ราคารับจํานําทองวันนี้ สถานธนานุบาล

โรงรับจำนำ ร้านทอง หากต้องการเงินสด ปล่อยทองที่ไหนคุ้มสุด

22/06/2021

“โรงรับจำนำ” หรือ “ร้านทอง” หากต้องการเงินสดด่วน ปล่อยทองที่ไหนคุ้มค่าที่สุด?

“ทองคำเป็นการลงทุนที่ยั่งยืน”

          เชื่อแน่ว่า หากพูดถึง “ทองคำ” ไม่ว่าคุณจะเป็นคนธรรมดา นักลงทุนมือใหม่ หรือจะเป็นผู้คร่ำหวอดในสนามลงทุนมาอย่างยาวนานก็ต้องเคยได้ยินกับคำกล่าวข้างต้นนี้ทั้งสิ้น ซึ่งนอกจากทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่สามารถลงทุนและทำกำไรได้แล้ว ทุกคนรู้กันดีว่าถ้าหากวันไหนธุรกิจหรือชีวิตมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินสดอย่างเร่งด่วนขึ้นมา “ทองคำ” นี่แหละที่จะสามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดเพื่อมากอบกู้สถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหากพูดถึงสถานที่ที่รับแลกเปลี่ยนทองคำเป็นเงินสดแล้ว หลายคนคงนึกถึง 2 สถานที่ อย่าง “โรงรับจำนำ” และ “ร้านทอง” จนในบางครั้งอาจเกิดความสับสนว่า หากวันใดวันหนึ่งมีความจำเป็นต้องใช้เงินสดขึ้นมา ควรจะไปใช้บริการจากที่ไหนถึงจะได้รับประโยชน์สูงสุดกันแน่? ซึ่งหากใครกำลังสงสัยอยู่ล่ะก็ วันนี้ Easy Money มีคำตอบ!

ขายทองให้กับร้านทองดีไหม?

          เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลาย ๆ คนคงอาจสงสัยว่า เราสามารถขายทองคืนให้กับร้านทองที่ซื้อมาหรือร้านทองอื่น ๆ ได้จริงหรือไม่ คำตอบคือ เราสามารถนำทองคำทั้งแบบแท่งและรูปพรรณไปขายให้กับร้านทองอื่นๆ ได้เช่นกัน โดยจะมีรายละเอียดการขายดังนี้

สิ่งที่ต้องเข้าใจหากขายทองกับร้านทอง

          โดยทั่วไปแล้ว หากเจ้าของไม่ต้องการเก็บทองไว้ก็สามารถขายและยกกรรมสิทธิ์ให้กับร้านทองได้ทันทีหลังการขาย แต่หากเจ้าของทองท่านใดต้องการเก็บรักษาทองไว้และมีความต้องการที่จะใช้บริการกับร้านทอง สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจจะประกอบไปด้วย 2 เรื่องหลัก ๆ ดังนี้

          1. หากต้องการ “ขายฝากทอง” ต้องเข้าใจเรื่องกรรมสิทธิ์ทองคำหลังขายฝากให้ดี

          ในกรณีนี้ ทางร้านทองจะออก “ตั๋วขายฝาก” ซึ่งเป็นสัญญาซื้อขายที่กรรมสิทธิ์ทองจะตกเป็นของผู้ซื้อฝากหรือร้านทอง พร้อมทำข้อตกลงเรื่องระยะเวลาสิทธิของผู้ขายฝากที่สามารถไถ่คืนทองได้ ซึ่งโดยปกติระยะเวลาการไถ่ถอนจะอยู่ที่ 3 เดือน นอกจากนี้ การขายฝากจะยังมีการคิดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.5-2% ต่อเดือนอีกด้วย และที่สำคัญ หากเจ้าของทองไม่นำเงินสดมาไถ่ในเวลาที่กำหนด ร้านทองก็จะได้กรรมสิทธิ์ในทองคำไปทันที

