แต่งตัวไปต่างประเทศ คนอ้วน

การมีน้ำหนักเกิน ไม่ได้หมายความว่า คุณจะดูดีไม่ได้ ขอแค่มีทักษะบางอย่างและความมั่นใจแต่พอประมาณเท่านั้น การจะทำให้ตัวเองดูดี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาของเสื้อผ้าคุณ แต่อยู่ที่การแต่งตัวในแบบที่คุณรู้สึกมั่นใจและฉายจุดเด่นของคุณออกมา ถึงเวลาแล้วที่จะใช้ส่วนโค้งเว้าในร่างกายให้เป็นประโยชน์ที่สุด

1. 

   1

   เข้าใจหลักของการเน้นและซ่อนสัดส่วนต่างๆ. สีสัน การตัดเย็บ และรูปแบบของชุดที่คุณสวมใส่ สามารถดึงดูดผู้คน หรืออาจจะผลักไสพวกเขาออกไปจากตัวคุณก็ได้ หลักการคร่าวๆ มีดังนี้:

   • สีเข้มจะเก็บซ่อนบางสัดส่วน ส่วนชุดสีสว่างๆ จะช่วยเน้นให้เด่นชัด ดังนั้น หากคุณชอบส่วนเอวของคุณ ก็ควรใส่เข็มขัดสีสว่างคาดกับชุดสีเข้ม แต่หากคุณต้องการเก็บซ่อนช่วงสะโพกลงไป ก็ใส่กางเกงสีเข้มตัดกับเสื้อสีสว่างแทน
   • ลวดลายใหญ่จะทำให้คุณดูตัวใหญ่ขึ้น ในขณะที่ลวดลายเล็กๆ จะทำให้คุณดูตัวเล็กลง
     

   • หลีกเลี่ยงชุดลายขวาง เส้นลายยาวบนเสื้อผ้าอาจเป็นที่ยอมรับได้สำหรับชุดของคนตัวอ้วน กรณีที่มันเป็นลายแนวดิ่งหรือแนวเฉียง และหากคุณต้องการให้คนอื่นเห็นว่า มีช่วงหน้าอกหน้าใจใหญ่ขึ้น เสื้อลายขวางจะช่วยเน้นส่วนนั้นให้เอง
     

   • อย่าใส่ห่วงสร้อยหรือกำไล ในบริเวณที่คุณต้องการให้ดูเล็กลง แต่จงใส่ไว้บริเวณที่ต้องการเน้น เพื่อให้คนที่มองมายังคุณ ถูกเบนความสนใจไปที่บริเวณดังกล่าว
   • สวมชุดที่มีเชือกหรือโบว์ บริเวณที่คุณต้องการให้ดูเล็กลง ตัวอย่างเช่น ชุดว่ายน้ำแบบวันพีช ที่มีเชือกผูกเหนือเอว คุณน่าจะเคยเห็นมาบ้าง
     

   • ต้องรู้ด้วยว่า สีอะไรที่คุณใส่แล้วดูดี สีที่ช่วยเสริมความงาม ต้องช่วยให้ผิวพรรณคุณดูเปล่งปลั่งขึ้น แต่การเลือกใส่สีที่ผิด จะทำให้คุณดูจืดจางและหมองลง
   • สวมชุดที่ออกแนวแบ็กกี้ เช่น ชุดเสื้อผ้าแบบโปร่งสบาย (Blouse) จะทำให้คุณดูมีสไตล์และแต่งตัวเป็น

2. 2

   สวมชุดชั้นในที่เข้ารูปพอดี. มันเป็นเรื่องจริง ที่ชุดชั้นในของคุณ ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของรูปลักษณ์ของคุณ มันยากที่จะดูดีเวลาที่คุณใส่ชุดที่อยู่ข้างในหลวมๆ ย่นๆ ซึ่งไม่เข้าพอดีกับตัวคุณ

