Show
ภาวะสูญเสียการได้ยิน (Hearing loss) หมายถึง การได้ยินลดลง คนส่วนใหญ่มักเรียกอาการนี้ว่า หูตึง แต่ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นหูไม่ได้ยินเสียงใดๆ หรือที่เรียกว่า หูหนวก ค่าการได้ยินของหูเมื่อตรวจความถี่ที่ 500 1,000 2,000 เฮิรตซ์ คนปกติจะได้ค่าความไวต่ำสุดที่สามารถรับเสียงได้เกินกว่า 27-93 เดซิเบล หากคนใดมีค่าการได้ยินเกิน 93 เดซิเบลถือว่ามีอาการหูหนวก สาเหตุที่ทำให้หูหนวกหูหนวกสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้ ภาวะการนำเสียงผิดปกติเนื่องจากมีพยาธิสภาพของหูชั้นนอก และหูชั้นกลาง ทำให้กลไกการส่งผ่านคลื่นเสียงไปสู่หูชั้นในผิดปกติ อาจเกิดจากภาวะขี้หูอุดตัน (Impacted cerumen) มีสิ่งแปลกปลอมอุดตัน ช่องหูอักเสบ หรือมีอาการบวมภายในหูจนทำให้ช่องหูตีบตัน แก้วหูทะลุ เป็นโรคหูน้ำหนวก หรือมีหินปูนเกาะกระดูกหู (Otosclerosis) ประสาทการรับฟังเสียงผิดปกติเนื่องจากมีพยาธิสภาพอยู่ในหูชั้นใน หรือในประสาทรับเสียง (Acoustic nerve) โดยเกิดจากการติดเชื้อไวรัส การได้รับยาบางชนิด การได้ยินเสียงดังมากๆ เป็นโรคน้ำในหูชั้นในผิดปกติ (Meniere’s disease) หรือประสาทหูเสื่อมจากการมีอายุมากขึ้น การนำเสียงประสาทรับฟังเสียงผิดปกติเนื่องจากมีพยาธิสภาพทั้งในหูชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน สาเหตุที่พบได้คือ หูน้ำหนวกเรื้อรังที่ลุกลามเข้าสู่หูชั้นใน หรือมีหินปูนเกาะกระดูกหู ความผิดปกติในสมองโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติในสมอง เช่น เส้นเลือดในสมองแตก มีเนื้องอกในสมอง เป็นต้น ความผิดปกติด้านจิตใจต่างๆเป็นโรคทางจิตเภทที่ทำให้การรับรู้ผิดเพี้ยน เช่น ประสาทหลอน กลไกการได้ยินการสูญเสียการได้ยินเกิดจากกลไลการได้ยินที่ผิดปกติ โดยปกติกลไกการได้ยินจะมีกระบวนการ ดังนี้
เกิดอะไรขึ้นเมื่อมีอาการหูหนวกผู้ป่วยหูหนวกจะมีอาการหูอื้อ ฟังไม่ชัด จนกระทั่งไม่ได้ยินเสียง รวมทั้งอาจได้ยินเสียงดังในหู หรือมีอาการเวียนศีรษะ อาการที่อาจบ่งบอกได้ว่ามีการนำเสียงผิดปกติ ได้แก่
อาการที่ชี้ว่าประสาทรับฟังเสียงเกิดความผิดปกติ ได้แก่
การวินิจฉัยอาการหูหนวก
การรักษาอาการหูหนวกการรักษาอาการหูหนวกขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ได้แก่
การดูแลผู้ป่วยหูหนวก
👨⚕️⚕️👩⚕️⚕️ ค้นหาโรค อาการ ยา โรงพยาบาล คลินิก และอ่านบทความสุขภาพ เขียนโดยคุณหมอหรือผ่านการรีวิวจากคุณหมอแล้ว ที่ www.honestdocs.co และ www.honestdocs.id 💪❤️ ไม่พลาดข้อมูลดีๆ ที่จะทำให้คุณแข็งแรงขึ้นทั้งกายและใจ คลิกที่นี่เพื่อแอดไลน์ @honestdocs หรือแสกน QR Code ด้านล่างนี้ และยังติดตามเราได้ที่ Facebook และ Twitter วันนี้ 📱📰 โหลดแอป HonestDocs สำหรับ iPhone หรือ Android ได้แล้ววันนี้! จะอ่านบทความ จะเก็บบทความไว้อ่านทีหลัง หรือจะแชร์บทความให้คนที่เราเป็นห่วง ก็ง่ายกว่าเดิมเยอะ เปรียบเทียบดีลสุขภาพ ทำฟัน และความงาม จาก รพ. และคลินิกกว่า 100 แห่ง พร้อมจองคิวผ่าน HonestDocs คุณหมอมือถือได้เลยวันนี้ ถูกกว่าไปเอง ขอบคุณที่วางใจ ทุกเรื่องสุขภาพอุ่นใจ ให้ HonestDocs (ออเนสด็อกส์) คุณหมอมือถือ ดูแลคุณ ❤️ หูตึงระดับไหนได้ยินเสียงพูดชัดเจน 26 – 40 หูตึงเล็กน้อย (Mild hearing loss.) มีปัญหาไม่ได้ยินเสียงพูดเบาๆ 41 – 55 หูตึงปานกลาง( Moderate hearing loss.) เข้าใจคำพูดในระดับความดังปกติในระยะ 3-5 ฟุต 56 – 70 หูตึงมาก (Moderately severe hearing loss.) ต้องพูดเสียงดังๆ จึงจะเข้าใจ และฟังเสียงพูดในสถานทีมีเสียงจอแจไม่เข้าใจ
เด็กหูหนวกได้ยินกี่เดซิเบลเต็มตามศักยภาพ ดังนี้ บริการส าหรับคนหูหนวก ผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน หมายถึง ผู้ที่มีผลการตรวจวัดการได้ ยินเกินกว่า 25 เดซิเบล ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มหูตึง คือ มีระดับ การได้ยินระหว่าง 26 – 90 เดซิเบล และกลุ่มหูหนวก คือ มีระดับการได้ยิน มากกว่า 90 เดซิเบลขึ้นไป
เสียงดังแบบใดขึ้นไป ที่ไม่ได้ยินแล้วถือว่าหูหนวกงานวิจัยล่าสุดระบุว่าการสูญเสียการได้ยินเพิ่มโอกาสเกิดโรคสมองเสื่อมได้ การสูญเสียการได้ยิน (hearing loss) คือการที่หูข้างเดียวหรือทั้งสองข้างได้ยินเสียงลดลงหรือไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลย โดยระดับของการได้ยินนั้นมีตั้งแต่หูตึงเพียงเล็กน้อยไปจนถึงหูหนวกซึ่งหมายความว่าเสียงที่จะได้ยินต้องดังกว่า 90 เดซิเบลขึ้นไป
|