ประโยชน์ของข้าวเหนียวมะม่วง

ข้าวเหนียวมะม่วง เมนูหอมหวานมันความอร่อยที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว นิยมเลือกทานเป็นมะม่วงสุกหวานฉ่ำกำลังดี ทานคู่กันกับข้าวเหนียวมูนหุงนุ่มกลิ่นใบเตย ราดด้วยน้ำกะทิคั้นสด สามารถหาทานได้อย่างแพร่หลายในช่วงหน้าร้อน ถือเป็นเมนูเอกลักษณ์สะท้อนความเป็นไทยแต่โบราณ เป็นที่โปรดปรานทั้งชาวไทยและต่างชาติ ในด้านคุณค่าทางโภชนาการนั้นข้าวเหนียวมะม่วง ถือเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจากวิตามิน ช่วยกระตุ้นระบบการย่อยอาหาร เสริมภูมิต้านทาน บำรุงสายตา และหัวใจ

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเป็นเมนูที่อร่อย และมีประโยชน์ หากทานมากเกินไปก็จะก่อให้เกิดโทษตามมาต่อร่างกายได้  จึงควรเลือกทานแต่พอดี ออกกำลังกายควบคู่เพื่อกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน ป้องกันการสะสมพลังงาน นำไปใช้ได้ไม่หมด เกิดเป็นไขมันสะสมตามร่างกายได้ และสำหรับกลุ่มเสี่ยงมีปัญหาด้านสุขภาพ เช่น  โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต โรคไต แนะนำหลีกเลี่ยงในการทานเพื่อป้องกันการกระตุ้นภาวะอาการของโรค

ข้าวเหนียวมะม่วง 1 จาน

 ข้าวเหนียวมูน 60 g. มะม่วงน้ำดอกไม้ครึ่งซีก

พลังงาน 370 kcal

• คาร์โบไฮเดรต 66 g.

• ไขมัน 10 g.

• โปรตีน  4 g.

• น้ำตาล 12.5 g.

• ใยอาหาร 0.8 g.

ข้อมูลโดย

รัฏฐิการ์ คงประพันธ์

นักกำหนดอาหาร โรงพยาบาลเปาโล เกษตร

มะม่วงสุกที่กินกับข้าวเหนียว จะมีวิตามินแร่ธาตุหลายอย่างถ้าอยากได้ชนิดที่เนื้อเยอะวิตามินเอเยอะ ให้เลือก น้ำดอกไม้และเป็นมะม่วงที่มี มีเบต้าแคโรทีนสูง ข้าวเหนียวมูน มีแคลอรี่สูง จึงไม่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน  ถ้าอยากกินข้าวเหนียวมะม่วงให้เน้นกินมะม่วงมากกว่าข้าวเหนียวเพราะเนื้อมะม่วงมีกากช่วยไม่ให้น้ำตาลซึมเข้าเลือดเร็วไป และไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงและความดันโลหิตสูง เพราะข้าวเหนียวกับกะทิมีความหวานและมัน

มะม่วง เหมาะกับ

ผู้มีปัญหาสิว  เพราะมะม่วงมีกรดดีอยู่หลายชนิดช่วยบำรุงผิว มีวิตามินเอ วิตามินอี

ผู้เบื่ออาหาร เพราะมะม่วงมีวิตามินหลายชนิดช่วยชดเชย เช่นวิตามินเอ วิตามินอี ธาตุเหล็ก

คนท้องเสีย น้ำมะม่วงคั้นสดช่วยเป็นแหล่งน้ำตาล “ฟรุกโตส” ชั้นดีที่ช่วยเติมเต็มให้ในช่วงที่ขาดน้ำและเสียเกลือแร่

          เป็นยังไงกันบ้างกับ 10 ประโยชน์รสหวานที่ได้จากข้าวเหนียวมะม่วง สายอินเทรนด์คนในที่ยังลังเลว่าของอร่อยจานนี้จะทำให้ร่างกายเสียสุขภาพก็ถึงเวลาหมดความกังเวลไปได้เลย แต่ทั้งนี้ก็อย่าลืมที่จะกินอย่างพอดีและกินอาหารที่มีประโยชน์อย่างอื่นควบคู่ไปด้วยเหมือนกัน
          ดังนั้น เราควรทานของอร่อยอย่าง "ข้าวเหนียวมะม่วง" กันแต่พอดี ซึ่งนอกจากจะได้ลิ้มรสถึงความอร่อยของข้าวเหนียวมะม่วงแล้ว เรายังจะได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์จากธรรมชาติอีกด้วย ซึ่งก็นับว่าเป็นอีกวิธีของการบำรุงสุขภาพจากของอร่อยอย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง ที่น่าสนใจไม่น้อย แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรกิน ข้าวเหนียวมะม่วง มากจนเป็นภัยต่อสุขภาพของตนเองนะคะ

