จนประจำเดือนรอบต่อไปมาวันแรก ก็นับ 1 ใหม่เช่น เดือนที่แล้ว มาวันที่ 1 เมษายน รอบนี้มาวันที่ 30 เมษายนแสดงว่า รอบเดือนเรา 29 วัน Show 2. เอารอบเดือนเรามาเรียงกัน 6 เดือนเป็นอย่างน้อยหยิบเอาตัวเลขที่น้อยที่สุด กับมากที่สุดมาเช่น น้อยสุด 27 ยาวสุด 31 ประจำเดือนมาวันที่ 9-15 มี พสพ.กันวันที่ 19 ใส่ถุงยางแต่ถุงยางแตกแต่ผู้ชายยังไม่เสร็จ มีโอกาสท้องมั้ยค่ะ? แพทย์หญิงสุจิณันฐ์ นันทาภิวัธน์แพทย์ Dec 20, 2017 at 05:40 PM สวัสดีค่ะ คุณ Bambam การที่มีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่กำลังมีประจำเดือน หรือฝ่าไฟแดง หรือช่วงก่อนมีประจำเดือน 7 วัน หรือ หลังวันเเรกจากที่ประจำเดือนมา นับไปอีก 7 วัน ในรายที่มีรอบเดือนมาสม่ำเสมอ คือ ทุก 28-30 วัน การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ จะเหมือนการนับหน้า 7 หลัง 7 ค่ะ หรือการนับระยะปลอดภัยค่ะ หน้า-7-หลัง-7-นับระยะปลอดภัย ซึ่งสามารถใช้ได้เฉพาะในรายที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอค่ะ แต่สำหรับรายที่รอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มักจะใช้วิธีนี้ไม่ค่อยได้ อาจจะถือว่าเสี่ยงเล็กน้อยค่ะ ดังนั้น หลังจากการที่มีเพศสัมพันธ์ ซึ่งวันเเรก คือ 9 การที่มีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 19 จะตรงกับช่วง 9-18 วัน นับจากรอบเดือนวันเเรก ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่มีโอกาสในตกไข่มากที่สุด จึงถือว่าเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้ ถ้ามีการใช้ถุงยางอนามัย เเล้วมีการเเตกหรือรั่วของถุงยาง ถึงเเม้ว่าไม่มีการหลั่งน้ำอสุจิโดยตรง เเต่ต้องระวังว่าสารคัดหลั่งจากฝ่ายชายก็ยังอาจปนเปื้อนตัวอสุจิได้ ดังนั้น การสังเกตรอบเดือนจึงสำคัญที่สุดค่ะ ถ้ารอบเดือนมา แล้วมั่นใจว่าตรงตามรอบที่ควรจะเป็น ไม่ได้มาเร็วหรือช้าเกินไป ร่วมกับลักษณะเลือด อาการปวดท้อง จำนวนวันเหมือนเดิม ทุกประการ ส่วนมากค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ตั้งครรภ์ค่ะ หรือ ถ้าเหตุการณ์ผ่านมาไม่เกิน 72 ชั่วโมง อีกทางเลือกในการป้องกันการตั้งครรภ์คือ การรับประทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ ซึ่งการที่ทานช้าลง ประสิทธิภาพก็จะลดลงตามไปด้วยค่ะ แต่ถ้ามั่นใจว่าไม่มีการปนเปื้อนสารคัดหลั่ง อาจลองสังเกตรอบเดือนก็ได้ค่ะ เเต่ถ้าไม่มั่นใจเเละไม่เกินเวลา อาจลองพิจารณายาคุมฉุกเฉิน เป็นอีกทางเลือกค่ะ หน้า 7 หลัง 7 คือ การนับระยะปลอดภัย (แบบโบราณ) ที่ใช้กันมานานแล้ว แต่ก็ยังใช้กันแบบผิด ๆ ถูก ๆ โดยเป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบธรรมชาติอย่างหนึ่งที่ใช้ได้เฉพาะกับสตรีที่มีรอบเดือนปกติ มาตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน (รอบเดือน หมายถึง จำนวนวันในแต่ละรอบประจำเดือน ไม่ใช่รอบเดือนตามปฏิทิน) คือ ประมาณ 26-32 วัน ซึ่งโดยปกติแล้วสตรีทั่วไปจะมีรอบเดือนประมาณ 28 วัน แต่บางคนก็มีรอบเดือนที่สั้นกว่าหรือยาวกว่าปกติ คือ ไม่ต่ำกว่า 26 วัน และไม่ยาวกว่า 32 วัน โดยระยะปลอดภัยที่ว่านี้ก็คือ ช่วง 7 วันก่อนที่ประจำเดือนจะมารอบหน้า และ 7 วันหลังจากที่ประจำเดือนมาวันแรก (เริ่มนับตั้งแต่วันที่ประจำเดือนมาวันแรก)
