การวิเคราะห์งบกระแสเงินสด เป็นหนึ่งในเครื่องมือในการวิเคราะห์งบการเงินที่น่าสนใจอีกวิธีการหนึ่ง นอกเหนือจากการวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน หรือว่าการวิเคราะห์งบโดยวิธีแนวนอน วิธีแนวโน้ม วิธีแนวตั้ง หรือวิเคราะห์ร้อยละของยอดรวม Show หลายๆ ท่านคงคุ้นเคยกับการวิเคราะห์งบกำไรขาดทุน และงบแสดงฐานะทางการเงินมาบ้างแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในวิธีการวิเคราะห์งบการเงินที่มีประโยชน์มากอีกวิธีหนึ่งก็คือ การวิเคราะห์กระแสเงินสด การวิเคราะห์กระแสเงินสดนั้นเราจะมุ่งไปที่เงินสดของกิจการเท่านั้น ซึ่งจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างชัดเจน ไม่เหมือนกับการวิเคราะห์แบบอื่นๆ การวิเคราะห์กระแสเงินสด (Cash Flow Analysis) เป็นการวิเคราะห์แหล่งที่มา และแหล่งที่ไปของเงินสด โดย แหล่งที่มา คือ การได้รับเงินเข้ามาในบริษัท แหล่งที่ไป คือ การจ่ายเงินสดออกไป ซึ่งจะดูทั้งเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ว่ามีการรับมาหรือจ่ายไปในระหว่างงวดบัญชี ที่ต้องการวิเคราะห์อย่างไร เงินสด ของกิจการที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงนั้นได้มาจากแหล่งใด และมีการใช้เงินไปในเรืองใด เพื่อทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เกี่ยวกับการไหลเวียนของเงินสดในกิจการ ขั้นตอนในการวิเคราะห์งบกระแสเงินสด แบ่งเป็น 4 ขั้นตอนหลัก ๆ ได้แก่ 1.วิเคราะห์แหล่งที่มาและการใช้ไปของเงินสดจากกิจการรมทั้ง 3 ข้อแรกนี้เป็นการวิเคราะห์ภาพว่า ใน 3 กิจการ ได้แก่ กิจกรรมดำเนินงาน, กิจกรรมลงทุน และกิจกรรมจัดหาเงิน เราได้เงินสดมา และใช้เงินสดไปกับกิจกรรมใดเป็นหลัก ที่สำคัญเราต้องดูว่า กระแสเงินสดจากกิจการรมดำเนินงาน มีค่าเป็นบวก และเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายในการกิจการหรือไม่ หากเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน มีค่าติดลบ หรืออาจจะมีน้อยไป ซึ่งถ้าเทียบกับกิจการการลงทุนและกิจกรรมจัดหาเงิน อาจจะไม่เพียงพอในการดำเนินธุรกิจ ถ้าเป็นเช่นนั้น ผู้บริหารจะต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ในการบริหาร หรือไม่ หรือต้องทำอย่างไร เพื่อที่จะบริหารกระแสเงินสดที่มีให้สามารถดำเนินธุรกิจไปได้อย่างต่อเนื่อง 2.วิเคราะห์กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน (CFO) กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน ส่วนใหญ่มักจะมีที่มาที่ไปจากธุรกิจหลัก คือการขายสินค้า ซื้อวัตถุดิบ จ่ายค่าแรงพนักงาน เป็นต้น ใคร ๆ ก็อย่างมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นบวกใช่ไหมค่ะ การวิเคราะห์กระแสเงินสดในกิจกรรมนี้ ต้องดูว่าเงินสดที่ได้มามีองค์ประกอบสำคัญมาจากรายการใด กระแสเงินสดจากิจกรรมดำเนินงานมีค่ามากกว่า หรือน้อยกว่า กำไรสุทธิในงบกำไรขาดทุน และมีสาเหตุมาจากอะไร เช่น หากำไรเยอะ ๆ ในงบกำไรขาดทุน แต่กระแสเงินสดจากการดำเนินงานน้อยกว่าแสดงว่าเราอาจจะยังบริหารเงินสดได้ไม่ดีพอ 3.วิเคราะห์กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน (CFI) กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน ส่วนใหญ่มักจะมีเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงไปของส่วนของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน เช่น ซื้อที่ดินเพิ่ม สร้างโรงงานเพิ่ม นี้เป็นสาเหตุทำให้กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุนติดลบ การติดลบของกระแสเงินสดของกิจกรรมลงทุนนั้นไม่ได้เลวร้ายเสมอไป หากเรามีแผนงานรองรับในอนาคต เช่น การขยายกิจการหรือขยายสาขา เพิ่มต้องลงทุนเพิ่ม ในปีนี้ และคาดการณ์ว่าจะสร้างรายได้จากกิจกรรมดำเนินงานในอนาคต 2 เท่า การวิเคราะห์กระแสเงินสดในกิจกรรมลงทุน ต้องทราบว่ากระแสเงินสดสุทธิที่เป็นบวกหรือลบ มีองค์ประกอบสำคัญมา จากรายการใด และคาดหวังว่าในอนาคตจะได้ผลตอบแทนอย่างไร 4.