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ

          หากเรานำทองมาขายให้ร้านทองได้เงินสดไป 10,000 บาท และตกลงระยะเวลาไถ่คืนอยู่ที่ 3 เดือนพร้อมได้ “ตั๋วฝากขาย” มา แต่เมื่อเวลาผ่านไป ถ้าเราไม่นำเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยมาให้ร้านในจำนวนและระยะเวลาที่กำหนด ทองที่เรานำมาขายก็จะกลายเป็นกรรมสิทธิ์ของร้านทองนั่นเอง

ข้อควรระวัง

          สำหรับการขายฝากนั้น เจ้าของทองต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะในบางกรณี ร้านทองบางร้านอาจทำการบอกปัดและอ้างว่า “ไม่ว่าง” หรือ “ไม่สะดวก” จนทำให้ทองเกินระยะเวลาไถ่คืนและทำให้เจ้าของทองต้องเสียเงินในจำนวนที่สูงกว่าราคาที่ได้รับการตีราคา ซึ่งหากเจ้าของท่านใดกลัวว่าจะเกิดปัญหานี้ ท่านสามารถไปวางเงินค่าไถ่ที่สำนักงานวางทรัพย์แทนในระยะเวลาที่กำหนดเพื่อป้องกันปัญหานี้ได้เช่นกัน

          2. ดูวิธีการตรวจทองของร้านให้ดี

          การจะที่จะแลกทองออกมาเป็นเงินสดได้นั้น ทางร้านทองจะมีวิธีการตรวจสอบทองได้หลายวิธี เช่น การดูความบริสุทธิ์ของทองที่ตอกไว้ตามบริเวณต่าง ๆ (ส่วนมากจะตอกไว้บริเวณหลังแหวน หรือตรงตะขอของสร้อย) ตรวจสอบใบประกันที่มากับทอง หรือถ้าหากทองที่นำมาจำนำเป็นทองโบราณที่มีอายุ ทางร้านอาจทำการเช็กเปอร์เซ็นต์ทองโดยการฝนทองและหยดน้ำกรด-เกลือเพื่อทดสอบ หรือเผาทอง เป็นต้น ซึ่งหากร้านทำการตรวจทองไม่ได้มาตรฐาน คุณก็อาจได้การตีราคาทองที่ไม่สูง แถมยังมีโอกาสเสี่ยงที่ทองจะเสียหายไปด้วย

ข้อควรระวัง

          นอกจากจะตรวจสอบวิธีการตีราคาทองของร้านแล้ว เจ้าของทองต้องทำการตรวจสอบมูลค่าของทองตนเองและระยะเวลาในใบขายฝากและใบจำนำอีกรอบหนึ่ง เพราะหากเกิดกรณีทองเสียหาย หรือ ทองสูญหายขึ้นมา ทางร้านจะต้องทำการรับผิดชอบหาทองมาทดแทน หรือ หาเงินสดมาให้ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในใบ ซึ่งหากเกิดปัญหาขึ้นมาและรายละเอียดในใบไม่ตรงกับจำนวนเงินที่ได้ ทางร้านอาจทำการเอารัดเอาเปรียบได้ ซึ่งเจ้าของทองจะต้องทำสัญญาและระบุรายละเอียดไว้ให้ชัดเจน เพราะทางร้านอาจทำการบอกปัดและเลื่อนวันกำหนดจ่ายไปเรื่อย ๆ ได้เช่นกัน ซึ่งหากมีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น เราสามารถนำใบขายฝากหรือใบจำนำนี้ไปติดต่อกับสำนักงานวางทรัพย์หรือสถานีตำรวจเพื่อดำเนินการทางกฎหมายได้

วงเงินที่คาดว่าจะได้รับ

          โดยทั่วไปแล้ว ทางร้านทองจะตีราคาทองแตกต่างกันไปตามมาตรฐานและต้นทุนของร้าน รวมไปถึงจังหวัดหรือบริเวณโดยรอบของที่ตั้งร้าน ซึ่งนอกจากปัจจัยเหล่านี้ ทางร้านจะตีราคาของขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย ได้แก่