หน้า 7 หลัง 7 นับยังไงการนับหน้า 7 หลัง 7 จะใช้ป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัยในเฉพาะสตรีที่มีรอบเดือนปกติและมาอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน เพราะหากคลาดเคลื่อนเพียงวันเดียวนั้นอาจหมายถึงการตั้งครรภ์ !! โดยเฉพาะในกรณีของ “หน้า 7” หรือก่อนมีประจำเดือน 7 วัน ถ้าสมมติประจำเดือนในรอบเดือนนั้นมาคลาดเคลื่อนหรือมาช้าไป 1-3 วัน แล้วมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาดังกล่าว โอกาสเกิดการตั้งครรภ์ก็สูงมาก ก่อนอื่นผมมีความจำเป็นจะต้องอธิบายให้ความเข้าใจถึงคำว่า “ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ” เสียก่อน เพราะมีหลาย ๆ คนยังไม่เข้าใจแบบแจ่มแจ้ง เมื่อนำไปปฏิบัติตามก็ซวย เกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมาดื้อ ๆ โดยข้อมูลที่มักเข้าใจกันผิด ๆ ก็คือ
รอบเดือนมาสม่ำเสมอ หรือ รอบเดือนมาตรงกำหนด หมายถึง ผู้ที่มีจำนวนวันในแต่ละรอบประจำเดือนเท่ากันทุกเดือน เช่น
มาถึงการคำนวณหน้า 7 หลัง 7 แบบคร่าว ๆ กันบ้าง ถ้าเข้าใจหลักการแล้วก็ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ โดยสามารถคำนวณได้ดังนี้ (แต่ยังไม่แนะนำครับ)
จากตัวอย่างนี้หากนำไปปฏิบัติตามอย่างจริง ๆ ผมเชื่อว่าไม่พลาดครับ หมายถึง ไม่พลาดที่จะมีลูกนะครับ !! เพราะเป็นการคำนวณแบบหยาบ ๆ ซึ่งข้อมูลหลาย ๆ แห่งก็ยังแนะนำการนับหน้า 7 หลัง 7 ด้วยวิธีแบบนี้อยู่ น่าใจหายเสียเหลือเกินว่าประชากรในบ้านเราจะเพิ่มขึ้นจากการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมมากน้อยเพียงใด เพราะอย่าลืมครับว่าจำนวนวันของแต่ละรอบเดือนในแต่ละคนไม่เท่ากัน แม้รอบเดือนของคน ๆ นั้นจะมาตรงเวลาสม่ำเสมอก็ตาม เพราะอย่างบางคนมีรอบเดือนสั้น ส่วนบางคนก็มีรอบเดือนยาว หากนำไปปฏิบัติตามก็คงไม่พ้นได้เลี้ยงลูกเป็นแน่แท้ บางคนนึกภาพไม่ออก ผมจึงขอสมมติเหตุการณ์ดังนี้ครับ
คราวนี้เรามาดูวิธีการคำนวณหน้า 7 หลัง 7 แบบถูกต้องกันดีกว่าครับ ว่าถ้ามีรอบเดือนมาตรงกันทุกเดือนจะมีวิธีการคำนวณแบบถูกต้องกันอย่างไร ผมจะสมมติว่า
แต่อย่างที่บอกไปครับหลักการนี้มันใช้ได้เฉพาะกับสตรีที่มีรอบเดือนมาสม่ำเสมอแบบเป๊ะ ๆ อย่างนางสาว ค. เท่านั้น ซึ่งคนส่วนมากรอบเดือนจะไม่เป๊ะขนาดนั้นไงครับ ซึ่งในหัวข้อถัดไปผมจะอธิบายให้ฟังครับว่า ถ้าจะคำนวณวันปลอดภัยอย่างถูกต้องสำหรับคนทั่วไปที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ แต่ไม่ตรงเป๊ะแบบนางสาว ค. เราจะคำนวณกันอย่างไร ในหัวข้อ “การนับวันปลอดภัย” ครับ ข้อสงสัยเรื่องหน้า 7 หลัง 7หน้า 7 หลัง 7 หลั่งนอก จะท้องไหม ? ตอบ หากรอบเดือนมาสม่ำเสมอและใช้วิธีการนับอย่างถูกต้อง