ข้อดีของระบบปฏิบัติการ dos

ข้อดีของระบบปฏิบัติการ Netware

ข้อดีของระบบปฏิบัติการ Netware

1.Netware มีความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์ของระบบเครือข่ายเครื่องคอมพิวเตอณื ฮาร์ดแวร์  และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ Netware บนระบบเครือข่ายเดียวกัน และเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการของดอส

2. Netware สามารถเชื่อมต่อหรือมีสะพานสื่อสารกับระบบเครือข่ายทุกชนิดที่มันสนับสนุน

3. ระบบเครือข่ายที่ใช้ Netware สามารถขยายเนื้อที่เก็บข้อมูล หน่วยความจำ ประสิทธิภาพและความเชื่อถือได้

4. Netware มีความสามารถในการติดต่อสื่อสารแบบเครือข่าย เครือข่ายกับคอมพิวเตอร์ระยะไกล และเครือข่ายกับคอมพิวเตอร์ศูนย์

5. การรักษาความปลอดภัยของ Netware มีความยืดหยุ่น และครบถ้วนสมบูรณ์

6. ระบบปฏิบัติการ Netware จะช่วยเพิ่มความเร็ว และประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ของระบบเครือข่ายทีระบบสนับสนุน

7. Netware ใช้งานง่ายสามารถใช้คำสั่งของ Dos, On-Line Help และโปรแกรมเมนู

This WordPress.com site is the cat’s pajamas

ข้อดีของระบบปฏิบัติการ dos
ระบบปฏิบัติการ (operating system) เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของระบบซอฟต์แวร์ ระบบปฏิบัติการประกอบขึ้นจากชุดโปรแกรมที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการดำเนินการต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ และประสานการทำงานระหว่างทรัพยากรต่าง ๆ ในระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งส่วนที่เป็นซอฟต์แวร์และส่วนที่เป็นฮาร์ดแวร์ให้เป็นไปย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

ระบบคอมพิวเตอร์ในระดับไมโครคอมพิวเตอร์ โดยทั่วไปใช้ระบบปฏิบัติการที่จัดเก็บอยู่บนแผ่นบันทึกหรือฮาร์ดดิสก์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อของ เอ็มเอสดอส (Microsort Disk Operating System : MS-DOS) ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟต์คอร์ปอเรชัน ระบบปฏิบัติการนี้ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการของผู้ใช้และพัฒนาการทางด้านซอฟต์แวร์และฮารด์แวร์

ดอส เป็นระบบปฏิบัติการที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมากในหมู่ผู้ใช้เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ เป็นผลงานของบริษัทไมโครซอฟต์คอร์เปอร์เรชั่น( Microsoft Corporation) ความเป็นมาของเอ็มเอสดอสเริ่มจากที่บริษัทไอบีเอ็ม(IBM) ได้สร้างเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์มีชื่อว่าพีซี (PC:personal computer) และว่าจ้างบริษัทไมโครซอฟต์ให้ช่วยออกแบบระบบปฏิบัติการของเครื่องพีซีนี้ โดยใช้ชื่อว่าพีซีดอส (PC-DOS) เครื่องพีซีได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย จนมีบริษัทอื่น ๆ สร้างเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์เลียนแบบเครื่องไอบีเอ็ม ซึ่งสามารถทำงานได้เหมือนกัน เป็นเครื่องแบบเดียวกัน เรามักนิยมเรียกเครื่องที่สร้างเลียนแบบนี้ว่า “ เครื่องคอมแพตติเบิ้ล” (compatible) ถ้าเครื่องคอมแพตติเบิ้ลต้องการทำงานให้เหมือนกับพีซีของไอบีเอ็มแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีระบบปฏิบัติการที่เหมือนกัน แต่พีซีดอสเป็นลิขสิทธ์ของไอบีเอ็มที่ขายให้กับผู้ใช้เครื่องของไอบีเอ็มเท่านั้น ดังนั้นบริษัทไมโครซอฟต์จึงสร้างระบบปฏิบัติการใหม่ออกสู่ตลาด เพื่อให้เครื่องคอมแพตติเบิ้ลทั้งหลายได้ใช้ มีชื่อว่า เอ็มเอสดอส (MS-DOS) โดยไมโครซอฟต์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งเอ็มเอสดอสและพีซีดอสนี้ความจริงแล้วเหมือนกัน เป็นระบบปฏิบัติการตัวเดียวกัน เพียงแต่เรียกชื่อต่างกันเท่านั้นเอง (ด้วยเหตุผลเชิงพาณิชย์ที่กล่าวมา) เอ็มเอสดอสหรือพีซีดอสได้ถูกพัฒนาออกมาหลายเวอร์ชั่น โดยมีขีดความสามารถมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในเวอร์ชั่นหลัง ๆ ไอบีเอ็มได้แยกพัฒนาพีซีดอสด้วยตนเอง ทำให้พีซีดอสและเอ็มเอสดอสในเวอร์ชั่นหลัง ๆ มีความแตกต่างกัน (ซึ่งมักจะต่างกันทางด้านความสามารถพิเศษต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้วยังคงเหมือนกันอยู่)

