การเช่ือมไฟฟา้ ด้วยลวดเช่อื มห้มุ ฟลกั ซ์ ครผู ูส้ อน สนธยา บุปผาพนั ธุ์ หวั ขอ้ เรื่อง (Topics) แนวคดิ สาคัญ (Main Idea) ตดิ กนั โดยอาศยั ความรอ้ นจากการอารก์ ระหว่างชิ้นงานกับลวดเชอ่ื ม ดังนน้ั ลวด เน้ือหาสาระ (Content) 1. กระบวนการเชือ่ มไฟฟา้ โดยใชล้ วดเชอื่ มหมุ้ ฟลกั ซ์ การเช่อื มแบบนี้ลวดเช่ือมจะมีฟลกั ซห์ ุ้มภายนอกแกนลวด และ 1.1 ลวดเช่อื มไฟฟา้ (Electrode) การเชือ่ มโลหะด้วยไฟฟา้ ทเ่ี กิดการหลอมละลายของลวดเชื่อมเตมิ ลงบน ฟลกั ซ์ (Flux) หรอื สารพอกห้มุ ประกอบด้วยธาตุและสารเคมหี ลาย หนา้ ทข่ี องสารพอกห้มุ (Flux) กนั แนวเชอื่ ม (Oxidation) สญั ลักษณม์ าตรฐานของลวดเชื่อมหมุ้ ฟลกั ซ์ ตนเอง หากเป็นมาตรฐานสากลจะมลี ักษณะ ISO (International Organization
Standard) 2. องค์ประกอบของงานเช่อื มไฟฟา้ ประกอบดว้ ยกัน 5 ประการ คือ ลวดเชื่อม กระแสไฟ มมุ ลวดเช่อื ม 2.1
ลวดเช่อื ม (Electrode) จะตอ้ งเลือกให้เหมาะสมกับลกั ษณะงาน 2.2 กระแสไฟ (Current) ทเ่ี ลอื กใชม้ ีความสาคัญกับการเช่ือม ซ่ึงการ 2.3 ระยะอาร์ก ระยะอารก์ ท่เี
หมาะสมจะเทา่ กับความโตของเสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางของ 2.4 มุมลวดเชอ่ื ม มมุ ลวดเชอ่ื มท่กี ระทากบั ชนิ้ งานมผี ล เพราะถา้ ลวดเช่ือมทามมุ ไม่ 1. มมุ นา จะมที ศิ ทางไปในทางเดียวกบั การเดนิ
แนวเชือ่ ม มมุ ของลวด 2. มุมด้านข้าง (Side Angle) คือ มมุ ท่ีลวดทามมุ กับชนิ้ งานโดยมอง 2.5 ความเร็วในการเคลอื่ นท่ขี องลวดเช่อื ม ต้องมคี วามสัมพันธ์กบั กระแสไฟเช่อื มและขนาดความโตของแนว 3. การเริ่มตน้ อารก์ การเริม่ ต้นอารก์ สาหรบั ผเู้ ร่ิมฝกึ จะเกดิ ปัญหาคอื ลวดเชอ่ื
มมักจะติดกับ 3.1 แบบแตะสัมผัส (Tapping Method) หรือเรียกวา่ วิธีการเคาะ โดยใช้ลวดเชอ่ื มแตะลงบนผวิ ของช้ินงาน 3.2 แบบเขย่ี สมั ผสั (Scratch Method) หรอื เรยี กว่าการขีด ลวดเชอ่ื มจะไมค่ ่อยติดกบั ชน้ิ งาน แต่จะทาให้ การสา่ ยลวดเชือ่ ม (Waving with Electrode) การเชอ่ื มโลหะนั้นจะต้องใหร้ อยเช่ือมโตกว่าลวดเชือ่ ม จึงตอ้ งสา่ ยลวด การสา่ ยลวดเช่ือมนน้ั มีหลายแบบ ซึง่ จะให้ผลแตกตา่ งกันจะเห็นจดุ สดี า |