ถ้าสมมติว่า มีคนมาชวนคุณออกเดท คนหนึ่งแต่งกายดูดี เรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า อีกคนสวมเสื้อยืด กางเกงขาด ๆ แฟชัน เผ้าผมรุงรัง โดยอ้างว่านี่แหละตัวตนที่แท้จริง เป็นคุณจะเลือกเดทกับใคร ? แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่เลือกที่จะเดทกับคนที่แต่งกายเรียบร้อยที่สุด เพราะนี่คือการให้เกียรติกันอย่างหนึ่งเมื่อเจอกันครั้งแรก การสัมภาษณ์งานก็เช่นกัน แม้ว่าบางองค์กรจะไม่ประกาศอย่างชัดเจนว่าควรแต่งกายอย่างไร ผู้เข้ารับการสัมภาษณ์ก็ควรจำไว้เสมอว่า “ภาพลักษณ์ภายนอกสำคัญที่สุดสำหรับแรกพบ” อะไรที่จะแสดงถึงตัวตนที่แท้จริง เช่น การแต่งตัวตามแฟชัน พับเอาไว้ก่อนเถอะ นี่คือเวลาของความเป็นทางการ ไม่ใช่เวลาส่วนตัว ทริคการแต่งกายสำหรับผู้ชาย
ภาพประกอบจาก dhgate.com – กางเกงควรเป็นสแลคธรรมดา สีเข้ม 3 สีนี้เท่านั้น ได้แก่ ดำ, น้ำตาล, เทา, น้ำเงินกรมท่า ห้ามสวมกางเกงยีนส์ – จะเพิ่มเน็คไทเป็นออปชันเสริมหรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าไม่มีเลยก็ไม่เสียหายอะไร แต่งกายเพียงแค่เสื้อเชิ้ตและกางเกงสแลคก็ดูเรียบร้อยพอแล้ว – แต่ไม่ควรมองข้ามเข็มขัดสักเส้น เพราะมันคือออปชันที่จะทำให้คุณหล่อลงตัวมากขึ้น ไม่เหมือนว่าคุณใส่แต่ผ้าล้วน ๆ ยาวมาตั้งแต่ท่อนบนยันท่อนล่างราวกับชุดนอน – ถึงแม้ว่าลักษณะงานที่เข้ารับสัมภาษณ์จะเป็นสไตล์ศิลปิน ให้อิสระการแต่งกายในขณะทำงาน แต่เวลาสัมภาษณ์คือเวลาแห่งความเป็นทางการ เพราะฉะนั้น ควรสวมรองเท้าหนัง อย่าเพิ่งใส่รองเท้าผ้าใบโชว์ความอาร์ตในตอนนี้ – เซตผมเพื่อให้ทรงผมเข้าที่เข้าทางสักหน่อยยิ่งดี เพราะนี่คือจุดที่ช่วยเสริมความหล่อได้ แต่ระวังด้วยว่ามูสหรือแว็กซ์ที่ใช้จับตัวกันเป็นไขตามไรผมหรือไม่ (เมื่อกรรมการต้องมองสีหน้าของคุณ ย่อมมองรวมไปถึงทรงผมด้วย) – โกนหนวดเคราและจัดการขนจมูกให้เรียบร้อยดี ทริคการแต่งกายสำหรับผู้หญิง
ภาพประกอบจาก fashionurge.com
ภาพประกอบจาก dhgate.com – ในกรณีที่เป็นเชิ้ตแขนยาว ควรเป็นโทนสีอ่อน เช่น ขาว, ครีม, ชมพูอ่อน, ฟ้าอ่อน มีลูกเล่นอื่นได้ เช่น เป็นคอบัว, มีสายผูก แต่ไม่ควรดูรกเกินไปหรือโชว์สัดส่วนมากเกินไป (ลุคแบบนี้เหมาะกับทุกสนามสอบ โดยเฉพาะหน่วยงานของรัฐ) – ในกรณีที่เป็นเชิ้ต แต่เนื้อผ้าชีฟอง ไม่ควรบางจนเห็นทะลุปรุโปร่งไปถึงข้างใน ถึงแม้ว่ากรรมการบางสนามจะไม่ได้โฟกัส แต่ก็ควรเผื่อใจไว้ด้วยว่าจะต้องเจออะไรนอกสนามสอบ เช่น ภัยจากคนแปลกหน้า, ฝนฟ้าอากาศที่ไม่เป็นใจ – ในกรณีที่สวมเสื้อแขนกุดแล้วสวมสูททับข้างนอก เสื้อแขนกุดที่อยู่ด้านในควรเป็นสีพื้นเข้มหรืออ่อน ไม่ฉูดฉาดแสบตา ไม่มีลวดลาย คอไม่ควรเว้าลึกเว้ากว้างมากเกินไป ถ้าเป็นลูกไม้หรือชีฟอง เนื้อผ้าควรหนาพอที่จะพรางชุดชั้นในและผิวได้ สูทควรเป็นดำ (ลุคแบบนี้เหมาะกับองค์กรที่ไม่ได้เคร่งครัดมาก เช่น