          1.ประเภทของทอง

          ทองรูปพรรณจะตีราคาได้ต่ำกว่าทองคำแท่ง เพราะการผลิตทองรูปพรรณจะมีน้ำหนักของน้ำประสานทองและค่ากำเหน็จปะปนอยู่ แต่ถ้านำไปขายที่ร้านเดิม ทางสคบ. มีเกณฑ์ให้ทางร้านรับซื้อทองรูปพรรณในราคาที่ลดไม่ต่ำกว่า 5% ของทองคำแท่ง เช่น หากช่วงนั้นราคาทองคำแท่งอยู่ที่ 20,000 บาท ทองรูปพรรณก็จะขายได้ไม่ต่ำกว่า 19,000 บาท เป็นต้น และหากมีอัญมณีติดไปกับทองรูปพรรณ เช่น เพชรพลอยที่อยู่ในแหวนหรือสร้อยทอง ทางร้านจะทำการแกะอัญมณีออก หรือไม่ให้ราคาอัญมณี เพราะทางร้านรับซื้อแค่ทองไม่รวมอัญมณี

          2.ราคาทองปัจจุบัน

          ทางร้านจะทำการชั่งน้ำหนักทองในขณะที่ทำการซื้อขาย และตีราคาตามราคาทองช่วงนั้น ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ เจ้าของทองจะได้รับเงินเต็มจำนวนหลังจากประเมิน แต่ถ้าหากช่วงไหนทองลง ร้านก็จะให้ราคาที่ต่ำตามราคาทองนั่นเอง

จำนำทองกับโรงรับจำนำคุ้มหรือไม่?

          การนำทองไปจำนำกับโรงรับจำนำถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีเปลี่ยนทองให้เป็นเงินสดที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยการนำทองไปจำนำนั้นจะมีรายละเอียดดังนี้

สิ่งที่ต้องเข้าใจหากต้องการจำนำทองกับโรงรับจำนำ

          1.กรรมสิทธิ์ของทองคำ

          ไม่ว่าจะนำทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณมาจำนำ เจ้าของทองยังคงถือกรรมสิทธิ์ของทองคำนั้น ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าเราจะทำการผิดเงื่อนไขการส่งเงินที่ตกลงกันไว้กับโรงรับจำนำ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เจ้าของทองสามารถทำการต่อรองกับโรงรับจำนำได้หากเกิดปัญหาขึ้น

          และเมื่อนำทองไปจำนำ ทางโรงรับจำนำจะทำการสแกนลายนิ้วมือ พร้อมออก “ตั๋วจำนำ” ที่มีรายละเอียดของทองคำ ข้อมูลส่วนตัว และวงเงินไว้ให้เป็นหลักฐาน โดยตั๋วนี้จะมีอายุ 4 เดือน 30 วัน

          2.การชำระดอกเบี้ย

          ภายในระยะเวลาของอายุตั๋วจำนำที่ 4 เดือน 30 วัน เจ้าของทองทุกคนสามารถเลือกชำระดอกเบี้ยได้ตามที่ต้องการ เช่น ชำระทุกเดือน หรือ ชำระทีเดียวเมื่อมาไถ่ทองคืนก็ได้เช่นกัน ซึ่งดอกเบี้ยของการจำนำทองนั้นจะอยู่ที่ 2% สำหรับเงินต้น 2,000 บาทแรก และ 1.25% ต่อเดือนหลังจากที่หัก 2,000 บาทแรกไป

