เลื่อยจิ๊กซอว์หรือเลื่อยฉลุไฟฟ้าเป็นเครื่องมือช่างที่ช่างไม้รู้จักและนิยมใช้กันมาก เป็นเครื่องมือที่มีความปลอดภัยสูง ใช้ตัดวัสดุได้เกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็ก พลาสติก แก้ว เซรามิคเลื่อยจิ๊กซอสามารถตัดชิ้นงานได้หลากหลายทิศทางอย่างอิสระ ทั้งตัดแนวตรง ตัดโค้ง ตัดตามรูปร่างชิ้นงานและเจาะรูกลางแผ่นชิ้นงานได้แต่การตัดไม้ด้วยเลื่อยจิ๊กซอจะมีความแตกต่างกับการใช้เลื่อยวงเดือนคือ ผิวชิ้นงานที่ได้มักออกมาไม่ค่อยเรียบ Show
วันนี้ KACHA จะชวนทุกคนมาทำความรู้จักว่าสว่านคืออะไร? มีกี่ประเภท? แต่ละประเภทเหมาะกับงานเจาะชนิดไหน? มีวิธีเลือกซื้อสว่านและวิธีการใช้สว่านให้ปลอดภัยอย่างไร? ดอกสว่านคืออะไร? รวมทั้งประเภทดอกสว่านชนิดต่าง ๆ ด้วย ตามไปดูกันเลย . . . สารบัญ
ประเภทของสว่าน มีอะไรบ้าง?หากแบ่งตามการใช้งานแล้วสว่านจะมีหลากหลายมาก ตั้งแต่แบบมือถือไปจนถึงแบบตั้งโต๊ะขนาดใหญ่ จึงขอยกตัวอย่างสว่านแบบมือถือที่เราเคยเห็นกัน ซึ่งแบ่งได้ดังนี้ 👉 สว่านไขควงไฟฟ้า (Electric Screwdriver)มีกำลังไม่สูงมากนัก มีทั้งแบบไร้สาย ใช้แบตเตอรี่ และใช้ถ่าน หน้าที่หลักคือการไขสกรู จึงมีระบบควบคุมแรงบิดและรอบหมุน สามารถกลับทางหมุนได้ เพื่อให้เหมาะกับทั้งการไขสกรู และการคลายสกรู 👉 สว่านไฟฟ้า (Electric Drill)มีกำลังประมาณ 300-550 วัตต์ มีน้ำหนักเบา ถูกออกแบบมาเพื่อสำหรับงานเจาะไม้, เจาะเหล็ก, เจาะพลาสติก, ขันน็อต, ขันสกรู แต่ไม่สามารถเจาะปูน อิฐ และหินได้ ข้อดีคือมีสายไฟ จึงสามารถใช้งานอย่างต่อเนื่อง สว่านประเภทนี้เน้นงานไม้เป็นหลัก เหมาะสำหรับมีติดบ้านไว้ใช้งานเบา ๆ เช่น เจาะชั้นไม้, หิ้งพระ, ที่แขวนรูป, ใช้เป็นไขควงไฟฟ้า, ใช้ในงานฝีมือ DIY ต่าง ๆ เพราะมีขนาดเล็กน้ำหนักเบากว่าสว่านแบบอื่น หรือไว้ใช้สำหรับเจาะเพดาน หรือเจาะเหล็กกล่องโครงหลังคาเพื่อยึดหลังคา 👉 สว่านกระแทก (Impact Driver Electric)มีลักษณะคล้ายสว่านไฟฟ้า แต่มีกำลังวัตต์สูงกว่า มีกำลังประมาณ 550-720 วัตต์ ใช้การทำงาน 2 ระบบ คือระบบธรรมดา และระบบกระแทกที่ทำหน้าที่เหมือนค้อน ช่วยในการเจาะปูนแบบก่อฉาบ งานไม้และงานเหล็ก เหมาะสำหรับงานช่างทั่วไปและช่างอาชีพ และยังเป็นสว่านยอดฮิตที่มีติดบ้านไว้สำหรับงานช่างของพ่อบ้านอีกด้วย 👉 สว่านเจาะกระแทกหรือสว่านโรตารี่ (Hammer Drills