Show ผู้ที่จะให้การดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องโรค อาการและอาการแสดง พฤติกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วย รวมทั้งผลกระทบที่เกิดขึ้น และการดูแลที่เป็นพิเศษ อัลไซเมอร์ เป็นชนิดหนึ่งของโรคสมองเสื่อม ซึ่งเป็นความผิดปกติของสมองที่เกิดขึ้น ช้า ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้เซลประสาทสมองตายไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ความสามารถของสมองลดลง โดยเฉพาะในเรื่องของการจดจำ ความรอบรู้ ความเฉลียวฉลาด และการคิดอย่างมีเหตุผลลดน้อยลง รวมทั้งการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงไปในทางเลวลง และยังมีการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมและบุคลิกภาพ มีอาการทางจิตประสาท ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำงาน หรือการใช้ชีวิตของบุคคลนั้นอย่างชัดเจน ผู้ป่วยที่เป็นอัลไซเมอร์ระยะเริ่มแรก เริ่มมีอาการแต่ไม่ชัดเจน ถ้าไม่สังเกตจะไม่ทราบว่าผิดปกติ ตัวอย่างเช่น มีหัวหน้าฝ่ายฝึกอบรมของของธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งทำงานด้านฝึกอบรมมานาน 10 ปี ระยะหลังรู้สึกว่าตนเองทำงานผิดพลาดบ่อย ๆ ไม่สามารถจัดตารางการฝีกอบรมได้ ทำแล้วทำอีก ต้องเอางานมาทำที่บ้าน ก็ทำไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ เป็นงานที่ง่ายมากสำหรับตนเอง สงสัยว่าตนเองอาจจะเป็นสมองเสื่อม ความมั่นใจเริ่มลดลง ไม่กล้าบอกกับลูกน้อง จนในที่สุดมีความผิดพลาดบ่อย ๆ เพื่อนร่วมงานเริ่มตั้งข้อสังเกต ทำไมหัวหน้าจึงดูแปลก ๆ ไป ทั้งเรื่องของการแต่งตัวด้วย ไม่เหมือนหัวหน้าคนเดิม คิดว่าหัวหน้าคงมีภาระงานมากขึ้น แต่ก็ไม่กล้าสอบถาม เช่นเดียวกับช่างเย็บเสื้อ ประสบการณ์มานานเป็น 10 ปี แต่เย็บซิป ติดตะขอกระโปรงไม่ได้ คิดไม่ออกว่าจะต้องทำอย่างไร ต้องโทรถามเพื่อน อย่างไรก็ตาม ในระยะแรกที่ผู้ป่วยเริ่มมีอาการ ผู้ป่วยจะเริ่มต้นด้วยการลืมสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ ๆ ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก ของเก่ายังจำได้ดี จำชื่อคน หรือชื่อสถานที่ไม่ได้ บวกลบเลขง่าย ๆ ไม่ได้ ทำอะไรตามใจตนเอง หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน ระยะนี้ผู้ป่วยต้องการความช่วยเหลือให้คงความสามารถที่มีอยู่ให้ได้ ระยะกลาง เมื่อมีอาการมากขึ้น จะค่อย ๆ ลืมของที่เพิ่งเกิดขึ้น และต่อมาจะค่อย ๆ ลืมของที่เกิดขึ้นในอดีต จนกระทั่งจำหน้าคนคุ้นเคยไม่ได้ กลับบ้านไม่ถูก หลงทาง เริ่มทำกิจวัตรประจำวันไม่ได้ ลืมว่าแปรงฟันหรือหวีผมทำอย่างไร ไม่ใส่ใจในเรื่องความสะอาดของร่างกาย เคยอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟันได้ แต่กลับทำไม่ได้ด้วยตนเอง บางครั้งเราพบว่า เข้าไปห้องน้ำนาน แต่กลับออกมาด้วยเสื้อผ้าชุดเดิม เพราะไม่รู้วิธีการอาบน้ำ หรือ พบว่าผู้ป่วยตักน้ำในโถส้วมขึ้นมาเข้าปาก แต่งตัวไม่เป็น เช่นพยายามจะใส่เสื้อชั้นในเป็นกางเกงให้ได้ มีปัญหาเรื่องการกินอาหาร ลืมหิว บางคนกินไม่รู้อิ่ม อาหารเป็นหม้อ ๆ สามารถกินหมดได้โดยไม่รู้สึกอิ่ม หรือหยิบของทุกอย่างเข้าปาก จึงพบว่าบางครั้งผู้ป่วยกินสารพิษ (ยาฆ่าแมลง น้ำมันก๊าด เป็นต้น) กินแล้วบอกว่ายังไม่ได้กิน ทำให้มีความขัดแย้งระหว่างญาติผู้ดูแล ลืมชื่อสิ่งของ เครื่องใช้ต่าง ๆ ไม่รู้ว่าของที่อยู่ตรงหน้า เรียกชื่อว่าอะไร เช่น ดินสอ ปากกา ผลไม้ต่างๆ เดินหลงทางเป็นประจำ นอกจากนั้นยังพบว่า