โอกาสการตั้งครรภ์ก็น้อยมากครับ หน้า 7 หลัง 7 หลั่งใน จะท้องไหม ? ตอบ ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการคุมกำเนิดใดที่ให้ผล 100% (นอกจากการงดมีเพศสัมพันธ์) ในกรณีของหน้า 7 หลัง 7 ก็เช่นกัน ทั้งนี้เป็นเพราะปัจจัยอื่น ๆ หลายอย่าง เช่น วันตกไข่ของสตรีที่แต่ละคนมักมีไม่เท่ากัน ถ้าไปใช้วิธีการนับแบบหน้า 7 หลัง 7 แล้วเกิดประจำเดือนในรอบนั้นมาคลาดเคลื่อนและเป็นช่วงตกไข่พอดี ก็เสี่ยงต่อการปฏิสนธิทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยรุ่นที่เป็นวัยเจริญพันธุ์ การตกไข่ก็จะยิ่งมีบ่อยกว่าวัยอื่น ๆ จึงทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์สูงมากขึ้นตามไปด้วย นับหน้า 7 หลัง 7 แบบถูกต้องจะท้องไหม ? ตอบ อย่างที่บอกไม่มีอะไรแน่นอน 100% ครับ ขนาดฝ่าไฟแดงแล้วท้องก็ยังมีกรณีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ที่ตอบได้ก็คือ “ยังมีโอกาสท้อง” อยู่ครับ แต่ถ้านับอย่างถูกต้องโอกาสท้องก็จะลดน้อยลง ถ้ามีเพศสัมพันธ์ในวันที่มีประจำเดือนจะปลอดภัยหรือไม่ ? ตอบ ตามปกติแล้วปลอดภัยครับ ถ้ารอบเดือนของคุณไม่มามากกว่าคราวละ 7 วัน รอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ สามารถใช้วิธีนับหน้า 7 หลัง 7 ได้หรือไม่ ? ตอบ ไม่ได้ครับ เพราะบางคนรอบเดือนมาแบบสะเปะสะปะมาก เดือนก่อนโน้นมาวันที่ 10 ของปฏิทิน เดือนต่อมาประจำเดือนมาวันที่ 7 แล้วเดือนล่าสุดมาวันที่ 14 เรียกได้ว่าเอาแน่เอานอนไม่ได้เลย มาบ้างไม่มาบ้าง แบบนี้ใช้วิธีการนับหน้า 7 หลัง 7 ไม่ได้ครับ หากมีเพศสัมพันธ์ก่อน 7 วัน หรือหลัง 7 วัน ประมาณ 1-2 วัน จะปลอดภัยหรือไม่ ? ตอบ ก่อนอื่นต้องอธิบายให้เข้าใจก่อนว่า “เมื่อไหร่ก็ตามที่ไข่ตก แล้วไม่มีการปฏิสนธิอีก 14 วัน ประจำเดือนก็จะมา” สมมติว่าไข่ตกวันที่ 1 มกราคม แล้วไม่มีเพศสัมพันธ์เลย ในวันที่ 14 มกราคม ประจำเดือนก็จะมา ในกรณีของคนที่รอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เอาแน่เอานอนไม่ได้ จะไม่มีทางคำนวณหาวันที่ไข่จะตกได้ แต่สำหรับคนที่มีรอบเดือนมาสม่ำเสมอ ก็จะสามารถกะวันที่ประจำเดือนจะมาในคราวหน้าได้ครับ เช่น
สรุป โอกาสเสี่ยงขึ้นอยู่กับรอบเดือนของแต่ละคนว่าสั้นหรือยาว ถ้ารอบเดือนยาว (32-33 วัน) ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์เลย 7 วันหลังมา 1-2 วันได้อย่างปลอดภัย แต่ถ้ารอบเดือนสั้น (26 วัน) ก็ไม่ควรครับ เพราะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ และควรลดวันปลอดภัยจาก 7 วันหลัง ลงมาเหลือ 6 วัน ข้อสรุปเกี่ยวกับหน้า 7 หลัง 7
