เปรียบเทียบ ไอ โฟน X กับ XS Max

เปรียบเทียบ ไอ โฟน X กับ XS Max

iPhone XS และ iPhone XS Max วางขายในไทยอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว เราจะพามาดูความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นนี้กันแบบละเอียดยิบทุกมุมไปเลย

เชื่อแน่ว่าตอนนี้คงมีใครหลายคนรอที่จะจับจองเป็นเจ้าของมือถือ iPhone รุ่นใหม่ล่าสุด ในชื่อว่า iPhone XS และ iPhone XS Max กันอยู่แน่นอน เพราะว่าในบ้านเราก็ได้ออกขายมาอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว แต่เจ้ามือถือตัวนี้ก็มีมาให้เลือกัน 2 ขนาด เราจะพามาดูความแตกต่างกันแบบละเอียดยิบทุกมุมไปเลย

เปรียบเทียบ ไอ โฟน X กับ XS Max

หน้าจอและขนาดตัวเครื่อง

เริ่มที่ขนาดที่เห็นได้อย่างชัดเจนกันก่อนเลย ตัว iPhone XS จะมีขนาดหน้าจอที่ 5.8 นิ้ว ความละเอียด 2,436 x 1,125 พิกเซล ขนาดตัวเครื่องนี่ก็คือเท่ากับ iPhone X ตัวก่อนหน้านี้เลย ส่วนอีกรุ่น iPhone XS Max มีขนาดหน้าจอที่ 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2,688 x 1,242 พิกเซล ถือเป็นขนาดหน้าที่ใหญ่ที่สุดของ iPhone ตั้งแต่ Apple เคยทำมา ขนาดตัวเครื่องก็จะพอๆกันกับ iPhone 8 Plus อันนี้ลองจับถือกันดูได้เลย ว่าชอบขนาดไหนมากกว่า เทียบเอาจากขนาดรุ่นเดิมก็ได้ และเทคโนโลยีหน้าจอที่ใช้ก็จะเป็น OLED เหมือนกันทั้งคู่

เปรียบเทียบ ไอ โฟน X กับ XS Max

กล้อง

กล้องของทั้งสองรุ่น จะไม่มีแตกต่างกัน มีสเปคที่เหมือนกันเลย คือเป็นกล้องคู่ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลมาสองตัว ตัวนึงจะเป็นระยะมุมกว้าง รูรับแสงกว้างสุดที่ f/1.8 ส่วนอีกตัวเป็นเลนส์ซูมระยะไกล รูรับแสงกว้าง f/2.4 รองรับระยะซูมได้ 2x และสามารถซูมแบบ Digital ได้อีก 10x

เปรียบเทียบ ไอ โฟน X กับ XS Max

ระยะเวลาแบตเตอรี่

เนื่องจาก iPhone XS Max นั้นมีขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่กว่า และยังเป็นเครื่องที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุด เท่าที่ Apple เคยใส่ลงมาให้กับมือถือ iPhone ทำให้สามารถใช้งานท่องเว็บได้นานราว 10 ชั่วโมง 38 นาที ในขณะที่ตัว XS จะได้อยู่ที่ 9:41 ชั่วโมง

เปรียบเทียบ ไอ โฟน X กับ XS Max

ส่วนเรื่องของระบบชาร์จเร็วนั้น จะรองรับทั้งคู่เหมือนกัน ชาร์จจนเต็มครึ่งนึงได้ภายในเวลา 30 นาที (กับการทดสอบด้วยหัวชาร์จ Apple 30W และ 87W) ซึ่งแน่นอนว่าจำเป็นที่จะต้องซื้อหัวชาร์จกำลังไฟสูงนี้แยก ไม่ได้แถมมาให้ในกล่อง

ประสิทธิภาพ

ถ้าหากว่าเรื่องความเร็วในการทำงานถือเป็นจุดที่คุณให้ความสำคัญ ก็คงไม่ต้องคิดอะไรมากสักเท่าไหร่ เพราะว่าทั้ง 2 ตัวนั้น ใช้ชิปรุ่นใหม่ล่าสุดตัวเดียวกัน คือรุ่น A12 ถือเป็นชิปแบบ 7 นาโนมเตร ตัวแรกของวงการเลยทีเดียวแหละ

มีหน่วยประมวลภายในทั้งหมด 6-Core และหน่วยกราฟฟิก 4-Core ซึ่งทำให้มันทำงานได้เร็วขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้งยังมีระบบความสามารถใหม่ที่น่าสนใจมากเพิ่มเข้ามา อย่าง Real-Time machine learning ทำงานกับแอพฯระบบ AR ได้ดีขึ้นกว่าเดิม เล่นเกมต่างๆได้ความเร็วภาพระดับ 60 fps และประมวลผลการถ่ายภาพแสงน้อยได้ดีขึ้นด้วย

ทดสอบด้วยการแปลงรหัสไฟล์คลิปวิดีโอ 4K ความยาว 2 นาที ไปเป็นความละเอียด 1080p ชิปตัวนี้ก็ใช้เวลาทั้งหมดแค่เพียง 39 วินาทีเท่านั้น ในขณะที่เครื่องอย่าง Galaxy S9 นั้น ใช้เวลามากกว่าถึง 2:32 นาที

เปรียบเทียบ ไอ โฟน X กับ XS Max

หรือการทดสอบด้วยโปรแกรม Geekbench 4 ก็ได้คะแนนมากถึง 11,515 คะแนน ซึ่งสูงกว่า Note 9 และ OnePlus 6