Electric)มีกำลังตั้งแต่ 650 วัตต์ ขึ้นไป แบ่งออกเป็นแบบ 2 ระบบ คือระบบเจาะและระบบกระแทก กับแบบ 3 ระบบ คือระบบเจาะ, ระบบกระแทก และระบบสกัด เพื่อช่วยสกัดหน้าปูนเพิ่มขึ้นมา เรียกได้ว่าเป็นสว่านเจาะปูนโดยเฉพาะนั่นเอง 👉 สว่านไร้สาย หรือสว่านแบตเตอรี่เนื่องจากไม่ใช้ไฟฟ้าจึงสะดวกเมื่อต้องใช้งานนอกสถานที่ หรือบนที่สูง เหมาะกับงานเจาะไม้, เหล็ก หรือขันน๊อต แต่มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง เพราะต้องคอยชาร์จหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่นั่นเอง จึงมีข้อจำกัดในเรื่องกำลังไฟ คือมีกำลังไฟน้อยกว่าสว่านทั่วไป ทำให้กำลังในการเจาะอาจจะสู้สว่านประเภทอื่น ๆ ที่ต่อกับไฟฟ้าโดยตรงไม่ได้ ประเภทของดอกสว่านดอกสว่านเป็นเครื่องมือช่างที่สำคัญที่ต้องใช้ร่วมกับสว่าน ดอกสว่านในท้องตลาดปัจจุบันมีหลายขนาด และหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นงานไม้, งานเหล็ก, งานปูน, งานคอนกรีต ดังนั้นการเลือกซื้อดอกสว่านมาใช้งานต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานด้วย ซึ่งแบ่งประเภทของดอกสว่านได้ 3 ประเภท ดังนี้
1.) ดอกสว่านเจาะไม้มีลักษณะส่วนปลายแหลมมีหัวเกสร ช่วยในการนำศูนย์ ปลายดอกจะคล้ายหางปลา ลดการแกว่ง เป็นดอกสว่านที่ใช้สำหรับเจาะไม้ที่มีขนาดไม่กว้างนัก โดยขนาดที่นิยมใช้กันทั่วไป คือ ขนาด 5, 6 หรือ 8 มิลลิเมตร ดอกสว่านเจาะไม้ผลิตจากเหล็กคาร์บอนต่ำ ทำให้ไม่สามารถทนความร้อนและแรงเสียดทานได้มากนัก 2.) ดอกสว่านเจาะเหล็กเป็นดอกสว่านที่ใช้เจาะวัสดุเนื้อเเข็ง เหล็ก อลูมิเนียม หรือวัสดุเนื้ออ่อนได้ มีลักษณะเป็นเกลียวตัดตลอด ปลายดอกสว่านจะแหลมเพื่อใช้ในการจิกชิ้นงาน สามารถนำมาใช้เจาะชิ้นงานที่เป็นไม้หรือโลหะทั่วไป รวมถึงพลาสติกได้อีกด้วย โดยดอกสว่านเจาะเหล็กจะแบ่งตามชนิด ดังนี้
3.) ดอกสว่านเจาะปูนหรือเจาะคอนกรีตมีลักษณะของดอกสว่านเป็นเกลียวบิด ส่วนปลายดอกเป็นเหล็กชุบแข็งพิเศษ เพื่อช่วยรองรับแรงกระแทกจากการใช้งาน เหมาะสำหรับการเจาะปูน ซีเมนต์ บล็อก หรืออิฐ เป็นต้น ดอกสว่านชนิดนี้จะผลิตจากเนื้อโลหะที่อ่อนกว่าส่วนหัวเจาะ สว่านหัวเจาะจะผลิตจากทังสเตนคาร์ไบด์ แบ่งตามชนิด ดังนี้
คำแนะนำการใช้ดอกสว่านกับงานทั่วไปที่ถูกต้อง
วิธีการใช้สว่านให้ปลอดภัย
การจัดเก็บและบำรุงรักษาสว่าน
|