   • ซื้อเสื้อยกทรงขนาดพอดี (ผู้หญิง) ยกทรงที่ดีไม่ใช่แค่จะช่วยเสริมรูปทรงคุณเท่านั้น แต่จะช่วยให้คุณดูอ่อนวัยด้วย มันยังช่วยหลีกเลี่ยงอาการปวดหลังได้ด้วย หากคุณไม่แน่ใจขนาดหน้าอกตัวเอง ก็ควรไปเลือกซื้อที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำเพื่อวัดขนาด อย่า ไปร้านแนววิคตอเรียซีเคร็ท ซึ่งคุณอาจจะเจอแต่ยกทรงขนาดพิเศษ และอาจจะมีระยะห่างระหว่างไซส์ให้เลือกเพียงแค่ไม่กี่ไซส์เท่านั้น
   • หากต้องการซ่อนชั้นไขมันบริเวณสะโพกและต้นขา ก็สวมกางเกงขากองๆ เสื้อชั้นในเอวสูงๆ แบบผ้าฝ้ายรัดกระชับพอดีตัวรูป
     

   • จงแน่ใจว่า คุณปกปิดได้มากพอ ชุดชั้นในที่เล็กเกินไป ไม่ควรจะซื้อมาใส่ หากคุณหาไซส์ที่พอดีตามร้านทั่วไปไม่ได้ ก็ลองหาซื้อจากร้านค้าออนไลน์

3. 

   3

   หาชุดและเนื้อผ้าที่เหมาะสมกับช่วงล่างของคุณ. หากคุณมักจะมีไขมันกองใหญ่ที่ส่วนขาและสะโพก (นั่นแสดงว่า คุณมีหุ่นแบบลูกแพร) อย่าลืมเคล็ดลับต่อไปนี้:

   • เลือกใส่กระโปรงและกางเกงแบบสั่งตัด หลีกเลี่ยงพวกกางเกงขาบานๆ ทั้งหลาย
     

   • หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่ไร้รูปทรงอันชัดเจน เช่น กระโปรงบานๆ ทรงไม้กวาด และชุดเดรสแบบ "ทรงปล่อยตรง" แต่คุณควรเลือกเสื้อผ้าแบบที่มีเอวขลิบเข้ารูปแทน
   • หากคุณกำลังมองหากระโปรงที่จะสวมใส่ กระโปรงแบบเอไลน์น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด จงหลีกเลี่ยงชุดกระโปรงรูปทรงรัดยาวตรง (Pencil skirt) เพราะมันจะยิ่งไปเน้นรูปร่างและโครงร่างของสะโพก รวมถึงเอวของคุณ อย่างไรก็ตาม กระโปรงอย่าง เช่น กระโปรงแบบนักเล่นสเก็ต จะสามารถทำให้คนใส่เกือบทุกคนดูดีขึ้นมาได้ทันที
   • ซื้อกางเกงยีนส์ที่เข้ารูปพอดีมาเก็บไว้สักตัวนึง กางเกงยีนส์ขากระบอกหรือแบบสกินนี่ สีเข้มๆ ก็ดูดีทีเดียว
     

   • เลือกใส่เลกกิ้งด้วยความรอบคอบ สำหรับผู้หญิงบางคน เสื้อเชิ้ตทรงยาวหรือชุดคลุมยาวเมื่อใส่กับเล็กกิ้งแล้ว ก็จะดูหุ่นเพรียวและมีความเป็นแฟชั่น อย่างไรก็ตาม หากคุณมีสะโพกต้นขาหรือก้นใหญ่มันจะทำให้คุณดูน่าเกลียด

4. 

   4

   เลือกชุดที่เน้นช่วงบนของคุณให้ดูดี. ร่างกายช่วงบนของคุณจะแต่งตัวได้ยากหรือง่ายนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับลักษณะรูปร่างของคุณด้วย หากคุณมักจะมีน้ำหนักหรือไขมันออกไปทางพุงหรือหน้าท้อง รวมถึงหัวไหล่ แบบที่เรียกกันว่า รูปร่างทรงแอปเปิล คำแนะนำต่อไปนี้อาจจะช่วยได้:

   • เลือกเสื้อยืดหรือชุดที่มีรูปทรงเฉพาะ ดีกว่าเสื้อยืดแบบยาวตรงหรือชุดที่ไม่ได้รูปทรง เสื้อผ้าเหล่านี้มันควรจะสวมใส่ได้แนบพอดีกับรูปทรงหัวไหล่และขนาดเอวของคุณตามธรรมชาติ
   • สำหรับผู้ชายควรสวมใส่เสื้อเชิ้ตแบบสั่งตัดและควรใส่ใจเป็นพิเศษ โดยดูให้แน่ใจว่า บริเวณคอเสื้อและข้อมือเข้ารูปดีหรือไม่
     

   • สำหรับผู้หญิงควรหลีกเลี่ยงเสื้อสายสปาเก็ตตี้หรือแบบสายคล้องคอ คุณควรจะสวมเสื้อที่ปิดทับสายยกทรงของคุณมากกว่า ซึ่งมันอาจจะกว้างหน่อย
   • สวมชุดแจ็คเก็ตหรือคาร์ดิแกนแบบยาวเต็มที่ อย่าเลือกแบบที่มีการย่อส่วนหรือแก้ขนาดความยาว
     

   • หากคุณรู้สึกชอบบริเวณหน้าแขนคุณเป็นพิเศษ ก็สามารถเลือกใส่เสื้อที่มีแขนสามส่วน แต่หากคุณไม่ชอบแขนของตัวเอง ก็ควรใส่เสื้อแขนยาวหรือแขนสั้นไปเลย เพราะการสวมชุดที่มีแขนเสื้อแบ่งส่วนแขนของคุณให้เห็นชัดเจน จะยิ่งทำให้มันดูแย่ลง
   • หากคุณใส่ชุดเลกกิ้งหรือกางเกงยีนส์แบบรัดรูป ก็ควรที่จะสวมชุดด้านบนเป็นทรงเข้ารูปแบบหลวมเล็กน้อย การสวมชุดด้านบนที่ไม่เข้ารูปอาจดูดีได้ ตราบใดที่ท่อนล่างของคุณเข้ารูปและมีทรวดทรงดี
     

   • เสื้อเชิ้ตแบบมีกระดุมคอปก ต้อง ฟิต เข้ารูปตามแนวหน้าอกและหน้าท้องของคุณ ซึ่งหมายความว่าจะต้องไม่มีแรงดึงของเนื้อผ้าเข้าหากระดุม หากมีแรงดึง แสดงว่า เสื้อดังกล่าวไม่ได้ขนาดที่เหมาะสม

5. 5

   หาเครื่องประดับและจับคู่ให้เหมาะสม!. เครื่องประดับตกแต่งที่ดูโดดเด่นและสวยงาม ไม่เพียงแต่จะทำให้เสื้อผ้าของคุณดูมีมิติมากขึ้น แต่ยังเป็นการเบี่ยงเบนสายตาไปจากน้ำหนักส่วนเกินหรือลักษณะที่ผอมแห้งเกินไปของรูปร่างคุณได้ด้วย

   • ผู้หญิงที่รูปร่างใหญ่กว่าคนทั่วไป สามารถประดับด้วยเครื่องประดับที่ชัดเจนและมีขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งอาจทำให้ผู้หญิงที่มีรูปร่างเล็กถูกบดบังได้ ในทางกลับกัน จี้หรือต่างหูเล็กๆ ออกแนววัยรุ่น ก็อาจดูสังเกตไม่เห็นบนร่างกายของคุณ
     

   • กระเป๋าถือขนาดใหญ่สามารถช่วยให้คุณดูรูปร่างเล็กลงได้ เพราะมันจะไม่ดูเล็กจิ๋วเกินไปเวลาที่คุณถือ
     

   • กำไลสักสองสามพวง จะช่วยให้ท่อนแขนตันๆ ของคุณดูเพรียวลงได้ และต่างหูห้อยยาวแบบน่ารักกรุ๊งกริ๊งจะช่วยให้ลำคอคุณยาวระหง
   • รองเท้าบู๊ทที่มีคุณภาพดีอย่างเช่น บู๊ทของนักขี่ม้า สามารถหลอกสายตาและทำให้คุณดูมีสัดส่วนรูปทรงโค้งเว้าน่ามองได้สัดส่วน  บู๊ทคู่ที่เหมาะสมยังสามารถใส่คู่กับกระโปรงหรือกางเกงขายาว ซึ่งทำให้ยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่
     