ดอสมีต้นกำเนิดมาจากระบบปฏิบัติการ CP/M ที่ใช้กับเครื่อง 8 บิตในสมัยก่อน แต่ปัจจุบัน CP/M ไม่มีใช้กันแล้วบนเครื่องพีซี เนื่องจากการเข้ามาของดอสตัวใหม่ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วเพื่อให้ทันกับความสามารถของฮาร์ดแวร์ที่สูงขึ้น ปัจจุบันดอสที่เป็นที่รู้จักและยังเป็นที่นิยมใช้งานอยู่ได้แก่

MS-DOS เป็นระบบปฏิบัติการบนเครื่องพีซีจากบริษัทไมโครซอฟต์ ซึ่งสามารถใช้งานกับเครื่องพีซี ตั้งแต่ 16 บิตขึ้นไป โดย “MS” ย่อมาจาก Microsoft

PC-DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นมาโดยความร่วมมือระหว่างบริษัทไมโครซอฟต์และไอบีเอ็ม เพื่อให้สามารถใช้กับเครื่องของไอบีเอ็มโดยเฉพาะ โดย “PC” ย่อมาจาก “Personal Computer”

Novell’s DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นมาให้มีความสามารถทางด้านเครือข่าย ถูกพัฒนาขึ้นมาจาก DR-DOS ที่สร้างโดยบริษัท Digital Research

โดยทั่วไป MS-DOS และ PC-DOS จะมีรูปแบบการใช้งานเหมือนกัน แต่อาจมีการทำงานภายในของบางโปรแกรมหรือบางคำสั่งเท่านั้นที่ต่างกัน MS-DOS ได้มีการพัฒนามาพร้อมๆ กับเครื่องพีซี โดยครั้งแรกบริษัท ซีแอตเติลได้สร้างระบบปฏิบัติการที่เรียกว่า 86-DOS เพื่อใช้งานกับซีพียู 8086 และพัฒนามาหลายรุ่นจนถึงรุ่น 86-DOS 1.0 บริษัทไมโครซอฟต์จึงได้ตัดสินใจซื้อลิขสิทธิ์ทั้งหมดของ 86-DOS จากซีแอตเติล และเปลี่ยนชื่อจาก 86-DOS เป็น MS-DOS และได้ทำการพัฒนา MS-DOS ให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามการเปลี่ยนแปลงของฮาร์ดแวร์ จากรุ่นหรือเวอร์ชั่น (version) แรกสุดคือ 1.0 ที่ออกมาในปี ค.ศ. 1981 ได้มีการพัฒนาปรับปรุง เวอร์ชั่นให้สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนในปัจจุบันเป็นเวอร์ชั่น 6.2 ที่ออกมาในปี 1993 และสำหรับ PC-DOS เวอร์ชั่นปัจจุบันคือ 6.1

โดยทั่วไปซอฟต์แวร์เกือบทุกประเภทจะมีตัวเลขอยู่หลังชื่อซอฟต์แวร์นั้น เพื่อแสดงถึงเวอร์ชั่นที่มีการพัฒนา ยิ่งเวอร์ชันสูงมากขึ้นเท่าไรความสามารถของซอฟต์แวร์นั้นก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สามารถใช้ประสิทธิ-ภาพของฮาร์ดแวร์ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วได้ดียิ่งขึ้น

