กู้ร่วมซื้อบ้านกับแฟน แต่เลิกกัน ทำยังไงดี? Show 07 มิถุนายน 2564 ถึงคู่รักจะเลิกกัน แยกทางกัน แต่ภาระหนี้สินที่ซื้อบ้านร่วมกันนั้นยังคงอยู่ แล้วจะทำยังไงกับบ้านหลังนี้ยังต่อไปดีเพื่อจบปัญหา ซึ่งบางกอก แอสเซทฯขอแชร์ 3 วิธีจัดการปัญหาของคู่รักที่กู้ร่วมซื้อบ้านแล้วเลิกกัน มาแนะนำครับ 1. ถอดถอนชื่อผู้กู้ร่วมหากกู้ร่วมซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยกันต้องทำการถอดถอนชื่อคู่รักที่เลิกราออก ซึ่งถูกแบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้ 1.1 การกู้ร่วมซื้อบ้านกับคู่รักที่เลิกราแต่จดทะเบียนสมรส หลังจากตกลงจบความสัมพันธ์ ให้ทำการจดทะเบียนหย่าให้เรียบร้อย จากนั้นนำใบหย่าและสัญญาจะซื้อจะขายไปขอถอนชื่อคู่รักที่เลิกราออกจากสัญญากู้ที่ทำไว้กับธนาคาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารจะเปลี่ยนรูปแบบสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสัญญาเงินกู้ใหม่ 1.2 การกู้ร่วมซื้อบ้านกับคู่รักที่เลิกราไม่ได้จดทะเบียนสมรส สำหรับกรณีนี้การถอนชื่อคู่รักที่เลิกราออกจากการกู้ร่วมซื้อบ้านนั้นไม่ยุ่งยาก เพียงแต่ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของทั้ง 2 ฝ่ายว่าจะให้ใครเป็นคนถือกรรมสิทธิ์เจ้าของสินทรัพย์ที่ตกลงกู้ร่วมด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น บ้าน คอนโด ทาวน์โฮม หรืออาคารพาณิชย์ ทั้งนี้ต้องทำการแจ้งถอดถอนชื่อออกกับทางเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ทำสัญญากู้ไว้ โดยสามารถแจ้งความประสงค์กับธนาคารว่าต้องการถือกรรมสิทธ์เพียงคนเดียว เนื่องจากได้หย่าร้างกันแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ซึ่งธนาคารจะประเมินความสามารถของผู้กู้ว่าสามารถผ่อนชำระต่อได้หรือไม่ อย่างไร 2. รีไฟแนนซ์จากกู้ร่วมเป็นกู้คนเดียวสำหรับขั้นตอนที่ 2 นี้ เป็นทางออกกรณีที่ธนาคารไม่อนุมัติให้ถอนชื่อคู่รักที่กู้ร่วมด้วยกันออก เนื่องจากประเมินแล้วว่าผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้คนเดียวได้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ การรีไฟแนนซ์กับธนาคารอื่นเพื่อทำเรื่องขอกู้ที่อยู่อาศัยเพียงคนเดียว ทั้งนี้ธนาคารจะเป็นผู้ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ โดยมีปัจจัยหลักในการพิจารณาดังต่อไปนี้ 2.1 พิจารณาจากรายได้ของผู้กู้ 2.2 ดูยอดดาวน์ที่กู้ซื้อบ้าน 2.3 เช็คภาระหนี้ต่อเดือนของผู้กู้ 2.4 ประวัติเครดิตบูโรหรือแบล็คลิสต์ 3.