   • หากคุณมีข้อเท้าและต้นขาขนาดใหญ่ จงหลีกเลี่ยงรองเท้าที่บอบบางหรือใส่แล้วไม่มั่นคง เพราะมันจะส่งผลให้คุณกะเผลก เหมือนจะล้มลงหรือร่วงลงไปกับพื้นตลอดเวลา ในทางกลับกัน รองเท้าส้นตึก สามารถทำให้คุณดูดีได้ไม่ว่าคุณจะมีท่อนขาทื่อเพียงใด
   • สุดท้าย เรื่องสำคัญอีกอย่าง คือ จงมั่นใจเกี่ยวกับรูปร่างของตัวเอง คุณเป็นผู้ที่มีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเองและไม่มีใครสามารถพรากมันไปจากคุณได้

   โฆษณา

1. 1

   ปรับทัศนคติให้ถูกต้องเสียก่อน. การปรับวิธีคิดแม้เพียงเล็กน้อย จะสร้างความแตกต่างต่อรูปลักษณ์ของคุณได้อย่างมาก และที่สำคัญที่สุด มันไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ดังนั้น จงเพิ่มความมั่นใจในเรื่องดังต่อไปนี้:

   • เลิกสนใจป้ายบอกขนาดไปเลย โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา ขนาดของเสื้อผ้าชนิดต่างๆ สามารถมีความแตกต่างกันไปโดยสิ้นเชิง และไม่มีมาตรฐานกลางที่จะกำหนดขนาดเสื้อผ้าจากแต่ละยี่ห้อ หรือจากนักออกแบบแต่ละคน ดังนั้น อย่ายึดติดกับขนาดใดขนาดหนึ่งและอาจจะต้องมาเสียใจภายหลังว่า เสื้อผ้าที่เลือกมามันใหญ่กว่าหรือเล็กกว่าที่คุณต้องการ คุณควรเน้นไปที่การค้นหาเสื้อผ้าที่เข้ารูปกับตัวเองโดยตรง ถ้าเป็นไปได้ก็เอากรรไกรตัดป้ายขนาดเสื้อออกไปจากเสื้อผ้าทุกตัวของคุณ เพื่อให้เคยชินกับเรื่องนี้ดีกว่า
     

   • หาเวลาดูแลตัวเองบ้างคุณ ตัวคุณย่อมมีค่าควรแก่การใส่ใจ และคู่ควรที่จะได้รู้สึกดีที่สุดเสมอ จัดตารางเวลาในแต่ละวันสำหรับการดูแลเสื้อผ้าหน้าผมตัวเอง และอย่าผิดนัดกับตัวเองในช่วงเวลาเหล่านี้ การเอาแต่พร่ำบอกตัวเองว่า จะดูเทอะทะบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงตัวฉันก็อ้วนอยู่แล้ว เป็นการพูดกับตัวเองที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ จงใส่ใจผิวพรรณเส้นผมเล็บมือเล็บเท้า แม้แต่เส้นขนตามร่างกาย (ตามความจำเป็น) และเครื่องสำอางที่คุณใช้ด้วย(ตามความจำเป็นเช่นกัน)
   • จงพอใจในรูปร่างของตัวเองอย่างที่มันเป็นอยู่ในปัจจุบัน คุณอาจจะมีแผนการฟิตหุ่นตัวเองในระยะยาว แต่โดยทั่วไปแล้ว มันจะไม่ได้เห็นผลลัพธ์ภายในข้ามคืน แทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับรูปลักษณะที่คุณไม่ได้มีอยู่ จงเปลี่ยนมารู้สึกขอบคุณรูปร่างของตัวเองที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น จำไว้ว่า คุณมีรูปร่างได้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น จงปฏิบัติต่อมันให้ดีที่สุด
     

2. 2

   สวมใส่เสื้อผ้าแต่ละชุดอย่างมั่นใจ. ไม่ว่าคุณจะเลือกสวมใส่สิ่งใด จำไว้ว่า คุณก็แค่นำสิ่งทอเหล่านี้มาใช้งาน ไม่ใช่ในทางกลับกัน ซึ่งหากคุณยังมีปัญหาเรื่องความมั่นใจ ลองทำตามคำแนะนำดังนี้:

   • อย่าซื้อเสื้อผ้า "ใหญ่โคร่ง" เสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่เกินไปอาจจะดูเหมือนกับว่าเป็นผลดีต่อตนเองในเรื่องการช่วยบดบังรูปร่าง แต่ที่จริงแล้ว มันจะสื่อถึงความไม่มั่นใจในตัวเอง ดังนั้น จงซื้อเสื้อผ้าที่เข้ารูปพอดี โดยใช้สีสัน รูปทรง และการประดับตกแต่งชุดดังกล่าว เพื่อเบี่ยงเบนสายตาไปจากข้อด้อยของคุณ (ดูรายละเอียดเพิ่มจากด้านล่าง).
     

   • ฝึกฝนการจัดวางท่าทางบุคลิกให้เหมาะสม ลักษณะท่าทางของคุณ สามารถสร้างความแตกต่างให้กับเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ได้ พยายามเชิดหน้าเล็กน้อย จากหัวไหล่ให้ผายไปด้านหลัง ยืดหลังให้ตรง และปรับระดับเอวให้อยู่แนวกึ่งกลางระหว่างขา 2 ข้าง เวลาเดิน อย่าเร่งสับขาและเท้าลากพื้น คุณควรฝึกเดินให้ "พลิ้ว" แบบที่พวกผู้เข้าประกวดนางงามฝึกฝนกัน ซึ่งเป็นการเดินที่ไม่ทำให้ร่างกายกระโดกกระเดกขึ้นลงมากเกินไป โดยคุณอาจจะนำหนังสือมาวางไว้บนหัวและฝึกเดินในลักษณะดังกล่าวก็ได้
     

   • แฟชั่นเป็นสิ่งที่ควรจะทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเอง และเสื้อผ้าก็ไม่ควรจะทำให้คุณรู้สึกแย่ มันควรจะเป็นสิ่งที่นำมาซึ่งความสบาย ความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย ตรงไปตรงมา และสร้างความสุนทรีย์ให้กับคุณ หากไม่มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แสดงว่า เสื้อผ้าดังกล่าวไม่ได้ออกแบบมา สำหรับคุณ แล้วล่ะ

3. 

   3

   รู้สัดส่วนของตัวเองอย่างดี. การเอาสายวัดมาวัดส่วนต่างๆ ของร่างกายคุณ อาจเป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวมากที่สุด แต่คุณก็จำเป็นต้องรู้สัดส่วนของตัวเอง หากต้องการแต่งตัวอย่างเหมาะสม พยายามหลีกเลี่ยงทัศนคติดังกล่าวให้มากที่สุด และจำไว้ว่า ตัวเลขเหล่านี้ก็เป็นเพียงตัวเลขแบบสุ่มทั่วไป มันไม่ได้เป็นตัวเลขที่กำหนดความเป็นตัวคุณ

   • เลือกซื้อสายวัดแบบนิ่มๆ ซึ่งสามารถหมุนขดได้เวลาที่จะเก็บ ช่างตัดเสื้อและช่างตัดเย็บต่างก็ใช้สายวัดแบบนี้กัน แต่หากคุณต้องการประหยัดเงิน ก็สามารถไปยืมจากพวกร้านซักรีดได้
   • นำมาวัดขนาดลำคอ หน้าอก ร่องอก ใต้ราวนม (สำหรับผู้หญิง) เอว สะโพก และต้นขา
   • จดบันทึกสัดส่วนของคุณไว้ และเก็บไว้ในที่หยิบมาดูได้ง่ายๆ คุณจะได้รู้ความต้องการของตัวเองทุกครั้ง เวลาที่ไปช็อปปิ้ง

4. 

