RGB ย่อมาจาก red, green และ blue คือ กระบวนการผสมสีจากแม่สี 3 สี คือ สีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน การใช้สัดส่วนของสี 3 สีในระดับที่แตกต่างกัน จะทำให้เกิดสีต่าง ๆ ได้อีกมากมาย
ระบบสี RGB เป็นระบบสีที่เกิดจากการรวมกันของแสง สีแดง เขียว และน้ำเงิน เกิดเป็นสีต่าง ๆ ซึ่งระบบสี RGB จะใช้งานในจอภาพแบบ CRT เช่น จอคอมพิวเตอร์ จอโทรทัศน์
ระบบสี RGB ควรใช้เมื่อไร
ระบบสี RBG ใช้สำหรับงานออกแบบกราฟฟิก ที่ออกแบบเพื่อใช้ดูผ่านจอคอมพิวเตอร์โดยไม่มีการพิมพ์ออกมาใช้งาน เช่น ภาพประกอบเว็บไซต์/ ภาพสำหรับโพสใน Facebook / Line/ youtube เป็นต้น
วิธีตั้งค่าโหมดสี RGB ในโปรแกรม Adobe Photoshop
วิธีตั้งค่าระบบสี RGB ขั้นสูง ด้วยระบบ Color Space
Color space คือ ขอบเขตสีที่อุปกรณ์ที่เราจะแสดงภาพแสดงผลขึ้นมาได้
ปัจจุบันโหมดสี RGB มีการตั้งค่าพื้นที่ขอบเขตสี เรียกว่า Color Space ให้เลือกใช้งาน มีระบบที่ได้รับความนิยม คือ
- Adobe RGB ( 1998 ) – สามารถแสดงสีได้ประมาณ 50 เปอร์เซนต์ จากที่สายตามนุษย์มองเห็น ภาพจะมีรายละเอียดสีที่มากขึ้น เหมาะสำหรับการสร้างงานที่มีคุณภาพสูง เพราะมีการไล่โทนสีที่ดีกว่าระบบ sRGB
- sRGB – สามารถแสดงสีได้ทั้งหมดประมาณ 30 เปอร์เซนต์ จากสายตาที่มนุษย์มองเห็น เหมาะสำหรับการใช้งานภาพทั่วไป เป็นสีมาตรฐานของการแสดงผลในจอคอมพิวเตอร์ทั่วไป เป็นค่าสีมาตรฐานของกล้องถ่ายภาพดิจิตอล เครื่องพิมพ์ภาพถ่าย
สรุป
- สำหรับท่านที่ทำงานออกแบบกราฟฟิกหรือตกแต่งภาพถ่าย เพื่อใช้งานทั่วไป ท่านสามารถเลือกตั้งค่าโหมดสี RGB แบบ sRGB ก็เพียงพอแล้ว เพราะอุปกรณ์แสดงผลต่าง ๆ ในปัจจุบัน ใช้การแสดงสีแบบ sRGB เป็นค่าเริ่มต้นมาตรฐาน เช่น จอคอมพิวเตอร์ กล้องดิจิตอล จอแสดงผลต่าง ๆ
- สำหรับท่านที่มีจอแสดงผลที่รองรับการใช้งานแบบ Adobe RGB ( 1998 ) ท่านสามารถเลือกใช้งานระบบสีนี้ได้ เพราะสีที่แสดงออกมาทางจอภาพจะมีความสด มีการไล่โทนสีภาพที่ดี สีมีความอิ่มตัวมากกว่า
มาทำความเข้าใจระบบสี CMYK กับ RGB ภายใน 3 นาที ระบบสี CMYK คืออะไร แล้วต่างจาก RGB อย่างไร แล้วงานประเภทไหนที่เราจะเลือกให้ Mode สี CMYK หรือ RGB เราจะมาหาคำตอบกันในวันนี้ จะขออธิบายสั้น ๆ ได้ยืดยาวแบบสรุป เป็นสีที่ใช้กับเครื่องพิมพ์ CMYK ย่อมาจาก Cyan (ฟ้า) Magenta (แดงอมม่วง) Yellow (เหลือง) Key (สีดำ ไม่ได้ใช้ B Black นะ )ระบบสี CMYK นั้นเหมาะสำหรับงานพิมพ์ เช่น หนังสือ โปรเตอร์