วงเงินที่คาดว่าจะได้รับ

          โดยส่วนใหญ่แล้ว โรงรับจำนำที่ถูกต้องตามกฎหมายจะมีการตีราคาทองที่มีประสิทธิภาพ มีมาตรฐานเดียวกัน และเป็นไปตามราคาทองปัจจุบัน เจ้าของทองจะได้รับเงินสดทันทีหลังจากตีราคา อีกทั้ง ทางโรงรับจำนำจะไม่ทำให้ทองเสียหายจากการตีราคา ซึ่งหากเป็นทองรูปพรรณ ทางโรงรับจำนำก็จะไม่ทำการแกะหรือดึงอัญมณีออกจากตัวทอง นั่นจึงทำให้เจ้าของทองจะได้รับราคาทองรวมกับอัญมณีที่ติดไปด้วย อีกทั้งทางโรงรับจำนำยังมีระบบการเก็บทองที่ปลอดภัย จึงทำให้มั่นใจได้ว่า ทองคำจะไม่สูญหายหรือเสียหายจากการเก็บรักษาที่โรงรับจำนำเช่นกัน

ตัวอย่างเช่น

          หากคุณนำทองมาจำนำที่โรงรับจำนำ Easy Money ทองคำของคุณจะได้รับการประเมินโดยผู้ตีราคาที่ผ่านการฝึกอบรมและสอบผ่านเกณฑ์จาก Easy Money และสามารถให้วงเงินสูงที่สุดในตลาด อีกทั้งยังมีระบบการรักษาสินทรัพย์ที่ได้มาตรฐาน มีการซีลอย่างดีทุกขั้นตอน มั่นใจได้ว่าทุกสินทรัพย์จะปลอดภัย

ข้อควรระวัง

          ถึงการจำนำทองกับโรงรับจำนำทองจะมีมาตรฐานที่ชัดเจนและเป็นไปตามกฎหมายในเรื่องของการตีราคา การส่งดอกเบี้ย การไถ่คืนทอง และความปลอดภัยของทองคำ อีกทั้งเรายังคงกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของทองได้เรื่อย ๆ หากไม่ทำการผิดข้อตกลง โดยการตีราคานั้นจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักทอง ค่าความบริสุทธิ์ของทองและสภาพทรัพย์สิน จึงอาจไม่ได้รับการประเมินในราคาสูงสุด นั่นแปลว่า หากราคารับจำนำทองคำวันนี้ราคาอยู่ที่ 20,000 บาท คุณก็อาจได้เงินสดไปใช้ในราคาต่ำกว่า 20,000 บาทนั่นเอง

ควรเลือกปล่อยทองที่ไหนกันแน่?

หากเจ้าของทองท่านใดยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกใช้บริการกับ “ร้านทอง” หรือ “โรงรับจำนำ” ดีกว่ากัน Easy Money ขอสรุปเป็นตารางให้ทุกคนได้เห็นดังนี้

          เป็นอย่างไรกันบ้างกับรายละเอียดเรื่องการขายทองกับร้านทองและการนำทองมาจำนำกับโรงรับจำนำที่นำมาฝากในวันนี้ Easy Money หวังว่าจะช่วยให้เจ้าของทองทุกคนได้ตัดสินใจหาแนวทางการขายฝากทองได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากต้องการจะขายฝากทองให้กับร้าน เจ้าของทองเองก็ต้องพิจารณารายละเอียดและความเสี่ยงทั้งหมดให้ดี แต่ถ้าต้องการจำนำทองกับโรงรับจำนำ ผู้ที่เป็นเจ้าของทองก็สามารถตรวจสอบขั้นตอนการทำงาน รวมถึงความโปร่งใสของการตีราคาและการรักษาของได้ อีกทั้งยังสามารถเก็บทองไว้ที่โรงรับจำนำเพื่อนำเงินสดไปใช้จ่ายยามจำเป็น หรือเพื่อนำไปต่อยอดกับธุรกิจได้อย่างทันท่วงที

          หากคุณเป็นเจ้าของทองและกำลังมองหาโรงรับจำนำที่ได้มาตรฐาน ให้ราคาประเมินสูงที่สุดในตลาด อีกทั้งยังสามารถดูแลทองคำได้อย่างปลอดภัย Easy Money “เงินง่าย ได้ชัวร์” พร้อมช่วยอำนวยความสะดวก ด้วยบริการแบบมืออาชีพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ Easy Money ทุกสาขาใกล้บ้าน หรือโทร 02 113 1123