   4

   เลือกเสื้อผ้าจากช่างหรือร้านตัดเย็บที่มีคุณภาพ. บางครั้งขนาดตัวของคุณอาจจะไม่ได้ฟิตทันทีที่ "ออกมาจากโรงงาน" คุณอาจจะมีรูปร่างแบบช่วงบนใหญ่ แต่เอวคอด เป็นต้น ซึ่งเสื้อผ้าส่วนใหญ่ที่พอดีช่วงบนของคุณ กลับกลบเอวไปเสียหมด ดังนั้้น แทนที่จะทนใส่เสื้อผ้าดังกล่าวในแต่ละวัน คุณควรนำมันไปให้มืออาชีพแก้ไขหรือปรับขนาด โดยคุณอาจจะขอคำแนะนำจากร้านซักรีดต่างๆ ร่วมด้วยก็ได้

   โฆษณา

1. 

   1

   จงทำให้การช็อปปิ้งเป็นประสบการณ์ส่วนตัวในเชิงบวก. หากคุณรู้สึกแย่ทุกครั้งที่ออกไปช็อปปิ้ง เพราะมันบังคับให้คุณต้องสนใจกับรูปร่างของตัวเอง จงพยายามปรับเปลี่ยนประสบการณ์ให้เป็นเรื่องน่าสนุกสนาน คุณอาจจะพาเพื่อนที่ร่าเริงไปกับคุณด้วย หรือตั้งจิตใจให้แนวแน่ว่า จะไม่ยอมให้สิ่งใดมาทำให้คุณรู้สึกแย่ในวันนี้ จงมองพนักงานร้านเสื้อผ้าต่างๆ ว่า พวกเขาเป็นผู้ที่ใส่ใจเกี่ยวกับเสื้อผ้า และยินดีที่จะช่วยเลือกเสื้อผ้าที่จะทำให้คุณดูดีที่สุดได้ หากพนักงานร้านไหนทำให้คุณผิดหวังในเรื่องนี้ ก็จงเปลี่ยนไปซื้อกับพนักงานคนอื่นหรือร้านอื่นทันที

2. 

   2

   เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ. แทนที่จะเลือกซื้อชุดที่ดูเฉิ่มและไร้คุณภาพจำนวนมาก ซึ่งคุณใส่แล้วดูหมองลง คุณควรจะลงทุนซื้อเสื้อผ้าคุณภาพดีๆ เพียงแค่ไม่กี่ชุด ในแบบที่คุณใส่แล้วชอบและอยู่ทนนาน

   • อย่าเอาแต่ไปคุ้ยกระบะลดราคา เพราะพวกสินค้าลดราคา อาจจะเหมาะสมในกรณีที่มันเป็นแบบที่คุณต้องการอยู่แล้ว เมื่อเทียบกับราคาอันย่อมเยา แต่อย่านำมันมาเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นในการเลือกซื้อ ลองคิดอีกมุมดูก็แล้วกันว่า เสื้อผ้าคุณภาพสูงเพียงไม่กี่ตัว ที่จะทำให้คุณใส่แล้วรู้สึกดี แถมยังทนนานไปอีก 3-4 ปีข้างหน้า ย่อมมีคุณค่ามากกว่าเสื้อผ้าจากกระบะลดราคา 10-15 ตัว ซึ่งคุณอาจใส่แล้วรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเต็มที่ แถมยังหมดสภาพอย่างรวดเร็วด้วย

3. 

   3

   เลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับวัยของคุณ (โดยเฉพาะคุณผู้หญิง). นี่คือกฎหลักที่คุณต้องจำไว้:  หากมีคนที่อายุอ่อนหรือแก่กว่าคุณประมาณ 20 ปีเข้าไปเลือกซื้อในแผนกเดียวกันนั้นด้วยล่ะก็ จงเปลี่ยนซะ คุณต้องไม่เลือกเสื้อผ้าที่ดูเด็กเกินไปหรือดูพยายามมากเกินไป แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็ไม่ควรซื้อเสื้อผ้าที่ทำให้คุณดูแก่ลง หากคุณไม่แน่ใจก็ลองหันไปมองลูกค้าคนอื่นๆ รอบตัวคุณ พวกเขาดูรุ่นราวคราวเดียวกับคุณหรือไม่

4. 