ความคุ้มค่า

แน่นอนของใหม่ ดีไซน์ใหม่ ชิปแรงสุดแบบนี้ Apple ไม่ได้ทำราคามาต่ำอย่างแน่นอน ถ้าหากว่าใครที่คิดจะซื้อเครื่องเปล่า อาจต้องกำเงินก้อนใหญ่อยู่สักหน่อย หรือไม่อย่างนั้นก็คงต้องมองเป็นการซื้อผูกสัญญากับผู้ให้บริการสัญญาณเครือข่ายมือถือ

ตัว XS เริ่มต้นที่ 39,900 บาท ส่วน XS Max เริ่มที่ 43,900 บาท ต่างกันอยู่ 4,000 บาท แต่ถ้าหากลองดูราคาติดสัญญา XS ก็จะเริ่มที่ 31,200 บาท ส่วน XS Max ที่ 35,200 บาท ประหยัดลงไป 8,700 บาท

Source: tomsguide

ร่วมแสดงความคิดเห็น

ความเห็น

>

เปรียบเทียบ ไอ โฟน X กับ XS Max

เปรียบเทียบ ไอ โฟน X กับ XS Max

สำหรับ iPhone XS Max ที่ Apple เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2018 ที่ผ่านมา เมื่อเทียบสเปกของกล้องหลังระหว่าง iPhone XS Max กับ iPhone X จริง ๆ แล้วแทบจะไม่แตกต่างกันเท่าใดนัก ซึ่งทั้ง 2 รุ่น เป็นกล้องคู่ที่ประกอบด้วยเลนส์ Wide Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.8 และเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.4, รองรับการซูมแบบ Optical ได้ 2 เท่า, ซูมแบบ Digital ได้สูงสุด 10 เท่า และรองรับระบบกันสั่นคู่ (Dual OIS) แต่เนื่องจาก iPhone XS Max เป็นรุ่นใหม่กว่า ทำให้มีการปรับปรุงบางอย่างให้ดีขึ้น ทั้งระยะเลนส์ที่กว้างกว่า, ทำงานได้เร็วกว่า และเก็บรายละเอียดของภาพได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับ iPhone X

เปรียบเทียบ ไอ โฟน X กับ XS Max

ส่วนกล้องด้านหน้า ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับกล้อง TrueDepth ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล แต่เนื่องจาก iPhone XS Max มาพร้อมกับชิปเซ็ตตัวใหม่อย่าง Apple A12 Bionic รวมถึงระบบ Neural Engine รุ่นอัปเกรด และ Image Signal Processor ตัวใหม่ เช่นเดียวกับกล้องคู่ด้านหลัง ทำให้มีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพที่ดีกว่า นอกจากนี้ Portrait Mode บน iPhone XS Max ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ที่สามารถปรับระดับความเบลอของฉากหลังได้ตามต้องการ

ด้วยเหตุนี้ ทางเว็บไซต์ macrumors.com จึงได้ลองเปรียบเทียบภาพถ่ายระหว่าง iPhone XS Max กับ iPhone X ในแต่ละสภาวะแสง มาดูกันกว่าแตกต่างกันแค่ไหน

เปรียบเทียบ ไอ โฟน X กับ XS Max

เปรียบเทียบ ไอ โฟน X กับ XS Max

สำหรับการถ่ายภาพ Portrait Mode นั้น ทางทีมงาน macrumors.com เผยว่า iPhone XS Max สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างวัตถุกับฉากหลังได้ดีขึ้น แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบมากนัก แต่ก็ดีกว่า iPhone X อย่างเห็นได้ชัด เช่นเดียวกับฟีเจอร์ Smart HDR ที่บน iPhone XS Max สามารถเก็บรายละเอียดของแสงเงาในส่วนมืดกับส่วนสว่างได้ดีขึ้นเช่นกัน

เปรียบเทียบ ไอ โฟน X กับ XS Max

โดยฟีเจอร์ Smart HDR จะเห็นได้ชัดจากภาพข้างต้น ในส่วนที่เป็นท้องฟ้า จะเห็นว่า กล้องของ iPhone XS Max จะเก็บรายละเอียดของท้องฟ้าได้ดีกว่า เทียบกับ iPhone X ที่ท้องฟ้าจะดูขาวโพลนเป็นส่วนใหญ่ ทั้ง ๆ ที่ทดสอบถ่ายในเวลาเดียวกัน

เปรียบเทียบ ไอ โฟน X กับ XS Max

สำหรับความแตกต่างของการถ่ายภาพเซลฟี่บน iPhone XS Max ที่ทีมงานได้สังเกตเห็นก็คือ เอฟเฟกต์ Smooth ที่ช่วยลด noise ของภาพถ่ายโดยเฉพาะการถ่ายในที่แสงน้อย รวมถึง Smart HDR ซึ่งช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียนขึ้นก็จริงแต่กลับทำให้ภาพมีความคมชัดน้อยลง ในขณะที่บน iPhone X ไม่พบปัญหาดังกล่าว

เปรียบเทียบ ไอ โฟน X กับ XS Max

เปรียบเทียบ ไอ โฟน X กับ XS Max

ปิดท้ายด้วยการถ่ายวิดีโอที่ถือว่า มีกันสั่นเหมือนกันทั้ง 2 รุ่น แต่ดูเหมือนว่า ระบบกันสั่นบน iPhone XS Max จะดีกว่าเล็กน้อย ซึ่งสามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดในระดับ 4K ได้ และสามารถบันทึกเสียงแบบสเตอริโอได้อีกด้วย

สรุปแล้ว กล้องบน iPhone XS Max ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ iPhone X แต่ยังคงมีปัญหาในบางจุด ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ Smart HDR รวมถึงเอฟเฟกต์ Smooth และการลด noise มากจนเกินไปเมื่อถ่ายในที่แสงน้อย ซึ่งส่งผลทำให้ภาพมีความคมชัดน้อยลง

-------------------------------------
ที่มา : macrumors.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 27/09/2018

iPhone X iPhone XS Max