กองทุนเงินทดแทน คือ กองทุนที่จ่ายเงินเข้า สำนักงานประกันสังคม ทดแทนให้แก่ลูกจ้างแทนนายจ้างเมื่อลูกจ้างประสบอันตราย เจ็บป่วย ถึงแก่ความตาย หรือสูญหาย เนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้า Show กองทุนเงินทดแทน คือ กองทุนที่จ่ายเงินเข้า สำนักงานประกันสังคม ทดแทนให้แก่ลูกจ้างแทนนายจ้างเมื่อลูกจ้างประสบอันตราย เจ็บป่วย ถึงแก่ความตาย หรือสูญหาย เนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างโดยไม่คำนึงถึงวัน เวลา และสถานที่ แต่จะดูจากสาเหตุที่ทำให้ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ซึ่งลูกจ้างจะได้รับสิทธิจากกองทุนเงินทดแทนทันทีนับตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงานให้นายจ้าง กรณีทุพพลภาพ ได้รับค่าทดแทน 70% ของค่าจ้าง
กรณีถึงแก่ความตายหรือสูญหาย ได้รับค่าทดแทน 70% ของค่าจ้าง
ค่าทำศพได้รับตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง
ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน
ที่มาภาพ : สำนักงานประกันสังคม วิธีการแจ้งการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยพร้อมเอกสารประกอบการยื่นคำขอ นายจ้างหรือผู้รับมอบอำนาจแจ้งตามแบบ กท.16 โดยยื่นเรื่อง ณ สำนักงานประกันสังคมที่ลูกจ้างทำงานอยู่หรือที่นายจ้างมีภูมิลำเนา ซึ่งสามารถส่งเอกสารได้โดยตรงที่สำนักงานประกันสังคมหรือส่งทางไปรษณีย์ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ทราบการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยของลูกจ้าง หรือลูกจ้างสามารถยื่นคำร้องขอรับเงินทดแทนภายใน 180 วัน นับแต่วันที่ประสบอันตรายเจ็บป่วยหรือสูญหาย หรือหากการเจ็บป่วยเกิดหลังสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง ให้ยื่นคำร้องภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ทราบการเจ็บป่วย หลักฐานการแจ้งการประสบอันตรายหรือการขอรับเงินทดแทนทุกกรณี 1. แบบแจ้งการประสบอันตราย เจ็บป่วย หรือสูญหาย (กท.16) 2. แบบส่งตัวลูกจ้างเข้ารับการรักษาพยาบาล (กท.44) (กรณีนายจ้างส่งตัวเข้ารับ การรักษาที่สถานพยาบาลในความตกลงของกองทุนเงินทดแทน) ต้นฉบับพร้อมสำเนา 3. ใบรับรองแพทย์ (กท.16/1) หรือใบรับรองแพทย์ของสถานพยาบาล 4. การประสบอันตรายที่ไม่ชัดเจน เช่น อุบัติเหตุรถยนต์ เกิดเหตุนอกสถานที่ เป็นต้น ต้องขอหลักฐานเพิ่ม เช่น หลักฐานการลงเวลาทำงาน บันทึกประจำวันตำรวจ แผนที่เกิดเหตุ เป็นต้น 5. ใบเสร็จรับเงิน (กรณีนายจ้าง ลูกจ้างสำรองจ่ายไปก่อน) 6. กรณีเสียชีวิตหรือสูญหายเนื่องจากการทำงาน ต้องมีหลักฐานแสดงการเสียชีวิต ใบชันสูตรศพ ใบมรณบัตรของลูกจ้าง บันทึกประจำวันตำรวจ (ถ้ามี) พร้อมด้วยหลักฐานของ ผู้มีสิทธิ ดังนี้ สูติบัตรของบุตร ทะเบียนสมรสของลูกจ้างกับสามีหรือภรรยา ทะเบียนสมรสของบิดา - มารดา ทะเบียนบ้านของลูกจ้าง บิดา - มารดา ภรรยาหรือสามี บุตร / ทะเบียนหย่าของลูกจ้างหรือบิดามารดาหรือคู่สมรส (ถ้ามี) / หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ - สกุลของลูกจ้าง บิดา มารดา คู่สมรส บุตร (ถ้ามี) หรือถ้ากรณีผู้มีสิทธิเสียชีวิต ควรมีหลักฐาน ดังนี้ สามีหรือภรรยา บิดามารดา หรือบุตร ต้องมีหลักฐานใบมรณบัตรของทุกคนมาแสดง เพื่อประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ การยื่นแบบการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยหรือสูญหาย (กท.16) เพียงครั้งเดียว สามารถรับสิทธิประโยชน์ได้ทุกกรณี ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน ค่าทำศพ ค่าทดแทนกรณีไม่สามารถทำงานได้ ค่าทดแทนกรณีสูญเสียอวัยวะ ค่าทดแทนกรณีทุพพลภาพ และค่าทดแทนกรณีตายหรือสูญหาย เชื่อว่าคนทำงาน หลายคนคงทำประกันสังคมไว้ดูแลยามเจ็บป่วยอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการประกันตนตามมาตรา 33 สำหรับพนักงานออฟฟิศทั่วไป การประกันตนตามมาตรา 39 สำหรับฟรีแลนซ์หรือคนที่ไม่ทำงานประจำแ และ การประกันตนตามมาตรา 40 สำหรับแรงงานนอกระบบ เช่น ผู้ใช้แรงงาน พ่อค้าแม่ขาย หรือผู้พิการก็สามารถทำได้ เรียกได้ว่า ไม่ว่าคุณจะทำอาชีพอะไร มีรายได้เท่าไหร่ คุณก็สามารถทำประกันสังคมได้ แถมสิทธิประกันสังคม ยังคุ้มครองกรณีรักษาตัวจากอุบัติเหตุด้วย แล้วอย่างนี้ มีประกันสังคมแล้ว ยังจำเป็นต้องมีประกันอุบัติเหตุอีกหรือ ? ใครสงสัยคำถามนี้ วันนี้แฟรงค์มีคำตอบครับ ประกันสังคม ต้องสำรองจ่าย
ประกันสังคม ต้องเดินเรื่องเอง
ประกันอุบัติเหตุ คุ้มครองมากกว่า
|