แผ่นพับ หรืองานไวนิลทั่วไป เอาง่าย ๆ ว่า งานที่อย่างที่ต้องพิมพ์ออกมาเราจะใช้ระบบสีเป็น CMYK CMYK เป็นการพิมพ์โดยการนำสีทั้ง 4 สี มารวมกันแล้วเกินภาพต้นฉบับที่เราต้องการ ระบบการพิมพ์ 4 สีเป็นระบบที่นิยมใช้กันมากโดยทั่วไป ทั้ง งานโปรเตอร์ แผ่นพับ หรืองานไวนิล แต่งานหนังสือบางครั้งก็จะพิมพ์ 4 สี แค่ปกหนังสือเนื้อในั้น
จะพิมพ์เพียงแค่สีดำ หรือ พิมพ์ 2 สีเป็นอีก 1 สีที่ผสมระหว่าง K+กับอีก 1 สี (CMY) นั้นเองระบบสี CMYK
การกำหนดค่าสีในงานที่จะทำการส่งโรงพิมพ์ เราจะเรื่องจากค่าสี CMKY เท่านั้น เพราะถ้าเราเลือกค่าจาก RGB ที่เป็น #CCC สีที่ออกมานั้นจะผิดเพียนไปจากหน้าจอที่เราเห็น เราจึงต้องกำหนดแบบ CMYK เช่น C = 100 M = 0 Y = 100 K = 0 เราก็จะได้ค่าสีที่แน่นอนสำหรับงานพิมพ์
หรือบางครั้งเราก็ต้องใช้รหัสสีตัวอย่างจาก Chart สี เพื่อความเที่ยงตรงของสีที่จะพิมพ์ออกมา
Chart สีเครื่องพิมพ์ CMYK แบบ Offsetเครื่องพิมพ์ CMYK แบบ Offset แบบสี Cแผ่นเฟสแบบ Offset สี Cสีของงานเมื่อพิมพ์ออกมาจะได้ค่าสีตามที่เราต้องการหากเมื่อใดที่เราต้องการสร้างไฟล์งานสิ่งพิมพ์ เพื่อส่งโรงพิมพ์ เราต้องมั่นใจว่าไฟล์งานของเรา เป็นไฟล์งานที่ใช้งาน mode CMYK ซึ่งโปรแกรมที่นักออกแบบงานนิยมใช้กันมากก็คือ Adobe Photoshop Adobe Illustrator หรือ Adobe InDesign
ระบบ RGB
การกำหนดค่าสี RGB ในส่วนของ RGB การเลือกสีต่างๆ นั้น สามารถเลือกได้ถึง 2 สี – 16 ล้านสี (//th.wikipedia.org) ซึ่งจะมีสีที่ผสมกันทั้งหมด 3 สี คือ Red Green และ Blue (RGB) ซึ่งงานที่เหมาะสมกับโหมดสี RGB คืองานที่ใช้แสงดผลบนหน้าจอ เช่น เว็บไซต์ สื่อโฆาณาแบบออนไลน์ หรืออีเมล์ทางการตลาด
การกำหนดค่าสีนั้นจะกำหนดได้ตั้งแต่ 0-255 ในแต่ล่ะสี เช่น R = 0 G= 174 B= 239 หรือ code สี #00aeef
จะสังเกตได้ว่า ระบบสี CMYK เมื่อมองจากจอนั้นจะเป็นสีที่อ่อนและสดใสสู้สีแบบ RGB ได้ก็เนื่องจาก หน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ ของเรานั้นลองระบการทำงานสีแบบ RGB ทำให้เรามองเห็นสีในโหมด CMYK ได้ไม่ดีนัก
///
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อนักออกแบบมือใหม่และนักเขียนได้เข้าใจกันนะครับว่าเราจะต้องเตรียมงานของเราอย่างไร และไม่รู้ที่เขียนมานี่เข้าใจใน 3 นาทีหรือเปล่า ):
Graphic Design และ Content Creator ที่หลงไหลในการเขียน Content และเชื่อว่า Content เป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสารกับทุก ๆ คน