ประกาศขายบ้านแบ่งเงินเพื่อแก้ปัญหากู้ร่วมซื้อบ้านหากทั้งสองฝ่ายไม่ต้องการบ้านหลังนี้ การ ขายบ้าน ถือเป็นวิธีที่ปิดการกู้ร่วมและจบปัญหาได้ง่ายโดยทั้งสองฝ่ายไม่ต้องรับภาระในการผ่อนบ้านต่อ ซึ่งต้องยินยอมขายจากทั้งสอง ฝ่าย ทั้งนี้คู่รักจะต้องตรวจสภาพบ้านและค่าธรรมเนียมต่างๆ ก่อน ขายบ้าน ด้วย ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 3.1 ค่าธรรมเนียมการโอน 3.2 ค่าอากรแสตมป์ 3.3 ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย 3.4 ภาษีธุรกิจเฉพาะ สรุปวิธีจัดการปัญหาของคู่รักที่เลิกกันการเลือกวิธีแก้ปัญหาด้วยการ ขายบ้าน ถือเป็นทางออกที่ดี และปิดปัญหาการกู้ร่วมได้โดยไม่ก่อให้เกิดภาระทางการเงินของทั้งสองฝ่ายซึ่งการขายบ้านไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด จะต้องคำนวณค่าใช้จ่ายให้ดี ตั้งราคาให้เหมาะสม และควรมีที่ปรึกษามืออาชีพให้คำแนะนำอย่างเช่น บางกอก แอสเซทฯ หากผู้กู้เลือกทางแก้อย่างหลัง ก็สามารถฝากขายบ้านได้โดยกรอกข้อมูลบ้าน และช่องทางติดต่อกลับ >> คลิกที่นี่ << ที่มา : Krungsri Guru , finstreet , sansiri
建立新帳號 你暫時遭到封鎖看來你過度使用了這項功能。你已被暫時停用此功能。
Meta © 2022 สร้างบ้านในที่ดินของพ่อแม่สามี เมื่อภรรยาต้องการเลิกรา สามารถมีสิทธิ์ในตัวบ้านได้ไหมคะพี่ชายกับพี่สะใภ้แต่งงานกันมาประมาณ 10 ปี โดยจดทะเบียนสมรส ไม่กี่ปีต่อมาก็ร่วมกันปลูกบ้านหลังนึงในที่ดินของพ่อ (ซึ่งที่ดินแปลงนี้ พ่อยังเป็นหนี้ธนาคารอยู่) โดยเอาที่ดินอีกแปลงจำนวน 6 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินมรดกที่ปู่ยกให้พี่ชาย ไปจำนอง เพื่อกู้เงินธนาคารมาปลูกบ้าน แต่ปัจจุบันเพิ่งผ่อนชำระไปได้ไม่กี่งวด (ด้วยพิษเศรษฐกิจ) วันนึงมีเหตุให้หมางเมินกัน แล้วพี่สะใภ้ก็ขนของออกไปอยู่บ้านญาติ พี่ชายตามไปง้องอนก็ไม่กลับ โดยพี่สะใภ้ต้องการจะหย่าขาดจากกัน แต่เมื่อไปที่อำเภอ พี่สะใภ้แจ้งว่าเมื่อหย่าแล้วต้องการจะขอแบ่งบ้าน (ซึ่งอยู่บนที่ดินพ่อและที่ดินนั้นยังเป็นหนี้ธนาคารหลายแสน) และรวมถึงขอแบ่งที่ดิน 6 ไร่ที่เอาไปจำนอง และจะเอาลูกสองคนไปด้วย ในทีแรกพี่ชายไม่ตกลง ด้วยเหตุผลคือไม่ได้อยากหย่าขาดจากกัน แต่มาตอนนี้พี่ชายหมดใจจะง้อพี่สะใภ้แล้ว ด้วยความเบื่อหน่ายเพราะทุกครั้งที่มีปากเสียงกัน พี่สะใภ้จะขนของออกไปตลอด จึงอยากหย่าให้จบๆ เรื่องกันไป ประเด็นคือ พี่สะใภ้กลับบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมหย่าให้ ให้เหตุผลว่า ถ้าไม่แบ่งที่ดินและบ้านให้ ก็จะไม่หย่า จะรอไปฟ้องเอาบ้านและที่ดินก่อน ก็เลยเป็นข้อสงสัยที่อยากถามว่า 1. กรณีแบบนี้ จะแบ่งบ้านที่อยู่บนที่ดินของพ่อ ซึ่งยังเป็นหนี้ธนาคารอยู่ จะแบ่งได้หรือไม่ และแบ่งอย่างไร ขอบคุณค่ะ |