วิเคราะห์กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน (CFF) การจัดหาเงินอาจจะมาจากการกู้เงิน หรือการเพิ่มทุนในส่วนของผู้ถือหุ้น โดยหากกู้เงินจากสถาบันการเงิน หรือบุคคลที่สาม คือจะต้องมีดอกเบี้ยจ่ายเกิดขึ้น และสำหรับการเพิ่มทุน จะไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย แต่อย่างไรก็ตามผู้ถือหุ้นคาดหวังที่จะได้รับเงินปันผล ดังนั้นกิจการต้องแพลนว่าการจัดหาเงินด้วยวิธีใด คุ้มค่า และเหมาะสมสำหรับกิจการ การวิเคราะห์กระแสเงินสดจากิจกรรมจัดหาเงิน ให้ดูว่ามีองค์ประกอบสำคัญมาจากรายการใด หากกิจกาจมีการจัดหาเงินได้มาก กิจการมีแผนที่จะจัดการกับต้นทุนทางการเงินที่เกิดขึ้นอย่างไร และกิจการคาดว่าจะสร้างรายได้จากการประกอบการในอนาคตจากเงินที่จัดมาอย่างไร สุดท้ายมีกำไรเพื่อไปจ่ายดอกเบี้ย หรือเงินปันผลในอนาคตอย่างบ้างนั้นเอง สรุป การวิเคราะห์งบกระแสเงินสด คือการที่กิจกรรมมีเงินสดที่ได้รับมา หรือได้จ่ายไปจากกิจกรรมใดเป็นหลัก และมีความสามารถที่จะดำเนินตอ่ไปได้ในอนาคติหรือไม่ งบกระแสเงินสดเป็นสิ่งที่ผู้บริหารให้ความสนใจ โดยเฉพาะบัญชีเงินสดที่ปรากฎอยู่ในงบการเงิน จัดเป็นรายการหนึ่งที่แสดงถึงสภาพคล่องของกิจการว่าเป็นอย่างไร มีความคล่องตัวในการดำเนินเพียงใด เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจดำเนินงานต่างๆ ในส่วนนที่เกี่ยวข้องกับเงินสดเป็นสำคัญ อ่านงบการเงินในการวิเคราะห์ภาพรวมบริษัท สำหรับนักลงทุนสายปัจจัยพื้นฐาน หรือ Value Investor (VI) นอกจากที่จะต้องใช้การวิเคราะห์เชิงคุณภาพแล้ว ยังจำเป็นที่จะต้องใช้การวิเคราะห์เชิงปริมาณควบคู่กันไปด้วย ดังนั้น ในเนื้อหาส่วนนี้จะกล่าวถึงวิธีการใช้งบการเงิน และอัตราส่วนทางการเงินในการวิเคราะห์ภาพรวมบริษัทเพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้นที่นำไปสู่การลงทุนที่มีประสิทธิภาพ
มาทำความรู้จัก… งบการเงิน คือ รายงานผลประกอบการของบริษัท ซึ่งจัดขึ้นตามวิธีการทางบัญชีรายงานกิจกรรมต่าง ๆ โดยงบการเงินที่สำคัญมีดังต่อไปนี้
อัตราส่วนทางการเงิน (Financial Ratio) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญในการใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน เนื่องจากอัตราส่วนทางการเงินเป็นการนำข้อมูลจากงบการเงินมาคำนวณให้อยู่ในอัตราส่วนที่วิเคราะห์ให้เห็นภาพได้ง่ายและชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยแบ่งอัตราส่วนทางการเงินออกเป็น 7 หมวดได้แก่
หลังจากรู้จักงบการเงินแบบคร่าว ๆ มาแล้ว หลายคนก็อาจสงสัยกันว่า เราจะนำงบมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร คำตอบก็คือ งบการเงินจะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์หุ้นผ่านอัตราส่วนทางการเงิน (Financial Ratio) โดยเราอาจใช้อัตราส่วนนี้ในการคัดเลือกหุ้นที่สนใจ หรือใช้เปรียบเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงคู่แข่งเพื่อพิจารณาบริษัทที่สนใจได้ โดยวันนี้ Bualuang Knowledge ได้ทำตารางสรุป Financial Ratio ทั้งหมด 12 อัตราส่วนทางการเงินแบบเข้าใจง่ายมาให้นักลงทุนทุกท่านแล้ว ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย!!