   4

   ลองสวมชุดที่คุณอยากซื้อและมองจากหลายๆ มุม. ลองนั่งอยู่หน้ากระจกห้องลองเสื้อสักพักก่อน เพราะคนที่มีน้ำหนักตัวเกินหลายคนลืมนึกไปว่า ชุดที่สวมใส่แล้วดูดีในขณะที่ตนเองยืน อาจจะดูน่าเกลียดเวลาที่นั่งลง นอกจากนี้ กระโปรงของคุณมักถลกขึ้นมาและเผยให้เห็นต้นขาเป็นจ้ำๆ หรือเปล่า และคุณสามารถยกแขนเรียกเพื่อนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนได้ โดยไม่ติดแขนเสื้อหรือเปล่า หากมีโอกาสที่คุณใส่ชุดใดๆ แล้วจะทำให้รู้สึกอึดอัด ก็ต้องมองหาทางเลือกอื่นก่อน ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการที่ต้องคอยระแวงว่า การเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของคุณจะทำให้ตะเข็บฉีกขาดหรือไม่

   โฆษณา

เคล็ดลับ

• อย่าสวมชุดที่รัดหรือเล็กเกินไป เพราะมันจะทำให้คุณดูตัวใหญ่ขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็ต้องไม่สวมชุดที่หลวมเกินไป
• พยายามแต่งองค์ทรงเครื่องให้ดีๆ ผู้หญิงที่ไซส์ใหญ่ แต่มีกลิ่นกายรัญจวนใจจากน้ำหอมชาแนล และมีเล็บที่ดูเก๋ไก๋ นั่งด้วยท่วงท่าที่สง่างาม และมีเส้นผมสุขภาพดีเงางามเป็นประกาย ย่อมเหนือชั้นกว่าผู้หญิงที่ผอมเพรียว แต่ดูเหมือนกับไม่ได้อาบน้ำก่อนออกจากบ้าน
• คุณควรตระหนักในพลังแห่งมายาทางสายตา บางครั้งคุณอาจจะได้เจอผู้หญิงบางคน ที่สามารถทำให้คุณตะลึงได้ด้วยการสวมสร้อยคอโบราณ สะพายกระเป๋าเป็นสิบๆ ใบ นุ่งกระโปรงสั่งตัด และการแต่งหน้าอย่างงดงาม โดยที่คุณอาจตระหนักในอีกชั่วขณะถัดมาว่า เธอมีหุ่นบิ๊กไซส์ แต่เธอก็ยังดูดีเช่นนั้นได้ หากคุณออกจากบ้านด้วยความมั่นใจว่า ตนเองดูเลิศที่สุดแล้ว คนส่วนใหญ่ก็มักจะคิดคล้อยตามคุณ
• อย่าสวมใส่สิ่งใดที่ดูรัดติ้วเกินไป มีผลการทดสอบในลักษณะที่ให้ผู้หญิง 2 คนซึ่งขนาดตัวเท่ากัน คนแรกสวมชุดที่ขนาดพอดีตัว ส่วนอีกคนหนึ่งใส่ชุดที่รัดติ้ว ปรากฏว่า ผู้หญิง 97 เปอร์เซ็นต์คิดว่า คนที่ใส่ชุดรัดติ้วมีขนาดตัวใหญ่กว่า เพราะการสวมชุดรัดๆ ไม่เพียงแต่จะทำให้เนื้อหนังร่างกายของคุณปลิ้นออกมา มันยังทำให้คุณนั่ง ก้ม หรือแม้แต่เดิน ลำบากมากกว่าเดิมอีก
• ผมที่ยาวทั่วถึง ก็เป็นเครื่องช่วยที่ดี มันจะช่วยให้ร่างกายคุณดูสมดุลได้ ผู้หญิงตัวใหญ่ที่ไว้ผมสั้นเหมือนผู้ชาย มีแนวโน้มที่จะถูกมองว่า มีศีรษะเล็กเป็นถั่วลันเตา ดังนั้น เส้นผมที่ไว้ยาวประหัวไหล่ อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ทรงผมใดก็ตามที่ดูอิ่มเอิบและเปล่งประกาย จะดูดีสำหรับผู้ที่มีหัวไหล่กลมมนและหน้าอกใหญ่