การนับวันปลอดภัยการนับระยะปลอดภัย เป็นวิธีการคุมกำเนิดโดยวิธีธรรมชาติอย่างหนึ่งที่ใช้กันมานานแล้ว โดยเป็นการกำหนดวันที่ปลอดภัยแบบง่าย ๆ คือ “หน้า 7 หลัง 7” หรือ “ก่อน 7 หลัง 7” (เจ็ดวันก่อนมีประจำเดือน และเจ็ดวันหลังจากมีประจำเดือนคือช่วงที่ปลอดภัย สามารถร่วมเพศได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะตั้งครรภ์) แต่สูตรนี้อย่างที่กล่าวมาครับว่าโอกาสผิดพลาดมีสูง ถ้าประจำเดือนของสตรีมาไม่สม่ำเสมอหรือนับไม่ถูกหลัก ซึ่งในปัจจุบันก็มีวิธีการหาระยะปลอดภัยอยู่หลายวิธีครับ เช่น การนับวัน (Calendar method), การวัดอุณหภูมิหลังตื่นนอน (Basal body temperature method), การสังเกตมูกที่ปากมดลูก (Cervical mucous method) และวิธีอื่น ๆ หรือจะใช้ร่วมกันทั้ง 2 วิธีเลยก็ได้ แต่ในบทความนี้ผมจะขอกล่าวถึงเฉพาะหลักการนับวันครับ ว่าการนับวันที่ปลอดภัยมากที่สุด ณ ขณะนี้เขานับกันอย่างไร ไปดูเลยครับ การหาระยะปลอดภัยด้วยวิธีการนับวัน (Calendar method) จะอาศัยหลักทางชีววิทยาที่ว่า “ในสตรีที่มีรอบเดือนปกติทุก 28 วัน จะมีการตกไข่ประมาณวันที่ 14 (อาจมากกว่าหรือน้อยกว่า 2 วัน) ก่อนที่จะมีประจำเดือนครั้งต่อไป หรือประมาณ 12-16 วันก่อนจะมีประจำเดือนครั้งต่อไป เมื่อไข่ตกแล้วจะมีชีวิตอยู่ได้เพียง 24 ชั่วโมง โอกาสการตั้งครรภ์จึงมีถึงวันที่ 17 ของรอบเดือน ส่วนเชื้ออสุจิจะมีชีวิตรอผสมไข่อยู่ได้ประมาณ 48 ชั่วโมง หรือ 2 วันก่อนการตกไข่” จากทฤษฎีนี้จะได้ว่า ในสตรีที่มีประจำเดือนมาทุก 28 วัน ช่วงที่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ คือช่วงวันที่ 10-17 ของรอบเดือน (เริ่มนับวันแรกตั้งแต่วันที่ประจำเดือนมา) ในคนที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอก็คงคำนวณได้ไม่ยาก แต่ในความเป็นจริงแล้วมีน้อยคนครับที่ประจำเดือนจะมาอย่างสม่ำเสมอทุก ๆ 28 วัน ผู้ที่ประจำเดือนคลาดเคลื่อนในแต่ละรอบเดือนจึงไม่เหมาะที่จะคำนวณด้วยสูตรโดยตรง แต่ให้คำนวณด้วยสูตรดังต่อไปนี้แทน
ประสิทธิภาพของการนับวันปลอดภัยตามหลักแล้วการนับวันปลอดภัย (Calendar rhythm method) อย่างถูกต้อง (Perfect use) จะมีโอกาสล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ 9% ซึ่งหมายความว่าจำนวนการตั้งครรภ์ต่อปี (first year of use) ของสตรีที่คุมกำเนิดด้วยวิธีการนับวันปลอดภัยจำนวน 100 คน จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 9 คน แต่โดยทั่วไปแล้วจากการใช้งานจริง (Typical use) พบว่าจะมีอัตราการล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้สูงมากขึ้นกว่าเดิม (ไม่มีข้อมูลเป็นตัวเลขที่แน่นอน) การกำหนดระยะเวลาเจริญพันธุ์การกำหนดระยะเวลาเจริญพันธุ์ (The standard days method – SDM) เป็นการกำหนดช่วงเวลาไปเลยว่าในวันที่ 8-19 (แถบสีฟ้า) ของรอบเดือนจะเป็นชวงที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ โดยเป็นการคำนวณค่าเฉลี่ยของรอบประจำเดือนของสตรีทั่วไปที่มีรอบประจำเดือน 26-32 วัน หากต้องการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ ก็ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาดังกล่าว ประสิทธิภาพของการกำหนดระยะเวลาสืบพันธุ์ ตามหลักแล้วการกำหนดระยะเวลาสืบพันธุ์อย่างถูกต้อง (Perfect use) จะมีโอกาสล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้เพียง 