บริษัทเอกชนบางแห่ง, งานประเภทออฟฟิศทั่วไป) – ถึงแม้จะมีกางเกงสำหรับผู้หญิงออฟฟิศ แต่! ในการสัมภาษณ์ต้องใช้กระโปรงเท่านั้น เพื่อความเรียบร้อยสมกับความเป็นหญิงมากที่สุด ควรเป็นกระโปรงทรงกระสอบหรือทรงเอที่ยาวเลยเข่าสีดำหรือสีเทา (คล้ายกับกระโปรงนักศึกษา) ไม่ควรสวมกระโปรงพลีทหรือกระโปรงที่พลิ้ว ๆ เพราะอาจไม่สะดวกในการเดินทางได้ – ก่อนสวมรองเท้าคัชชูอย่าลืมสวมถุงน่อง(สีเนื้อ) ไม่เพียงแต่จะช่วยพรางขาไม่ให้ดูน่าเกลียด ยังช่วยลดอาการเจ็บเท้าในกรณีที่คุณไม่เคยใส่คัชชูมาก่อนด้วยเช่นกัน – แต่งหน้าโทนสีอ่อนหรือนู้ดเท่านั้น อย่าทาเปลือกตา, ปัดแก้ม, และ/หรือทาลิปสติกด้วยสีที่ฉูดฉาดหรือโทนมืด (เช่น สีม่วงเปลือกมังคุด, สีม่วงดำ, สีแดงเลือดหมู) ถ้าแต่งหน้าไม่เป็นเลยหรือไม่มีเงินซื้อเครื่องสำอางจริง ๆ ทาลิปมันสักหน่อยก็ดี เพราะขณะสัมภาษณ์ อากาศแห้ง ๆ ในห้องแอร์อาจทำให้ปากแห้งได้ – ผมยาวหรือผมสั้นก็ได้ ปล่อยผมหรือมัดผมก็ได้ แต่ควรเป็นลุคที่เปิดเผยใบหน้ามากที่สุดขณะสัมภาษณ์ ไม่มีเส้นผมย้อยมารุงรังหรือปรกหน้าจนน่ารำคาญ สีผมย้อมได้แต่ควรเป็นโทนธรรมชาติ เช่น น้ำตาลทอง, แดงอมน้ำตาล (ถ้าใช้กิ๊บในการเก็บไรผม ขอให้ใช้ กิ๊บดำเท่านั้น) – ถ้าวันสัมภาษณ์ตรงกับวันที่ประจำเดือนมาพอดี ควรสวมกางเกงสเตย์เพื่อเก็บผ้าอนามัยให้เข้าที่ ไม่นูนออกมาชัดเจน หลีกเลี่ยงกระโปรงสีเทาอ่อนเพื่อป้องกันคราบเลอะ อย่าลืมใช้น้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นด้วย ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่าจะมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมารึเปล่า – เครื่องประดับควรเป็นสไตล์เรียบ ๆ เช่น เป็นเงินล้วน, เป็นมุกขนาดไม่ใหญ่ ไม่ควรใช้เครื่องประดับที่มีประกายแพรวพราวหรือแฟชันจ๋าเกินไป (งานราชการบางแห่งที่เคร่งครัดมาก เช่น ทหาร, ตำรวจ ไม่อนุญาตให้ใส่เลยสักชิ้น) – นาฬิกาข้อมือควรเป็นสายหนังหรือเหล็กเรียบ ๆ เพื่อเสริมลุคให้ดูเป็น working womanที่สุด ข้อมือไม่ว่างเกินไป – กระเป๋าถือหรือกระเป๋าสะพายไม่ควรใหญ่เทอะทะเกินไป ใช้งานเพียงแค่ใส่ของจุกจิกส่วนตัว เช่น ลิปสติก, ผ้าอนามัย, กระจก, ทิชชู่ซับหน้า ก็พอแล้ว ส่วนสัมภาระที่ใหญ่กว่านั้น เช่น แฟ้มเอกสาร, ขวดน้ำดื่ม ให้ถือแยกต่างหาก (ดื่มแล้วอย่าลืมเก็บทิ้งด้วย เดี๋ยวจะโดนหักคะแนนฐานสร้างความสกปรกในองค์กร) สำหรับเพศที่สาม เช่น ทอม, กะเทย – ถ้าเป็นองค์กรที่ไม่เคร่งครัดอะไรมาก ให้อิสระในการแต่งกาย เช่น งานออฟฟิศทั่วไป, งานที่เกี่ยวกับศิลปะ แต่งตามรสนิยมที่ตัวเองต้องการได้ (ทอมแต่งแบบผู้ชาย กะเทยแต่งแบบผู้หญิง) แต่ขอให้โดยรวมแล้วมีความสุภาพเรียบร้อยที่สุด เพราะบุคลิกภาพคือสิ่งหนึ่งที่สร้างความประทับใจแต่แรกเห็น … อยากให้คนอื่นเขามองคุณอย่างไร ลองส่องกระจกดูให้ดีสิว่า คุณสร้างคุณค่าให้กับตัวคุณเองให้น่ามองแล้วหรือยัง ? Tag ที่เกี่ยวข้อง |