เทคโนโลยี แอ พ พลิ เค ชั่ น

3. จะเลือกให้ผู้ใช้โหลดฟรีหรือจ่ายเงิน ซึ่งการที่ลูกค้าจะตัดสินใจเลือกดาวน์โหลดจะขึ้นอยู่กับว่า Apps นั้นตอบสนองสไลฟ์สไตล์หรือไม่ มีประโยชน์ใช้งานอย่างไร หรือใช้เพื่อความบันเทิง จะหารายได้อย่างไร ซึ่งจะต้องเข้าใจก่อนว่า Apps ที่คนยอมเสียเงินดาวน์โหลดเป็น Apps ประเภทไหน ราคาเท่าไร

ตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดในวงกว้างทั่วโลก ทำให้รัฐบาลต่างๆ มีนโยบายในการ Lockdown ประเทศ และไม่ให้ประชาชนออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น บริษัทต่างๆ พัฒนาระบบของตนให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้าน (Work from home) ทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป

การปรับตัวที่สำคัญในการในช่วง Lockdown และ Social Distancing นั้นก็คือการหันมาใช้ ‘เทคโนโลยี’ ในการติดต่อสื่อสาร และทำกิจกรรมระหว่างกัน โดยใช้อินเตอร์เน็ตและแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่เป็นผลผลิตของเทคโนโลยียุคดิจิทัลเข้ามาเป็นตัวกลางในการใช้ชีวิตในปัจจุบัน

ไปดูกันว่าแอปพลิเคชั่น 7 ประเภทที่แจ้งเกิดในยุคโควิด-19 และถูกใช้จนกลายเป็นเรื่องปกติ (New Normal) มีอะไรกันบ้าง?

1. Apps พูดคุยแบบเห็นหน้า (Video Call)

เมื่อต้อง Work from Home ทำงานที่บ้าน ไม่สามารถออกไปไหนได้ การประชุมงาน, การเรียนการสอนจึงต้องปรับตัว และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นตัวช่วยในการติดต่อสื่อสารระหว่างกันของผู้คนในสังคม จะเห็นได้ว่าแอปพลิเคชั่น เช่น Zoom, Google Meet, Skype, Line Call, Microsoft Team, FaceTime กลายเป็นแอปฯ ที่ได้กลายมาเป็นเครื่องมือในการคุยแบบเห็นหน้ากับคนที่บ้าน, ทำงานออนไลน์และการเรียนออนไลน์มากยิ่งขึ้นจนกลายเป็นเรื่องปกติ

2. Apps สั่งอาหารออนไลน์ (Food Delivery)

การที่รัฐบาลมีมาตรการสั่ง Lockdown และปิดร้านอาหารต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ทำให้ร้านอาหารต้องปรับตัวเพื่อหาช่องทางในการขายสินค้า ซึ่งก็ได้แอปพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Grab Food, Food Panda, Lineman, Gojek, Robinhood มาเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่ง Delivery อาหาร เครื่องดื่ม คนจำนวนมากเริ่มเกิดความเคยชินกับการใช้แอปพลิเคชั่นสั่งอาหารมาส่งให้ถึงที่บ้าน ทำให้ธุรกิจต่างๆ ยังสามารถดำรงอยู่ต่อไปได้และยังสามารถอยู่รอดได้ในยามวิกฤต

3. Apps ทำงานออนไลน์ (Online Working)

การทำงานจากที่บ้าน นอกจากคนจะประชุมกันผ่านแอปพลิเคชั่นที่มีฟังก์ชั่น Video Call แล้ว หลายๆ บริษัทก็ยังได้ใช้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปที่ถูกพัฒนามาเพื่อพัฒนาการทำงานในระบบออนไลน์ร่วมกันมากยิ่งขึ้น Click Up, Slack, Miro เป็นตัวอย่างของแอปพลิเคชั่น ที่ช่วยทำให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ผ่านระบบออนไลน์ ที่เก็บข้อมูลไว้บน Cloud Storage

แน่นอนว่าแอปพลิเคชั่นเหล่านี้ใช้ฟรี แต่ถ้าต้องการใช้ฟังก์ชั่นทั้งหมดก็ต้องจ่ายตัง แต่บริษัทต่างๆ ก็ยอมจ่าย เพราะ หากต้องมานั่งพัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่ขึ้นมาใช้เองในบริษัทนั้นมีต้นทุนที่สูงกว่าการจ่ายตังเพื่อนใช้บริการเหล่านี้แน่นอน

