หนัง เอ หิ ปั ส สิ โก สารคดี

หนัง เอ หิ ปั ส สิ โก สารคดี

Advertisement

‘เอหิปัสสิโก’ (Come and See) สารคดีสะท้อนปมพระธัมมชโย อาจถูกพิจารณาห้ามฉาย ทีมผู้สร้างเตรียมเข้าชี้แจง กรรมการเซ็นเซอร์ 10 มี.ค.นี้

หนัง เอ หิ ปั ส สิ โก สารคดี

วันที่ 9 มี.ค. 2564 สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ได้โพสต์ภาพโปสเตอร์หนังและผู้กำกับ ณฐพล บุญประกอบ จากหนังสารคดีเรื่อง เอหิปัสสิโก (Come and See) พร้อมข้อความระบุว่า “ส่อแววห้ามฉายหนังสารคดี “เอหิปัสสิโก” มีรายงานว่า ภาพยนตร์สารคดีเชิงข่าว “เอหิปัสสิโก” (Come and See) ของ ณฐพล บุญประกอบ ผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีเจ้าของรางวัลสุพรรณหงส์จาก ‘2215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว’ ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายเร็วๆนี้ ทางผู้สร้างได้ส่งภาพยนตร์ไปตรวจพิจารณา ที่สำนักพิจารณาภาพยนตร์และวิดีทัศน์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม

ปรากฎว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางผู้สร้างได้รับแจ้งว่า คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ที่ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่รัฐจากภาคส่วนต่างๆ มีบางท่านที่ไม่อยากให้มีการฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ จนวันที่ 8 มีนาคม ทางผู้สร้างได้รับแจ้งว่าให้เข้าไปชี้แจงกับคณะกรรมการในวันพุธที่ 10 มีนาคมนี้

หนัง เอ หิ ปั ส สิ โก สารคดี

ภาพยนตร์สารคดีเชิงข่าวเรื่อง “เอหิปัสสิโก” ถ่ายทำเหตุการณ์ในปี 2560 เมื่อพระเตรธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้ถูกกล่าวหาว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวพันกับคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยได้เกิดเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าทำการปิดล้อมวัดเพื่อจับตัวพระธัมมชโยไปดำเนินคดี ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างศิษย์ของวัดที่ออกมาต่อต้านการจับกุม และรัฐบาลที่ระบุว่าทำตามกระบวนการยุติธรรม โดยภาพยนตร์สารคดีเชิงข่าวเรื่องนี้ พาผู้ชมเข้าไปสำรวจอย่างเป็นกลางถึงมุมมองต่างๆต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผ่านการสัมภาษณ์ฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายต่อต้าน รวมถึงสัมภาษณ์มุมมองของนักวิชาการที่มาตั้งข้อสังเกตต่อปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงรากฐานความเชื่อ ความศรัทธา และหาคำตอบถึงบทบาทของศาสนาและความเชื่อในสังคมไทย

นับตั้งแต่มีการบังคับใช้พระราชบัญญัติภาพยนตร์และวิดีทัศน์ พ.ศ. 2551 เป็นเวลา 13 ปี แต่ภายใต้ระบบเรตติ้งภาพยนตร์ การเซ็นเซอร์และการแบนภาพยนตร์กลับยังคงมีปรากฏให้เห็นอยู่เรื่อยมา ซึ่งในกรณีที่ภาพยนตร์สารคดีเชิงข่าวเรื่อง “เอหิปัสสิโก” มีแนวโน้มที่จะถูกแบนหรือเซ็นเซอร์นี้ ทางสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยจะดำเนินการตรวจสอบและติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด”

podcast

กำลังโหลดบทความถัดไป...

หนัง เอ หิ ปั ส สิ โก สารคดี

Advertisement

‘เอหิปัสสิโก’ เป็นสารคดีที่มีกระแสมาแรงงจากข่าวการเกือบโดนแบนจากกองเซนเซอร์ แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือจำนวนคนดูที่แน่นโรง เพราะเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ค่อยได้เห็นในการฉายหนังแนวนี้ อาจเป็นเพราะสิ่งที่เคยได้ยินเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายตลอดหลายปีที่ผ่านมา และความลึกลับอันชวนสงสัยว่า ‘หลังกำแพงวัดในตึกรูปทรงกลม หรือใต้จานบินนั้นมีอะไรหนอ’

หนัง เอ หิ ปั ส สิ โก สารคดี

หลายคนคาดหวังว่า นี่จะเป็นสารคดีเปิดโปงวัดพระธรรมกาย แต่ที่จริงแล้วกลับทำหน้าที่เปิดประตูให้คนได้เข้าไปรู้จักวัดแห่งนี้จากมุมมองอันหลากหลาย ทั้งผู้ที่ศรัทธา ไม่ศรัทธา และเลิกศรัทธา รวมถึงนักวิชาการ และภาพจากข่าวที่เคยเห็น เรียงร้อยผ่านทางสายตาของผู้กำกับ ณฐพล บุญประกอบ อีกชั้นหนึ่ง

หนัง เอ หิ ปั ส สิ โก สารคดี

ความสนุกของ ‘เอหิปัสสิโก’ อยู่ที่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในหลายมิติ ทั้งความเห็นที่ต่างกันและความขัดแย้งในใจของผู้ชม

สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นตลอดการดูก็คือความคิดที่ว่าถึงแม้ผู้ที่ศรัทธาในวัดจะมีความต้องการจะต่างกันไปบ้าง แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือ ทุกคนต้องการความสุข ถ้าไม่ใช่ในชาตินี้ก็ชาติหน้า และวัดพระธรรมกายให้ความสุขนั้นได้ในหลายรูปแบบ

วัดได้สร้างสังคม ‘ยูโทเปีย’ หรือ ดินแดนในอุดมคติ ที่ทุกคนพูดจาดี สุภาพต่อกันเสมอ แต่งกายเรียบร้อยสะอาดสะอ้าน ทุกคนช่วยกันดูแลสถานที่ให้ทุกที่สะอาดเรียบร้อย ทุกอย่างเป็นระเบียบ ตั้งแต่การเดินแถวของผู้คนในวัดไปจนการจัดวางของ

หนัง เอ หิ ปั ส สิ โก สารคดี

หนัง เอ หิ ปั ส สิ โก สารคดี

ด้วยสิ่งนี้เอง สังคมในวัดอาจเป็นสังคมในฝันของใครหลายคน นอกจากความสุขที่เกิดทางกายแล้ว วัดสามารถสร้างความสุขทางใจที่มาพร้อมกับความหวังสำหรับวันพรุ่งนี้ ด้วยแนวคิดที่ว่าบุญที่ทำไปจะตอบแทนคืนกลับมาในรูปแบบของชีวิตที่ดีขึ้น หรือชาติหน้าที่กำหนดได้

สารคดีก็ยังคงพาให้เราเห็นแนวคิดที่ยังคงน่าสงสัย ซึ่งเป็นด้านที่อาจจะเปลี่ยนยูโทเปียเป็น ‘ดิสโทเปีย’ หรือ ดินแดนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของยูโทเปียได้เช่นกัน แต่ความน่าสนใจคือการที่ด้านที่ชวนตั้งคำถามนั้น ไม่ได้ถูกนำเสนอจากฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามเท่านั้น แต่หลายอย่างก็มาจากตัวผู้ศรัทธาเอง

หนัง เอ หิ ปั ส สิ โก สารคดี

นอกจากนี้ ‘เอหิปัสสิโก’ ยังเปรียบเทียบให้เห็นว่าที่จริงธรรมกายก็ไม่ได้ต่างกับวัดอื่น มีการบริจาค มีการกราบไว้บูชาพระพุทธรูป ทำกิจกรรมต่างๆที่สะท้อนให้เห็นนรกกับสวรรค์ แต่ชัดเจนกว่ามีระบบการสะสมบุญที่เป็นเหมือนขั้นบันได ไต่ขึ้นไปได้ตามระบบทุนนิยม คล้ายกับการเล่นเกมเก็บแต้มในแต่ละด่าน ซึ่งจะมีภารกิจต่างกัน ทำมากก็ได้บุญมาก เมื่อมีบุญมากก็จะได้ขึ้นสวรรค์ ซึ่งง่ายต่อการทำและการเข้าใจ ชวนให้นึกถึงคำพูดที่ใคร ๆ ก็อาจคุ้นเคยตั้งแต่เด็กจนโต คือ ‘ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว’ จึงไม่น่าแปลกใจที่คนจะเชื่อโดยง่าย ตัวสารคดีทำให้เราคิดถึงความสัมพันธ์แบบธรรมกายในหลายสถาบัน ชนิดที่เราเองก็ไม่เคยเชื่อมโยงมาก่อน บางทีมันอาจอยู่รอบตัวมากกว่าที่เราคิด

หนัง เอ หิ ปั ส สิ โก สารคดี

ผู้ชมถูกย้ำเตือนตลอดว่ากำลังได้รับฟังความจริงที่ถูกเลือกสรรและตัดต่อมาอย่างดีแล้ว การเตือนนี้เกิดจากการกล่าวถึงจากบุคคลในเรื่อง เสียงของผู้กำกับที่ผู้ชมจะได้ยินแทรกมาในบางฉาก ซึ่งทำให้อารมณ์คล้ายกับเวลาได้ฟังการเล่าข่าว ที่เป็นการเล่าความจริงผ่านมุมมองของใครคนหนึ่ง และ ‘เอหิปัสสิโก’ ก็ถูกเล่าได้สนุก ชวนระทึกเหมือนได้ดูภาพยนตร์สืบสวนเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ด้วยการลำดับภาพ และเสียงเพลงที่คอยเร้าใจผู้ชมตลอดเรื่อง

สุดท้ายแล้วสารคดีไม่ได้ให้คำตอบว่ามันถูกหรือผิด แต่ชักชวนให้เราตั้งคำถาม

หนัง เอ หิ ปั ส สิ โก สารคดี

‘เอหิปัสสิโก’ จึงไม่ใช่สารคดีที่มีคำตอบชัดเจนเสียทีเดียวสำหรับทุกคำถามเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย หลวงพ่อธรรมชโย หรือคดีของวัด หรือบอกว่าเราควรคิดอย่างไรกับสังคมที่เราอยู่ แต่เป็นการเชิญชวนให้มาดู มาเห็น เพื่อให้ผู้ชมตัดสินใจเองว่าควรจะ ‘โอปะนะยิโก’ หรือน้อมรับอะไรเข้ามาไว้ในใจตนเองเมื่อเวลา 85 นาทีของสารคดีหมดไป

สมกับชื่อ ‘เอหิปัสสิโก’ หรือ ‘Come and See’ ที่แปลว่าจงมาดูเถิด

:: ขอบคุณภาพ underDOC Film

podcast

กำลังโหลดบทความถัดไป...