Show
ประเภทคดี (กรุณาเลือกประเภทคดี)1. กระทำความผิดโดยมีระบบเป็นเป้าหมาย 1.1 แฮก เพื่อปรับเปลี่ยน / ขโมย / ทำลายข้อมูล 2. กระทำความผิดโดยมีระบบเป็นเครื่องมือ 2.1 หลอกขายสินค้า / บริการ 2.2 ปลอมเป็นบุคคลอื่น 2.3 แฮกเพื่อหลอกโอนเงิน 2.4 หลอกโอนเงินผ่านอีเมล (Email Scam) 2.5 หลอกรักออนไลน์ (Romance Scam) 2.6 หลอกให้ร่วมลงทุน (แชร์ลูกโซ่) 3. เนื้อหาไม่เหมาะสม 3.1 หมิ่นประมาท 3.2 นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ 3.3 นำเข้าข้อมูลสื่อลามก 3.4 ตัดต่อภาพอันเป็นเท็จ 3.5 ข่มขู่ (Blackmail) แอพพลิเคชัน ที่เกี่ยวกับการกระทำผิด Line ข้อมูลที่คุยกับคนร้าย หมายเหตุ : การแจ้งเหตุนี้ยังไม่ถือเป็นการแจ้งความตามกฎหมาย หากท่านต้องการดำเนินการต้องไปแจ้งความที่ บก ปอท หรือ สถานีตำรวจ ท้องที่ แล้วเท่านั้น วันที่ 29 มีนาคม 2565 | 12319 อ่าน เขียนโดย ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ บก.อก.บช.ส. ข่าวที่เกี่ยวข้องสคบ.ได้นำบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคเพื่อให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสียเวลาไม่ว่าจะร้องทุกข์ออนไลน์ของ สคบ.หรืองานบริการของหน่วยงานพันธมิตร เพื่อบริการผู้บริโภคได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วเผยแพร่: 2 มี.ค. 2565 15:07 ปรับปรุง: 2 มี.ค. 2565 15:07 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เมื่อวันก่อน สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดศูนย์รับแจ้งความออนไลน์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี และทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ สมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก รวม 21 ธนาคาร โดยเปิดให้ประชาชนแจ้งความออนไลน์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2565 เป็นต้นไป สามารถเข้าสู่ระบบแจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ thaipoliceonline.com หรือ pct.police.go.th
เริ่มจากลงทะเบียนผู้ใช้งาน ยืนยันตัวตนด้วย OTP ผ่านอีเมลที่ใช้ลงทะเบียน จากนั้นเข้าสู่ระบบอีกครั้ง แล้วกรอกข้อมูลผู้เสียหาย ข้อมูลเกี่ยวกับคนร้าย ก่อนจะได้เลขรับแจ้งมาจากระบบรับแจ้ง ภายใน 3 ชั่วโมง ศูนย์บริหารการรับแจ้งความ (Admin) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะติดต่อกลับมา ระบุว่าได้รับข้อมูลการแจ้งความแล้ว และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หลังจากนั้น หากเห็นว่ามีความจำเป็นต้องแจ้งอายัดบัญชี จะทำหนังสือขออายัดบัญชีธนาคารคนร้ายทันที ก่อนจะส่งข้อมูลไปยังสถานีตำรวจ เพื่อรายงานต่อผู้กำกับการ และแอดมินสถานีตำรวจจะโทร.กลับผู้แจ้งภายใน 4 ชั่วโมง เพื่อนัดหมายวันและเวลาที่สะดวกเพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวน จากนั้นตำรวจจะทำการสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ ยังมีอีกช่องทางหนึ่ง คือ แจ้งความที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน เพื่อส่งข้อมูลไปยังศูนย์บริหารการรับแจ้งความคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หากมีผู้แจ้งความในลักษณะเดียวกันหลายราย จึงได้ให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. (ตำรวจไซเบอร์) เป็นผู้รับผิดชอบการสืบสวนสอบสวนต่อไป ประชาชนสามารถปรึกษาหรือขอคำแนะนำได้ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หมายเลขโทรศัพท์ 1441 และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร) โทร. 08-1866-3000 ตลอด 24 ชั่วโมง |