4. Apps ธนาคาร (Internet Banking)

สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) เริ่มกลายเป็นจริงมายิ่งขึ้นในปัจจุบัน คนใช้จ่ายผ่านการโอนเงินจากโทรศัพท์มากยิ่งขึ้น ผ่าน Mobile Banking, Online Payment ซึ่งปัจจุบันทุกธนาคารก็ได้มีแอปพลิเคชั่นและแพลตฟอร์มต่างๆ ให้ใช้จ่ายกันแบบไม่ต้องใช้เงินสด ในสังคมยุคโควิดที่ต้องลดการสัมผัส ทำให้การทำธุรกรรมผ่านมือถือได้รับความนิยม จะให้ว่าทุกที่แทบจะมี QR Code ให้แสกนเพื่อจ่ายเงิน ทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว และไม่ต้องกด ATM ไปต่อแถวที่ธนาคารอีกต่อไป

5. Apps ความบันเทิง (Entertainment)

เมื่อคนไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตข้างนอกได้อย่างปกติ ทำให้ แอปพลิเคชั่นเพื่อความบันเทิงนั้น กลายเป็นที่นิยมอีกครั้ง TikTok, Netflix, Spotify, YouTube, Line TV, Joox คอยเยียวยาจิตใจ และสร้างความสุขเล็กภายในบ้านให้กับใครหลายๆ คน แอปพลิเคชั่นเหล่านี้สามารถใช้ได้ง่าย สะดวกสะบาย เพียงแค่มีมือถือกับอินเตอร์เน็ตก็สามารถดูหนัง ฟังเพลง ได้มากมายไม่รู้จบ

6. Apps อีคอมเมิร์ซ (E-Commerce)

เมื่อร้านค้าปิด ห้างปิด คนก็ไม่สามารถออกไปซื้อของได้ ทำให้พลอตฟอร์มในการ ช้อปปิ้งออนไลน์ เช่น Lazada, Shopee กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการซื้อของ ซึ่ง E-Commerce สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างดี เพราะ นอกจากจะพัฒนาระบบ UX ให้ใช้ง่ายกับคนทุกกลุ่มแล้ว โปรโมชั่น, ราคายังถูกกว่าการซื้อจากหน้าร้านแบบเดิมๆ แถมสินค้ายังมีให้เลือกเกือบทุกอย่าง และสามารถเปรียบเทียบสินค้าและบริการจากรีวิวได้สะดวก ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่กว้างมากยิ่งขึ้น

7. Apps ขนส่ง (Logistic)

การขนส่งพัสดุเติบโตขึ้น ตามยอดขายของ E-Commerce การสั่งของออนไลน์และรอรับที่บ้าน ก็มีตัวกลางคือบริษัทข่นส่ง เช่น Kerry, J&T, DHL, Best Express คอยบริการส่งของให้ ซึ่งค่าส่งของในปัจจุบันนั้นค่อนข้างมีราคาถูก แถมยังมีการดำเนินการที่รวดเร็ว เมื่อมีคู่แข่งทางการค้าหลายเจ้า ก็ทำให้ผู้ให้บริการต้องปรับตัวและพัฒนาระบบของตัวเองให้สะดวก รวดเร็วและตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าบริษัทขนส่งเหล่านี้จะสามารถทำกำไรไปได้อีกนานแสนนานเมื่อคนคุ้นชินกับการสั่งของออนไลน์จนกลายเป็น New Normal

“เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส” ถึงแม้ว่าเหตุการณ์โควิดยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น แต่เทคโนโลยีก็เข้ามาเป็นตัวช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น การปรับตัวให้เท่าทันเทคโนโลยีใหม่ๆ เรียนรู้การใช้แอปพลิเคชั่นต่างๆ ในการทำงาน ทำให้เราไม่กลายเป็นคนตกยุค และตกงาน

Written by

เทคโนโลยี แอ พ พลิ เค ชั่ น

Hussaporn Chuwong

A guy who wants to share knowledge and passion through Online Contents & helps migrate people to "Digital Career" !!