เราสามารถเบิกเงินสมทบประกันสังคมได้ไหม

กรณีที่ผู้ทำงานมีรายได้ประจำและส่งเงินสมทบประกันสังคมมาตลอด แต่มีอายุยังไม่ถึง 55 ปีบริบูรณ์ อยากจะขอเงินชดเชยเบี้ยชราภาพก่อนได้หรือไม่ เป็นคำถามที่หลายคนอยากทราบ ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกับภาพรวมและวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนประกันสังคมก่อนว่าทำขึ้นเพื่ออะไร กองทุนประกันสังคมมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นกองทุนที่เป็นหลักประกันให้กับผู้มีรายได้ที่ส่งเงินสมทบต่อเนื่อง ให้สามารถเบิกค่าใช้จ่ายทดแทนได้ ในกรณีเกิดเจ็บป่วย เกิดอุบัติเหตุ ที่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล กรณีคลอดบุตรและต้องเลี้ยงดูบุตร รวมถึงกรณีเบิกค่าใช้จ่ายหากเกิดการว่างงานขึ้นและถือเป็นเงินออมไว้ใช้ในยามเกษียณอีกด้วย
เราสามารถเบิกเงินสมทบประกันสังคมได้ไหม

ดังนั้นในส่วนของเงินชดเชยค่าเบี้ยชราภาพที่ทางประกันสังคมมีข้อกำหนดไว้ว่า จะสามารถใช้สิทธิเบิกเงินชดเชยได้ในกรณีที่ผู้ประกันตนมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ เท่านั้น จึงเป็นข้อกำหนดที่จำเป็นเพื่อให้ได้วัตถุประสงค์ของเงินสมทบที่ออมไว้ใช้ในยามเกษียณ หากผู้ประกันตนมีอายุไม่ถึง 55 ปีบริบูรณ์ จึงไม่สามารถขอเบิกค่าชดเชยกรณีชราภาพได้ ยกเว้นกรณีผู้ประกันตนเสียชีวิตก่อนอายุ 55 ปีเท่านั้น ประกันสังคมถึงจะจ่ายเงินชดเชยให้กับทายาทผู้มีสิทธิรับผลประโยชน์

มีหลายความเห็นที่ท้วงติงในเรื่องนี้ว่าทางประกันสังคมควรเปลี่ยนแปลงกฎ ให้สามารถใช้สิทธิเบิกจ่ายได้ก่อนที่จะมีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ ในความเห็นของผู้เขียนคิดว่าหากประกันสังคมทำแบบนั้น เรื่องการออมเพื่อใช้ในยามเกษียณก็จะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์เดิมของกองทุน บางคนคิดถึงขั้นว่าหากเราเสียชีวิตไปก่อน เราก็จะไม่ได้ใช้เงินที่เราสมทบไป หรือบางคนคิดว่าการส่งเงินสมทบประกันสังคมเหมือนเป็นการออมภาคบังคับ เหตุที่หลายคนมีความคิดดังกล่าวเป็นเพราะยังไม่อยู่ในวัยเกษียณ และยังไม่เคยได้รับบำเหน็จบำนาญชราภาพ จึงยังไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของกองทุนประกันสังคมนั่นเอง

อย่าลืมว่าเงินสมทบที่เราจ่ายให้กับประกันสังคมทุกเดือนนั้น จะคิดที่ฐานเงินเดือนสูงสุดแค่ 15,000 บาท เท่านั้น ไม่ว่าเงินเดือนของเราจะเป็นกี่หมื่น หรือกี่แสน เราก็จ่ายเงินสมทบเพียงแค่เดือนละ 750 บาท นอกจากนี้นายจ้างยังจ่ายเงินสมทบเบี้ยชราภาพให้อีก 100% หรือ 750 บาททุกเดือนดังนั้นหากเราส่งเงินสมทบประกันสังคมอย่างต่อเนื่อง เราจะได้รับเงินบำนาญชราภาพไว้ใช้ในยามเกษียณ เพื่อเป็นหลักประกันในวัยที่เราไม่มีรายได้แล้ว


เรามาลองดูกันในรายละเอียดว่าสิทธิและเงื่อนไขในการเบิกค่าชดเชยกรณีชราภาพนั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง

เงินบำเหน็จชราภาพ รับค่าชดเชยกรณีชราภาพเป็นเงินก้อน

 

  • กรณีส่งเงินสมทบไม่ครบ 12 งวด เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ จะได้รับเงินชดเชยเป็นเงินก้อนเรียกว่าเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินที่ตัวเองส่งสมทบไปเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ในกรณีส่งเงินสมทบอัตราสูงสุดที่ 750 บาทต่อเดือน หากส่งเงินสมทบแค่ 10 เดือน เงินชดเชยที่ได้ก็จะได้เท่ากับ 450 x 10 = 4,500 บาท
  • กรณีส่งเงินสมทบครบ 12 งวด แต่ไม่ถึง 180 งวด เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ จะได้รับเงินชดเชยเป็นเงินก้อนหรือบำเหน็จเช่นเดียวกับกรณีแรก แต่จะได้มากกว่าคือได้ส่วนที่นายจ้างสมทบเพิ่มด้วย เช่น หากส่งเงินสมทบทั้งหมด 48 เดือน เงินชดเชยที่ได้จะเท่ากับ 450 x 48 = 21,600 บาท บวกเงินสมทบของนายจ้าง 450 x 48 = 21,600 บาท รวมเป็น 43,200 บาท และยังได้ผลประโยชน์ตอบแทนในแต่ละปีตามตารางผลประโยชน์ที่ทางประกันสังคมประกาศไว้เพิ่มเติมด้วย โดยอ้างอิงจาก ข้อมูลด้านสิทธิประโยชน์จากสำนักงานประกันสังคม

เงินบำนาญชราภาพ รับค่าชดเชยกรณีชราภาพเป็นเงินรายเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต

 

กรณีส่งเงินสมทบครบ 180 งวด เมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ จะได้รับเงินชดเชยเป็นเงินรายเดือนหรือเงินบำนาญชราภาพ โดยเงินบำนาญที่จะได้รับแต่ละเดือน คิดเป็น 20% ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย (ปกติอัตราเงินเดือนสูงสุดที่ประกันสังคมคิดจะอยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือน) ส่วนที่ส่งเงินสมทบเกิน 180 งวด ทุก ๆ 12 งวดที่สมทบเพิ่มทางประกันสังคมยังคิดโบนัสเพิ่มให้อีก 1.5% ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายให้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากส่งเงินสมทบมาเป็นเวลา 20 ปี คือ 240 งวด มีวิธีคิดเงินบำนาญรายเดือนดังนี้

เงินบำนาญรายเดือน   = {[20+(1.5*(t-15))]*w}/100

          w                       =  ค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย

          t                        =  ระยะเวลาที่ส่งเงินสมทบกรณีชราภาพ

  • ส่งเงินสมทบ 15 ปี ได้เงินชดเชย

{[20+(1.5*(15-15))]*15,000}/100  =  20% x 15,000 = 3,000 บาท

  • ส่งเงินสมทบ 18 ปี ได้เงินชดเชย

{[20+(1.5*3)]*15,000}/100  =  24.5% x 15,000 = 3,675 บาท

เป็นต้น

ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นจำนวน 3,675 บาททุกเดือน จนกว่าจะเสียชีวิตหรือหากเสียชีวิตก่อน คือ ภายใน 5 ปี ทายาทจะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเป็นเงินก้อนเป็นจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพที่จะได้รับ หากเป็นกรณีตามตัวอย่างทายาทก็จะได้รับเงิน 3,675 x 10 = 36,750 บาท