• ร่องอกของสาวๆ เป็นอาวุธที่สามารถนำมาใช้ผลทุกครั้ง เนินอกที่ดูอวบอิ่มและมีน้ำมีนวล ไม่หย่อนคล้อย แต่ชูเชิดเป็นสง่าเด่นล้ำช่วงต้นคอ หรือเผยออกมาท่ามกลางกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ปลดออก ย่อมทำให้ผู้คนที่ได้เห็น ยอมมองข้ามจุดบกพร่องอื่นๆ ในตัวคุณไปโดยไม่ถือสา
• ลองใส่ชุดแบบพันตัว ซึ่งไม่ได้ดูดีไปในทุกโอกาสอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่หากลองใส่คู่กับกางเกงขายาว ก็อาจจะดูดีสำหรับคุณได้
• ลองหัดเย็บผ้ามาใช้ดูเองบ้างก็ได้ หากมีหุ่นแบบลูกแพร ก็ตัดเย็บกระโปรงแบบเอไลน์ให้ยาวถึงน่อง และสำหรับหุ่นแบบลูกแอปเปิล ก็ตัดเป็นทรงเพรียวลมให้ยาวถึงหัวเข่า ซึ่งเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ต่อให้ใช้มือทำ ก็ยังอาจใช้เวลาเพียงครึ่งวัน จากนั้น คุณก็จะมีชุดใส่พอดีตัวแบบที่ไม่ซ้ำใครเลย
• ชีวิตคนเรามันสั้นเกินกว่าจะจมอยู่กับทุกข์ ใครๆ ต่างก็มีจุดบกพร่องกันทั้งนั้น รูปลักษณ์โดยรวมของคุณ มีความสำคัญมากกว่าขนาดของร่างกาย ดังนั้น จงเปิดใจรับตนเองและมีรอยยิ้มอยู่เสมอ
• จำไว้ว่า ตัวตนภายในต่างหากที่สำคัญ จงเรียนรู้ที่จะรักตนเองก่อน ส่วนเรื่องของเสื้อผ้า ก็เป็นแค่ผักชีโรยหน้าเท่านั้น
• ลองถ่ายรูปตนเองกำลังสวม ชุดโปรด และลองสำรวจตัวเองอย่างตรงไปตรงมาว่า สามารถแก้ไขตรงจุดไหนได้อีกบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความฟิต ทรงผม หรือเครื่องประดับที่เลือกมาใส่ จำไว้ว่า คุณควรพยายามเป็นนักวิจารณ์ที่สร้างสรรค์ที่สุดสำหรับตนเอง ไม่ใช่นักวิจารณ์แย่ๆ
• อย่ากลัวที่จะเลือกซื้อเสื้อผ้าตัวใหญ่มาสวมใส่ เช่นเดียวกันกับอายุและน้ำหนักของคุณ ขนาดมันเป็นแค่ตัวเลข และไม่ได้บ่งบอกความเป็นตัวตนอันแท้จริงของคุณ ดังนั้น หากคุณมีปัญหาในการเลือกหาชุดที่พอดีกับตนเอง ก็ลองหันไปมองรอบตัวและถามคนที่มีไซส์ใกล้เคียงกับคุณว่า พวกเขาหาซื้อเสื้อผ้าดังกล่าวมาจากร้านใด นอกจากนี้ หากรู้จักหาข้อมูลสักนิดเกี่ยวกับร้านเสื้อผ้ายี่ห้อโปรดของคุณ คุณก็อาจโชคดีได้เจอเสื้อผ้าแบบเดียวกับที่คุณเล็งไว้ แต่มีขนาดใหญ่กว่าในร้าน ให้เลือกซื้อได้ผ่านทางหน้าเว็บ คุณสามารถหาเสื้อผ้าให้ตรงตามสไตล์และความต้องการของตนเองได้เสมอ
• เวลาซื้อเสื้อยืด พยายามอย่าเลือกแบบที่มีคอเสื้อชิดติดลำคอมากเกินไป เพราะมันจะทำให้คางของคุณดูเด่นเกิน โดยเฉพาะหากคุณเป็นคนที่มีคางสองชั้น พยายามเลือกเสื้อยืดคอวีมาใส่จะดีกว่า

โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 11,011 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม