เปรียบเทียบล้อแม็ก 17 กับ 18 กระบะ

Sepertinya Anda menyalahgunakan fitur ini dengan menggunakannya terlalu cepat. Anda dilarang menggunakan fitur ini untuk sementara.

Jika Anda merasa ini tidak melanggar Standar Komunitas, beri tahu kami.

          หลังจากถอยรถออกจากโชว์รูมมา ของแต่ชิ้นแรกๆ ที่เพื่อนๆ นึกถึงก็คงจะหนีไม่พ้น “ล้อสวยๆ กับยางดีๆ” สักชุด ถ้าเลือกลายได้ลงตัวกับตัวรถอีกล่ะก็ รถของเพื่อนๆ จะมีความหล่ออย่างที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย บวกกับยางคุณภาพเยี่ยมที่ช่วยให้ขับหนึบขึ้นทันตาเห็น จะมีเหตุผลอะไรที่จะไม่เปลี่ยนล้อกันล่ะครับ แต่อย่างไรก็ตามการเลือกล้อนั้น ไม่ใช่ว่าจะเดินเข้าไปร้าน แล้วจิ้มลายที่ถูกใจได้เลย ซึ่งวันนี้ทางคอลัมน์ความรู้เรื่องรถ จะมาแนะนำเพื่อนๆ ว่าจะเลือกล้อสักวงนั้น ต้องดูอะไรกันบ้าง

เปรียบเทียบล้อแม็ก 17 กับ 18 กระบะ

          ปัจจุบันนั้นน่าตกใจมาก เพราะเพื่อนๆ ส่วนใหญ่มักจะเลือกเอาลายล้อที่ถูกใจมากกว่าคุณภาพ และผลลัพธ์ที่ได้ ซึ่งการเปลี่ยนแม็กนั้น ต้องขอเน้นยำว่า...ถึงจะเป็นของแต่งที่ไม่ได้แพงอะไรมากมายแต่มันก็เป็นส่วนที่เราต้องคำนึงถึงมากที่สุด เนื่องจากมันเป็นเพียงชิ้นส่วนเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนน และเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำให้รถเคลือนที่ได้ ฉะนั้นการใส่ใจกับการเลือกนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ ทั้งเลือก Spec ของแม็กและยาง โดยเรามาเริ่มกันที่ล้อแม็กกันก่อนครับ

เปรียบเทียบล้อแม็ก 17 กับ 18 กระบะ

ล้อแม็ก

          ก่อนที่เพื่อนๆ จะเปิดหน้าเว็บไซต์ เพื่อหาลายแม็กที่ชอบ ให้เพื่อนๆ กลับมาดูล้อของตัวเองเสียก่อนครับว่ามี “ขนาด” เท่าไหร่ โดยเริ่มจากดูจากขนาดยางที่รัดอยู่กับล้อ เช่น ยางขนาด 175/65/15 นั่นก็หมายถึงเพื่อนๆ มีล้อที่หน้ากว้าง 175 มม. ขอบ 15 นิ้ว นั่นเองครับ ต่อไปก็ดูจำนวนน๊อตยึดและขนาดของ Bolt Circle Diameter (BCD) หรือที่คุ้นหูว่า Pitch Circle Diameter (PCD) ซึ่งในส่วนนี้อาจจะต้องพึ่งคู่มือรถสักหน่อย เพราะรถบางคันนั้น มีขนาดของรูที่เฉพาะตัวเช่นพวก PCD = 114.3 เป็นต้น หลังจากเพื่อนๆ ทราบถึง Spec ล้อของเพื่อนๆ แล้ว ทีนี้ก็หาลายที่ชอบใจได้เลยครับ

การเลือกล้อแม็ก

          หลังจากที่เพื่อนได้ลวดลายที่ถูกใจวัยรุ่นแล้ว ก็มาดู Spec กันต่อ เช่น ล้อเดิมของเพื่อนๆมีขนาด 16’’ หน้ากว้าง 175 มม. แต่อยากได้ล้อขอบ 17’’ หน้ากว้าง 8 นิ้ว จะต้องทำอย่างไร แล้วจะได้ความสูงเท่าเดิมไหม แล้วความนิ่มนวลจะเปลี่ยนแปลงไหม เรามีสูตรคำนวนกันอย่างง่ายๆ ครับ โดยที่เทียบกันกับของเดิม โดยมีสูตรคิดง่ายๆ คือ หน้ากว้าง X แก้มยาง หารด้วย 100 เมื่อได้ผลลัพธ์แล้วหารด้วย 25.4 ต่อจากนั้น X 2 (เพราะคิดค่าที่หน้ายางบน-ล่าง) จบด้วย + กับขอบล้อ” โดยที่สามารถเทียบผลลัพธ์ที่ได้กับล้อที่จะเปลี่ยน โดยให้ตัวเลขใกล้เคียงกันมากที่สุด ตัวอย่างการคำนวน เช่น