ข้าวเหนียวมะม่วง อาหารหวานที่เป็นที่นิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในฤดูร้อน ด้วยรสชาติที่หอม มัน ของข้าวเหนียวมูนและมะม่วงหวาน ๆ เพิ่มความอร่อยด้วยน้ำกะทิ นำไปราดคลุกเคล้าก่อนรับประทาน  แต่อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่กังวลว่ากินข้าวเหนียวมะม่วงแล้วจะอ้วน ไขมันเยอะ และจะต้องกินอย่างไรเพื่อที่จะไม่เป็นภัยต่อสุขภาพ วันนี้เรามีประโยชน์ และเคล็ดลับการกินข้าวเหนียวมะม่วงเพื่อสุขภาพมาฝาก

ข้าวเหนียวมะม่วง คือการนำข้าวเหนียวมามูนกับกะทิ จึงทำให้ขนมชนิดนี้จะเป็นขนมที่ให้พลังงานสูง สามารถรับประทานแทนข้าวได้ โดยประโยชน์ของข้าวเหนียวที่ให้พลังงานมากกว่าข้าวสวยปกติ มีสารอาหารที่เต็มไปด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินอี ธาตุเหล็ก และกรดโฟลิก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของข้าวเหนียว

  • ช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง
  • ช่วยบำรุงเลือดลม ช่วยขับลมในร่างกาย
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เนียนกระจ่างใสขึ้น
  • มีฤทธิ์อุ่น ข่วยในการรักษาอุณหภูมิของร่างกายจากอากาศที่หนาวเย็นได้ดีเยี่ยม
  • ช่วยชะลอความแก่ก่อนวัย ช่วยให้อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายไม่เสื่อมถอยไปก่อนเวลาอันควร
  • ธาตุเหล็กกับกรดโฟลิกในข้าวเหนียว ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ทำให้เม็ดเลือดมีความสมบูรณ์
  • ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของกระเพาะอาหาร ช่วยรักษาสมดุล และให้ความชุ่มชื้นภายในกระเพาะอาหาร
  • ข้าวเหนียวมีโปรตีนเช่นเดียวกับข้าวเจ้า ซึ่งช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย
  • ช่วยคลายเครียด ช่วยทำให้จิตใจสงบ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และช่วยให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในระหว่างวันได้อย่างสดใสร่าเริง
  • ในข้าวเหนียวมีวิตามินอี ที่ช่วยในการบำรุงการทำงานของระบบประสาทกับสมอง และช่วยในการป้องกันปัญหาวุ้นนัยน์ตาเสื่อมกับช่วยในการป้องกันอาการหลอดเลือดหัวใจตีบ

 

ประโยชน์ของกะทิ

  • ช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะเมื่อบริโภคแล้วจะถูกเผาผลาญให้เป็นพลังงานในตับโดยไม่ไปสะสมเป็นไขมัน
  • ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน
  • ช่วยป้องกันแบคทีเรีย ป้องกันจุลินทรีย์ และต้านเชื้อรา
  • เป็นทางเลือกสำหรับผู้แพ้แลคโตสหรือแพ้นมจากสัตว์

 

ประโยชน์ของมะม่วง

มะม่วงเป็นผลไม้รสหวานปนเปรี้ยว ที่มีวิตามินหลายชนิด ให้ไฟเบอร์สูง ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย

อุดมด้วยวิตามินเอ-ซี เบต้าแคโรทีน เส้นใยอาหาร ธาตุเหล็กสูง และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ บำรุงผิวพรรณ บำรุงสายตา เสริมภูมิต้านทานร่างกาย ช่วยระบายท้อง
  • มีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความดันโลหิต สมดุลของน้ำในร่างกาย และหัวใจเต้นปกติ
  • ข้าวเหนียวมูน หรือ ข้าวเหนียวกะทิ

    • ให้พลังงานแก่ร่างกาย

    จะเห็นว่า คุณค่าทางอาหารส่วนใหญ่จะอยู่ที่ผลไม้คุณค่าทางอาหาร อย่าง มะม่วง ส่วนการทานข้าวเหนียวและกะทิ จะช่วยเพิ่มความมัน ความอร่อย ทำให้เราทานมะม่วงได้มากขึ้น

     

    คุณค่าทางโภชนาการ

    ข้าวเหนียวมะม่วง 1 ถ้วย (ประมาณ 240 กรัม)

    • พลังงาน 444 แคลอรี่
    • คาร์โบไฮเดรต 62 กรัม
    • ไขมัน 22.5 กรัม
    • โปรตีน 4.4 กรัม
    • โพแทสเซียม 11%
    • วิตามิน A 18.9%
    • วิตามิน C 54%
    • แคลเซียม 2.7%
    • เหล็ก 20.7%

    หมายเหตุ: คุณค่าทางโภชนาการอาจแตกต่างกัน ขึ้นกับปริมาณสัดส่วนของข้าวเหนียว กะทิ น้ำตาล และมะม่วง

     

    ควรทานช่วงเวลาไหน

    • ข้าวเหนียวมะม่วง ควรทานตอนที่ใช้พลังงานสูง สูญเสียเหงื่อ เช่น ตอนเช้า-กลางวันทำงานนอกสถานที่ ออกกำลังกาย ทำงานบ้าน อากาศร้อน
    • เนื่องจากมีพลังงานสูงพอๆ กับข้าว 1 จาน จึงไม่ควรทานบ่อยเกินไป ไม่ควรทานทุกวันหรือวันละหลายมื้อ อาจทำให้อ้วนได้ง่าย

     

    ข้อควรระวัง และทานอย่างไรให้ได้สุขภาพ

    • ผู้ป่วยเบาหวาน ควรทานแต่น้อย ไม่ควรทานมากเกินไป เช่น ไม่ควรเกินครั้งละ 1 ลูกกลาง และทานไม่เกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์
    • ผู้ป่วยโรคไต  ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทาน
    • มะม่วงสุก จะมีน้ำตาลและแคลอรี่สูงกว่าแบบดิบ
    • ควรทานมะม่วงให้มากกว่าข้าวเหนียว และควรใส่กะทิให้น้อย
    • ถ้าต้องการเน้นสุขภาพ ควรเลือกใช้ ข้าวเหนียวดำ มีสารอาหารที่สูงกว่าข้าวเหนียวขาว

     

    ส่วนมากข้าวเหนียวกะทิอร่อย ๆ มักจะใส่กะทิในปริมาณที่มากพร้อมข้าวเหนียวในสัดส่วนที่เยอะ เพื่อให้ถูกปากคนส่วนใหญ่ แต่ทำให้ได้ปริมาณพลังงานที่สูง จนมีน้ำหนักเพิ่มง่าย มีโอกาสเป็นโรคอ้วนและโรคอื่นที่เกี่ยวกับน้ำหนักตัว

    ถ้าต้องการลดปริมาณกะทิหรือข้าวเหนียว ควรจะบอกร้านค้าก่อนจะเริ่มลงมือทำ หรือซื้อมาทำเองก็จะควบคุมสัดส่วนได้โภชนาการดีกว่า

     

    ขอบคุณข้อมูลจาก: กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, Jones Salad, Nutritionix

    ภาพประกอบจาก: Pixabay

     

    บทความที่เกี่ยวข้อง

    5 ผลไม้น้ำตาลต่ำ คนเป็นเบาหวานทานได้ ช่วยลดน้ำหนัก

    อาหารคลีนกับโรคเบาหวาน โรคเบาหวาน อาหาร สุขภาพ

    5 โรคอันตราย ภัยเงียบของคนอ้วนลงพุง

    ไข้มาลาเรีย โนวไซ ติดจากลิง แพร่เชื้อเร็ว

     

    หากใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่อง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยา และปัญหาเรื่องสุขภาพ สามารถปรึกษาเภสัชกรที่ร้านขายยา Fascino ผ่านระบบเทเลฟาร์มมาซี 

    ข้าวเหนียวมะม่วงมีประโยชน์อะไรบ้าง

    ประโยชน์ของข้าวเหนียวมะม่วง อุดมด้วยวิตามินเอ-ซี เบต้าแคโรทีน เส้นใยอาหาร ธาตุเหล็กสูง และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ บำรุงผิวพรรณ บำรุงสายตา เสริมภูมิต้านทานร่างกาย ช่วยระบายท้อง มีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความดันโลหิต สมดุลของน้ำในร่างกาย และหัวใจเต้นปกติ

    ข้าวเหนียวมีประโยชน์อะไรบ้าง

    ประโยชน์และสรรพคุณของข้าวเหนียว มีดีกว่าที่คิด !.
    ช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง.
    ช่วยบำรุงเลือดลม ช่วยขับลมในร่างกาย.
    ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เนียนกระจ่างใสขึ้น.
    ให้พลังงานสูง ทำให้อิ่มท้องได้นาน ไม่หิวง่าย.
    มีฤทธิ์อุ่น ข่วยในการรักษาอุณหภูมิของร่างกายจากอากาศที่หนาวเย็นได้ดีเยี่ยม.

    ข้าวเหนียว ดีต่อสุขภาพไหม

    ข้าวเหนียวมีโปรตีนเช่นเดียวกับข้าวเจ้า ซึ่งมีประโยชน์ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย รวมทั้งช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายด้วย ข้าวเหนียวมีสรรพคุณขับลมในร่างกาย ช่วยบำรุงเลือดลม และมีฤทธิ์อุ่นจึงยังช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกายจากอากาศที่หนาวเย็นได้ดี

    กินข้าวเหนียวมะม่วง คืออะไร

    ในช่วง พ.ศ. 2519 เป็นต้นมา วลี ข้าวเหนียวมะม่วง เคยถูกใช้เป็นสแลงทางการเมืองแปลว่า "การถูกบังคับให้เสียชีวิตอย่างปริศนาโดยผู้มีอำนาจ" ซึ่งเกิดจากข่าวการเสียชีวิตของพลเอก กฤษณ์ สีวะรา อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาลของเสนีย์ ปราโมช กฤษณ์เป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจทางทหารที่ขัดกันกับกลุ่มอำนาจ ...