ปัจจุบันบริษัทไอบีเอ็มได้เลิกพัฒนาพีซีดอสแล้ว แต่หันไปสร้างระบบปฏิบัติการโอเอสทูขึ้นมา ส่วนบริษัทไมโครซอฟต์ยังคงพัฒนาเอ็มเอสดอสของตนต่อไปอีก เนื่องจากยังมีผู้นิยมใช้กันอยู่เป็นจำนวนมาก ใน

การเริ่มต้นทำงานของระบบปฏิบัติการดอส

การเริ่มต้นทำงานของระบบคอมพิวเตอร์จะเริ่มต้นโดยอัตโนมัติจากส่วนของชุดคำสั่งที่จัดเก็บอยู่ บนหน่วยความจำของระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้อ่านได้อย่างเดียวที่เรียกว่ารอม (Read Only Memory : ROM) คำสั่งเหล่านี้จะทำหน้าที่ควบคุมอุปกรณ์พื้นฐานและทำการบรรจุระบบปฏิบัติการจากแผ่นบันทึกหรือฮาร์ดดิสก์ ขึ้นสู่หน่วยความจำหลัก หลังจากนี้การควบคุมการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์จะถูกบรรจ ุไปอยู่บนหน่วยความจำหลักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โปรแกรมหนึ่งในระบบปฏิบัติการดอสที่ถูกบรรจุคือ โปรแกรมคำสั่งที่มีชื่อว่า command.com และกระบวนการเริ่มต้นการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ดังกล่าวนี้เรียกกันทั่วไปว่า การบูทเครื่อง (boot) คอมพิวเตอร์

การบูทเครื่องคอมพิวเตอร์มีอยู่ด้วยกัน 2 วิธีคือ

  1. Cold Boot คือการเปิดเครื่องด้วยสวิตช์ปิดเปิดเครื่อง (power)
  2. Worm Boot คือ จะใช้วิธีนี้ในขณะที่เครื่องเปิดอยู่ ในกรณีที่เครื่องค้าง (Hank) เครื่องไม่ทำงานตามที่เราป้อนคำสั่งเข้าไป การบูทเครื่องแบบนี้สามารถกระทำได้อยู่ 2 วิธีคือ
  3. กดปุ่ม Reset
  4. กดปุ่ม Ctrl+Alt+Del พร้อมกัน แล้วปล่อยมือ
    ข้อดีของระบบปฏิบัติการ dos

    ภาพแสดงหน้าจอการบูทเครื่องด้วยระบบปฏิบัติการดอส

    ชนิดคำสั่ง DOS

    คำสั่งของ DOS มีอยู่ 2 ชนิดคือ

    1. คำสั่งภายใน (Internal Command) เป็นคำสั่งที่เรียกใช้ได้ทันทีตลอดเวลาที่เครื่องเปิดใช้งานอยู่ เพราะคำสั่งประเภทนี้ถูกบรรจุลงในหน่วยความจำหลัก (ROM) ตลอดเวลา หลังจากที่ Boot DOS ส่วนมากจะเป็นคำสั่งที่ใช้อยู่เสมอ เช่น CLS, DIR, COPY, REN เป็นต้น

    2. คำสั่งภายนอก (External Command) คำสั่งนี้จะถูกเก็บไว้ในดิสก์หรือแผ่น DOS คำสั่งเหล่านี้จะไม่ถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำ เมื่อต้องการใช้คำสั่งเหล่านี้คอมพิวเตอร์จะเรียกคำสั่งเข้าสู่หน่วยความจำ ถ้าแผ่นดิสก์หรือฮาร์ดดิสก์ไม่มีคำสั่งที่ต้องการใช้อยู่ก็ไม่สามารถเรียกคำสั่งนั้น ๆ ได้ ตัวอย่างเช่น คำสั่ง FORMAT, DISKCOPY, TREE, DELTREE เป็นต้น