้เหมาะสำหรับคนที่พึ่งเริ่มต้น และ ลองขายเสื้อยืดครับ การพิมพ์แบบ Heat transferพูดง่ายๆเลยคือการที่เราใช้ความร้อนเพื่อส่งให้สีมันลงไปบนผ้า ข้อดีของมันคือทำง่ายครับ ไม่ต้องใช้อะไรมากนอกจากเครื่องอย่างเดียว แต่ข้อเสียนี้ก็ค่อนข้างเยอะเหมือนกันครับ
สำหรับผม ผมคิดว่ามันจะเปลืองตังไปหน่อย สำหรับคนที่กำลังเริ่มใหม่ การพิมพ์แบบลงไปบนเสื้อเลยโดยใช้เครื่อง หรือ DTGการสกรีนหรือพิมพ์แบบนี้จะดีที่สุดก็ที่ว่า เราจะได้สีที่คมและชัดเจนกว่าการพิมพ์แบบอื่นครับ เท่าที่เราเห็นจากภาพนะครับ มันเหมือนการปริ้นกระดาษหรือรูปภาพไม่มีผิดเลย ข้อเสียคือมันต้องทำทีละตัวครับ แต่มันดีที่ว่ามันจะคุ้มกว่าวิธีอื่นถ้าเราทำทีละน้อยๆ ตอนนี้เรามาข้อต่อไปเลยนะครับ นั้นก็คือการหาช่องทางจัดจำหน่าย จะขายที่ไหนดีให้ได้เงินเยอะๆช่องทางจัดจำหน่ายเราก็มีกันอยู่หลายที่เลยนะครับ อันดับแรกเราลองมาดูกันก่อนว่ามีที่ไหนบ้าง
นี้คือ 4 ช่องทางที่สามารถขายได้นะครับ แต่ผมไม่แนะนำให้ทำทีเดียวหมดเลย เพราะมันจะเยอะเกินไป เรามาเริ่มดูจากช่องทางแรกที่ผมคิดว่าเหมาะกับการขายเสื้อยืดเก๋ๆ ที่สุด การขายบน Facebookการทำเสื้อยืดขายในต่างประเทศโดยเฉพาะอเมริกานี้เป็นที่นิยมกันมากเลยนะครับ เพราะว่าเสื้อยืดเป็นอะไรที่ขายง่ายครับ คนส่วนใหญ่ชอบเสื้อยืด เพราะฉนั้น Facebook กับ Instagram นี้จะเป็นช่องทางที่เหมาะที่สุด ถ้าจะเริ่มขายบน Facebook ผมแนะนำให้เริ่มจาก Facebook marketplace ครับ Facebook marketplace คือ ที่ๆใครก็สามารถเอาสินค้าตัวเองไปโพสขายฟรีได้ครับ คอนเซ็บเดียวกับ Kaidee.com ครับ ผมจะสอนวิธีการทำนิดหน่อยนะครับ อันดับแรก กดไปที่ตรงนี้เลยครับ สำหรับคนที่ใช้คอม แล้วต่อมาก็คลิกตรงนี้ครับ แล้วจะมีหน้าต่างตัวนี้โผล่ขึ้นมา กรอกข้อมูลลงไปให้เรียบร้อย แล้วก็กด “post” ได้เลยครับ แค่นี้ เสื้อยืดสุดเก๋ของคุณก็ลงขายไปบนเฟสบุ๊คเรียบร้อยครับผม ที่เหลือก็แค่รอคนมาเห็นแล้วก็ติดต่อมาเท่านั้นเองครับ ขายใน Shoppeeตอนนี้การขายใน Shoppee ค่อนข้างจะมาแรงครับ โดยเฉพาะสินค้าอะไรที่คนอายุตั้งแต่ 18 – 35 ใช้ได้ จะขายดีเป็นพิเศษครับ เพราะฉนั้นเสื้อยืดเก๋ๆของคุณ ขายได้แน่นอนครับ. ผมจะสอนทำง่ายๆก่อนเลยนะครับ จะได้เห็นว่าหน้าตามันเป็นยังไง และลงขายยากง่ายแค่ไหน เริ่มแรกมา ถ้าเราสมัครเสร็จหมดแล้ว หน้าตาจะออกมาเป็นแบบนี้นะครับ กดตรง “การขาย” เลยครับ แล้วก็กดตรงนี้ครับ แล้วจะมีหน้าต่างนี้ขึ้นมา ถามว่าเราจะเลือกรูปจากตรงไหน ผมเลือกจากคลังรูปภาพของผมครับ ผมมีรูปวาดน้องหมาที่ผมก็อปมาจากในเน็ต ผมก็เลยเลือก เราจะสามารถแต่งรูปได้นิดหน่อยนะครับ เชิญตามสบายเลยครับ หลังจากกด save ก็จะออกมาเป็นแบบนี้ครับ ใส่ข้อมูลให้ครบนะครับ แล้วก็กด “ส่ง” แล้วหน้าตาของสินค้าคุณก็จะออกมาประมาณนี้นะครับ (อันนี้ไม่ใช่รูปของผมครับ) ขายตามตลาดนัดขายตามตลาดนัดถือว่าดีเพราะว่าต้นทุนต่ำครับ ไม่ต้องใช้อะไรมาก แต่ต้องเลือกตลาดนัดที่มีคนเดินที่เป็นกลุ่มลูกค้าของคุณนะครับ เช่น ถ้าเสื้อยืดของคุณค่อนข้างจะวัยรุ่นหน่อย ก็อย่าไปตั้งขายในที่ๆมีแต่ครอบครัวมาเดินกันนะครับ ลองไปเดินตลาดนั้นสัก 2-3 ครั้งครับ แล้วสังเกตดูว่า คนที่เดินส่วนใหญ่เป็นใคร ส่งให้กับร้านขายเสื้อผ้าขาย ขนาดเล็กคงต้องใช้ความกล้าเข้าไปคุยกับทางร้านหน่อยนะครับ เท่าที่ผมเคยเจอมา ร้านส่วนใหญ่อยากจะขายเสื้อผ้าเก๋ๆดีๆ อยู่แล้วล่ะครับ แต่ก็ควรจะเลือกร้านที่เขาขายเสื้อผ้าแบบของแบรนด์คุณด้วยนะครับ จะได้ดีทั้งคุณและเขา จบในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายแล้วนะครับ เรามาพูดถึงเรื่องต่อไปกันเลยดีกว่าครับ การโฆษณาแบรนด์เสื้อยืดของคุณเรื่องการโปรโมตนี้ค่อนข้างจะมีเยอะพอสมควรครับ แต่ผมจะพยายามย่อให้มันเหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้นะครับ เพื่อจะให้คุณเข้าใจเบื้องต้นของการโฆษณาแบรนด์เสื้อยืดก่อน การโฆษณาเสื้อยืดนี้ไม่เหมือนกับการโฆษณาอย่างอื่นนะครับ เพราะการโฆษณาสินค้าแบบอื่นคือคุณสามารถโฆษณาบอกว่า ลดเท่านั้นเท่านี้ได้ แต่สำหรับแบรนด์เสื้อผ้าแล้ว ถ้าทำแบบนั้น จะถูกมองว่าเป็นเสื้อผ้าไม่มียี่หื้อครับ เรามาเริ่มดูก่อนเลยดีกว่า ว่าคุณจะสามารถโฆษณาแบรนด์เสื้อยืดของคุณได้แบบไหนบ้าง โปรโมตใน Facebook (เสียตัง)การโฆษณาบน Facebook นี้การแข่งขันค่อนข่างจะสูงขึ้นมาเรือยๆ ครับ เพราะฉนั้นถ้าคุณสามารถจ่ายเงินเพื่อโปรโมตได้ จะได้เปรียบมากกว่าคนทั่วไปเยอะมากครับ ลูกค้าถ้าซื้อแล้ว ส่วนใหญ่จะซื้ออันอื่นด้วย เพราะฉนั้นถ้าลูกค้าชอบแล้ว เขาจะกลับมาซื้อต่อแน่นอนครับ ตัวอย่างโฆษณาบน Facebook โปรโมตบน Instagram โดยการใช้เน็ต Idol ที่มีชื่อเสียง (ดี)ติดต่อไปหาเขาด้วยการบอกให้เขาใส่เสื้อของคุณเฉยๆ แล้วก็ถ่ายรูปลง โดยที่ไม่ต้องบอกว่าเป็นของอะไร ถ้าคนเขาชอบ เขาจะถามเองครับ ถ้าจะให้ดี ให้เปอร์เซ็นให้กับเน็ต Idol เขาด้วยนะครับเพื่อที่จะกระตุ้นเขาหน่อย ต้องระวังหน่อยตรงนี้ คือว่าถ้าไปจ้างเน็ต Idol ที่เขามีชื่อเสียงไม่ดี แบรนด์คุณจะถูกมองแย่ๆไปด้วย เน็ตไอ idol เขาได้รับข้อความให้ไปโฆษณาครีม, สบู่ หรือยาลดน้ำหนักอะไรต่างๆ ตลอดครับ แต่ถ้าให้ใส่เสื้อเฉยๆ นี้ไม่ค่อยมีครับ ตัวอย่างบน Stagram ครับ ให้ทุกๆคนที่รู้จัก ใส่เสื้อยืดของคุณลองบอกให้กับคนที่คุณรู้จักทุกคนให้ใส่เสื้อยืดของคุณในชีวิตประจำวันดูครับ ถ้ามีคนชอบ เขาจะมาถามว่าซื้อได้ที่ไหน แบบนี้ครับ อันนี้ก็เป็นการโปรโมตแบบคร่าวๆนะครับ ยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด แต่ถ้าสามารถเริ่มจากจุดนี้ได้ อย่างอื่นก็จะง่ายมากครับ ผมรับประกันเลย ตาคุณเอาไปลองทำเองแล้วครับ…เท่าที่เห็นนะครับ จริงๆแล้วการเริ่มต้นทำแบรนด์เสื้อยืดของตัวเองมันไม่ได้ยากอย่างที่คิดนะครับ หลายๆคนอาจจะกลัวเพราะดูเหมือนมันมีหลายขั้นตอน แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่นะครับ มันไม่ได้ซับซ้อนมากขนาดนั้นถ้าคุณตั้งใจจริงๆ ถ้าอยากทำแบรนด์เสื้อยืดของตัวเอง ลองเอาที่อ่านไปใช้ดูนะครับ แล้วถ้ามีคำถามอะไร ถามผมได้ตลอดเลยครับ โพสที่มีคนอ่านเยอะที่สุด:
โชคดีครับผมและขอให้รวยๆครับ
Co-founder at ZOZAV ผู้ร่วมก่อตั้ง zozav.com และบริษัท Global Digital Ad, Co. Ltd. ขณะนี้เป็นที่ปรึกษาให้กับแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในไทยกว่า 38 บริษัท และสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ SME ในไทยมากกว่า ฿427.2 ล้านบาท โดยใช้โฆษณา Facebook และ Google |
ทําแบรนด์เสื้อผ้า เริ่มยังไง
ลิขสิทธิ์ © 2024 moicapnhap Inc.