ผู้ป่วยมีนิสัยเปลี่ยนแปลง ก้าร้าว ดุดัน พูดจาหยาบคาย เมื่อมีความขัดแย้ง หรือไม่พอใจ วุ่นวายมาก ไม่รับรู้ หลงผิด ฝังใจอย่างมากกับเรื่องที่ตนเองคิดขึ้นมา เช่น กล่าวร้ายคนในบ้านเป็นขโมย ประสาทหลอน เห็นภาพคนที่ตายไปแล้วมาหา มาพูดคุย และมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย บางคนก้าวร้าว ซึมเศร้า หัวเราะง่าย เวลาในการนอนเปลี่ยนแปลง นอนกลางวัน ตื่นกลางคืน ทำให้มีความวุ่นวายทั้งบ้าน ซึ่งถ้าคนในครอบครัวไม่เข้าใจ มีการใช้เหตุผล กล่าวโทษผู้ป่วย ก็อาจจะยิ่งทำให้อาการต่างๆ เลวร้ายลงไปอีก และ เมื่อโรคเข้าสู่ระยะสุดท้าย จะเริ่มไม่พูด หรือพูดสั้น ๆ ซ้ำๆ ช่วยเหลือตนเองไม่ได้เลย นอนติดเตียง ต้องมีคนคอยดูแลทุกเรื่อง ตั้งแต่การใช้ชีวิตประจำวัน การกิน อยู่หลับนอน การขับถ่าย การช่วยเหลือเรื่องการพลิกตะแคงตัว ภาวะแทรกซ้อนที่จะพบมาก คือมีปอดอักเสบจากการสำลักอาหาร นอนติดเตียง ผอมลง ข้อยึดติด มีแผลกดทับ ในระยะนี้จึงเป็นภาระที่หนักมากสำหรับญาติผู้ดูแลที่ทำหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วย ตั้งแต่เรื่องการทำกิจวัตรประจำวัน การทำความสะอาดร่างกาย การเตรียมอาหารเหลว การให้อาหารผ่านทางสายให้อาหารทางจมูก / หน้าท้อง การพลิกตะแคงตัว เพื่อป้องกันแผลกดทับ การให้ออกซิเจน การดูแลแผลท่อเจาะคอ การดูดเสมหะ เป็นต้น ผู้ที่ดูแลผู้ป่วยจึงจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถดูแลผู้ป่วยในแต่ละระยะตลอดจนการดูแลตนเอง เพื่อมิให้รู้สึกท้อแท้ อ่อนล้า เศร้า สิ้นหวัง แนวทางการดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์
ผู้ดูแลควรใส่ใจในการดูแลตนเอง เพราะการดูแลผู้ป่วยนาน ๆ ทำให้มีความเครียดเกิดขึ้น หาเวลาในการผ่อนคลาย ใส่ใจกับสุขภาพของตนเอง ถ้ามีโรคประจำตัว ดูแลตนเองและควบคุมโรคให้ได้ ผู้เขียนบทความ อ. สมทรง จุไรทัศนีย์ อาจารย์พยาบาล และ กรรมการสมาคมผู้ดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อม โรคอัลไซเมอร์ดุแลอย่างไรดูแลช่วยเหลือให้ผู้ป่วยได้ออกกำลังกายตามสมควร เพิ่มกำลังของมัดกล้ามเนื้อ ลดข้อติด กรณีที่อาการป่วยยังไม่รุนแรง อาจชวนผู้ป่วยเล่นเกมต่างๆ เช่น เกมคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต คิดเลข หรือชวนสวดมนต์ไหว้พระด้วยกัน หลีกเลี่ยงการกระตุ้นหรือพยายามฝืนผู้ป่วยจนเกินไป เพราะจะทำผู้ป่วยเบื่อหน่ายและเกิดการต่อต้านได้
อัลไซเมอร์ ระยะสุดท้าย อยู่ได้นานแค่ไหนอาการของอัลไซเมอร์จะแบ่งเป็น 3 ระยะ เริ่มจากจำเหตุการณ์ไม่ได้ ขี้ลืม พูดซ้ำเรื่องเดิม พฤติกรรมเปลี่ยนไป จนระยะสุดท้ายคือไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แม้แต่การขับถ่าย ไม่พูด ไม่เคลื่อนไหว และอาจอยู่ต่อได้ประมาณ 10 ปี
คนที่เป็นโรคอัลไซเมอร์มีลักษณะอย่างไรอาการของโรคอัลไซเมอร์เป็นอย่างไร
เมื่อโรคดำเนินไปจะทำให้เกิดความพกพร่องของการรู้คิดด้านอื่นร่วมด้วย เช่น หลงทาง คิดเลขไม่ได้ ไม่สามารถจัดการกิจวัตรประจำวันขั้นพื้นฐานได้เอง มีปัญหาด้านอารมณ์ ปัญหากฃพฤติกรรม และความผิดปกติทางจิตตามมา เช่น หงุดหงิด เฉื่อยชาและเฉยเมย ขาดการยับยั้งชั่งใจ มีอาการหลงผิด ประสาทหลอน เป็นต้น
กินอะไร แก้โรคอัลไซเมอร์1. ลดการรับประทานอาหารประเภทที่มีไขมันอิ่มตัว (saturated fats) และไขมันทรานส์* (trans fats) 2. ควรรับประทานอาหารจำพวกผัก พืชตระกูลถั่ว (legumes) ผลไม้ และ whole grains (ธัญพืชเต็มเมล็ดที่ไม่ผ่านการขัดสี หรือขัดสีน้อยที่สุด) เป็นหลัก
|