วิธีการทางประวัติศาสตร์ คือกระบวนการศึกษาประวัติศาสตร์เพื่อให้ได้ความรู้และคำตอบที่เชื่อว่าสะท้อนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอดีตได้ถูกต้องมากที่สุด ซึ่งไม่มีใครสามารถตอบได้ว่าข้อเท็จจริงที่ถูกต้องคืออะไร ดังนั้น จึงต้องมีกระบวนการศึกษา และการใช้เหตุผลในการตรวจสอบความถูกต้องของหลักฐานและนำไปใช้อย่างถูกต้อง ทำให้การศึกษาประวัติศาสตร์เป็นศาสตร์ที่สะท้อนข้อเท็จจริงที่แตกต่างจากนิทาน นิยาย หรือเรื่องบอกเล่าที่เลื่อนลอย การศึกษาประวัติศาสตร์เริ่มจากการตั้งคำถามพื้นฐานหลัก 5 คำถาม คือ "เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในอดีต" (What), "เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่" (When), "เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นที่ไหน" (Where), "ทำไมจึงเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น" (Why), และ "เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร" (How) วิธิการทางประวัติศาสตร์ประกอบด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ได้แก่
นอกจากนี้ รอบิน จี. คอลลิงวูด (R. G. Collingwood) นักปรัชญาประวัติศาสตร์คนสำคัญชาวอังกฤษในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ผู้เป็นเจ้าของผลงานเรื่อง Idea of History ให้ความเห็นเกี่ยวกับวิธิการศึกษาประวัติศาสตร์ ดังนี้ วิธีการศึกษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่างจากการศึกษาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ นักประวัติศาสตร์ต้องระมัดระวังในการยืนยันความถูกต้องของหลักฐาน การนำเสนอในลักษณะ "ตัด-แปะประวัติศาสตร์" ไม่ถูกต้องและเป็นวิธีการที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ควรนำเสนอโดยการประมวลความคิดให้เป็นข้อสรุป วิธีการทางประวัติศาสตร์ที่มีลักษณะเป็นแบบวิทยาศาสตร์คือการตั้งคำถาม งานนำเสนอเรื่อง: "วิธีการทางประวัติศาสตร์"— ใบสำเนางานนำเสนอ: 1 วิธีการทางประวัติศาสตร์
2 คือ การค้นคว้าหาหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์และศึกษาวิเคราะห์
3 1.
ขั้นตอนของวิธีการทางประวัติศาสตร์
4 1.3 การวิเคราะห์ ประเมินคุณค่า และหาความสัมพันธ์ของข้อมูล
5 1.4
การนำเสนอที่มีเหตุผลและปราศจากอคติ
6 2. การเปรียบเทียบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ สากลและประวัติศาสตร์ไทย 7 -
หลักฐานประวัติศาสตร์จีน
8 ราชวงศ์ฮั่น (Han)
บันทึกประวัติศาสตร์ของ
9 - หลักฐานประวัติศาสตร์อินเดีย
10 หลักฐานประวัติศาสตร์ไทย
11 3. การสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวัติศาสตร์ ด้วยวิธีการทางประวัติสาสตร์
12 ของหลักฐาน การเลือกสรรและจัดความสัมพันธ์ของข้อมูล และการเรียบเรียง
13 อาจารย์สมหมาย อุไรโรจน์ |