รายได้น้อย-กู้แบงก์ไม่ผ่าน “การเคหะแห่งชาติ” ช่วยท่านได้!เผยแพร่: 26 พ.ย. 2564 15:21 ปรับปรุง: 26 พ.ย. 2564 15:21 โดย: ผู้จัดการออนไลน์ Show
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่าทุกวันนี้อุปสรรคสำคัญของคนอยากมีบ้าน หนีไม่พ้นเรื่อง “รายได้” ที่น้อยและไม่เพียงพอต่อรายจ่าย และนั่นทำให้การขอสินเชื่อธนาคารเพื่อ “กู้บ้าน” เป็นเรื่องยาก นอกจากเรื่องรายได้ ก็ยังมีปัญหาเรื่องหลักฐานการแสดงรายได้ต่าง ๆ สเตทเมนท์ธนาคารที่ไม่มีการเดินบัญชีสม่ำเสมอ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบอาชีพค้าขาย หรือผู้หาเช้ากินค่ำ ยิ่งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ยิ่งทำให้ปัญหานี้ขยายวงกว้างและชัดเจนยิ่งขึ้น การเคหะแห่งชาติเข้าใจปัญหาของประชาชนที่ต้องการมีบ้าน แต่อาจจะขาดศักยภาพในเรื่องรายได้ ดังนั้น เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยกลุ่มเปราะบาง ให้สามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น สิ่งแรกที่การเคหะแห่งชาติ ดำเนินการคือการปรับอัตราส่วนจาก “บ้านขาย” มาเป็น “บ้านเช่า” สิ่งนี้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนในแผนการดำเนินงานปี 2564-2565 ซึ่งมีการปรับลดสัดส่วนจาก “บ้านขาย” มาสู่ “บ้านเช่า” โดยมีโครงการต้นแบบ คือ โครงการบ้านเคหะสุขประชาที่มาในคอนเซ็ปต์ “บ้านเช่าพร้อมอาชีพ” อัตราค่าเช่าต่ำกว่าท้องตลาด เริ่มต้นเพียง 1,500 บาทต่อเดือน พร้อมจัดสรรพื้นที่สำหรับประกอบอาชีพให้กับผู้เช่าอีกด้วย “แนวคิดสำคัญของการจัดทำโครงการบ้านเคหะสุขประชาคือ ทำอย่างไรที่จะสร้างบ้านให้ผู้มีรายได้น้อย พร้อมจัดสรรที่ทำกินด้วย เพื่อให้ผู้เช่ามีรายได้เพียงพอสำหรับจ่ายค่าเช่าในแต่ละเดือน ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาในเรื่อง “รายได้” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้เช่า โดยจะมีการขยายโครงการดังกล่าวไปทั่วประเทศ เป้าหมาย 100,000 หน่วย ภายในระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ.2564 - 2568)” นายทวีพงษ์ กล่าว นอกจากการเพิ่มสัดส่วน “บ้านเช่า” แล้ว ปัจจุบันการเคหะแห่งชาติยังมี “โครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย” ซึ่งถือเป็น “เครื่องมือทางการเงิน” ที่สำคัญในการช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น เพื่อช่วยลูกค้าที่ซื้อบ้านการเคหะแห่งชาติ แต่ไม่ผ่านการพิจารณาสินเชื่อจากสถาบันการเงิน สามารถขอสินเชื่อผ่านโครงการดังกล่าว โดยมีคณะกรรมการบริหารสินเชื่อที่อยู่อาศัย (คบส.) ของการเคหะแห่งชาติ เป็นผู้พิจารณาให้สินเชื่อกับลูกค้า ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า โครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี เมือวันที่ 29 มกราคม 2562 เพื่อช่วยเหลือกลุ่มประชาชนที่มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในการซื้อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินทั่วไป ซึ่งเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในด้านที่อยู่อาศัยตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญของการเคหะแห่งชาติ จากผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การเคหะแห่งชาติได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้ากลุ่มที่ไม่ผ่านการพิจารณาสินเชื่อจากสถาบันการเงิน สามารถทำการ “เช่าซื้อ” กับการเคหะแห่งชาติได้โดยตรง ผ่าน “โครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย” โดยลด “ดอกเบี้ยเช่าซื้อ” เหลือ 0% ในปีแรกสำหรับบุคคลทั่วไป และเพิ่มเวลาเป็น 1 ปีครึ่ง หรือ 18 เดือน สำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว
และบุตรที่ประสงค์จะซื้อบ้านในโครงการของการเคหะแห่งชาติให้พ่อแม่อยู่อาศัย จองเริ่มต้น 99 บาท ซึ่งจะหมดเขตในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 เช่นเดียวกัน โอกาสคนอยากซื้อบ้าน การเคหะฯ จัดให้ 3 มาตรการพิเศษ ช่วยคนอยากมีบ้านระยะ 2 ช่วยลูกค้าใหม่ขอสินเชื่อบ้าน นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติกล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 สายพันธ์โอไมครอน ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
ระมัดระวังในการจับจ่ายมากขึ้น รวมไปถึงชะลอการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว ดังนั้น เพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 การเคหะแห่งชาติ ได้ออก 3 มาตรการให้ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของบ้านการเคหะแห่งชาติได้ง่ายขึ้น ดังนี้ มาตรการที่ 1 อัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อพิเศษสำหรับลูกค้าที่ไม่ผ่านการพิจารณาสินเชื่อจากธนาคาร สามารถยื่นขอสินเชื่อจากโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย แบ่งเป็น 2 กรณีคือ
ทั้งนี้ มีระยะเวลาการทำสัญญาเช่าซื้อ 40 ปี เมื่อรวมกับอายุผู้เช่าซื้อต้องไม่เกิน 70 ปี นอกจากนี้ ยังสามารถยื่นขอสินเชื่อทำสัญญาเช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติได้โดยตรง ดังนี้
โดยระยะเวลาในการทำสัญญาเช่าซื้อ 30 ปี เมื่อรวมกับอายุผู้เช่าซื้อต้องไม่เกิน 70 ปี มาตรการที่ 2 บ้านราคาพิเศษลดราคาขายโครงการบ้านเอื้ออาทร 56 โครงการ โปรโมชั่นราคาพิเศษหน่วยละ 250,000-520,000 บาท กรณีลูกค้าไม่ผ่านสินเชื่อธนาคารสามารถเข้าร่วมมาตรการที่ 1 อัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อพิเศษ หากไม่ประสงค์ยื่นขอสินเชื่อธนาคาร สามารถทำเช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติโดยตรง ได้ทันทีในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ สำหรับลูกค้าที่โอนกรรมสิทธิ์ภายใน 60 วัน นับจากวันทำสัญญา มาตรการที่ 3 เช่าราคาพิเศษมอบโปรโมชั่น เช่าราคาพิเศษ 2 ต่อ จำนวน 88 โครงการ ประกอบด้วย โครงการบ้านเอื้ออาทร 83 โครงการ และโครงการเคหะชุมชน 5 โครงการ
ทั้งนี้ เฉพาะลูกค้าที่ทำสัญญาเช่าภายในระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2565 อ่านข่าวเพิ่มเติม
|