5% ซึ่งหมายความว่าจำนวนการตั้งครรภ์ต่อปี (first year of use) ของสตรีที่คุมกำเนิดด้วยการกำหนดระยะเวลาสืบพันธุ์จำนวน 100 คน จะมีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 5 คน แต่โดยทั่วไปแล้วจากการใช้งานจริง (Typical use) กลับพบว่าอัตราการล้มเหลวทำเกิดการตั้งครรภ์จะเพิ่มสูงมากขึ้นเป็น 24% หรือคิดเป็น 1 ใน 5 คน จากผู้ที่คุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ ส่วนด้านล่างนี้เป็นตารางเปรียบเทียบระหว่างการคุมกำเนิดด้วยวิธีการนับวันปลอดภัยและวิธีการกำหนดระยะเวลาสืบพันธุ์ กับวิธีการคุมกำเนิดแบบอื่น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจครับ วิธีคุมกำเนิด|การใช้แบบทั่วไป|การใช้อย่างถูกต้อง|ระดับความเสี่ยง หมายเหตุ : ตัวเลขที่แสดงเป็นจำนวนการตั้งครรภ์ต่อปี (first year of use) ของสตรีที่คุมกำเนิดด้วยวิธีดังกล่าวจำนวน 100 คน โดยกำหนดให้ สีฟ้า = ความเสี่ยงต่ำมาก / สีเขียว = ความเสี่ยงต่ำ / สีเหลือง = ความเสี่ยงปานกลาง / สีส้ม = ความเสี่ยงสูง / สีแดง = ความเสี่ยงสูงมาก (ข้อมูลจาก : www.contraceptivetechnology.org, Comparison of birth control methods – Wikipedia) ภาพประกอบ : en.wikipedia.com, www.wikihow.com เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai) เมดไทย เมดไทย (Medthai) ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นอิสระเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค การใช้ยา สมุนไพร แม่และเด็ก ฯลฯ เราร่วมมือกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและดีที่สุด มีอะไรกันหลังประจำเดือนหมด7วันท้องไหมหากนับจากวันแรกที่มีประจำเดือนมา จนถึงวันที่มีเพศสัมพันธ์ หากนับได้ไม่เกิน 7 วัน ถือว่ายังอยู่ในระยะปลอดภัย โอกาสที่จะตั้งครรภ์นั้นมีน้อยมาก คือน้อยกว่า 1% แต่หากเลย 7 วันไปแล้ว โอกาสที่จะตั้งครรภ์นั้นมีได้ แต่หากได้ใส่ถุงยางอนามัย ร่วมกับใช้วิธีการหลั่งนอก โอกาสในการตั้งครรภ์ก็ถือว่ามีน้อยมากอยู่ค่ะ
มีเพศสัมพันธ์หลังประจำเดือนหมดกี่วันท้องเรื่องที่สอง ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ในวันท้ายๆ ของประจำเดือนมีโอกาสท้องได้ครับ พบได้ในคนที่ประจำเดือนมาช่วง 21-24 วันเป็นรอบเดือนที่สั้นกว่าคนทั่วไป (คือ 28-30 วัน) ซึ่งทำให้ไข่จะตกเร็วกว่าเดิมเป็นช่วงวันที่ 10-12 ของรอบเดือน ทั้งนี้ อสุจิจะสามารถมีชีวิตอยู่ในท่อนำไข่ได้นาน 2-3 วันจนถึง 5 วัน ดังนั้น ถ้ามีประจำเดือนมา ...
มีอะไรกับแฟนหลังมีประจำเดือน10วันในเบื้องต้น ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ถ้ายังมีเลือดออก และสามารถซื้อชุดตรวจครรภ์ทางปัสสาวะมาตรวจได้เองเบื้องต้น ให้ผลบวกได้ตั้งแต่ 10-14 วันหลังปฏิสนธิ หากให้ผลลบ แต่รอบเดือนก็ยังไม่มาคือมาช้ากว่า 35 วันจากรอบก่อนไปแล้วหรือยังมีเลือดออกต่อเนื่อง ควรไปยืนยันผลที่รพ.และหาสาเหตุต่อไป กลับไปที่ชุมชนถามตอบ
|