ขั้นตอนการใช้งานที่ง่าย เพียงไม่กี่ขั้นตอน อ่านวิธีการใช้งานเพิ่มเติมคลิก หรือสามารถทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ ขั้นตอนการเข้าใช้งาน
หลังกรอกชื่อหุ้น ก็จะเห็นข้อมูลทางพื้นฐานต่าง ๆ ของหุ้นที่เราสนใจ ดังภาพ
..เรามาลองดูการวิเคราะห์บริษัท คอมเซเว่น จำกัด มหาชน (COM7) ผ่าน Financial Ratio ของบริษัทนี้กันดีกว่า วัดความถูกความแพงด้วย Market Value Ratio ดังนี้
วัดความสามารถในการทำกำไรด้วย Profitability ดังนี้
วัดประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจและบริหารสินทรัพย์ด้วย Efficiency ดังนี้
วัดประสิทธิภาพในการบริหารหนี้สินด้วย Debt Ratio ดังนี้
วัดการเติบโตในด้านรายได้, กำไรและเงินปันผลด้วย Growth ดังนี้
วัดอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นจากการได้รับเงินปันผลด้วย Dividend & Ownership ดังนี้
วัดสภาพคล่องของกิจการด้วย Liquidity ดังนี้
นอกจากนี้ Stock Signals ยังมีฟังก์ชันที่ใช้ในการคัดเลือกหุ้นผ่านการกำหนดเงื่อนไข Financial Ratio ที่เราต้องการได้อีกด้วย ตามขั้นตอนดังนี้ การวิเคราะห์งบการเงินมีขั้นตอนอย่างไรการวิเคราะห์การเงิน( Financial Analysis) มีเทคนิคในการวิเคราะห์ 4 แบบคือ. วัดสภาพคล่องทางการเงิน (Liquidity ratio). วัดความสามารถในการทำกำไร (Profitability ratio). วัดประสิทธิภาพในการจัดการสินทรัพย์ (Asset management ratio). วัดความสามารถในการชำระหนี้ (Debt management ratio หรือ Leverage ratio). ขั้นตอนในการวิเคราะห์งบกระแสเงินสด มีกี่ขั้นตอน4 ขั้นตอนในการวิเคราะห์กระแสเงินสด. วิเคราะห์แหล่งที่มาและการใช้ไปของเงินสดจากกิจการรมทั้ง 3. ... . วิเคราะห์กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน (CFO) ... . วิเคราะห์กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน (CFI) ... . วิเคราะห์กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน (CFF). ความสําคัญในการวิเคราะห์รายงานทางการเงิน มีอะไรบ้างวัตถุประสงค์สําคัญของการวิเคราะห์งบการเงิน ได้แก่ การวัดค่าความเสี่ยงและ ผลตอบแทนในเชิงเปรียบเทียบเพื่อนําไปประกอบการตัดสินใจลงทุนหรือให้สินเชื่อ การตัดสินใจดังกล่าวต้องอาศัยการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต แม้ว่างบการเงินที่จัดทําขึ้น เพื่อวัตถุประสงค์โดยทั่วไปจะแสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ก็เป็นพื้นฐานที่สําคัญ ...
เครื่องมือในการวิเคราะห์งบการเงิน มีกี่วิธีเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์งบการเงินมี4 ประเภท ดังนี้ 2.1 การวิเคราะห์งบการเงินโดยใช้อัตราส่วนทางการเงิน (Financial Ratio Analysis) เป็นการวัดค่า ความสัมพันธ์ระหว่างรายการต่าง ๆ ที่แสดงในงบการเงิน ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ออกมาในรูปต่าง ๆ ทาง คณิตศาสตร์เช่น เปอร์เซ็นต์สัดส่วน จานวนเท่า เป็นต้น
|