เปรียบเทียบล้อแม็ก 17 กับ 18 กระบะ

ขนาดล้อเดิม

175/65/16 = (175 X .65) /25.4) X 2)+16 = 24.95

ขนาดล้อใหม่

205/45/17 =  (205 X .45) /25.4) X 2) +17 = 24.26

หรือ

205/55/17 =   (205 X .55) /25.4) X 2)+17 = 25.87

**ถ้าเลือกควรเลือกให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงผลเดิมมากที่สุด**

          นอกจากนี้การเลือกหน้ากว้างของแม็กที่มากเกินไป ทำให้อาจมีผลเสียตามมาหลายๆ อย่าง เริ่มจากวงเลี้ยวที่จะกว้างขึ้น หรือรวมไปถึงหากเลือกหน้ากว้างจนต้องดึงยาง อาจจะทำให้รถต้องใช้กำลังมากในการทำให้ล้อหมุน นั่นหมายถึงอัตราการสิ้นเปลืองที่อาจจะเพิ่มขึ้น รวมไปถึงพละกำลังที่ลดลงไปไม่น้อยครับ หลังจากได้ขนาดหน้ากว้างของล้อแม็ก รวมไปถึงขนาดยางแล้วเรื่องต่อไปก็มาดูกันถึงการเลือก OFFSET กันต่อเลยครับ

เปรียบเทียบล้อแม็ก 17 กับ 18 กระบะ

OFFSET

         มาถึงจุดที่เรียกได้ว่าละเอียดอ่อนที่สุดของรถเลยก็ว่าได้ครับ เพราะมันสามารถเปลี่ยนรถของเพื่อนๆ ไปได้อย่างสิ้นเชิง เหมือนกับเป็นรถคนละคันเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นวันนี้เราจะมาทำให้เพื่อนๆ รู้จักกับ OFFSET ล้อกันเสียหน่อยนะครับ คำว่า OFFSET คือ ตัวเลขที่บอกถึงระยะห่างของดุมล้อของรถกับจุดกึ่งกลางของล้อแม็กนั่นเองครับ ซึ่งจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบหลักๆ คือ

  • ZERO OFFSET

          จะเรียกได้ว่าขนาดเกือบเท่าล้อเดิมเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ได้มีการแปรผันระยะความห่างแต่อย่างใด โดยที่ถ้าใส่แล้วจะได้ความพอดีแบบไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเลยครับ

  • POSITIVE OFFSET

          เป็นแบบที่นิยมมากที่สุดในตลาดรถแต่ง ซึ่งมันก็คือ ล้อแม็กที่เป็นจำพวกล้อก้านยกต่างๆ ที่ลายจะขึ้นมาอยู่ด้านหน้ามากกว่าปกติ ทำให้เวลาติดตั้งแล้ว ตัวของล้อจะอยู่ในซุ้มมากกว่าเดิม ส่งผลให้หากเลือกขนาดที่ไม่พอเหมาะกับรถแล้วล่ะก็ นอกจากทำให้รถเลี้ยวยากแล้ว อาจถึงขั้นเลี้ยวแล้วล้อมีการเสียดสีกับซุ้มล้อภายใน และที่สำคัญคือ หากมากเกินไปอาจจะทำให้การทำงานของช่วงล่างผิดเพี้ยนไปจนอาจเกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนต่างๆ ได้นั่นเอง ซึ่งก็มีทางแก้ไขด้วยการเสริม Spacer ครับ

  • NEGATIVE OFFSET

          แบบนี้มักจะพบได้ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม เช่น พวก Flush Style เป็นต้น โดยที่ออฟเซทแบบนี้ จะแตกต่างจาก POSITIVE OFFSET โดยสิ้นเชิง เพราะตัวของลายจะอยู่ลึกกว่ากึ่งกลางล้อแม็ก ทำให้มีขนาดความลึกของล้อที่ดูลึกว่าปกตินั่นเองครับ

เปรียบเทียบล้อแม็ก 17 กับ 18 กระบะ

          สำหรับการเลือกออฟเซทที่ถูกต้องนั้น ควรทราบถึง ออฟเซทของล้อเดิมเสียก่อน หลังจากนั้นให้ลองเทียบกับล้อที่เพื่อนๆ ชอบ ซึ่งจากที่หาข้อมูลมาก หลายๆ ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้เลือกออฟเซ็ทที่มีขนาดใกล้เคียงของเดิมโดยที่ให้ “ลด” ขนาดของออฟเซทลง 7-9 มม เนื่องจากล้อเเม็กส่วนใหญ่นั้น จะมีขนาดที่เป็น OverSize อยู่แล้วนั่นเองครับ อย่างไรก็ตามเพื่อนๆ ก็ลองสอบถามข้อมมูลเพิ่มเติมจากคนขาย เพื่อให้ได้ Spec ที่แน่นอนของแม็กรุ่นนั้นๆ ก่อนใส่อีกครั้งครับ

            เอาละครับ...เป็นอย่างไรบ้าง กับคำแนะนำเล็กๆ น้อยในการเลือกล้อแม็กดีๆ สักชุด เพื่อประสิทธิภาพของรถที่ยังคงเดิมหรือเพิ่มขึ้น การใส่ใจในจุดเล็กๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนะครับ สำหรับวันนี้ต้องลาไปแล้ว คอลัมน์ความรู้เรื่องรถครั้งหน้า จะเป็นเรื่องอะไร อย่าลืมติตตามกันนะครับ